ตอนที่แล้วตอนที่ 2 ทหารม้าปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 พญามัจจุราชเพลิง

ตอนที่ 3 ยุทธภูมิที่โทเคีย


ตอนที่ 3 ยุทธภูมิที่โทเคีย

 

ปัง !!

เสียงพลุสัญญาณดังลั่น สะเก็ดไฟพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าแตกกระจายออกเป็นสีแดง นี่เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากหน่วยแบล็คเคิซที่ใช้ถุงพลุเวทมนตร์ซึ่งหน่วยแบล็คเคิซทุกนายจะพกติดตัวไว้ เมื่อเปิดถุงพลุออก พลุสัญญาณจะยิงออกทันทีไม่ต้องจุดไฟให้เสียเวลา ความวิเศษของพลุเวทมนตร์นี้อยู่ที่ความนึกคิด หากผู้เปิดถุงพลุตกอยู่ในสถานการณ์คับขันประกายไฟจะเป็นสีแดง หากเป็นแค่การส่งสัญญาณว่าตนอยู่ที่ใดประกายไฟจะเป็นสีเขียว พลุเวทมนตร์เป็นสิ่งประดิษฐ์วิเศษของซาอูราชาเวทปีศาจหรือมหาเสนาบดีแห่งเพธอส

กีรัสสั่งให้ทหารของตนยิงพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ หากเป็นกีรัสผู้เดียวตกอยู่ในอันตราย ต่อให้ต้องตายเขาก็ไม่มีวันกระทำเช่นนี้ แต่จะอย่างไรกีรัสก็เป็นหัวหน้าหน่วยแบล็คเคิซจำต้องรับผิดชอบต่อชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา เขาไม่อาจปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตนตกตายหมดสิ้นได้

ประกายไฟจากพลุเวทมนตร์เปรียบประดุจแสงไฟจากไม้ขีดน้อยในถ้ำวงกตมืดมิด แม้สัญญาณขอความช่วยเหลือจะถูกยิงออกไปแล้ว ทหารจากทัพหลักก็ไม่แน่ว่าจะมาทัน กีรัสสั่งให้ตั้งขบวนทัพวงกลมเพื่อป้องกันและถ่วงเวลาศัตรูรอกำลังหนุนจากทัพหลัก

หน่วยแบล็คเคิซซึ่งมีทั้งหมดสองพันนาย เรดิกัลกษัตริย์แห่งความมืดมีพระบัญชาให้กีรัสยกทัพมาก่อนห้าร้อยนายเพื่อสำรวจและสอดส่องสถานการณ์หาใช่ให้ไปรบพุ่งกับผู้ใด แต่กีรัสยกทัพเข้าเมืองโทเคียก่อน ทำให้ทิ้งระยะห่างกับทัพหลักพอสมควร

กองทัพโกเลมไฟหลายร้อยตนพุ่งเข้าจู่โจมหน่วยแบล็คเคิซซึ่งจัดขบวนเป็นรูปวงกลมสี่วง วงกลมทั้งสี่เรียงรูปขบวนเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส หน่วยแบล็คเคิซทิ่มแทงหอกยาวไปเบื้องหน้า ทหารโกเลมไฟชุดแรกที่วิ่งเข้ามาต่างถูกแทงตายหมดสิ้น แต่ทหารโกเลมไฟไม่กลัวตาย พวกมันยังบุกเข้ามาไม่หยุด โกเลมไฟจากในเมืองซึ่งทยอยออกมาก็ตามมาสมทบ จากโกเลมไฟเพียงไม่กี่ร้อยตนก็เพิ่มเป็นหลายพันอย่างรวดเร็ว

หน่วยแบล็คเคิซตวาดดังลั่นทิ่มแทงหอกดำสังหารโกเลมไฟอีกหลายสิบตน ขบวนทัพรูปวงกลมทั้งสี่ต่างป้องกันศัตรูอย่างเข้มแข็ง มีเพียงแค่อัศวินหน่วยแบล็คเคิซไม่กี่นายเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟลวก

หอกอายส์ไซทของกีรัสแทงถูกไหล่โกเลมไฟตนหนึ่ง ไหล่โกเลมไฟตนนั้นระเบิดออก มันสิ้นชีพในทันที นี่เป็นผลมาจากเวทมนตร์แห่งความมืดของกีรัสบวกกับพละกำลังในการทิ่มแทงหอกออก จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งอัศวินหน่วยแบล็คเคิซผู้อื่นยังไม่มีฝีมือพอที่จะทำได้เช่นนี้

พวกโกเลมไฟยังบุกมาไม่หยุดยิ่งกว่าเปลวเพลิงที่กระพือโหม ทหารกีรัสบ้างถูกหมัดเพลิงของพวกมันทำร้ายตกจากหลังม้าปีศาจ บ้างถูกร่างของโกเลมไฟทั้งตัวกระแทกใส่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขบวนทัพรูปวงกลมของหน่วยแบล็คเคิซทั้งสี่เริ่มมีช่องว่าง หัวหน้าหน่วยแต่ละขบวนรีบสั่งกระชับขบวนทัพให้วงกลมหดเล็กลงเพื่อไม่ให้ขบวนรูปวงกลมเสียไป ขบวนทัพรูปวงกลมยิ่งหดเล็กลงอานุภาพการป้องกันยิ่งเข้มแข็งรัดกุม โกเลมไฟตนแล้วตนเล่าต่างวิ่งไปถูกคมหอกของหน่วยแบล็คเคิซ

 

อูรุกหัวหน้าหน่วยโกเลมไฟส่งเสียงคำราม น้ำเสียงเต็มไปด้วยโทสะร้าย มันเห็นว่าสถานการณ์ก่อนหน้าพวกมันเพิ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่เมื่อหน่วยแบล็คเคิซตั้งขบวนทัพวงกลม ทำให้พวกมันซึ่งเป็นฝ่ายบุกต้องสูญเสียโกเลมไฟหลายร้อยตน ขณะที่หน่วยแบล็คเคิซบาดเจ็บล้มตายอย่างมากไม่เกินสี่สิบคน

หน่วยแบล็คเคิซจะอย่างไรก็ยังเป็นหน่วยแบล็คเคิซ ทหารอันดับหนึ่งแห่งเพธอส หากผู้ใดดูแคลนต้องได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม !!

โกเลมไฟความจริงเกิดจากก้อนหินไม่มีชีวิตแต่ได้รับเวทมนตร์จากพญามัจจุราชเพลิงคอร์แซคให้มีชีวิต บวกกับเวทมนตร์แห่งไฟของคอร์แซค ทำให้ให้เหล่าโกเลมมีร่างไฟลุกท่วม เมื่อตายหมดสิ้นแล้วโกเลมไฟก็กลับร่างเป็นหินตามเดิม ไฟที่ลุกท่วมก็มอดดับ อุรุกเห็นซากศพบริวารตนจึงคิดได้อุบายหนึ่ง

“ขว้างก้อนหินเพลิง” อูรุกสั่งทัพโกเลมไฟหยิบก้อนหินหรือซากศพพวกตนเองขึ้นมาจากนั้นซัดขว้างออกไป ก้อนหินเหล่านั้นลุกท่วมไปด้วยเวทแห่งไฟของโกเลมไฟบวกกับพละกำลังมหาศาลของพวกมัน ก้อนหินนับร้อยถูกขว้างออกดุจอุกกาบาตเพลิงที่ตกจากฟากฟ้าพุ่งใส่หน่วยแบล็คเคิซ

อัศวินหน่วยแบล็คเคิซต่างสะบัดหอกปัดป่ายก้อนหินที่พุ่งเข้ามา แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกก้อนหินไฟทำร้ายบาดเจ็บ บ้างกระทบถูกศีรษะ บ้างถูกกระแทกใส่หน้าอก ทั้งทหารและม้าปีศาจถูกก้อนหินเพลิงทับตายไม่น้อย

