บทที่ 28 ความหายนะของตระกูลกวน
บทที่ 28
ความหายนะของตระกูลกวน
ในรอบที่สิบสอง หลี่หยุ่นไห่ต่อสู้กับหยางไค ไม่แปลกใจเลยที่เขาพ่ายแพ้ต่อหยางไคอย่างน่าสมเพชร
ด้วยเหตุนี้ หลี่หยุ่นไห่ถูกตัดออกจากการแข่งขัน หลังจากพ่ายแพ้สะสมห้านัดและหมดความหวังในการเข้าชิงห้าอันดับแรก
เมื่อถูกเตะออกจากการแข่งขัน หลี่หยุ่นไห่สูญเสียจุดประสงค์และจ้องมองสาบแช่งหลี่ฟู่เฉิน
ทั้งหมดนี้เกิดจากหลี่ฟู่เฉิน ที่ทำให้เขาไม่สามารถเข้าสู่ห้าอันดับแรกได้ ข้างในตัวเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่หลี่ฟู่เฉินทำลายโอกาสในการเป็นศิษย์สาวกสำนักคังเหลียน
หลี่ฟู่เฉินรับรู้ได้ถึงการจ้องมองของหลี่หยุ่นไห่ เขารังเกียจหลี่หยุ่นไห่ “มีแต่พวกขยะเช่นพวกเขาเท่านั้นที่ทำให้คนอื่นล้มเหลวได้.
***
หลี่ฟู่เฉินและกวนห่าวคือนัดสุดท้ายของรอบที่สิบสอง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันอีกหกคนที่เหลือคือ หยางไค, เฉินตูจิว, เหอปิง, จือฮงซิ่ว และหลี่ฟู่เฉิน
กวนห่าวแพ้การแข่งขันไปแล้ว 4 นัดและถ้าเขาแพ้อีกครั้งเขาจะถูกคัดออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเหลือเพียงหนึ่งการแข่งขันเพื่อเข้ารอบห้าคน
ผู้คนในอัฒจันทร์เริ่มซุบซิบนินทา
“กวนห่าวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฟูเฉินหรอก ดูเหมือนนี่จะเป็นจุดสิ้นสุดของตระกูลกวนซะแล้ว”
***
“หลี่ฟูเฉินคือความหายนะของตระกูลกวน ครั้งแรกคือกวนเผิ้งและตอนนี้กวนห่าวกำลังจะถูกกำจัดโดยหลี่ฟู่เฉิน ข้าสงสัยว่าตอนนี้กวนหยู ผู้นำรู้สึกอย่างไร”
“ตอนแรกข้าคิดว่า กวนเซี่ยจะจัดงานแต่งงานกับหลี่ฟู่เฉิน แต่ต่อมาถูกตระกูลกวนยกเลิกซะ”
“กล่าวถึงกวนเซี่ย นางเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง ถ้านางมีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นหยางไค, เฉินตูจิว และหลี่ฟู่เฉินก็ยากจะเอาชนะนาง ...”
“แท้จริงแล้ว ตระกูลกวนมีกวนเซี่ยอยู่แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีใครได้เข้าร่วมนิกายคังเหลียนจากการแข่งขันครั้งนี้ พวกเขาคงไม่ได้รับผลกระทบ”
ตอนนี้ใบหน้ากวนหยูบูดบึ้ง ตั้งแต่วันที่เขายุติการหมั้นหมาย เขาไม่คาดคิดถึงสถานการณ์เช่นนี้
“อืมม์ ถ้าหลี่ฟู่เฉินเข้าสู่ห้าอันดับแรก หากไม่สามารถผ่านรอบทดลองสำหรับศิษย์สาวกนอกนิกาย เขาจะเป็นแค่ศิษย์ต่ำต้อยที่รับงานเล็กๆ แต่บุตรสาวของข้ากวนเซี่ยนั้นแตกต่างกัน นางมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด แม้หลี่ฟู่เฉินร้อยคนก็ไม่สามารถเอื้อมถึงนางได้”
ใครจะรู้ว่า กวนหยูได้ลืมสายสัมพันธ์พี่น้องกับหลี่เทียนฮั่นนานแล้วและปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงคนแปลกหน้ามานาน จนกระทั่งกรรมตามสนองเขา
กวนตงผู้ที่นั่งอยู่ข้างเขากล่าวว่า “เราเคยทำดีต่อตระกูลหลี่ในอดีต นับแต่นี้เราจะกดดันพวกเขาด้วยทุกสิ่งที่เรามีและแสดงให้พวกเขาเห็นราคาสำหรับการทำผิดพลาดครั้งนี้”
"ถูกตัอง! เราต้องไล่พวกเขาออกจากเมืองหยุ่นวู่” บิดาของกวนเผิ้งป่าวประกาศอย่างร้ายกาจ
***
บนเวที กวนห่าวพยายามต่อรองกับหลี่ฟูเฉิน
“หลี่ฟู่เฉิน ด้วยโครงกระดูกของเจ้า แม้เจ้าจะเข้าไปในนิกาย เจ้าเป็นได้แค่ศิษย์ผู้ต่ำต้อยทำไมไม่ให้ตำแหน่งนี้กับข้า ข้าเชื่อว่าถ้าเจ้าทำเช่นนั้นจะกระทบความสัมพันธ์ตระกูลหลี่กับตระกูลกวน แม้ว่ากวนเซี่ยจะทำลายความสัมพันธ์ แต่ความสำเร็จของนางในอนาคตนั้นมีค่านับไม่ได้ ท่าทีเพียงเล็กน้อยจากนางในอนาคตจะหมายถึงผลประโยชน์ที่ไม่จำกัดต่อตระกูลหลี่ของเจ้า”
กวนห่าวคิดว่าคำพูดของเขาสมเหตุสมผลและหลี่ฟู่เฉินดูคล้อยตาม
หลี่ฟู่เฉินหัวเราะประชดประชัน “ความสัมพันธ์กับตระกูลกวนงั้นเหรอ”
“ใช่นะสิ ตระกูลหลี่ตกอับลงครั้งนี้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลกวน ตระกูลหลี่คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้ เจ้าน่าจะรู้อยู่แล้ว”
“แน่นอนข้ารู้ แต่โชคไม่เข้าข้างเจ้า สิ่งที่ข้า, หลี่ฟู่เฉินปรารถนา ข้าจะทำมันด้วยตัวของข้าเอง ไม่รอรับแจกจ่ายจากผู้อื่น อย่าพล่ามอยู่เลย สู้กันได้แล้ว!” หลี่ฟู่เฉินชี้ดาบไปที่กวนห่าว
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าคนงี่เง่า เจ้าคิดจริงๆหรือว่าการเข้าสู่นิกายคังเหลียนและไล่ตามกวนเซี่ย จะดึงดูดความสนใจของนาง? ความจริงอันโหดร้ายคือในสายตาของนาง เจ้าเป็นเพียงตัวตลกและความพยายามทั้งหมดนี้ของเจ้าจะไร้ประโยชน์!” กวนห่าวสันนิษฐานว่าความหลงใหลในการเข้าสู่นิกายของหลี่ฟู่เฉินคือการตามกวนเซี่ย
“ไร้สาระที่สุด เจ้าควรหุบปากของเจ้าดีกว่า!”
หลี่ฟู่เฉินชักดาบและเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน
ซ่วบ!
ดาบไม้ในมือของกวนห่าวแตกเป็นชิ้นและเขาตกลงมาจากเวที
ฟุ๊บ!
***
กวนห่าวพ่ายแพ้ ผู้เข้าชิงห้าอันดับแรก พวกเขาคือหยางไค, เฉินตูจิว, เหอปิง, จือฮงซิ่ว และหลี่ฟู่เฉิน ในหมู่พวกเขา เหอปิงปิงและจือฮงซิ่วพ่ายไปสองนัด เหอปิงพ่ายแพ้หยางไคและเฉินตูจิว สำหรับจือฮงซิ่วเธอพ่ายแพ้หยางไคและหลี่ฟู่เฉิน
เฉินตูเจียนเหอลุกขึ้นและโค้งคำนับแสดงความยินดี
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป...
จือฮงซิ่ว กับ เฉินตูจิว : เฉินตูจิว ชนะ
เหอปิง กับ หลี่ฟู่เฉิน: หลี่ฟู่เฉินชนะ
จือฮงซิ่ว กับ เหอปิง: เหอปิงชนะ
ด้วยการแข่งขันทั้งสามนัด อันดับที่สี่และห้าได้รับการยืนยันแล้ว พวกเขาคือเหอปิงและ จือฮงซิ่ว ตามลำดับ
ถัดไปคือการต่อสู้เพื่อชิงสามอันดับแรก
ณ ตอนนี้ ยังไม่มีการพบกันของทั้งสามคนในการแข่งขันและพวกเขายังไม่เคยพ่ายในแข่งขัน
สำหรับนัดแรก หลี่ฟู่เฉินกำลังเผชิญหน้ากับเฉินตูจิว บนเวที
เหตุผลกึ่งนึงที่เฉินตูจิวมาถึงจุดนี้ได้ เพราะโครงกระดูกของเขาและอีกครึ่งหนึ่งเนื่องจากการบ่มเพาะของเขา
เมื่อเคล็ดวิชาเช่าหยางหลูถูกจับคู่กับความแข็งแกร่งทางกายภาพ 800 กิโลกรัมแม้แต่ เหอปิงและจือฮงซิ่วที่มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมก็ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเขา ดูเหมือนมีเพียงหยางไคเท่านั้นที่สามารถจัดการเฉินตูจิวได้
“หลี่ฟู่เฉิน เป็นเรื่องน่ายินดีอยู่รอดมาถึงขั้นนี้ บุคคลที่ฉลาดเช่นเจ้าควรรู้ขีดจำกัดของตนเอง ถ้าเป็นข้า ข้าจะยอมรับอันดับสอง ว่ายังไง?” เฉินตูจิวรู้ดีว่าเขาไม่ได้ดีไปกว่าหยางไค แต่เขาก็ไม่อยากแพ้หลี่ฟูเฉิน
ยิ่งไปกว่านั้นผลตอบแทนของอันดับที่สองนั้นมีกำไรมากกว่าอันดับสามมาก อันดับที่สองเสนอ ห้าพันเหรียญทองและหนึ่งขวด เม็ดโอสถลมปราณเพิ่มพูนในขณะที่อันดับที่สามเสนอเพียง สามพันเหรียญ ทองและห้าขวดโอสถเม็ดลมปราณจิตวิญญาณความแตกต่างของมูลค่าถึงสามพันเหรียญทอง
หลี่ฟู่เฉินถามกลับ“เจ้าคิดว่า มันจะเป็นไปได้งั้นเหรอ”
"อะไรนะ? เจ้าไม่ไว้หน้าข้าเลยเหรอ?” หากเฉินตูจิวไม่มั่นใจที่จะเอาชนะหลี่ฟูเฉิน เฉินตูจิวจะไม่ร้องขอให้คู่ต่อสู้ผ่านไปได้ง่าย เขาจะต้องใช้กำลังเต็มที่เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้เหมือนสุนัขกัดไม่ปล่อย
“ไว้หน้า? เจ้าไม่คู่ควรกับคำนี้!”หลี่ฟู่เฉินตอบกลับอย่างไม่ลังเล.
เฉินตูจิว เต็มไปด้วยความโกรธ “เยี่ยมมาก! ข้าจะจดการตัดสินใจของเจ้าในวันนี้และเจ้าจะเสียใจในภายหลัง”
เฉินตูจิววางแผนที่จะทำลายหลี่ฟู่เฉินในนิกายคังเหลียน ในมุมมองของเขาหลี่ฟู่เฉินทำได้เพียงเป็นศิษย์ผู้ต่ำต้อยทำงานงานเล็กๆน้อย และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะศิษย์
บางคนอาจเอาชนะเพื่อระบายความคับข้องใจของพวกเขา
ดาบไม้ชนกับเสียงหินกระทบกัน หลี่ฟู่เฉินจู่โจมเพียงครั้งเดียวเพื่อทำลายดาบของ หลี่หยุ่นไห่และของกวนห่าว แต่ไม่สามารถทำลายดาบของเฉินตูจิวได้ เนื่องจากคมมีดดาลของเฉินตูจิว มีพลังมหาศาลของเคล็ดวิชาเช่าหยางลู่
“วิชาดาบเมฆาอัคนีบดบัง!”
เฉินตูจิว ฝึกฝนวิชาดาบเมฆาอัคนีบดบังชื่อดัง วิชาดาบที่ร้อนแรงนี้ประกอบกับเคล็ดดวิชาเช่าหยางลู่ เปรียบเสมือนการมอบปีกให้เสือ
(หมายเหตุ: การให้ปีกแก่เสือเป็นภาษาจีนที่พูดถึงการทำสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น)
ฟื่ออออ ......
ด้วยเปลวไฟแห่งความร้อนทำให้ดาบเพลิงพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินราวกับเมฆไฟกำลังถล่ม
“วิชาสายนทีภูผาแตก!” (หมายเหตุ: หนึ่งในท่าเพลงดาบเส่าชาง)
หลี่ฟู่เฉินเผชิญกับการโจมตีที่ดุเดือดของเฉินตูจิว เขาตอบโต้ด้วยกระบวนท่าที่โดดเด่นอีกครั้ง
วิชาสายนทีภูผาแยกเป็นกระบวนท่าที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงดาบเส่าชาง แรงของมันรวมไปที่คมดาบและมีความสามารถในการแยกสิ่งกีดขวางออกจากกัน แม้แต่ก้อนหินขนาดยักษ์ก็สามารถแตกออกได้จากการโจมตีครั้งเดียวโดยหลี่ฟูเฉิน
ดึ้ง!
ในขณะที่ดาบไม้ชนกันทั้งคู่ก็ปล่อยพลังฝ่ามือเข้ากัน
เฉินตูจิวใช้ฝ่ามือเมฆาอัคนีที่ลุกเป็นไฟ หากคู่ต่อสู้เไม่มีระดับการบ่มเพาะที่ดีมันจะแผดเผาผิวหนังด้วยเปลวไฟที่ร้อนแรง
หลี่ฟู่เฉินตอบโต้ด้วยกับวิชาฝ่ามือภูผาแยก ในช่วงเวลาว่างเขาฝึกฝนวิชาฝ่ามือนี้ มันมีพลังฝ่ามืออันทรงพลังถึงสองเท่าของ ซึ่งเป็นวิชาฝ่ามือศิลาพิฆาต แค่ฝ่ามือเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายอวัยวะภายในของคู่ต่อสู้ของเขา....
ติดตามกลุ่มลับๆได้ที่ เพจ @indynovels