ตอนที่ 28 อิจฉา
ลานขยะเคโระคืออาณาเขตของแรคคูน หานเซี่ยวคิดฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว เขาวางอุปกรณ์ลงและร้องเรียกลู่ เฉียน
“ฉันอยากขอลาหยุดหนึ่งวัน”
“ได้”ลู่ เฉียบตอบกลับ“มีอะไรงั้นหรอ?”
“ไม่มี ทำไม?”หานเซี่ยวหยุด
หานเซี่ยวมักดูเฉื่อยชาและเบื่อหน่ายอยู่เสมอและลู่เฉียนก็เป็นหญิงสาวช่างสังเกต เธอสังเกตเห็นบรรยากาศที่เปลี่ยนไปรอบเขา หากเธอต้องอธิบายความรู้สึกออกมา มันก็คือความรู้สึกอันตรายที่แผ่ออกจากตัวเขา
“หากนายกำลังเผชิญกับปัญหาใด ฉันจะช่วยนายอย่างแน่นอน”เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หานเซี่ยวจ้องเธออย่างไม่รู้จะพูดอะไรซึ่งทำให้เธอต้องหลบสายตาอย่างอึดอัด เธอหันหน้าหนีและม้วนผมเธอ“ไม่คิดว่าการจ้องมองแบบนั้นมันหยาบคาย?”
หาน เซี่ยวหันหน้าหนีและตอบกลับ“ฉันจะไม่กลับมากินมื้อเย็น”
“ฉันกำลังคิดจะให้นายลิ้มลองอาหารจานใหม่ซะหน่อยเชียว ซี่โครงเนื้ออบด้วยสีบปะรดและพริกไทยดำ”ลู่เฉียบตอบอย่างเฉื่อยชา
หาน เซี่ยวตัวสั่นสะท้าน อาหารจานนรกอะไรกัน?
หาน เซี่ยวกลับไปห้องเขาเพื่อเตรียมตัว หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าและรถเข็น
...
“หัวหน้า เด็กนั่นคือเป้าหมาย?”
ชายในชุดหลากสีกำลังจ้องมองหาน เซี่ยว ทุกครั้งที่หานเซี่ยวหันมามอง เขาจะหายตัวไปโดยการใช้สภาพแวดล้อมรอบตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นตู้โทรศัพท์สาธารณะ หรือแท่นวางนิตยสาร เห็นได้ชัดว่าเขาคือมืออาชีพ เขากำลังใช้ตัวรับสัญญาณขนาดเล็กในหูเพื่อสื่อสารกับคนที่ซ่อนอยู่ในรถตู้เก่าข้างถนน มีชายสวมหน้ากาก5คนบนรถตู้ พวกเขาไม่ใช่ใครนอกจากมือสังหาร
พวกเขาคือหน่วยเหล็กไน กลุ่มทหารรับจ้างที่เชี่ยวชาญการล่ารางวัล พวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีในเครือข่ายใต้ดิน
สำหรับพวกเขา ภารกิจนี้สำคัญกว่าที่พวกเขาเคยทำมา นอกจากเงินรางวัล พวกเขายังหวังได้รับความโปรดปราณจากองค์กรต้นกำเนิดและได้รับการสนับสนุน
“เด็กนั่นมีค่าถึงหนึ่งล้าน?เขาดูธรรมดามาก!นี่คงเหมือนเค้กก้อนหนึ่ง”หมายเลข2กล่าวอย่างมั่นใจ
“อย่าลืมว่าเราอยู่ลึกในอาณาเขตของมังกรดารา ลงมือให้ไว”หัวหน้าที่ชื่อเคลลี่กล่าวเตือนขณะตรวจสอบปืนเขา
...
“เป้าหมายกำลังเคลื่อนไหว”
รถจี้ปสีดำกำลังขับตามหานเซี่ยวห่างๆ ภายในรถจี้ปคือกลุ่มสายลับของแผนก13 นำโดยหัวหน้าภารกิจ หลี่ฮุ้ย นอกจากเขา มันยังมีสายลับอาวุธครบมืออีก8คนและเฟิง จุน ผู้รีบหน้าที่เป็นที่ปรึกษา พวกเขาคือกองกำลังติดอาวุธ
เช่นเดียวกับที่หาน เซี่ยวคาดไว้ ผู้คิดโจมตีเขาคือหน่วยเหล็กไน พวกมันถูกหลอกใช้งานโดยแผนก13เพื่อทดสอบเขา และสายลับเหล่านี้ก็จะเล่นบทบาทของฮีโร่
เฟิง จุนนำวิดิโอการเคลื่อนไหวของหานเซี่ยวขึ้นจอ
“เป้าหมายดูเหมือนจะตรงไปยังลานขยะเคโระเขต7 หน่วยเหล็กไนกำลังติดตามเขา มันคงเป็นเรื่องดีหากเกิดการต่อสู้ในลานขยะ”
…
หาน เซี่ยวมาถึงลานขยะ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แรคคูน
ทำไมเขาถึงมาที่นี่?
“ฉันมาหาอะไหล่บางส่วน”หานเซี่ยวโกหก มันเป็นข้ออ้างที่น่าเชื่อถือพอสมควร
จากนั้นแรคคูนก็เชิญหานเซี่ยวให้กินอาหารกลางวัน สันนิษฐานว่าเขาคงปฏิเสธ แต่อย่างไม่คาดฝัน หานเซี่ยวกลับยอมรับ ทำให้เขาลดความระมัดระวังลง
หาน เซี่ยวถอนหน้ากากกันฝุ่นออก เผยใบหน้าเขาต่อแรคคูน แรคคูนพบว่าใบหน้าเขาคุ้นเคยอย่างประหลาด แต่ก็นึกไม่ออก
แม้หานเซี่ยวจะมีชื่อเสียงในโลกอาชญากร แต่กลุ่มอันธพาลเล็กๆอย่างแรคคูนก็ไม่ได้รู้จักโลกกว้างนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจกับข่าวล่าสุด
แม้หานเซี่ยวจะสวมหน้ากากเพื่อปกปิดตัวตนเขา มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
โต๊ะงานเลี้ยงถูกจัดโดยคนของแรคคูน หานเซี่ยวและแรคคูนนั่งตรงข้ามกัน มองหน้ากันพลางพูดคุย
“ปืนชุดสุดท้ายเป็นยังไงบ้าง?”
“73-WASPเป็นปืนที่ดี แม้กระทั่งในกองทัพของ6ประเทศยังใช้มัน หนึ่งกระบอกมีมูลค่าถึง6พันเหรียญในตลาดมืด ฉันต้องขอบใจนายมาก”แรคคูนตอบพลางพ่นควัน“และคุณภาพของปืนนายก็ดีกว่าปืนมือสองขยะๆเหล่านั้นในตลาดมาก”
แม้ปืนที่ผลึกขึ้นจำนวนมากจะไม่ได้มีคุณภาพแตกต่างกันนัก แต่ก็มีความแตกต่างเล็กน้อยจากตัวปืน ความแตกต่างเหล่านี้เกิดจากองค์ประกอบโดยธรรมชาติอย่างวัสดุ แต่พวกมันสามารถแก้ไขได้ด้วยช่างฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญด้านปืนจะสามารถบอกได้ว่าปืนไหนสร้างขึ้นอย่างประณีต
“ในนั้นมีอะไร?”แรคคูนถาม ชี้ไปยังกระเป๋าของและรถเข็น
“อะไหล่บางส่วน”หานเซี่ยวตอบ และแรคคูนก็พอใจกับคำตอบ
พวกเขาคุยกันจนกระทั่งค่ำ และท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม
ทันใดนั้นหนึ่งในสมุนของแรคคูนก็พุ่งพรวดมาในห้อง“หัวหน้า มีคนต้องการพบครับ”
“ไม่เห็นหรือไงว่าฉันมีแขก?”แรคคูนตอบอย่างหงุดหงิด
อันธพาลกระซิบสองสามคำกับแรคคูนทำให้เขามองหานเซี่ยวอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็ลุกขึ้นและยิ้มให้หานเซี่ยว
“ขอตัวสักครู่”เขากล่าวก่อนจากไป
หานเซี่ยวหรี่ตาลง รับรู้ว่ามีเรื่อง
..
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า
“น้องชาย ฉันเดินทางมาถึงนี่ก็เพื่อได้เพลิดเพลินกับชีวิตแสนสบายภายใต้การดูแลของนายนะ อย่าขับไล่ฉันเลย!”หม่าเจี่ยอ้อนวอนขณะไล่ตามชายหนุ่ม
เขามาเมืองหลวงตะวันตกเพื่อเข้าร่วมแก๊งของญาติเขา แต่ญาติเขาเห็นว่าเขาไม่คู่ควรและให้เขาอยู่ในตำแหน่งภารโรง เห็นได้ชัดว่าหม่าเจี่ยไม่ยอม แต่เขาจะทำอะไรได้นอกจากอ้อนวอน?
“ฉันบอกนายไปแล้ว อย่ามาเรียกฉันว่าน้องชาย!”ชายหนุ่มตะโกน
“แน่นอน แน่นอน ฉันไม่ดีเอง ฉันจะตบตัวเอง”หม่าเจี่ยตอบกลับ
“ดูท่าทางน่าสมเพชของนายสิ ฉันให้นายเฝ้าประตูก็เพราะเราเป็นญาติกัน!นายรู้ไหมว่ามีคนเร่ร่อนมากแค่ไหนต้องการเศษอาหาร?ฉันกำลังจะไปพบนายใหญ่ อย่าตามฉันมา!”
“นายใหญ่?”ดวงตาของหม่าเจี่ยสว่างขึ้น“ใคร?”
“หัวหน้าของเขต7 คุณแรคคูน!ทุกเขตนอกจากเขต1ล้วนมีหัวหน้าโลกมืด นายรู้ไหมว่าพวกเขามีอำนาจแค่ไหน?”
…
ก่อนจะรู้ตัว พวกเขาก็มาถึงทางเข้าลานขยะแล้ว หม่าเจี่ยพยายามตามเขาเข้าไป แต่ชายหนุ่มกลับจ้องเขา ทำให้เขาต้องยอมแพ้ เพียงเมื่อหม่าเจี่ยคิดเดินหนี เขาก็มองข้ามประตูและสังเกตเห็นหานเซี่ยวกำลังได้รับการต้อนรับ บ้าบออะไรกัน?
“นั่นไม่ใช่เด็กที่แอบเข้ามากับฉัน?”
อันธพาลหยุดชายหนุ่ม
“อย่าส่งเสียงเอะอะที่นี่”เขากล่าว
“ฉันคือคนของหัวหน้า”ชายหนุ่มตอบอย่างเคารพ“ฉันมาเพื่อรายงาน”
ทันใดนั้น หม่าเจี่ยก็กล่าวแทรก
“เด็กนั่นเป็นใครกัน?”เขาถามพลางชี้หานเซี่ยว
“ใครให้สิทธิ์นายพูด?!”เขาโกรธญาติตัวเองที่กล่าวแทรกเขา แต่ทว่า อันธพาลก็ได้หยุดเขาไว้
“นั่นคือแขกคนสำคัญของหัวหน้า”เขาตอบกลับ
แขกคนสำคัญ?หม่าเจี่ยตกใจ แต่ความตกใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความอิจฉาและความขมขื่นทันที นี่ไม่ยุติธรรม!ทำไมไอโง่นั่นถึงมีดีกว่าฉัน?!
ภาพฉากการสนทนาของพวกเขาฉายขึ้นในหัว ทำให้เขารู้สึกอับอาย
“นายรู้จักช่างหาน?”
“ไม่เชิง แต่เราเคยคุยกันเล็กน้อยเมื่อเราลักลอบเข้ามา”
ทันใดนั้น ดวงตาของอันธพาลก็สว่างขึ้น
“ตามฉันมา!หัวหน้าต้องการพบนาย!”
หม่าเจี่ยและชายหนุ่มตกตะลึง