TQF:บทที่ 22 พี่น้องที่ซุกซน
TQF:บทที่ 22 พี่น้องที่ซุกซน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตระหนักถึงสถานการณ์ที่ครอบครัวของเธอกำลังเผชิญอยู่ พวกเธอเพิ่งเริ่มต้นก็ต้องรับมือกับผู้หญิงปากร้ายเหล่านี้ หากเธอลงมือทำอะไรลงไปมันจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเท่านั้นดังนั้นเธอจึงระงับการตอบโต้เอาไว้ก่อน
“ใช่แล้ว เสี่ยวเสี่ยว เป็นความผิดของพวกเรา ไม่อย่างนั้นเจ้าควรอยู่ในวัยที่มองหาสามีได้แล้ว!”นางเฉิงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ลูกสาวของเธออยู่ในวัยที่เหมาะสมในการมีสามี แต่ไม่มีครอบครัวที่เหมาะสมอยู่รอบๆแถวนี้หลังจากได้รับการดูถูกจากผู้หญิงปากร้ายน่ารังเกียจเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกผิดมากกว่าเดิม
“ท่านแม่อย่าพูดอย่างนั้นเลย!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ขมวดคิ้วเธอไม่ได้สนใจที่จะหาสามีในเวลานี้ เธออายุเพียง 16 ปีเธอควรเป็นเด็กที่กำลังไปโรงเรียนต่างหาก
เธอมองว่าตัวเองนั้นเป็นเด็กแต่นางเฉิงนั้นคิดเป็นอย่างอื่น ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของบ้านทำให้ นางเฉิง ไม่สามารถทำอะไรได้ดังนั้นเธอจึงยิ่งโศกเศร้ายิ่งขึ้น
“เสี่ยวเสี่ยว แม่รู้ว่าเจ้าเสียสละให้กับครอบครัวอย่างมาก”
“ท่านแม่ ข้ายังไม่รีบ!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ยิ้มและพูดว่า
“ท่านแม่เรามาเริ่มทำอาหารกลางวันกันเถอะ วันนี้เราจะทำเมนูปลากัน”
“ตกลง!”นางเฉิงเข้าใจว่าลูกสาวของเธอนั้นไม่ต้องการที่จะพูดถึงเรื่องนี้อีกดังนั้นเธอจึงหยุดพูด
ในช่วงบ่ายทุกคนในครอบครัวต่างมีความสุขในการกินปลาแสนอร่อย อย่างที่คิดเอาไว้เด็กทั้งสามคนกรีดร้องด้วยความดีใจ พวกเขาจัดการปลาตัวใหญ่ 2 ตัวจนราบเรียบ นางเฉิง มองดูรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของลูกชายและลูกสาวของเธอทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
หลังจากการกินอาหารกลางวันแล้วบรรดาน้องๆของเธอไม่ได้หยุดพักพวกเขาเรียกสุนัขออกไปวิ่งเล่น หลังจากที่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ทำ ความสะอาดเสร็จเธอก็ไม่เห็นใครแล้ว
หลังจากเดินออกไปข้างนอกเธอได้ยินเสียงน้องของเธอจากด้านหลังบ้าน เฉิงเสี่ยวเสี่ยว จึงเดินไปที่นั่นและเห็นพวกเขากำลังเล่นน้ำรอบบ่อน้ำที่เธอเพิ่งสร้างขึ้นมา
“เจิ้งหยวน, เจิ้งปิน, หลานหลาน พวกเจ้ากลับมาได้แล้ว!”
“พี่ใหญ่”
“พี่ใหญ่มานี่เร็ว”
“พี่ใหญ่มาเล่นด้วยกัน”
เด็กทั้ง 3 คนเริ่มพูดในเวลาเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่า เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รู้สึกกังวลและหงุดหงิดพวกเขาทั้งสามคนจึงหยุดเล่น
“พวกเจ้าอยากตายอย่างนั้นหรอ?เจ้าไม่รู้หรือไงว่าบ่อน้ำนี้ลึกแค่ไหน?หากเจ้าหล่นลงไปจะไม่สามารถปีนขึ้นมาได้ไม่เหมือนกับลำธารที่อยู่ทางด้านนั้นลำธารนั้นตื้นเขินเกินกว่าที่พวกเจ้าจะตกลงไปตาย”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รู้สึกโกรธและหงุดหงิดเธอลากทั้ง 3 คนออกจากบริเวณบ่อน้ำ เธอกลัวว่าพวกเขาจะตกลงไปในเวลาเดียวกันเธอก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้คิดถึงการป้องกันโดยการเพิ่มรั้วเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆใกล้กับบ่อ
“พี่ใหญ่คุณกังวลเรื่องอะไร?พี่รองเรียนกังฟู เขาจะต้องช่วยเราได้อย่างแน่นอน!” เจิ้งปิน พูดอย่างไม่พอใจ หลานหลาน ตัวน้อยรีบพูดต่อทันที
“พี่ใหญ่ท่านไม่ต้องห่วงพี่รองอยู่ที่นี่เขาไม่ปล่อยให้พวกเราตกลงไปอย่างแน่นอน”
“เงียบ!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตะโกนด้วยความโกรธเคือง
พวกเขาไม่เคยเห็นพี่ใหญ่ของพวกเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน เด็กน้อยสองคนที่อายุน้อยที่สุดรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกดุอย่างไม่ยุติธรรม พวกเขาก้มหน้าลงและไม่พูดอะไรอีก เฉิงเสี่ยวเสี่ยว จ้องมองอีกครั้งด้วยความโกรธและจดจ่อไปที่น้องชายคนโตของเธอ
“เจ้าพาพวกเขามาที่นี่อย่างนั้นหรอ”
“พี่ใหญ่ข้าขอโทษ!” เจิ้งหยวน อายุ 13 แล้วเมื่อเห็นว่าพี่สาวของเขาโกรธมากเขาจึงขอโทษทันที
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ยังคงโกรธและดุด่าเขาต่อไป
“เจ้าคิดว่าเจ้ามีความรู้เรื่องกังฟูนิดหน่อยจะอยู่ยงคงกระพันอย่างนั้นหรอ?หากมีคนใดคนหนึ่งตกลงไปในบ่อน้ำ แม้แต่พ่อเองก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ เจ้าช่างกล้าที่จะพาพวกเขามาที่นี่!”
คำพูดที่เข้มงวดของเธอทำให้ เจิ้งหยวน ไม่กล้าที่จะโต้แย้ง เขารู้ว่าเขาไม่ควรพาน้องชายและน้องสาวมาที่นี่
“พี่ใหญ่ได้โปรดอย่าโกรธอีกเลย” หลานหลาน ตัวน้อยกอดแขนเสื้อของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว แล้วใช้สายตาใสซื่อราวกับลูกสุนัขมองมาที่เธอ
“พี่ใหญ่ความผิดทั้งหมดมันเป็นของ หลานหลาน หลานหลาน ขอให้พี่รองพาเธอมาที่นี่ ท่านให้อภัยกับพี่รองได้ไหม”
“พวกเจ้าทั้งสามคน….”ถึง เฉิงเสี่ยวเสี่ยว จะโกรธมากแต่เป็นเพราะเธอกังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุมากกว่าและเมื่อมองเห็นว่าทั้งสามคนจ้องมองเธออย่างรู้สึกผิดมันทำให้เธอรู้สึกโอนอ่อนลง
“ก็ได้ครั้งนี้แค่ครั้งเดียว ถ้ายังมีครั้งต่อไปพวกเจ้าจะต้องถูกลงโทษเข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้ว!”ทั้งสามคนตอบอย่างพร้อมเพียง
“เอาล่ะตอนนี้กลับบ้านไปพักผ่อนรอให้แดดร่มกว่านี้ค่อยออกมาเล่นอีกครั้ง”ตอนนี้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เบาเสียงลงด้วยความอ่อนใจ
“พี่ใหญ่ทำไมท่านถึงไถนาแค่แปลงเดียว?”
“เราเพิ่งเริ่มต้นมันก็ควรมีแค่แปลงเดียวเท่านั้น!”
“พี่ใหญ่เราจะปลูกอะไรกันหรอ?”
“ข้ายังไม่ได้ตัดสินใจ”
“พี่ใหญ่ทำไมเราไม่ไถนาอีก 2 แปลงเพื่อที่จะปลูกข้าวด้วย”
“เอาไว้วันหลัง!”
พวกเขาทั้ง 4 คนพูดคุยกันระหว่างเดินทางกลับบ้าน เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตัดสินใจว่าจะให้ หยูเฮงทำรั้วในคืนนี้ เธอไม่ต้องการเสี่ยงที่จะให้เด็กๆตกลงไปในบ่อ
หลังจากมาถึงบ้านนางเฉิงพบว่าพวกเด็กๆไปเล่นน้ำที่บ่อน้ำนางเฉิงจึงดุพวกเขาอีกครั้ง
คืนนั้นเอง หยูเฮง ได้ทำการปิดบ่อน้ำโดยการใช้เถาวัลย์หยกของเธอ และสามารถเอาออกได้เมื่อจะใช้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เฉิงเสี่ยวเสี่ยว วางแผนที่จะค่อยๆปลูกพืชผลขึ้นมา อย่างไรก็ตามพืชผลจากทุ่งนาที่เธอไถนั้นมันถูกรดด้วยน้ำที่มาจากมิติมันจึงทำให้ผักเหล่านั้นเจริญเติบโตอย่างสวยงามและทำให้ทุกคนมีความสุข
ตอนนี้มีเพียงเด็กชาย 2 คนที่ต้องขึ้นไปเก็บฟืนบนเนินเขาเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ต้องทำอะไรอีก เฉิงเสี่ยวเสี่ยว และนางเฉิงมุ่งความสนใจไปที่ เฉิงไป๋หยวน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอต้องการให้เขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจาก 1 เดือนผ่านไปอาการบาดเจ็บภายในของ เฉิงไป๋หยวน นั้นส่วนใหญ่ได้รับการฟื้นฟู อาการบาดเจ็บเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่คือเอ็นกล้ามเนื้อและกระดูกที่แตกละเอียด
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เริ่มกังวลเพราะสมุนไพรของเธอที่เก็บมาคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว แม้ว่าเธอจะรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจีนแต่เธอไม่รู้เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วย แม้แต่หมอที่พวกเธอจ้างมาเมื่อครั้งก่อนก็ไม่ใช่หมอที่มีความเก่งมากนัก ยาที่เขาให้นั้นรวมกับสมุนไพรที่เธอเก็บมามันมีผลฟื้นฟู เฉิงไป๋หยวน ปานกลางเท่านั้น เธอรู้สึกว่าเธอควรที่จะกลับไปตามหมอมาตรวจพ่อเธออีกครั้ง เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็ไม่สามารถเอายาเดิมๆให้พ่อของเธอได้ตลอด
เธอรู้สึกว่าเธอต้องพูดคุยกับพ่อแม่ของเธอ เธอเคาะประตูและเข้าไปในห้อง เธอสังเกตเห็นว่าภายในห้องนั้นไม่ได้มีเพียงพ่อแม่ของเธอเท่านั้น เจิ้งหยวน น้องชายของเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ดังนั้นเธอจึงถามว่า
“ท่านพ่อข้าเข้ามาขัดจังหวะหรือไม่?”
“ไม่เป็นไรเราเป็นครอบครัวเดียวกัน”นางเฉิงตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เฉิงไป๋หยวน พยักหน้าให้เธอเล็กน้อยและพูดกับลูกชายคนโตของเขาว่า
“เจ้าจำสิ่งที่พ่อเพิ่งบอกไปได้ไหม?”
“ขอรับท่านพ่อข้าจดจำได้ทั้งหมด!”
“ดีถ้าอย่างนั้นเจ้าออกไปได้ จำเอาไว้ฝึกฝนให้มาก หากเจ้ามีติดปัญหาใดให้มาถามพ่อ!” เฉิงไป๋หยวน เก่าจากนั้นเขาขมวดคิ้วและพูดเสริมว่า
“อย่าพาน้องชายและน้องสาวของเจ้าไปเล่นในสถานที่อันตราย เข้าใจไหม!”
“เข้าใจแล้วท่านพ่อ ข้าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก!” เจิ้งหยวน รู้ว่าพ่อของเขากำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างบ่อน้ำ
“เอาล่ะเจ้าไปได้แล้ว!”
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ ข้าขอตัว!”
เจิ้งหยวน ออกจากห้องในขณะที่สามคนมองดูเขาเดินออกไป จากนั้นนางเฉิงหันมามองลูกสาวของเธอและถามว่า
“เสี่ยวเสี่ยว ดูเหมือนเจ้ามีเรื่องอะไรบางอย่างที่ต้องการจะพูด”
------------------------------------------