ตอนที่แล้วบทที่ 7 ซวยแล้ว ทำไงดี?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 คนที่ถูกลืม

บทที่ 8 เจ้าเมืองรีโอ


บทที่ 8 เจ้าเมืองรีโอ

เมื่อลืมตาขึ้นอีกที ตัวผมก็โผล่มาอยู่ตรงบันไดหินทางลงไปชั้นใต้ดินเมื่อวาน ในจุดเดิมที่ถูกส่งกลับ

“มืดชะมัด...” ผมพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มือก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเข้าแอปไฟฉาย ดูเหมือนคุกใต้ดินจะโดนดับไฟหมดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เลยมืดสนิทยิ่งกว่าครั้งก่อน แต่ในความมืดมิดก็ยังมีแสงสว่างออกมาจากโทรศัพท์มือถือของผม และแสงสีทองนวล ๆ จากตัวทีมงานซัง

“อะแฮ่ม สวัสดีท่านผู้ชมด้วยนะครับ สวัสดีทีมงานซังด้วย นี่ภาเอง ขอต้อนรับเข้าสู่ปฏิบัติการไลฟ์สตรีม ณ ต่างโลก!”

"ก็...วันนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมมาเหยียบต่างโลก ตอนนี้บรรยากาศรอบ ๆ อาจจะมืดไปสักหน่อยพอดีมาตรงโผล่จุดเดิมเมื่อวาน เดี๋ยวเราจะขึ้นไปชั้นบนกันนะครับ” ผมพูดเปิดรายการไปด้วย รีบก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดไปด้วย ไม่นานผมก็ขึ้นมาถึงชั้นบน สภาพรอบ ๆ ไม่ต่างจากเดิมมากนักเพียงแค่ศพของพวกสาวกจำนวนมากถูกขนย้ายเก็บกวาดออกไปเรียบร้อยแล้ว และมีทหารใส่เกราะเหล็ก 2 คนกำลังเดินมาหาผม

“เอ๊ะ! ...” เดินมาหาผมจริง ๆ ด้วย ผมมองซ้ายขวาหาทางหนีทีไล่ แต่ทั้งสองทางกลับเป็นผนังหินทึบที่ไม่มีแม้แต่หน้าต่าง ทางออกเดียวคือทางที่ทหารในชุดเกราะ กำลังเดินเข้ามา

เวรล่ะ มาต่างโลกครั้งแรกก็หวิดจะโดนจับ มาอีกรอบก็ต้องโดนจับเหรอวะ...

“เจ้าเป็นใคร เข้ามาอยู่ในวิหารตอนนี้ได้ยังไง!” ผมที่ได้ยินเสียงตะโกนของทหาร แหงนหน้าขึ้นมองเพดานกลอกตา 180 องศาอย่างเซ็งจัด พร้อมยกมือสองข้างชูขึ้นเหนือหัว

“ผมไม่ได้เป็นพวกวิหารนะ ดูสิแค่ชุดก็ไม่เหมือนแล้ว”

“ไม่ได้เป็นพวกวิหาร แล้วเป้นั่นคืออะไร เจ้าเข้ามาขโมยของงั้นหรือ” ทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ มันใช้มือกดหัวไหล่ผมให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้น

“ผมไม่ใช่โจร และก็มาไม่ได้ขโมยของ นี่มันของผม” ผมประท้วงทั้ง ๆ ที่อยู่ในท่านั่งคุกเข่าแล้วชูมือสองข้างขึ้นเหนือหัว

“ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก วิหารหลังนี้โดนทหารปิดล้อมไว้หมดแล้วหลังเหตุการณ์เมื่อวาน เราตรวจตราดูตลอดไม่มีใครผ่านเข้าออกได้ แต่จู่ ๆ เจ้าก็โผล่ออกมา” จบคำทหารตรงหน้าไม่รอให้ผมประท้วงอีกรอบ พวกเขาดึงกระเป๋าเป้ออกจากหลังผม และจับล็อกกุญแจมือ ฉุดตัวผมลุกขึ้นพร้อมกับลากเดินออกจากวิหาร

บรรยากาศภายในวิหารระหว่างทางที่ผมโดนทหารทั้งสองคนลากออกมา ผมเห็นทหารยืนกระจายกำลังกันอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยที่โดนเจอตัวตั้งแต่แรกแบบนี้ เหมือนพวกเขากำลังเก็บหลักฐานภายในวิหารและหาร่องรอยอะไรบางอย่างอยู่ ในบางจุดนอกจากทหารแล้วยังมีคนที่แต่งตัวคล้ายพวกบาทหลวงในศาสนาคริสต์ยืนปะปนอยู่ด้วย

และเมื่อทหารทั้งสอง ลากผมเดินออกมาด้านนอกวิหาร ผ่านประตูไม้บานใหญ่ที่ถูกเปิดค้างเอาไว้ ผมก็มองเห็นทหารบางส่วนยืนกั้นประชาชนที่กำลังสอดรู้สอดเห็นนับสิบนับร้อยไม่ให้ผ่านเข้าไปด้านใน แถมตรงมุมลานกว้างด้านหน้าวิหารยังถูกกองด้วยศพในห่อผ้าสีตุ่นเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ คาดว่าน่าจะเป็นศพของพวกสาวกเทพแห่งความมืด

ผมที่เผลอตัวเหลือบมองกองศพก็ทำเอารู้สึกอยากขย้อนของเก่าขึ้นมาทันที เรี่ยวแรงที่พยายามขัดขืนทหารทั้งสองมาตลอดทางก็ดันอ่อนเปลี้ยขึ้นมาซะดื้อ ๆ แต่ดีที่ทหารทั้งสองนายลากผมไปทิศตรงข้ามกับกองศพ ผมเลยเริ่มมีแรงดิ้นได้ต่อ ทางด้านนี้มีรถม้า 3-4 คันจอดอยู่ไม่ไกลจากตัววิหาร และเหมือนผมจะรู้อนาคตว่าต้องโดนจับยัดเข้ารถม้าแน่ ๆ ก็เริ่มออกอาการโวยวาย

“เฮ้ ๆ เมื่อวานผมก็เข้ามาช่วยคนเหมือนกัน ถามพวกผู้หญิงที่โดนจับมาสิ โธ่ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์นะ! ปล่อยยยย พวกคุณจับผิดคนแล้ว” ระหว่างถูกดันขึ้นรถม้าของทหาร ผมก็พยายามอธิบายความบริสุทธิ์ใจของตัวเองให้ฟังอีกรอบ แต่ทหารทั้งสองนายก็ยังไม่ฟังอยู่ดี

“เฮ้ อย่าโยนกระเป๋าผม ในนั้นมันมีขวดอยู่!” ไม่ทันขาดคำ เมื่อพวกเขาจับตัวผมยัดเข้าไปในรถม้าเรียบร้อย ก็โยนกระเป๋าเป้เข้ามาอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง ตุบ! และมีทหารไม่ใช่สิ ดูเหมือนจะเป็นอัศวินมากกว่า เพราะใส่เกราะหนักปกปิดทั้งตัว ขึ้นมานั่งคุมไปด้วยอีก 1 นาย ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าไอ้สองคนที่มั่วนิ่มจับผมมาในตอนแรก เมื่อประตูถูกปิดลงรถม้าที่ผมโดนจับยัดขึ้นมาก็เริ่มออกตัววิ่งไปตามถนนภายในเมือง

ด้านในรถม้าที่ผมกำลังนั่งอยู่ตอนนี้ ถูกทำขึ้นจากไม้ล้วน ๆ ไร้เบาะนวม แถมข้าง ๆ ผมยังมีคุณพี่อัศวินสวมหมวกเกราะปิดหน้าปิดตานั่งประกบอยู่ ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศภายในรถม้าเงียบสนิทและแย่แบบสุด ๆ แต่ไอ้ทหารที่รับหน้าที่เป็นสารถีดันคึกโคตร ๆ ร้อง ย่ะ ๆ ๆ แถมยังพาแว้นด้วยความเร็ว และหวาดเสียวระดับน้อง ๆ รถเมล์สาย 8 บ้านเรา ผมที่โดนล็อกกุญแจมือไพล่หลัง นั่งตูดเกร็งไปตลอดทาง ไอ้ฉิบหาย เบาะก็ไม่มีถนนก็ไม่ดี เสือกขับเร็วอี๊ก! แต่เมื่อผมหันไปเห็นอัศวินในชุดเกราะหนักข้าง ๆ นั่งนิ่งตัวไม่กระดิกเลยสักนิด แถมดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสารถีหัวใจเด็กแว้น ผมก็รู้สึกสงสารเขาขึ้นมาในหัวใจทันที นี่เอ็งคงนั่งจนตูดด้านไปหมดแล้วใช่ไหมล่ะ เกิดเป็นคนโบราณก็มีช่วงเวลาลำบากเหมือนกันสินะ

