บทที่ 7 ซวยแล้ว ทำไงดี?
บทที่ 7 ซวยแล้ว ทำไงดี?
ช่วงบ่ายของวันเกิดปีที่ 25 ตัวผม ‘นายภาวิน’ ได้สละเวลาฝึกฝนพลังจิตวิญญาณ พลังชี่กง และมวยไทย เพื่อทุ่มเทศึกษาให้กับศาสตร์ต่างโลกอย่างจริงจัง การจะทำอะไรสักอย่างเราต้องทุ่มเท ในเมื่อโอกาสโด่งดังมาจ่ออยู่ตรงหน้าแล้ว เราก็ต้องคว้ามันเอาไว้ให้ได้!
หลังจากผมเปิดเข้าไปดู อนิเมะ มังงะ และนิยายแนวต่างโลกแบบคร่าว ๆ เน้นอ่านพวกตัวเอกที่สามารถไปกลับต่างโลกได้ ถึงแม้คอมเมนต์ส่วนมากเกี่ยวกับแนวต่างโลกจะบอกว่า เบื่อ เดิม ๆ ไม่มีอะไรใหม่ แต่คนก็ยังคงเสพต่อไป แสดงว่ามันต้องมีดี!
“จะมั่วนิ่มเหมือนครั้งที่แล้วคงไม่ดีแน่ ใช่แล้วถ้าทำตามพระเอกที่ดัง ๆ ผมก็ต้องดังเหมือนกันแน่ ๆ ยอดติดตามนับแสนนับล้านต้องไม่ไกลเกินเอื้อม คิกคิกคิก! วะฮ่าฮ่าฮ่า!”
ผมจรดนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ดอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แกร๊กๆ ๆ ๆ ๆ ‘วิเคราะห์ตัวเอกในต่างโลก’ หลังจากที่พิมพ์คำนี้ลงไปในกูเกิล ผลการค้นหานับร้อยนับพัน ก็ได้ปรากฏขึ้นบหน้าจอคอมฯทันที ภาวินเลือกคลิกเข้าไปดูเฉพาะหัวข้อที่ได้รับความนิยม และจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่นเว็บร้อยทิปเป็นต้น
หัวข้อ : วิเคราะห์ สาเหตุที่อนิเมะไปต่างโลกได้รับความนิยม
เจ้าของกระทู้ นักปราชญ์ต่างโลก
สาเหตุที่แนวต่างโลกขายดี ก็เพราะเจาะกลุ่มตลาดได้ดี ลองสังเกตดูสิครับ ตัวละครหลักส่วนใหญ่เป็นคนประเภทไหนกัน นีท โอตาคุ ฮิคิโคโมริ พวกที่คนภายนอกนิยามว่าไม่มีอะไรดี แต่พอไปต่างโลกเท่านั้นล่ะ ก็จะได้พลังโกง ๆ หรือมีความรู้แปลก ๆ จากโลกเก่าติดตัว
ทำไมแนวต่างโลกถึงต้องมีสองสิ่งนี้ นั่นก็เพราะว่า สังคมที่พวกเขาอยู่มองว่าพวกเขาไร้ค่า และหรือมองว่าพวกเขาธรรมดาจืดชืด เห่ย ๆ แต่ในต่างโลกสกิลโกงและความรู้ยุคดิจิตอลกลับทำให้พวกเขาดูโดดเด่น นอกจากนั้น พวกเขามักจะมีฮาเร็มสาวงามหรือหนุ่มหล่อเสมอ ก็แหม...ความฝันที่มีฮาเร็มอยู่กันอย่างรักใคร่ปรองดองจะหาที่ไหนได้เล่า นอกจากต่างโลก ถ้าคุณยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฮาเร็มต่างโลก ผมก็จะยกตัวอย่าง ฮาเร็มของทั้งสองโลกให้ดูเปรียบเทียบกันนะครับ
นี่คือโมเม้นฮาเร็มในโลกเรา...