เมื่อเป็นเช่นนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปทันที ขบวนทัพรูปวงกลมของหน่วยแบล็คเคิซซึ่งใช้ตั้งรับยามถูกศัตรูจำนวนมากล้อมกลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะศัตรูใช้อาวุธระยะไกล ขณะที่หน่วยแบล็คเคิซได้แต่ตั้งรับอยู่กับที่

“ทัพลูกศร” กีรัสตะโกนเสียงกังวาน หน่วยแบล็คเคิซทั้งสี่ทัพเปลี่ยนขบวนทัพอย่างรวดเร็วเป็นรูปแบบลูกศรซึ่งใช้สำหรับการบุกไปข้างหน้า อัศวินหน่วยแบล็คเคิซผู้หาญกล้าต่างบุกจู่โจมทัพโกเลมไฟหลายร้อยตนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็วดุจประกายไฟ การจัดกระบวนทัพลูกศรใช้สำหรับการจู่โจมศัตรูอย่างรวดเร็ว ให้ศัตรูตั้งตัวไม่ติด หากใช้กับศัตรูจำนวนที่มากกว่าตนหลายเท่าอาจจะทำให้เสียเปรียบและถูกล้อมได้ แต่กีรัสไม่มีทางเลือกได้แต่เสี่ยงตายกระทำเช่นนี้ ดีกว่าให้บริวารตนสี่ร้อยนายต้องตกตายหมดสิ้น

กองทัพโกเลมไฟจัดเรียงแถวเรียงหน้ากระดานดุจกำแพงไฟยักษ์ สองมือกางออกหมายขยี้กองทัพม้าปีศาจที่พุ่งตรงเข้ามา กีรัสเป็นหัวหน้าขบวนอยู่ตำแหน่งหัวลูกศร ในขณะที่ระยะห่างของเขากับโกเลมไฟไม่ถึงห้าสิบเมตร กีรัสซัดขว้างหอกอายส์ไซทออก หอกพุ่งอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าประกายสายฟ้า แต่กลับเฉียดผ่านศีรษะโกเลมไฟเบื้องหน้าตนไป

ที่แท้เป้าหมายของหอกอายส์ไซทคือ “อูรุก” หัวหน้าหน่วยโกเลมไฟซึ่งรูปร่างสูงใหญ่กว่าโกเลมไฟทั่วไป อูรุกซึ่งยืนอยู่หลังทัพกำแพงโกเลมไฟก็ไม่ชักช้าเหมือนกับลักษณะตัว มันเห็นหอกอายส์ไซทพุ่งมาถึง พลันเบี่ยงกายหลบอย่างรวดเร็ว หัวร่อใส่กีรัสที่ซัดหอกพลาด

หอกอายส์ไซทเมื่อจู่โจมพลาดผิดพลันวกกลับ จู่โจมใส่ด้านหลังอูรุก ได้ยินเสียงตูม แผ่นหลังอูรุกซึ่งเป็นหินแกร่งระเบิดออกทันที เวทมนตร์แห่งความมืดผสานกับของวิเศษอย่างหอกอายส์ไซทยากที่จะหาผู้ใดต้านติดได้

คุณสมบัติของหอกอายส์ไซทเมื่อซัดออกจะจู่โจมใส่ศัตรูเป้าหมายทันที หากแม้จู่โจมผิดพลาดก็จะติดตามศัตรูไม่สิ้นสุดเว้นแต่จะถูกปัดกระแทกออกไปทำให้พลังหอกสิ้นสุด

แต่อูรุกยังไม่ตาย !!