“นี่พี่ชาย ผมจะบอกความจริงให้ก็ได้ ผมเป็นพ่อมดไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกวิหารเทพแห่งความมืด และก็ไม่ได้เป็นโจรด้วย เข้าใจปะ เพราะงั้นปล่อยผมไปเถอะน่า” ผมเอ่ยพูดออกมาทำลายบรรยากาศมาคุในตอนนี้ แล้วเปลี่ยนท่านั่งจากเก้าอี้ไม้ในรถม้า เป็นท่านั่งเก้าอี้ลมและเอาหลังพิงผนังรถม้าในท่าทางสุดพิลึก

“...” เงียบสนิท ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

หรือมันจะนั่งหลับ? ผมที่รออยู่นานแต่มันก็ไม่ยอมตอบกลับสักที แม้แต่หน้ายังไม่หันมามองผมด้วยซ้ำ ผมเลยพยายามทรงตัวในรถม้าอย่างทุลักทุเล และค่อย ๆ กระดืบตัวเองไปเปิดประตูรถ กะจะกระโดดลงกลางทางอย่างเท่ ๆ เหมือนในหนัง แต่แค่เพียงเดินผ่านหน้าไอ้อัศวินแกล้งใบ้ ผมก็โดนมันเตะกลับเข้าที่เดิมทันที...

โครม!

อ่าวสรุปแล้วเอ็งไม่ได้หลับในหรอกเหรอ! เจ็บฉิบเตะมาได้ ผมที่กลับมาทรงตัวในท่าเก้าอี้ลมอีกรอบ เริ่มต้นพูดเรียกคะแนนสงสารจากพี่อัศวินที่นั่งข้าง ๆ ต่อทันที

“พี่ชายจับผมไปก็ไม่ได้อะไรหรอกน่า ไม่กี่ชั่วโมงผมก็หายแวบออกไปจากคุกแล้ว! วันนี้ผมต้องรีบไปหานาตาเลีย รู้ไหม”

“ปล่อยผมเถอะ ผมไม่ใช่ผู้ร้าย”

“ผมต้องรีบไปช่วยชีวิตนาตาเลียนะ! ผมโดนจับไม่ได้ เฮ้ อย่าให้พ่อได้ขี่ไม้กวาดนิมบัส 2000 หนีออกไปนะเว้ย ไอ้...#$@%&*^” และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้แต่คำสบถหยาบคายก็ตามมายาวเป็นหางว่าว ลืมตัวไปเลยว่ากำลังไลฟ์สตรีมอยู่ อ๊ากกกก ปล่อยตูออกไป!!!

.......

แต่สุดท้าย เมื่อรถม้ามาถึงอาคารสำนักงานกองกำลังทหารประจำเมือง ผมก็โดนไอ้อัศวินใบ้ปลดกุญแจมือและจับโยนลงไปในห้องขังชั่วคราวของสำนักงานทันที เอ่อ! ตอนนี้ตูยอมรับแล้วว่าเอ็งเป็นอัศวินที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก ไม่หวั่นไหวต่อคำพูดผู้ร้ายเลยสักนิด ผมได้แต่จิกตามองมันอย่างอาฆาต แต่ไม่ทันไรมันก็ปิดประตูกรงเหล็กอัดหน้า

ปัง!

“เชี่ย...เกือบโดนดั้ง” แค่นี้ก็แบนจนไม่รู้จะแบนยังไงแล้ว ผมผงะตัวถอยหลังออกจากซี่ลูกกรงอย่างตกใจ ประตูลูกกรงเหล็กถูกปิดล็อกจากด้านนอก ก่อนที่อัศวินเกราะหนักหน้าประตูจะยกมือขึ้นถอดหมวกเกราะออก ทำให้เส้นผมยาวสลวยสีแดงส้มร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วง ทิ้งตัวล้อมรอบใบหน้าสวยคมผิวสีน้ำผึ้งและดวงตาเรียวเซ็กซี่สีน้ำตาลทอง ที่มองมุมไหนก็ดูสวยไม่เท่าเอลฟ์ทั้งสองหรือแม้กระทั่งชาล็อต แต่เธอดันดูเซ็กซี่ไปทุกท่วงท่า เพียงแค่เธอขยับทุกอย่างก็จะกลายเป็นภาพ Slow motion ทันที โอ้แม่เจ้า!

“รอในนี้” อัศวินหญิงในชุดเกราะพูดขึ้นเสียงนิ่ง

“แล้วต้องรอนานแค่ไหน? ผมรีบ ผมรีบจริง ๆ ชีวิตเอลฟ์ตาดำ ๆ กำลังอยู่ในกำมือเธอเลยนะ” ผมเกาะลูกกรงพูดอ้อนวอนเธออีกรอบ แต่แม่สาวผมแดงก็หาได้สนใจไม่ เธอหันหลังเดินจากไปทันที ไม่ได้รอฟังจนผมพูดจบด้วยซ้ำ ผมที่เห็นแบบนั้นก็ทำได้แต่กลอกตามองบน ล่ม รอบนี้ล่มไม่เป็นท่า

ระหว่างที่อยู่ว่าง ๆ ผมก็กวาดสายตามองสำรวจไปทั่วห้องขังชั่วคราวของกองกำลังทหารประจำเมือง ต้องบอกก่อนเลยว่า มันก็เป็นแค่ห้องขังธรรมดา ๆ ด้านหน้าเป็นซี่ลูกกรงเหล็กตามแบบฉบับคุกทั่วไป ด้านหลังเป็นผนังหินสีเทาดำ ด้านข้างก็เป็นผนังหินเช่นเดียวกัน แต่เป็นผนังหินที่กั้นห้องขังของผมกับห้องขังอีกห้อง ในฝั่งตรงข้ามห้องขังผมก็เป็นกรงขังนักโทษที่เหมือนห้องขังผมเป๊ะ ในนั้นมีไอ้บ้าตัวหนึ่ง ยืนส่งยิ้มโรคจิตทำตาลอย ๆ มาให้ ด้วยความที่ผมไม่อยากติดเชื้อบ้า ผมเลยมองเมินมัน และหันหน้าเข้าหากำแพงแทน

ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีแต่เสื้อผ้า กับโทรศัพท์ที่แอบซ่อนอยู่ในเสื้อก็เลยไม่โดนยึดไปด้วยอีกหนึ่งเครื่อง ถ้าโทรศัพท์เครื่องนี้โดนยึด ผมคงได้ร้องไห้แน่ ยังผ่อนไม่หมดเลย  ทุกอย่างหายได้ยกเว้นโทรศัพท์นะรู้ไหม! ผมลงไปนั่งขัดสมาธิบนพื้น หันหลังให้กับห้องขังฝั่งตรงข้ามแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากด้านในเสื้อหนัง ทำไงได้ล่ะครับ ไอ้ชุดเสื้อผ้าในต่างโลกมันไม่นิยมทำกระเป๋ากางเกงไว้ใส่โทรศัพท์ ผมเลยต้องพกไว้ในที่พิสดารขึ้นมาหน่อยแบบนี้

นี่ชีวิตผมมันดวงซวยเกินไปหรือยังไงนะ มาต่างโลกรอบแรกไปช่วยคนที่โดนจับในคุกใต้ดิน มารอบสองโดนจับซะเอง แถมของยังโดนยึด เฮ้อ...ด้วยความเซ็งจัดในหลาย ๆ เรื่อง ที่มันไม่เป็นไปตามคาด ผมจึงรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที จะให้ผม ซูเปอร์สตาร์ในอนาคตมานั่งโง่ ๆ 5 ชั่วโมงในห้องขัง คนดูก็คงหายหมด บ้าเอ๊ย! ก่อนหน้านี้ทีมงานซังพึ่งส่งข้อความมาบอกว่า มีคนดูมากกว่าเมื่อวานสองเท่าแท้ๆ

ตั้งสติไว้ไอ้ภา ใจเย็น ๆ หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ เพื่อไม่ให้ไลฟ์สตรีมมันน่าเบื่อเกินไป หลังจากนั่งโทษโชคชะตาอยู่พักหนึ่งแล้ว ผมก็กดเข้าแอปเกมออฟไลน์เล่นฆ่าเวลา

ทีมงาน : มาต่างโลกก็ยังมานั่งเล่นเกมเนี่ยนะ! [อีโมติคอนน้ำตาไหลพราก]

"เอาน่า ดีกว่าอยู่ว่าง ๆ "

......

10 นาทีผ่านไป

“เฮ้ย! อย่าเบียดสิวะ ตกแล้ว ๆ เอ๊า...ชนฉากอีก” ตัวผมนั่งเล่นเกมรถแข่งในมือถืออย่างเมามันจนลืมเวล่ำเวลา ไม่ค่อยอยากเล่นเกมก็เพราะแบบนี้แหละครับเปิดเกมมาทีไรยาวตลอด นับเป็นเรื่องดีที่ตอนซื้อโทรศัพท์มาใหม่ ๆ ได้โหลดเกมออฟไลน์บางเกมติดเครื่องไว้ ไม่งั้นละก็คงจะได้นั่งโง่ ๆ ยิ้มโง่ ๆ ทำตาลอยเหมือนห้องตรงข้ามชัวร์ ๆ

“อีกสองคันเท่านั้น แล้วเราก็จะได้ขึ้นที่ 1 ครับท่านผู้ชม ฮึบ!” ระหว่างที่พูดอธิบายผู้ชม ผมก็เบี่ยงรถเข้าไปรับบัพน้ำมันจนน้ำมันรถกลับมาเต็มถัง

แกร๊ก ๆ หญิงสาวผมสีแดงในชุดเกราะเหล็ก ไขกุญแจเปิดกรงขังแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยใบหน้าง่วง ๆ

“เจ้าน่ะ ออกมาได้แล้ว”

“แป๊บหนึ่ง ๆ กำลังจะแซงได้แล้ว”

หลังจากได้ยินคำตอบจากชายหนุ่มในห้องขังผู้อ้างตัวว่าเป็นพ่อมด หญิงสาวพลันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างประหลาดใจ ปกติแล้วเวลาโดนเรียกออกจากคุก ผู้คนมักจะรีบวิ่งออกมาทันที แต่เจ้าหนุ่มคนนี้ นอกจากจะพูดไม่รู้เรื่อง สำเนียงพิลึกแล้ว ยังเป็นคนพิลึกอีกต่างหาก ข้ออ้างที่บอกเธอว่าเป็นพ่อมด ก็แลดูจะฟังขึ้นในทันที

“กดไนตรัส เก็บน้ำมัน ๆ แซง ๆ ๆ ๆ”

“เยส ที่ 1”

“เรียบร้อยหรือยัง?” เสียงหญิงสาวที่ติดจะฟังดูง่วง ๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทำให้นายภาวินดึงสติออกจากโลกของเกมแข่งรถทันที

“อะ เธอกลับมาปล่อยตัวผมแล้วใช่ไหม!”

"เปล่า มีคนต้องการพบตัวเจ้า"

ใคร? แม้จะสงสัยว่าใครต้องการเจอ แต่ผมก็แอบเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปด้านในเสื้อหนัง และก้าวเดินตามหลังอัศวินสาวผมแดงออกไป แม้จะรู้ว่าพลาดไปแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้ถามถึงโทรศัพท์ในมือผม เพราะงั้นผมก็จะเนียนต่อไป

…….

แกร๊ก! เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นก่อนที่แม่สาวผมแดงจะเบี่ยงตัวออกให้ผมเดินเข้าไปด้านใน

"เข้าไปสิ"

ผมมองหน้าเธอที มองเข้าไปด้านในห้องอีกที หรือจะเป็นทีน่ากับนาตาเลียมาประกันตัวผม? คิดได้แบบนั้นตัวผมก็เดินเข้าไปตามคำสั่งของเธออย่างว่าง่าย แต่เมื่อก้าวเข้าไปภายในห้องผมก็ได้พบเจอเข้ากับ 'ชาล็อต' ที่ส่งยิ้มนางฟ้ามาให้

งู้ยยยยยยย...ใจสั่น ในวินาทีนั้นบอกเลยว่ามองไม่เห็นอัศวินสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังเธอ หรือแม้กระทั้งอัศวินสาวผมแดงที่เดินตามเข้ามาในห้องด้วยซ้ำ

"สวัสดีค่ะ ท่านพ่อมด"

"สะ...สวัดดีครับ"

"แนะนำตัวกันอีกทีนะคะ ข้าไวเคานต์ชาล็อต วินเชสเตอร์ บุตรสาวของเอิร์ลจอห์น วินเชสเตอร์ ในวันนี้ ข้าได้ขึ้นรับตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองรีโอ ดูแลเมืองแห่งนี้อย่างเป็นทางการค่ะ"

อะไรนะ!!! เธอเป็นเจ้าเมือง!

"ขอโทษที่ทำให้ท่านลำบาก ที่พาตัวมาในวันนี้เพราะข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ท่านภา"

"ผะ...ผมหรอ?"ตัวผมที่ยังช็อกไม่หาย ยกมือชี้เข้าหาตัวเองอย่างงง ๆ นี่มันเรื่องอะไรวะ สมองผมตามไม่ทันแล้ววววว ไม่ใช่ว่าโดนจับมาข้อหาขโมยของหรอกเหรอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด