ตอนที่ 6 สุราธารสวรรค์
ตอนที่ 6 สุราธารสวรรค์
อาณาจักรเพธอสแม้จะยังคงมืดมิด แต่ความมืดเกิดขึ้นเนื่องเพราะแสงตะวันแทบจะไม่อาจสาดส่องผ่านเมฆทมิฬซึ่งคอยปกคลุมอาณาจักรทั้งวันคืน แต่อย่างน้อยก็ยังมีแสงสว่างพอให้เห็นบ้าง
แต่ไม่ใช่กับสถานที่แห่งนี้..
สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงมีแต่ความมืดมิดจนไม่สามารถมองเห็นได้ แสงจากเทียนไขสักเล่มยังไม่มี ซ้ำยังมีกลิ่นอับชื้นรุนแรงแสดงว่าไม่เคยทำความสะอาดมาก่อน
แต่วันนี้ที่แห่งนี้พลันมีแสงสว่าง
บุรุษดวงตาแดงเพลิง เครายาวถึงท้อง สวมชุดยาวสีแดงปักรูปเปลวไฟ ถือไม้เท้าที่มีไฟลุกโชติช่วงตลอดเวลา ไฟที่ส่องสว่างบนไม้เท้าเขาไม่ต่างจากดวงตะวันที่ไม่มีวันดับแสง เขายืนอยู่เบื้องหน้านักโทษในห้องขังผู้หนึ่ง
“เจ้าทำข้าผิดหวังนัก” บุรุษถือไม้เท้าไฟกล่าวขึ้นพร้อมกับจ้องไปยังบุรุษที่อยู่เบื้องหน้า บุรุษผู้นี้มีดวงตาสีแดงเพลิงเช่นเดียวกับบุรุษผู้ถือไม้เท้า ผมของเขาสีดำยาวประบ่า ข้อมือถูกล่ามโซ่ไว้ทั้งซ้ายขวา ส่วนสายโซ่ผูกติดไว้กับกำแพงทั้งสองด้าน สีหน้าของเขาอิดโรย แต่ดวงตายังแฝงแววหยิ่งทะนง
“ท่านเห็นสิ่งที่เขากระทำหรือไม่? ทุกผู้คนล้วนเป็นเครื่องมือของเขา” บุรุษผู้ถูกโซ่ล่ามไว้กล่าว
“ผู้เป็นกษัตริย์ย่อมเป็นเจ้าชีวิตของทุกคน” บุรุษผู้ถือไม้เท้ากล่าว
บุรุษผู้ถูกล่ามโซ่กล่าวแย้ง “ท่านไม่เห็นเหล่าพี่น้องทหารหาญหรือ? พวกเขาต้องตายไม่ใช่เพื่อสังเวยชัยให้กษัตริย์ แต่เป็นแค่เครื่องมือให้กษัตริย์ใช้เล่นเพื่อสนองอารมณ์เท่านั้น มีผู้ใดยินดีกับชัยชนะครั้งนี้บ้าง”
บุรุษถือไม้เท้านิ่งเงียบ เขามีแผนมากมายที่จะกำจัดพญามัจจุราชเพลิงคอร์แซค ขอเพียงเจ้าเหนือหัวของเขาถอยทัพตามที่เขาได้เสนอแผนการ แต่คิดไม่ถึงเจ้าเหนือหัวของเขากลับสั่งทหารให้ไปตายอย่างสิ้นเปลือง เพื่อที่เจ้าเหนือหัวจะได้มีโอกาสลอบสังหารคอร์แซค
บุรุษผู้ถือไม้เท้าคือ “ซาอู” มหาเสนาบดีแห่งเพธอส
ซาอูกล่าวกับบุรุษเบื้องหน้าว่า “ต้นเหตุแห่งการสูญเสียทั้งหมดก็มาจากเจ้า”
บุรุษเบื้องหน้าพยักหน้ายอมรับ “ใช่ เพราะข้าประมาทไป แต่ชั่วชีวิตข้าก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นของเล่น”
บุรุษที่ถูกโซ่ล่ามแขนทั้งสองไว้คือกีรัสอดีตหัวหน้าหน่วยแบล็คเคิซ หลังจากเรดิกัลสังหารคอร์แซคได้ ก็สั่งจับขังกีรัสเนื่องจากขัดพระบัญชานำทัพออกศึกโดยพละการ แต่เรดิกัลเห็นแก่ความภักดีที่กีรัสช่วยปกป้องเขาจากคอร์แซค จึงสั่งให้จับขังไว้ก่อนค่อยกำหนดวันประหารภายหลัง
ซาอูกล่าวว่า “ข้าจะทูลขอฝ่าบาท ให้เห็นแก่ความชอบเก่าก่อนที่เจ้าเคยกระทำ ขอให้ทรงละเว้นชีวิตเจ้า หากไม่ใช่เจ้ามีเชื้อสายแห่งเนตรโลหิตเพลิงเช่นเดียวกับข้า ความปราณีจะไม่เกิดแก่ผู้นำความปราชัยมาสู่เพธอส”
ซาอูกล่าวจบก็เดินออกจากห้องคุมขัง ทิ้งให้กีรัสผู้หยิ่งทะนงต้องทนทรมานในความมืดต่อไป
ณ ปราสาททมิฬสูงใหญ่ ปราสาทซึ่งสร้างจากศิลาดำธอร์รัสอันแข็งแกร่งประดุจเหล็ก ยอดปราสาทมีรูปปั้นมังกรดำคาบดาบอันน่าเกรงขาม ภายในห้องโถงอันกว้างใหญ่ส่วนหนึ่งของปราสาทวันนี้นับว่าสว่างจ้าผิดปกติกว่าทุกวัน แสงไฟถูกจุดขึ้นทั่วห้องโถง เพดานห้องโถงยังประดับด้วยคริสตัลฟ้าส่องสว่างแทนแสงจันทรา ก่อเป็นสีสันงดงามที่น้อยครั้งจะพบเห็นได้ในดินแดนแห่งความมืดแห่งนี้
วันนี้เป็นงานจัดเลี้ยงฉลองชัยที่กษัตริย์แห่งความมืดของชาวเพธอสสังหารพญามัจจุราชเพลิงอันโด่งดังได้ในเดือนที่แล้ว พระบารมีของกษัตริย์แห่งความมืดเกริกไกรยิ่งขึ้นไปทั่วแดนเหนือ ไม่นานข่าวอันมงคลนี้คงจะส่งไปถึงแดนใต้ ให้ชาวใต้รับรู้ถึงพระบารมีและส่งบรรณาการมาถวายเพื่อแสดงความภักดี
ไม่นาน เรดิกัลในชุดสีดำ สวมมงกุฎสีเงิน หว่างเอวเหน็บดาบเพน (Pain-เจ็บปวด) ก็เสด็จมาถึง เหล่าขุนนางเห็นเรดิกัลเสด็จมาก็ถวายบังคมคำนับ ขุนนางบางคนครุ่นคิดในใจว่านี่เป็นงานเลี้ยงไม่เข้าใจว่าราชาหนุ่มจะพกอาวุธติดกายมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด แต่นิสัยของเรดิกัลความจริงก็ยากจะเข้าใจได้อยู่แล้ว
ความจริงแล้วหลังจากเรดิกัลสู้กับคอร์แซคพลังเวทเพิ่งฟื้นเพียงแค่ครึ่งเดียว จึงต้องพกอาวุธติดกายไว้ก่อน หากเกิดเหตุศัตรูบุกมาจะได้ป้องกันตนได้ ทุกการกระทำของเขามักมีเหตุผลเสมอ แต่เรื่องนี้ถือเป็นความลับไม่มีขุนนางใดล่วงรู้
เรดิกัลนั่งตำแหน่งประธานงานเลี้ยง โดยมีซาอูนั่งถัดมาด้านซ้าย ด้านขวาเป็นเสนาบดีกลาโหมนามเดนไดน์ ซึ่งนำทัพเข้าช่วยเหลือเรดิกัลได้ทัน ถัดจากนั้นก็เป็นโต๊ะตำแหน่งแม่ทัพนายกองตลอดจนขุนนางต่าง ๆ ตามตำแหน่งราวยี่สิบแปดคน ครั้งนี้เหล่าขุนนางแม่ทัพต่างดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศผ่อนคลายกว่าทุกครั้งที่เข้าเฝ้าราชาหนุ่ม
ซาอูพลันลุกขึ้นตบมือขึ้นสามครั้ง เสียงหัวเราะพูดคุยของเหล่าขุนนางล้วนสงบลง
“ด้วยพระปรีชาสามารถของกษัตริย์แห่งเพธอส ทำให้พญามัจจุราชเพลิงผู้ที่สร้างความหวาดกลัวไปทั่วแดนเหนือถูกปลิดชีพลง นับแต่นี้พระบารมีของกษัตริย์เราจักแผ่ไพศาลทั่วทั้งผืนพิภพยิ่งกว่ากษัตริย์ใดในอดีต นับตั้งแต่ท่านเมธีอาร์พระเจ้าผู้ทรงสร้างโลกนี้ขึ้นมา แผ่นดินเหนือใต้ยังไม่เคยรวมเป็นหนึ่งเดียวมาก่อน แต่ด้วยพระบารมีแห่งเรดิกัลองค์เหนือหัวแห่งเพธอส ไม่นานแผ่นดินเหนือใต้จักรวมเป็นหนึ่งอย่างแน่นอน”
เหล่าขุนนางแม่ทัพได้ยินคำกล่าวนี้ต่างก็โห่ร้อง “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง ราวกับว่าเรดิกัลเจ้าเหนือหัวพวกเขาได้นำทัพรวมแผ่นดินเหนือใต้เป็นหนึ่งแล้วจริง ๆ
“นำสุราธารสวรรค์มา” ซาอูกล่าว
เด็กรับใช้ชายผู้หนึ่งหยิบขวดสุราสลักเป็นรูปตัวมังกรดำมาถึง ซาอูรินให้เรดิกัลอย่างนอบน้อม จากนั้นเขาชูขวดสุราขึ้นเหนือหัว ปากมังกรพลันพ่นสายน้ำสุราขึ้นฟ้า จากนั้นน้ำสุราแบ่งออกเป็นสามสิบหยดใหญ่ หยดสุราสะท้อนกับแสงคริสตัลสีฟ้า งดงามดุจหยดน้ำวิเศษโปรยลงมาจากสวรรค์ หยดสุราทยอยหยดลงบนจอกของขุนนางแม่ทัพทุกคนอย่างพอดี โดยไม่มีกระเซ็นออกมาแม้แต่น้อย
นี่เป็นเวทมนตร์บังคับน้ำและลมของซาอูซึ่งไม่นับเป็นเวทชั้นสูงอะไร แต่ผู้ที่ใช้เวทได้ละเอียดอ่อนถึงขนาดนี้ ทั่วแผ่นดินเหนือใต้เกรงว่ามีไม่กี่คน
เหล่าขุนนางแม่ทัพต่างเห็นอิทธิฤทธิ์ของซาอูพ่อมดเฒ่าก็ร้องชมเชย เรดิกัลและขุนนางทุกคนต่างดื่มยอดสุราที่มหาเสนาบดีผู้นี้รินให้
ซาอูหยิบของสิ่งหนึ่งจากใต้แขนเสื้อเป็นวัตถุทรงกลมสีดำ จากนั้นเขาเดินถึงเบื้องหน้าเรดิกัล แล้วถวายวัตถุทรงกลมนี้ให้
“นี่เป็นของขวัญฉลองชัยจากหม่อมฉัน ทรงลองเปิดดู”
เรดิกัลเปิดวัตถุทรงกลมนั้นพบเป็นเป็นไข่มุกสีทองเปล่งประกายเรืองรองและมีกลิ่นหอมจาง ๆ
ซาอูกล่าวต่อว่า “นี่เป็นของวิเศษหายากจากทะเลเฮอส์ (Hers) ในแดนใต้ เรียกว่า ”ไข่มุกแห่งเฮอส์“ สามารรักษาอาการบาดเจ็บภายนอก ไม่ว่าแผลเปิดกว้างเพียงใด ขอเพียงบีบไข่มุกนี้ให้แหลกละเอียด จากนั้นทาที่บาดแผล แผลก็จะปิดสนิทได้ในเวลาไม่เกินชั่วน้ำเดือด แม้กระทั่งแผลเป็นก็สามารถรักษาคืนสภาพผิวดังเดิม”
ในการต่อสู้กับคอร์แซค เรดิกัลถูกคอร์แซคใช้หางศรูธนูจู่โจมใส่ต้นคอด้านซ้ายจนเป็นแผล เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนแม้บาดแผลจะหายดีแล้วแต่รอยแผลเป็นยังอยู่ ไข่มุกนี้สามารถรักษาได้แม้กระทั่งแผลเป็น ซาอูช่างมีความละเอียดอ่อนนัก
เรดิกัลปิดฝาวัตถุทรงกลมเก็บไข่มุกแห่งเฮอส์วางไว้ข้างโต๊ะ กล่าวขอบใจซาอู จากนั้นดื่มสุราต่ออีกจอก เวลาผ่านไปชั่วหนึ่งเทียนไขดับ เรดิกัลรู้สึกเวียนศรีษะ สายตาพร่ามัวอยู่บ้าง เขาคิดว่าเขาคงอาจมึนเมาจากฤทธิ์สุรา เตรียมลุกขึ้นเสด็จกลับห้องบรรทม
แต่เขาพลันรู้สึกผิดปกติขึ้น !
อาการปวดศีรษะเรดิกัลมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขารู้สึกปวดท้อง กระเพาะคล้ายถูกบีบรัดด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น ลำไส้รู้สึกเหมือนถูกฉีกกระชากแยกขาดออกจากกัน เรดิกัลเร่งใช้เวทแห่งความมืดคุ้มครองตนไว้ อาการเจ็บปวดค่อยทุเลาลงบ้าง
“ข้าถูกพิษ?!” เรดิกัลครุ่นคิดขึ้นพร้อมกวาดสายตามองไปยังรอบ ๆ งานเลี้ยง เห็นขุนนางแม่ทัพทุกคนยังคงดื่มกินสังสรรค์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีความผิดปกติใด
เรดิกัลคิดลุกขึ้น เขาใช้มือกดโต๊ะอาหารพยุงกายขึ้น จากนั้นมือเขากวาดอาหารขวดสุราบนโต๊ะทิ้ง จานชามตกแตกกระจายเสียงดัง
“ใครวางยาพิษข้า!” เรดิกัลตวาดเสียงดัง
เหล่าขุนนางแม่ทัพในงานเลี้ยงตื่นตระหนกยิ่ง ทุกคนต่างหันไปมองที่องค์เหนือหัวเขาเป็นจุดเดียว เห็นดวงตาเรดิกัลแดงก่ำจากความพิโรธ สายตาจ้องเขม็งด้วยความอาฆาต นับเป็นสายตาที่ไม่มีขุนนางในเพธอสคนใดเคยพบเห็น
เดอซอง ราชเลขาธิการแห่งเพธอสถามขึ้นด้วยเสียงสั่นเทา “ฝ่าบาท ทรงเป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
เรดิกัลไม่ตอบ แต่ชักดาบเพนออกมา ตะโกนเสียงดัง “ทหาร เข้ามา”
ทหารราชองครักษ์ที่คอยคุ้มกันบริเวณงานเลี้ยงหลายสิบคนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เรดิกัลสั่งว่า “จับคนพวกนี้ทั้งหมด”
หัวหน้าทหารราชองครักษ์ ถามว่า “ฝ่าบาท พระองค์ทรงหมายถึงผู้ใดบ้าง”
เรดิกัลตอบว่า “ทั้งหมด”
ขุนนางแม่ทัพทั้งปวงตื่นตระหนกยิ่ง จู่ ๆ งานเลี้ยงอันสุขสรรค์กลับตาลปัตรเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ปรับตัวไม่ทัน
แต่ทหารราชองครักษ์ไม่แสดงปฏิกิริยาใด
เรดิกัลกล่าวต่อว่า “พวกเจ้าไม่ได้ยินหรือ?”
จากนั้นเรดิกัลพลันหันไปมองซาอู เห็นซาอูยังแสดงสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างจากขุนนางอื่น เรดิกัลกล่าวว่า “เจ้าอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่?”
สีหน้าซาอูจากตื่นตระหนกกลายเป็นเรียบเฉย
“ทรงพระปรีชาสามารถยิ่ง สุราธารสวรรค์บวกกับกลิ่นหอมบนไข่มุกเฮอส์ กลิ่นหอมที่ว่าสกัดจากกลีบดอกไวท์แองเจิลWhite Angel – นางฟ้าขาว) ดอกไม้ขาวซึ่งส่งกลิ่นหอมราวกลิ่นกายทิพย์ของนางฟ้า สองสิ่งนี้ความจริงไม่มีพิษแต่เมื่อสูดดมกลิ่นหอมบวกกับดื่มสุราธารสวรรค์ สองสิ่งนี้ผสมกันในเส้นประสาท จะกลายเป็นยาพิษสังหารอันร้ายกาจ หากแต่พลังเวทพระองค์ก็แข็งแกร่งนัก ยังสามารถยืนหยัดได้ถึงเวลานี้”
“ทำไม?” เรดิกัลถามพร้อมจ้องซาอูเขม็งด้วยความอาฆาต
ซาอูสบตาเรดิกัลจ้องเขม็ง “พระองค์ได้เคยนึกถึงผู้อื่นบ้างหรือไม่ ? ทหารเพธอสเท่าใดที่ต้องตายเพราะความเอาแต่ใจของพระองค์ ช่วงพระชนมายุสิบห้าพรรษา พระองค์ออกปราบกลุ่มกบฏที่ชายแดนตะวันตก สังหารกลุ่มกบฏและครอบครัวพวกมันยังพอทำเนา แต่พระองค์ยังสั่งประหารชาวบ้านบริเวณนั้นนับพันคน กล่าวหาว่าพวกเขาให้ที่อยู่กลุ่มกบฏ สร้างความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน นับตั้งแต่เหตุการณ์นั้นพระองค์ก็ไม่ใส่ใจกับชีวิตผู้ใดอีก สั่งประหารผู้คนที่ขัดรับสั่งตามอารมณ์ แม้แต่มดปลวกเกรงว่ายังมีค่ากว่าชีวิตผู้ที่ถูกพระองค์ประหาร”
“ในศึกกับคอร์แซค หากพระองค์ทรงฟังคำหม่อมฉัน ยอมถอยทัพก่อน ทหารนับพันที่ทั้งกล้าหาญและภักดีคงไม่ต้องเสียชีวิตเพียงเพื่อเป็นเครื่องมือให้พระองค์เอาชนะกระทิงเฒ่า หากหม่อมฉันกับพระองค์ร่วมมือกันต่อสู้กับคอร์แซค ไหนเลยจะเอาชนะมันไม่ได้? พระองค์ทรงทำไปเพียงเพราะทิฐิไม่ยอมแพ้เท่านั้น”
“แต่วันนี้พระองค์แพ้แล้ว” ซาอูกล่าวเสียงราบเรียบราวกับเป็นการสนทนาธรรมดาทั่วไป
เรดิกัลมองไปรอบ ๆ ข้าง ไม่มีขุนนางหรือแม่ทัพคนใดกล่าววาจาตอบโต้ซาอูหรือแก้ต่างให้เขา ราวกับคำพูดซาอูนั้นถูกต้องทุกประการ ไม่แน่ขุนนางเหล่านี้อาจร่วมมือกับซาอูในการก่อกบฏด้วย
เขาไม่มีผู้ใดที่ไว้ใจได้
เรดิกัลรู้ดีว่าสาเหตุที่ราชองครักษ์ไม่เชื่อฟังเขาเพราะปกติแล้วซาอูจะเป็นผู้แต่งตั้งคัดเลือกราชองครักษ์ ดังนั้นคนทั้งหมดจึงเป็นของซาอู เขาจึงคาดว่าซาอูต้องเป็นคนวางยาพิษเขา
ซาอูที่ชุบเลี้ยงเขาแต่เล็กและคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด
“เวฟออฟดูม” เรดิกัลตวาดออก พร้อมใช้มือซ้ายฟันขวาง พลังความมืดรูปเสี้ยวจันทร์ขนาดใหญ่จู่โจมศัตรูเบื้องหน้าทันที
แต่ศัตรูเบื้องหน้าเรดิกัลไม่ใช่ซาอู หากแต่เป็นเหล่าราชองครักษ์
ได้ยินเสียงระเบิดตูมจากนั้นตามด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของราชองครักษ์ราวห้าหกคน จากนั้นเรดิกัลพุ่งตัวพร้อมแทงดาบเพนออก ประกายดาบดุจสายรุ้งขาว ชั่วพริบตาดาบเพนแทงใส่คอหอยทหารองครักษ์ผู้หนึ่งสิ้นใจตายทันที
เรดิกัลทราบดีว่าต่อให้เขาต่อสู้กับซาอูก็ไม่มีประโยชน์ ปกติแล้วพลังฝีมือของซาอูไม่ด้อยไปกว่าเขา อย่าว่าแต่ตอนนี้เขาถูกพิษและพลังเวทหลังจากการต่อสู้กับคอร์แซคก็ฟื้นคืนกลับมาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น เขาจึงเลือกจู่โจมพวกราชองครักษ์เพื่อจะทะลวงวงล้อมออกจากประตูงานเลี้ยงและหนีไป
เหล่าราชองค์รักษ์ชักดาบขึ้นต่อสู้ แต่เรดิกัลยามนี้เหมือนราชสีห์บาดเจ็บที่กำลังคลุ้มคลั่ง ดาบของเขาฟาดฟันดุจพายุร้าย เหล่าราชองครักษ์ไม่อาจต้านได้
ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ดาบเพนเป็นถึงดาบระดับตำนาน ขอเพียงกรีดถูกผิวหนังผู้ใดคนผู้นั้นจะเลือดไหลไม่หยุดอาจถึงแก่ชีวิตได้ ยามนี้เหล่าราชองครักษ์หลายคนถูกดาบเพนฟันใส่จนเป็นแผลยาว แผลที่ถูกฟันยิ่งขยายกว้างขึ้นกว่าเดิมเรื่อย ๆ นี่เป็นผลจากคำสาปดาบเพน เหล่าองครักษ์หลายคนทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจทันที
เรดิกัลใช้พลังเวทแทบทั้งหมดไปสะกดพิษไว้ จึงไม่อาจใช้พลังเวทได้อีก การใช้เวท “เวฟออฟดูม” เมื่อสักครู่นั้นถือเป็นความจำเป็น หากใช้อีกคงสะกดพิษในร่างกายไว้ไม่ได้
เห็นหยดโลหิตสาดกระจายดุจสายฝน ดาบเพนบรรลุถึงที่ใดที่นั่นต้องมีผู้บาดเจ็บล้มตาย เหล่าทหารเพธอสรับรู้ถึงความร้ายกาจของกษัตริย์แห่งความมืดบวกกับอานุภาพของดาบเพน แม้เรดิกัลจะได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าเข้าใกล้เขา
เรดิกัลทะลวงฝ่าวงล้อมหนีไปถึงประตูหน้าปราสาท ที่นั่นกลับไม่มีทหารอยู่เลย แต่ยังไม่ทันมีเวลาให้เขาได้แปลกใจ คนผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากประตูปราสาท ดวงตาสีแดงเพลิง ผมสีดำยาวประบ่า มือทั้งสองถืออาวุธคล้ายคมหอกขนาดใหญ่
กีรัส !!
“ซาอูปล่อยเจ้ามาหรือ?” เรดิกัลถาม
“จงโทษพฤติกรรมของพระองค์เองที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วันนี้” กีรัสไม่ตอบคำถาม แต่กลับกล่าววาจาไปอีกเรื่อง
อาวุธที่กีรัสถือไม่ใช่ดาบสองเล่ม หากแต่เป็นหอกอายส์ไซทของเขาซึ่งมีคมหอกใหญ่ดุจใบดาบทั้งสองด้าน สามารถแยกออกจากกันใช้ต่างดาบคู่ได้
ทั้งสองยืนจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่ง เวลาแม้เพียงชั่วครู่แต่สำหรับทั้งสองกลับรู้สึกยาวนานดุจผ่านไปนับปี
กีรัสขยับกายก่อน หอกในมือขวาของกีรัสฟาดฟันออกอย่างรวดเร็วดุจลมพายุ ดาบเพนของเรดิกัลก็แทงใส่คอกีรัสดุจประกายไฟ
อาวุธของกีรัสเป็นอาวุธขนาดใหญ่สมควรเชื่องช้ากว่า แต่เรดิกัลตอนนี้ได้รับพิษความว่องไวไม่เท่าเดิม ดังนั้นด้านความเร็วทั้งสองจึงเสมอกัน
กีรัสทราบความร้ายกาจของดาบเพนจึงเบี่ยงกายหลบ แต่ก็ทำให้หอกมือขวาของเขาจู่โจมพลาดเป้า แต่แทบในเวลาเดียวกัน กีรัสก็ฟันหอกมือซ้ายใส่เรดิกัล
แต่ยังชักช้าไปชั่วพริบตา !
เรดิกัลแทงดาบเพนออกแม้จะพลาดเป้า แต่เขาขยับข้อมือเพียงวูบเดียว เป็นวูบเดียวที่เร็วกว่าสายลมพัดผ่าน ดาบเพนก็ตามติดกรีดใส่แก้มซ้ายกีรัสทันที
“อ๊าก!” กีรัสร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด แผลที่ถูกดาบเพนกรีดค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น กีรัสทิ้งหอกในมือจับกุมแก้มซ้ายที่อาบไปด้วยเลือด
เรดิกัลเดินออกนอกประตูปราสาทไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองอดีตขุนพลคู่ใจเขาแม้แต่น้อย
ดาบเพนกรีดใส่ผู้ใด ผู้นั้นต้องตาย !
หลังจากออกนอกปราสาท เรดิกัลก็ไม่พบผู้ใดขัดขวางอีก เขาได้แต่ทำสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดนั่นคือการหนี
หนีอย่างผู้พ่ายแพ้
เรดิกัลหนีออกมาถึงป่าใหญ่ไม่ห่างจากปราสาททมิฬมากนัก เขานั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ตอนนี้พิษเริ่มลามไปทั่วร่างกาย เขากล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ ไม่ส่งเสียงโอดครวญแม้แต่น้อย
ขณะนั้นใบไม้กิ่งไม้รอบ ๆ ตัวเขาเริ่มสั่นไหวทั้งที่ไม่มีลม เพียงแค่นี้เรดิกัลก็ทราบว่าผู้ใดมาแล้ว
ซาอู !!
สัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายค้างค้าวแต่มีหัวคล้ายงูหลายร้อยตัวบินมา จากนั้นรวมตัวกันเป็นบุรุษสวมชุดแดง เครายาวถึงท้อง ถือไม้เท้าดำ ปลายไม้เท้ามีไฟลุกโชติช่วงตลอดเวลา
เรดิกัลถือดาบเพนยืนขึ้น แววตาคมกริบจ้องมองซาอูเขม็งราวกับจะกัดกินเลือดเนื้อมัน
ซาอูกล่าวว่า “นึกไม่ถึงพระองค์บาดเจ็บขนาดนี้ กีรัสยังเอาชนะท่านไม่ได้ ราชสีห์ที่บาดเจ็บจะอย่างไรก็ยังเหนือกว่าหมาป่าจริง ๆ”
ซาอูจ้องหน้าเรดิกัลแววตาปรากฏความอ่อนโยน “หม่อมฉันไม่คิดจะสังหารพระองค์ด้วยมือคู่นี้ที่ชุบเลี้ยงพระองค์มา แต่ถึงแม้พระองค์จะถูกพิษ กีรัสยังเสียทีพระองค์ หากหม่อมฉันไม่ลงมือ ทั่วทั้งเพธอสเกรงว่าไม่มีผู้ใดกระทำได้”
เรดิกัลนิ่งเงียบ ยามนี้เขาไม่มีสิ่งใดต้องกล่าวกับจอมเวทผู้ฉ้อฉลผู้นี้อีก
“เมิร์ค จาเวลิน” (Mirk Javelin-หอกแห่งความมืด) ลำแสงสีดำพุ่งออกจากมือซ้ายเรดิกัล ตรงใส่ซาอูอย่างรวดเร็วและรุนแรง ที่จริงแล้วเรดิกัลไม่ควรใช้คาถาเพราะจะทำให้พิษในร่างกายแผ่ซ่านเร็วยิ่งขึ้น แต่เขาเตรียมตกตายพร้อมศัตรูแล้วจึงไม่สนใจสิ่งใดอีก
“แบล็คโฮลการ์ด” (Black Hole Guard-หลุมดำคุ้มกาย) ซาอูโบกแขนเสื้อกว้างใหญ่ขึ้น ปรากฏหลุมดำใหญ่ประมาณหนึ่งเมตรขึ้นเบื้องหน้า ดูดลำแสงสีดำของเรดิกัลไปหมดสิ้น
แต่เรดิกัลที่เบื้องหน้าซาอูได้หายไปแล้ว !
ได้ยินเสียงดาบแหวกอากาศจนอากาศแทบปริแตก เรดิกัลแทงดาบเพนใส่ด้านหลังซาอูอย่างรวดเร็ว ดาบนี้เรดิกัลทุ่มอย่างสุดกำลัง ประกายจากดาบเพนไม่ต่างจากแสงของดาวตก
คาถาที่เรดิกัลใช้เป็นเพียงแค่การหลอกล่อ ดาบนี้จึงเป็นไม้ตายที่แท้จริง
แต่ทันใดนั้น เรดิกัลรู้สึกร่างกายหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างจากถูกขุนเขาทับใส่ ดาบเพนของเขาขณะจะถูกแผ่นหลังซาอูกลับต้องตกห้อยลง เขารีบใช้ดาบเพนพยุงกาย ตอนนี้เพียงแค่ยืนทรงกายเขายังแทบจะทำไม่ได้ อย่าว่าแต่จะจับดาบสู้กับผู้ใดอีก เขาเห็นแสงสีดำปรากฏบริเวณพื้นดินรอบกายเขา
“ดาร์คกราวิตี้” เรดิกัลทราบดีว่าซาอูใช้เวทมนตร์แรงดึงดูดนี้
ทันใดซาอูหันกายมา จากนั้นจี้ไม้เท้าเพลิง พลังเวทความมืดพุ่งตรงใส่เรดิกัล ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดราวถูกมีดกรีด จากนั้นร่างกายเหมือนถูกฉีกกระชากออกจากกัน ความเจ็บปวดสุดที่จะบรรยายเป็นภาษาใดในแดนมนุษย์
ซาอูขมวดคิ้วเล็กน้อย ขอเพียงเขาเพิ่มพลังเวทขึ้นอีกนิด เรดิกัลต้องตายแน่นอน แต่เขาพลันฉุกคิดถึงคำสั่งเสีย
คำสั่งเสียของเชเรวีน่า พระมารดาของเรดิกัล ราชินีแห่งเพธอสที่ทรงพระเมตตาต่อเขาอย่างสูงสุด
เชเรวีน่ารับสั่งให้ซาอูดูแลเรดิกัลให้ดี แต่ซาอูยามนี้ไม่อาจทำตามได้
ชั่วพริบตาที่สับสน ภาพซาอูที่เลี้ยงดูเรดิกัลตั้งแต่เล็กปรากฏขึ้นในห้วงสมองของราชาเวทย์ปีศาจผู้นี้
มิใช่เขาหรอกหรือที่เลี้ยงดูเรดิกัลจนเติบใหญ่?
มิใช่เขาหรอกหรือที่อบรมเรดิกัลจนกลายเป็นผู้ไร้ใจ?
มิใช่เขาหรอกหรือที่สั่งสอนให้เรดิกัลเอาชนะโดยไม่สนวิธีการ?
หากเรดิกัลต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำด้วยความตาย แล้วเขาเล่าต้องรับผิดชอบอย่างไรที่อบรมสร้างคนผู้นี้ขึ้น?
ขณะที่ซาอูลังเลใจ เรดิกัลกัดฟันข่มความเจ็บปวดเอ่ยขึ้น “หากเจ้าไม่ใช้อุบายวางยาพิษ เจ้าก็สู้ข้าไม่ได้”
เรดิกัลกล่าวอย่างถือดีแม้ยามนี้เขาใกล้เข้าสู่ประตูมรณะ
โทสะซาอูพุ่งขึ้น ตวาดว่า “จงเป็นสตรี!!”
พริบตานั้นร่างกายเรดิกัลก็เปลี่ยนแปลงไป …..
----------------
“จงเป็นสตรี” โอ้โห ซาอูรู้ตัวไหมพูดอะไรออกมา เรดิกัลเนี่ยนะเป็นสตรี ? นึกภาพไม่ออกเลย ได้แต่พูดว่าโปรดติดตามตอนต่อไป!!