เมียหลวง “ฉันจ้างแกมาเป็นเลขา ไม่ใช่ให้ปีนโต๊ะผัวฉัน!” รังสีอาฆาตจัดเต็ม พร้อมสลับฉากเป็นหนังบู๊ได้ทุกเมื่อ
และนี่คือโมเม้นฮาเร็มในต่างโลก…
เมียหลวง “เอ๋ คุณเลขาก็รักเขาเหมือนกันหรือคะ”
เมียน้อย “ใช่ค่ะ ฉันรู้ว่ามันไม่ถูกต้องแต่ฉันก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ขอโทษนะคะ”
เมียหลวง “ไม่เป็นไรค่ะ อิ อิ ดีเสียอีกฉันจะได้มีเพื่อน ต่อจากนี้เรามาพยายามเป็นคนรักที่ดีของเขากันนะคะ” รังสีฟรุ้งฟริ้งกระจายไกลนับ 10 เมตร
นั่นแหละครับ ไปต่างโลกอะไรก็ดีไปหมดโดยเฉพาะข้อสุดท้าย ไอ้ฉิบหาย! กูก็อยากไปต่างโลก (╯°□°)╯︵ ┻━┻
�……….
ภาวินที่นั่งหน้าจอคอมฯเมื่ออ่านกระทู้วิเคราะห์แล้วก็ได้แต่นั่งอึ้ง ไม่ใช่แค่เว็บร้อยทิป แต่หลาย ๆ เว็บก็ยังวิเคราะห์ในแนวทางเดียวกันนี้เกือบหมด มีแตกออกไปบ้างคือตัวเอกเทพอยู่แล้ว หรือเป็นพวกเด็กนักเรียน ซึ่งไม่มากนัก ซวยแล้ว ทำไงดี กระผมนายภาวิน ผู้เข้าข่ายเกือบทุกข้อยกเว้นฮาเร็ม ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าปิดตา
“อ่า เรากำลังจะกลายเป็นไอดอลต่างโลกแล้วสินะ คึ คึ หลังจากนี้ตอนออกจากห้องคงต้องใส่แว่นกันแดดตลอดเวลา แถมไม้ตายลับ เซ็นลายเซ็นได้ภายใน 0.1 วิก็จะถูกงัดออกมาใช้ในยามวิกฤต บลา ๆ ๆ ๆ” และแล้วตัวผมก็เข้าสู่ช่วงเวลาอวยตัวเองโดยสมบูรณ์...
อะแฮ่ม...หลังจากดึงสติกลับสู่โลกความเป็นจริง สิ่งที่ทำอย่างแรกเลยคือการเปิดเฟสบุ๊ค และอัพเดทสถานะตัวเอง ผมเสียบ USB ดาวน์โหลดรูปจากโทรศัพท์มือถือลง PC แล้วนั่งคัดเลือกรูปที่ดูต่างโลกแบบสุด ๆ อัพลงไปในอัลบั้ม พิมพ์หัวข้อลงไปว่า
'ไปต่างโลกครั้งแรกในวันเกิดมันก็จะเมา ๆ หน่อย? [17/12/2018]'
หลังจากกดโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊คเสร็จ ผมก็เปลี่ยนไปใส่ชุดทำงาน เดินออกจากหอและปั่นจักรยานคู่ชีพไปเซเว่น
.....
ด้านหลังเซเว่นโซนหวงห้ามเข้าได้เฉพาะพนักงาน ตาลุงผู้จัดการร้าน เปิดประตูชะโงกหน้าเข้ามาส่องหาอะไรบางอย่าง แล้วก็ดันเห็นผมยืนหัวโด่คนเดียวหลังร้านอยู่พอดิบพอดี
“อ่าวภามาพอดีเลย เอ็งเอาของไปเติมหน่อยดิ๊”
ตูพึ่งตอกบัตรเข้ากะเสร็จเมื่อตะกี้...
“พึ่งมาถึงก็ใช้งานเลยนะลุง นี่ 5 โมงครึ่งเองยังไม่ถึงเวลางานผมเลย” ภาวินยกมือขึ้นมาเกาหัว แล้วถอดกระเป๋าสะพายโยนกองไว้ตรงมุมประจำ
“ทำไงได้นี้มัน 5 โมงเย็นลูกค้าเยอะเอ็งก็รู้ เร็วเข้าคนไม่พอแล้วเนี่ย เอาเครื่องดื่มไปเติมเข้าตู้” ผู้จัดการชี้มือสั่งงานไปทางลังเครื่องดื่มหลากหลายยี่ห้อเสร็จ ก็ปิดประตูกลับออกไปอย่างรีบร้อน
“คร้าบ ๆ” เสียงตอบรับยานคาง ดังออกมาตามหลังแม้คนสั่งงานจะเดินกลับออกไปแล้วก็ตาม ท่าทางในร้านจะยุ่งจริง ๆ แฮะ
“เฮ้อออ เอาล่ะไอ้ภา ทำงาน ทำงาน” ผมเดินไปที่ตู้เครื่องดื่ม เปิดประตูด้านหลังเครื่องแล้วทยอยใส่เครื่องดื่มลงไป อันไหนใกล้หมดก็เติมยี่ห้อนั้นก่อน
“อืม M150 นี่มันจะเหมือนลิโพในเรื่องนั้นรึเปล่านะ ถ้าเอาไปขายต่างโลกจะดีไหมเนี่ย?” ในระหว่างที่เติมของเข้าตู้ ผมก็พยายามคิดว่าจะนำอะไรติดตัวข้ามไปต่างโลกบ้าง ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าสามารถขนของไปได้เยอะแค่ไหน และอะไรบ้างที่สามารถทำเงินได้ในต่างโลก
เพราะครั้งก่อนมัวแต่คิดว่าเมาแล้วฝันเป็นตุเป็นตะ เลยตามน้ำไปกับทีน่าทุกเรื่อง พอมาคิดดูดี ๆ แล้วตัวผมหวิดตายมาหลายรอบจริง ๆ คิดได้ไงวะเปิดเพลง BNK กลบเสียงร่ายเวท ไหนจะเอามือเปล่าไปไฟว้กับนักดาบของวิหารเทพแห่งความมืด เอาคบไฟทุบสัตว์ประหลาดกูลในคุกใต้ดิน โอ๊ยสมองตู! ดีนะที่มันได้ผลน่ะ
พอมีเวลามานั่งคิดเรียบเรียงเหตุการณ์เมื่อคืน ข้อมูลที่เค้นออกจากสมองเบลอ ๆ ได้ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่งคือ มันเป็นโลกที่ล้าหลังโลกเราอยู่มาก ทีมงานซังบอกมาว่าโลกแฟนตาซีที่ 112 ยังอยู่ในช่วงประมาณยุโรปยุคกลาง ๆ พวกเขานิยมปลูกข้าวสาลีไว้รอบตัวเมือง และสิ่งปลูกสร้างภายในเมืองถูกทำขึ้นด้วยหิน ตัวตึกภายนอกไม่สวยแต่ด้านในนับว่าน่าตื่นตาตื่นใจดีสำหรับผม สอง เท่าที่เห็นคนส่วนมากก็นิยมใช้ม้าเป็นพาหนะ พวกเขามีค่าเงินที่เรียกว่า Coin มีทั้งแบบเหรียญเงินและแบบธนบัตร พอดีแอบเห็นทีน่าเอาออกมาโชว์ตอนจ่ายค่าชุด สาม เผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาไม่ได้มีแค่มนุษย์เหมือนโลกเรา แค่วันแรกที่ผมไปต่างโลกก็เจอทั้งมนุษย์ เอลฟ์ ภูต และพวกสาวกเทพแห่งความมืด ทำไมต้องแยกสาวกแห่งความมืดออกมาอีกสปีชีส์งั้นเหรอ ก็เมื่อวานทีมงานซังบอกว่าพวกมันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว
เอาง่าย ๆ ตามความเข้าใจของผมที่ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกรึเปล่าก็คือ ไอ้เผ่ามนุษย์เนี่ยแม่งแบ่งย่อยได้อีก 2 ขั้น เป็นคนธรรมดา กับพวกสาวกเทพ ที่รับพลังเทพเข้าไปจนทำให้ใช้เวทมนตร์ของเทพตนนั้น ๆ ได้บางชนิด
ส่วนพ่อมด จากการจับต้นชนปลายแบบเมา ๆ แล้วนับเป็นเผ่าพันธุ์อมนุษย์ดังเช่นเอลฟ์ เรื่องนี้ผมก็มั่วเอาเองมาจากทีน่า ที่เผลอหลุดออกมาในร้านเหล้าใต้ดินประมาณว่า 'ผมสามารถเปิดเผยตัวตนที่นี่ได้ แม้ผมจะเป็นพ่อมดเหมือนเธอที่เป็นเอลฟ์' นอกจากนั้นผมยังสังเกตว่า ทีน่ามักดึงฮู้ดขึ้นคลุมหัวปิดหน้าปิดตาเสมอ เมื่อออกจากร้านเหล้าลูกเป็ดน้อย และการที่ตัวผมโดนเข้าใจผิดว่าเป็นพ่อมด เลยโดนยามวิ่งไล่จับไปทั่วในตอนแรก...
พวกอมนุษย์ในโลกใบนั้น ดูเผิน ๆ ไม่ได้ปรองดองกับมนุษย์และไม่ได้มีสถานะต่ำต้อยจนโดนจับเป็นทาสดังเช่นในนิยาย หรือมังงะต่างโลกหลาย ๆ เรื่อง ที่ผมนั่งศึกษาแบบคร่าว ๆ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พวกอมนุษย์ในโลกแฟนตาซีที่ 112 เหมือนว่าจะเป็นที่เคารพเกรงกลัวมากกว่าเกลียดชัง
สรุปได้ว่าไปต่างโลกครั้งแรกผมรู้เรื่องอยู่แค่ 3 ข้อเนี่ยแหละครับ อ่อ มีเรื่องเวทมนตร์อีกอย่าง แต่ผมก็ยังงง ๆ กับมันอยู่เลย เพราะงั้นรอบนี้ต้องไปถามทีมงานซังให้เคลียร์ ไหน ๆ ก็สมอ้างตัวเองเป็นพ่อมดไปแล้ว เราก็ต้องคีพลุคให้สุดครับ
ผมที่เรียงน้ำเข้าตู้จนแน่นเรียบร้อยแล้ว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโน้ตสิ่งที่อยากถามทีมงานซังเพิ่มลงไปในแอป คิดจะเป็นยูทูบเบอร์ก็ต้องใส่ใจในข้อมูลความถูกต้อง และความครบถ้วนนี่คือสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เราจะไปให้ข้อมูลแฟนคลับผิด ๆ ได้ที่ไหนกัน?
“ถามเรื่องเวทมนตร์...โอเคเรียบร้อย” ผมกดปุ่มบันทึกโน้ต แล้วเดินไปยกลังขนมออกไปเติมในร้านเพิ่ม
.....
5 ทุ่มกว่า ๆ ตัวผมที่เลิกกะแล้วเดินวนไปมาอยู่ในเซเว่น หาของที่คิดว่าน่าจะขายได้เตรียมพกไปต่างโลกคืนนี้
“อ่าว ยังไม่กลับอีกเหรอไอ้ภา” เพื่อนพนักงานกะต่อไป เดินเข้ามาจากด้านหลังร้านเอ่ยถามขึ้น เนื่องจากใกล้เที่ยงคืนแล้ว เวลานี้วันธรรมดาลูกค้าในร้านนาน ๆ จะเข้ามาที พวกเราเลยสามารถคุยกันเสียงดังได้แถมตาลุงผู้จัดการที่อยู่ดึกมาหลายวันก็บอกลากลับไปนอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม ช่วงนี้พนักงานอย่างเรา ๆ ก็เลยชิว ๆ
“ยัง พอดีจะไปต่างโลก กำลังคิดว่าจะเอาอะไรไปด้วยดี” ระหว่างที่ตอบเพื่อน ผมก็หยิบ M150 ใส่ตะกร้าไป 3 ขวด
“ฮืม ไปต่างโลก พรุ่งนี้ลางานเหรอ?”
“เปล่า ๆ ไปกลับ”
“แล้วต่างโลกนี่คืออะไรวะ อยู่แถวไหน”
“เอาเป็นว่า กำลังจะไปถ่ายไลฟ์สตรีมนอกสถานที่เลยเตรียมของอยู่”
“อ่อ เออ ๆ สู้ ๆ เพื่อน” ชายหนุ่มพนักงานเซเว่นกะหลังห้าทุ่ม เดินเกาหัวแกร๊ก ๆ ไปที่หลังเค้าเตอร์ แล้วเอามือเท้าคางเหลือบตามองเพดานบ่นพึมพำออกมา “ต่างโลก? ไปกลับได้วันเดียว เออดีเว้ย...”
ตอนนี้สิ่งของในตะกร้าสีส้มก็มี M150 น้ำอัดลมกระป๋อง นมเปรี้ยว นมกล่อง มาม่าคัพ ลูกอม ช็อกโกแลต อาหารกระป๋อง อาหารซองสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว แล้วก็ยาพวก ยาพารา ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อาการเมารถเมาเรือเมาเครื่องบิน ยาดม ยาอม ยาหม่อง ยาแก้ท้องเสีย กอเอี๊ยะ ปลาสเตอร์ปิดแผล แอลกอฮอล์ล้างแผล ทิงเจอร์ เบตาดีน สำลี เจลลดไข้ น้ำเกลือ ผงเกลือแร่ ครีมกันยุง ผงโรยเท้า ทิชชู่เปียก
ผมพยายามจะเอาของที่เก็บไว้ได้นาน ๆ ข้ามไปขายต่างโลก ที่นั้นเหมือนจะไม่มีตู้เย็นเลยเซฟตัวเองเอาแค่ของแห้งไปดีกว่า อืม น่าจะครบแล้วไฟแช็คค่อยไปเอาที่ห้องแล้วกัน ผมเดินยกตะกร้าที่อัดแน่นจนพูนไปวางหน้าเค้าเตอร์
“นี่ไปกลับวันเดียวจริงปะเนี่ย?”เพื่อนพนักงานมองจำนวนข้าวของในตะกร้าอย่างอึ้ง ๆ
“จะเอาไปขายต่อเว้ย”
“ขายต่อของเซเว่น...”
“เออ! คิดเงินไปเถอะน่า ต่างโลกมีเซเว่นที่ไหนกัน ขายได้อยู่แล้ว”
หลังจากจ่ายเงินเสร็จผมก็คว้าถุงพลาสติก ขี่จักรยานกลับหอทันที
.........
เมื่อผมกลับมาถึงห้อง ก็จัดการยัดของที่ซื้อมาลงในเป้เดินป่าใบใหญ่ ที่ไปสอยมาตั้งแต่เริ่มทำคลิปเดินป่าเหมือนเฮียแบร์กิล นอกจากนั้นยังใส่ไฟแช็ค เชือก มีดพกอเนกประสงค์ และพาวเวอร์แบงค์ลงไปด้วย กำลังคิดว่าจะเอาเตาพกพาไปด้วยดีไหม แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า รอบนี้ไม่ได้ซื้อของสดและไม่ได้กะจะไปนั่งปิกนิก เมื่อตรวจเช็คทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ทำการปิดกระเป๋า เปลี่ยนชุดกลับไปเป็นชุดคลุมดำเหมือนเมื่อคืนที่ทีน่าซื้อให้
“ถอดก็ยากใส่ก็ยาก ดีนะที่ฝั่งนู้นอากาศเย็นสบายไม่เหมือนเมืองไทย” ตัวผมที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว มองจ้องถุงมือทั้งสองข้างบนพื้น กำลังคิดว่าจะใส่ดีไหมวะ มันไม่ชินเลยเวลาหยิบจับอะไรแต่ละทีก็ลำบาก
“ไม่ใส่คงไม่เป็นไรหรอกมั่ง?” พอได้ข้อสรุปเสร็จผมก็เมินมันไปทันที ต่อไปก็ผ้าคลุม...“ผ้าคลุมก็ไม่ใส่เฟ้ย เมื่อเช้าเกือบพันคอตายคาเตียงแล้วไง!” สรุปแล้วทั้งตัวเหลือแค่เสื้อผ้ากับรองเท้าบูต แหม ถ้าผมใส่ผ้าใบหรืออีแตะกับชุดแบบนี้คงตลกแดก เลยต้องจำใจใส่เหมือนชาวบ้าน แต่ไอ้ถุงมือกับผ้าคลุมมันไม่ใช่ทุกคนจะใส่เดินในเมืองไง เพราะงั้นไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรผมไม่ได้เป็นเอลฟ์เหมือนทีน่ากับนาตาเลียสักหน่อย
พูดถึงนาตาเลีย...ตัวผมก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าลืมเอายาถ่ายใส่ลงในเป้ ผมควานหาถุงยาในห้องและเดินกลับไปเปิดเป้ ยัดยาถ่ายลงไปอีกรอบ ยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างเสียวไส้ เกือบไปแล้วสิ นาตาเลีย!
รอเพียงไม่นานเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นในหัว ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ
“อีก สามนาที หวังว่าไอ้ที่ขนไปจะพอขายหาเงินใช้หนี้ทีน่าได้นะ” ผมยกกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายบนหลัง แล้วนั่งลงบนเตียงรอเวลา ระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องเฟสบุ๊คเล่น
ฮืม...เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมง มีคนเข้ามาดูโพสต์และตอบคอมเมนต์ผมหลายร้อย เฮ้ย! นี้มันเป็นประวัติการณ์แห่งปีชัด ๆ ไม่น่าเชื่อ ตูดังแล้วโว้ยยยยย!
แต่เมื่อได้กดเข้าไปอ่านคอมเมนต์เท่านั้นแหละ ความฝันเมื่อกี้ก็ดับวูบ
ชื่อไรก็ได้ โตแล้ว : ไปต่างโลกท่าไหนมาล่ะ วิ่งไปให้รถบรรทุกชนงั้นเหรอ โพสต์นี้แม่งจี้ว่ะ 555 [ฉากหลังโคตรลงทุน]
พีชพีช : ว้าวยอดเลย ผมก็พึ่งกลับมาจากต่างโลกหลังจากกำจัดจอมมารเสร็จล่ะ!
Andy Rockbell : ก็แค่รูปตัดต่อคอสเพลย์ โธ่เอ้ย! [แต่สาวที่คอสเป็นเอลฟ์สวยมากเลยครับ]
เดอะไก่ : ไร้สาระฉิบ ใครแชร์มาวะเนี่ย
Diabolos : เชี่ย ตูซื้อว่ะไอเดียนี้ เอ็งน่าจะไปเขียนนิยายนะ
PN Tee : ต่างโลกแม่งลามมาถึงในเฟสแล้วโว้ยยย
ไอ้บ้าคนหนึ่ง : เอ็งดื่มมากไปเปล่า?
Sandee : ฝากเพจค่า ฝากเพจขายครีม
“....” ร้อยกว่าคอมเมนต์มาแนวนี้หมด
แต่เมื่อลองสังเกตดี ๆ ใต้โพสต์นอกจากจะได้ไลค์และคำเหน็บแนมบางส่วนแล้ว จำนวนแชร์ยังทะลุไปเกือบ 100 ผมจ้องจำนวนยอดนั้นอย่างอึ้ง ๆ อยู่สักพัก แล้วฉีกยิ้่มขึ้นมาอย่างสาแก่ใจ
“คิกคิกคิก แบบนี้ต้องโปรโมท!” ผมกดนิ้วลงไปบนช่องคอมเมนต์ ก๊อบปี้ลิงก์ช่องตัวเองในยูทูบมาแปะ พร้อมพิมพ์ลงไปว่า
‘กำลังเริ่มไลฟ์สตรีมในต่างโลกวันที่สองครับผม!’เมื่อกดส่งคอมเมนต์ออกไป หน้าผากผมก็เรื่องแสงสีขาวก่อนที่ร่างของผมจะหายไปจากห้องอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่