ร่างกายของอูรูกหัวหน้าโกเลมไฟซึ่งทั้งตัวทำจากศิลาแดงอาร์ซัค หินซึ่งหลอมจากลาวาภูเขาไฟจนกลายเป็นสีแดง มีความแข็งแกร่งกว่าหินปกติทั่วไป แม้ไม่เทียบเท่าศิลาดำธอร์รัสของเพธอส แต่ก็ทำให้มันมีร่างกายแข็งแกร่งกว่าโกเลมไฟทั่วไปหลายเท่า แผ่นหินด้านหลังมันแม้ถูกระเบิดแตกกระจายออกไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด หอกอายส์ไซทยังปักอยู่คาหลังอูรุก

อูรุกเอื้อมมือไปด้านหลังหยิบหอกอายส์ไซทมา สีหน้ามันเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ขณะนั้นหน่วยแบล็คเคิซได้จู่โจมทัพเหล่าโกเลมไฟซึ่งตั้งแถวเรียงรายดุจกำแพงแล้ว แต่ก็ดุจดั่งใช้ไข่เข้ากระทบหิน หน่วยแบล็คเคิซหลายคนถูกโกเลมไฟต่อยหมัดทำร้าย ร่างกายถูกไฟลุกท่วม ทัพของโกเลมไฟนับพันซึ่งออกจากประตูเมืองตะวันตกของเมืองโทเคียต่างก็ตามมาสมทบจู่โจมด้านหลังหน่วยแบล็คเคิซ สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้หน่วยแบล็คเคิซไม่ต่างกับถูกบีบด้วยกำแพงมรณะทั้งสองด้าน

หน่วยแบล็คเคิซจอมอหังการต่างค่อย ๆ ทยอยล้มลง กีรัสชักดาบที่หว่างเอวออกมา ฟันใส่แขนโกเลมไฟตนหนึ่งอย่างรวดเร็ว แขนของโกเลมไฟระเบิดฉีกขาด โกเลมไฟอีกสองตัวรายล้อมเข้ามา ต่อยหมัดเพลิงออก กีรัสบังคับม้าปีศาจของตนให้หลบเลี่ยงหมัดของโกเลมไฟตนหนึ่งอย่างว่องไว ม้าปีศาจของเขาพุ่งเข้าหาโกเลมไฟอีกตนหนึ่ง ขณะที่หมัดโกเลมไฟตัวนั้นพุ่งมาถึง กีรัสก้มกายหลบ เมื่อม้าปีศาจเข้าถึงตัวโกเลมไฟในระยะรัศมีของดาบฟันถึง กีรัสฟันดาบออกกรีดใส่เอวของโกเลมไฟเป็นทางยาว ดาบของกีรัสแฝงด้วยเวทแห่งความมืด เอวของโกเลมไฟตนนั้นระเบิดขึ้นทันที ร่างกายมันล้มลงทับใส่โกเลมไฟที่อยู่ด้านข้าง

กีรัสเห็นอัศวินหน่วยแบล็คเคิซผู้หนึ่งที่ล้มลงนอนกำลังจะถูกโกเลมไฟใช้เท้าเหยียบ เขาตวาดดังลั่นรีบไสม้าปีศาจพุ่งเข้าไปช่วย ทันใดนั้นเองม้าปีศาจพลันหยุดขยับกาย เข่าทั้งสี่งอกับพื้นจากนั้นล้มฟุบไป ร่างของม้าปีศาจพลันหยุดกับที่คล้ายถูกตะปูใดตอกตรึงไว้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ร่างของกีรัสก็ตกจากหลังม้า ร่างเขากลิ้งไปสองสามทอด ยังดีที่กีรัสมีความว่องไว เขารีบใช้สองมือยันพื้นลุกขึ้นมา แต่ขณะนั้นกายกีรัสรู้สึกหนักอึ้งนับสิบเท่า ร่างกายขยับไม่ได้ตามปรารถนา ต้องคุกเข่าสองข้างลงกับพื้น กีรัสลอบตื่นตระหนก ไม่ทราบศัตรูใช้เวทมนตร์คาถาร้ายกาจใด ครุ่นคิดในใจ “ครานี้ข้าจบสิ้นแล้ว”

แม้ร่างกายกีรัสจะหนักอึ้งคล้ายถูกขุนเขาถล่มทับใส่ แต่สายตาเขายังมองไปรอบ ๆ ด้านได้ เห็นโกเลมไฟหลายร้อยตนบ้างหยุดขยับกาย บ้างคุกเข่า บ้างทรุดตัวนอนกับพื้นราวถูกเสาเข็มที่มองไม่เห็นตอกไว้ ร่างกายของพวกมันปกติก็เป็นหินอันหนักอึ้งอยู่แล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้มันยิ่งยืนทรงกายไม่ได้

พวกอัศวินหน่วยแบล็คเคิซเองก็หาได้รอดจากเหตุการณ์นี้ ม้าปีศาจต่างร่ำร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เหล่าอัศวินหน่วยแบล็คเคิซต่างล้มลงนอนทอดกายกับพื้นร้องโอดโอย ร่างกายและกระดูกพวกเขารู้สึกเหมือนถูกก้อนศิลายักษ์กดทับจนร่างกายแทบแหลกละเอียด

พื้นดินบริเวณนั้นจากสีเหลืองซึ่งเป็นดินอันแห้งแล้งกลายเป็นสีดำขยายเป็นวงกว้างประมาณร้อยเมตร ทั้งโกเลมและหน่วยแบล็คเคิซซึ่งอยู่ในอาณาเขตสีดำล้วนขยับกายไม่ได้ บ้างก็ทรุดตัวนอนกับพื้น บางทนความเจ็บปวดไม่ได้เสียชีวิต

ยังมีโกเลมไฟอีกนับพันตนซึ่งไม่ได้ยืนอยู่ในอาณาเขตของพื้นที่สีดำ พวกมันก็ได้แต่ยืนมองอย่างงุนงงไม่ทราบรับมือกับสถานการณ์อย่างไร

 

“ดาร์ค กราวิตี้” (Dark Gravity—แรงดึงดูดแห่งความมืด)

ชายผู้หนึ่งสวมชุดดำสนิทนั่งอยู่บนหลังม้าดำซึ่งอยู่ห่างไกลพอสมควรจากสมรภูมิเอ่ยขึ้น แววตาปรากฏความอำมหิตที่ยากพบเจอในสายตามนุษย์ เขายกมือขวาขึ้นสูงระดับอก จากนั้นนิ้วทั้งห้ารวบกำเป็นหมัดแน่น พลังดึงดูดจากแรงโน้มถ่วงยิ่งสูงขึ้นพวกโกเลมไฟที่ร่างกายหนักอึ้งล้วนได้รับความทรมาน ร่างกายที่เป็นหินของพวกมันแทบหลุดออกจากกัน ส่วนพวกหน่วยแบล็คเคิซเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ม้าปีศาจหลายตัวที่มีร่างกายไม่แข็งแกร่งพอก็ล้มตายจากแรงดึงดูดนี้

ได้ยินเสียงทั้งเหล่าโกเลมไฟ มนุษย์ ม้าปีศาจต่างร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด ประดุจเสียงภูติร้ายซึ่งถูกเคี่ยวกรำจากเพลิงนรก โกเลมไฟบางตนซึ่งพลังเวทมนตร์ไม่แข็งแกร่งพอหินบนร่างมันพลันหลุดร่วงออก ก้อนหินซึ่งเป็นส่วนของแขนขาค่อยๆ หลุดออกจากกันทยอยเสียชีวิต

เหล่าโกเลมไฟความจริงเกิดจากเวทมนตร์ของคอร์แซค พวกมันเกิดจากก้อนศิลาไม่มีชีวิตแต่แรก แต่เมื่อได้ชีวิตมาก็ไม่มีใครอยากสูญเสียชีวิตไป

ฝั่งอัศวินหน่วยแบล็คเคิซสามร้อยกว่านายก็ได้รับความเจ็บปวดไม่แพ้กัน หลายคนรู้สึกคล้ายกระดูกตนถูกก้อนหินยักษ์หรือภูเขากดทับจนแหลกละเอียด หลายสิบคนทนความเจ็บปวดทรมานไม่ได้ขาดสิ้นใจไป มีเพียงแต่กีรัสที่ยังคุกเข่ากับพื้นไม่ล้มลง เขาใช้เวทแห่งความมืดคุ้มครองตน เวทแห่งความมืดของเขาเป็นเวทธาตุความมืดแบบเดียวกับเวทดาร์คกราวิตี้ ทำให้ได้รับความเจ็บปวดน้อยลงไปบ้างแต่ก็ยังนับว่าสาหัส แววตากีรัสปรากฏความประหวั่นพรั่นพรึงอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับแววตาอันหยิ่งทะนงแม้ยามเผชิญอันตรายในตลอดการศึกที่ผ่านมา ใบหน้าของเขาปรากฏเหงื่อไหลซึมไม่หยุด

ไม่ทราบเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าใด ร่างกายกีรัสและเหล่าโกเลมไฟรู้สึกเบาขึ้น แรงดึงดูดอันมหาศาลค่อย ๆ ลดลงไป ชายหนุ่มชุดดำระหว่างเอวคาดดาบเล่มหนึ่งขับขี่ม้าปีศาจอย่างช้า ๆ เข้ามาในสมรภูมิ ราวกับบุรุษหนุ่มพเนจรท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ตามป่าเขาอย่างใจเย็น แววตาของบุรุษชุดดำเย็นชาไม่อำมหิตดั่งเช่นเมื่อครู่ พวกโกเลมไฟเห็นใบหน้าของชายหนุ่มลึกลับได้ชัดเจนขึ้น บุรุษผู้นั้นมีสีหน้าเรียบเฉยยากคาดได้ว่าครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ ใบหน้าบุรุษหนุ่มผู้นั้นคมเข้ม คิ้วและผมดกดำสนิท

“ทรงพระเจริญ” กีรัสกล่าวอย่างอ่อนแรงเพราะเรี่ยวแรงแทบหมดสิ้น

คำกล่าวสรรเสริญอันแผ่วเบาแต่กระทบโสตทั้งมนุษย์และอมนุษย์ที่อยู่รอบข้างกีรัสอย่างชัดแจ้ง อูรุกหัวหน้าโกเลมไฟที่กำลังขยับกายยืนขึ้น กล่าวถามกีรัสเสียงสั่นสะท้าน

“มันคือเรดิกัลโอรสแห่งเรเกลหรือ?”

 

เรดิกัลโอรสแห่งเรเกล กษัตริย์แห่งความมืด เจ้าเหนือหัวแห่งเพธอส ไม่ว่าจะเคยได้ยินนามของพระองค์พระนามใด ชื่อเสียงของราชาเจ้าชีวิตผู้นี้ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วดินแดนเหนืออันมืดมิดจรดดินแดนใต้อันแสนอบอุ่นและห่างไกล

ธาก็อธ เรดิกัล กษัตริย์แห่งราชวงศ์มาร์ดิล ราชาแห่งอาณาจักรเพธอส

พระบิดามีพระนามเรเกลสิ้นพระชนม์ก่อนเรดิกัลประสูติเจ็ดเดือน

พระมารดามีพระนามเชเรวีน่าภายหลังทรงประสูติเรดิกัลไม่นานก็สิ้นพระชนม์

ได้มหาเสนาบดีซาอูคอยดูแลชุบเลี้ยงแต่เล็กสอนวิชาความรู้ตลอดจนการต่อสู้และเวทมนตร์

พระชนมายุสิบพรรษาออกศึกครั้งแรกกับกลุ่มโจรแห่งภูเขาอีเคียที่คอยปล้นสะดมชาวบ้าน ลอบเข้าค่ายโจรตัดศีรษะหัวหน้าโจรด้วยมือพระองค์เอง

พระชนมายุสิบสองพรรษาช่วยซาอูทำศึกกับกลุ่มเผ่ายักษ์น้ำแข็งที่เข้ารุกรานชายแดนทางเหนือของเพธอส ใช้เวทมนต์แห่งความมืดสังหารแม่ทัพเผ่ายักษ์น้ำแข็ง พระฉายากษัตริย์แห่งความมืดของเรดิกัลได้รับจากเหตุการณ์นี้ นับแต่นั้นเผ่ายักษ์น้ำแข็งกลับสู่ขั้วโลก ไม่เคยเหยียบย่างมาแดนเหนืออีก

พระชนมายุสิบห้าพรรษาเกิดกลุ่มกบฏขึ้นที่ทางตะวันตกของเพธอส เรดิกัลยกทัพทำศึกด้วยพระองค์เองสังหารกลุ่มกบฏ ทั้งสั่งประหารบุตรและภรรยากลุ่มกบฏนับพันไม่เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว

พระชนมายุสิบแปดพรรษายกทัพขึ้นแดนเหนือปราบปรามเผ่าคนยักษ์ตาเดียวที่คิดแข็งข้อไม่ส่งบรรณาการมาให้ สังหารสามแม่ทัพเอกของเผ่ายักษ์ตาเดียว ตัดพระเศียรของราชาคนยักษ์ตาเดียวด้วยมือพระองค์เอง นับแต่นั้นอาณาจักรยักษ์ตาเดียวไม่มีปีใดที่ไม่ส่งบรรณาการมา

พระชนมายุยี่สิบพรรษา เจ้ามังกรเขียวเซเวียสออกจากการจำศีลนับร้อยปี อาละวาดไปทั่วดินแดนเหนือ ใช้เพลิงมฤตยูเผาบ้าน เมือง ป้อมปราการของเผ่าต่าง ๆ จนพินาศเป็นจุล เรดิกัลเสด็จออกจากวังคนเดียวไปยังถ้ำของมันเพื่อท้าประลอง แม้ไม่มีผู้ใดทราบผลการต่อสู้ของทั้งสอง ทราบแต่ว่าหลังจากนั้นเจ้ามังกรเขียวเซเวียสไม่เคยออกอาละวาดอีก

ภายหลังเหตุการณ์ปราบมังกรเขียวเซเวียสก็ไม่มีชนเผ่าใดในแดนเหนือกล้ารุกล้ำหรือแข็งข้อกับอาณาจักรเพธอส มีแต่บรรณาการจากเผ่าต่าง ๆ ที่ส่งมอบมาให้ไม่ขาดสาย

คำร่ำลือในวีรกรรมของเรดิกัล อูรุกหัวหน้าเหล่าโกเลมไฟไม่ทราบว่าเรื่องที่ได้ยินมาทั้งหมดเป็นจริงหรือไม่ อาจมีบางเรื่องแต่งขึ้นเพื่อเสริมบารมีให้เรดิกัล แต่เวทมนตร์ดาร์คกราวิตี้เมื่อครู่ มันได้สัมผัสด้วยตนเองจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ย่อมยืนยันได้ว่ากษัตริย์แห่งความมืดพระองค์นี้มีฝีมือร้ายกาจไม่ต่างจากคำลือ

ม้าปีศาจของราชาเรดิกัลเดินเข้าถึงสมรภูมิผ่านเหล่าโกเลมไฟนับพันตนราวกับไม่เห็นพวกมันมีตัวตนอยู่ ม้าปีศาจหยุดอยู่เบื้องหน้าอูรุกไม่กี่เมตร เรดิกัลเงยหน้าจ้องมองอูรุกที่ร่างสูงใหญ่ด้วยแววตาคมกริบ จากนั้นชักดาบเพนออกมา..

 

--------------

ในที่สุดเรดิกัลตัวเอกของเราก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียทีหลังจากออกมาแค่เล็กน้อยในตอนที่ 1 ตอนต่อไปถึงตาพระเอกของเราโชว์เทพบ้างล่ะ เนื้อเรื่องรับรองสนุกถึงใจแน่นอน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด