บทที่ 141 - ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นลูกของฉัน! (9) [อ่านฟรีวันที่ 25/03/2562]
บทที่ 141 - ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นลูกของฉัน! (9)
"เกตกำลังเปิดแล้วงั้น!?"
[มันมีสัญญาณแบบนี้ออกมา ดังนั้นเราต้องรีบแล้ว เราจะต้องไปเดี๋ยวนี้!] (เลียร่า)
ยูอิลฮานเพิ่งจะทำปีกเสร็จ แต่ว่าเขาก็ได้จำลองวิธีการใช้งานมันตั้งแต่ในตอนที่เขาเขียนพิมพ์เขียวแล้ว ปีกขนนกใบมีด เสียงเพรียกแห่งการล่มสลายมันได้เสริมพลังให้กับสกิลกระโดดโดยธรรมชาติ แต่แกนกลางจริงๆมันคือคลื่นกระแทก
คลื่นกระแทกที่เขาสามารถจะปล่อยมันออกไปในทิศใดก็ได้ตามต้องการด้วยการควบคุมปีก ถ้าเขาต้องการเขาก็จะสามารถส่งคลื่นกระแทกไปด้านหน้าโจมตีศัตรูได้ แต่ว่าการใช้งานมันจริงๆไม่ใช่แบบนั้น
"โอเค ไปกันเลย!"
[โอ้ นั่นมันคือเทอร์โบงั้นสินะ?] (เลียร่า)
เมื่อยูอิลฮานได้กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสกิลกระโดดของเขา เขาก็ได้อัดมานาลงไปในปีกเพื่อเปิดใช้งานคลื่นกระแทกด้านหลัง ร่างกายของยูอิลฮานได้พุ่งไปด้านหน้าเป็นระยะหลายร้อยเมตรในทันที
เขาได้ใช้แรงผลักของคลื่นกระแทกเร่งความเร็วของเขาขึ้นไปจนถึงขีดสุด นอกจากนี้เขายังสามารถใช้คลื่นกระแทกเป็นที่หยั่งเท้าแทนที่พื้นดินและทำการกระโดดได้อีกครั้ง! นี่มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนที่ไม่มีสัญชาตญาณที่ดีหรือไม่สามารถควบคุมมานาได้
[โอ้ว! นี่มันบ้าอะไรเนี้ย นี่มันบ้ามากเลยนะ!] (เลียร่า)
"ใช่แล้วนี่มันสุดยอดมาก!"
ยูอิลฮานได้ถูกยอมรับจากการที่ว่าเมื่อเขาได้เร่งความเร้วไปข้างหน้าอีกครั้งด้วยคลื่นกระแทก เลียร่าก็เกือบจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยสิ้นเชิงจากมนุษย์ธรรมดาที่มีปีกที่ดูนาตลกๆ เธอได้รีบกระพือปีกไล่ตามเขาไปทันที
"ฟู่ว นี่มันเยี่ยมไปเลย"
ยูอิลฮานสามารถจะควบคุมทิศทางได้ด้วยการขยับปีกด้วยการเกร็งกล้ามเนื้อหลัง
ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เอจิสหยั่งเท้าก็ได้ แต่ว่านี่มันสะดวกกว่ามากและมันยังเร็วยิ่งกว่าเกือบสามเท่าเลยด้วยซ้ำไป
การเปลื่ยนแปลงที่เด็ดขาดที่สุดเป็นมุมมองของเขาที่เปลื่ยนไป เดิมทีเขาต้องคอยระวังสิ่งกีดขวางในระหว่างที่ทำการกระโดด แต่ในตอนนี้มันเป็นไปได้ง่ายที่จะมองเห็นพื้นดินในระหว่างที่กำลังลอยตัวในตำแหน่งที่จะตกลงไป แม้ว่ามันจะไม่ได้ต่างกันมากนัก แต่เขาก็พบว่ามันน่าสนุกมาก
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มนุษย์กลายเป็นฝุ่นเล็กๆไปแล้วในมุมนี้"
[ฉันก็กะไว้แล้วว่านายจะพูดแบบนี้... นายดูจะสนุกกับมันนะ] (เลียร่า)
"มันก็เพราะว่าฉันไม่ต้องสนอะไรอีกแล้วไง"
เขาได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส แม้แต่ในตอนนี้เกตก็กำลังแสดงสัญญาณว่ากำลังจะเปิดออกมาแล้วด้วย ลููกน้องของยูอิลฮานก็ยังมีการเชื่อมต่อกับเขาอยู่ เรื่องบาดเจ็บยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยในเมื่อพวกเขาได้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาสิบวันจนทำให้สกิลปกครองของเขากลายเป็นเลเวล 50!
ดังนั้นพวกยูมิลจะต้องกลับมาได้อย่างปลอดภัย ยูอิลฮานมั่นใจว่าเอิลต้าเป็นคนที่เปิดเกตแน่ จะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไงกันในเมื่อพวกยูมิลกำลังกลับมาอย่างปลอดภัยนะ
[ใช่แล้ว มันโชคดีจริงๆเลยนะ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่] (เลียร่า)
เลียร่าก็ยังยิ้มขึ้นมาเหมือนกัน ในตอนนี้ที่ยูอิลฮานให้เสียงเพรียกแห่งการล่มสลายบินบนท้องฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเธอก็สามารถจะกลับไปเป็นขนาดจิ๋วหลบอยู่บนหัวของยูอิลฮานก็ได้แล้ว แต่ว่าการได้บินเคียงข้างเขามันทำให้เธอมีความสุขมากกว่า
[อิลฮาน นายโตขึ้นจริงๆ] (เลียร่า)
"อย่ามาปักธอะไรแบบนี้สิ มันรู้สึกเหมือนกับมีใครสักคนจะไปตายเลยนะ"
[เฮ้ นี่มันก็สักพักเลยนะที่นายไม่ได้พูดอะไรแบบนี้เนี้ย] (เลียร่า)
"ในตอนนี้ฉันค่อนข้างจะกลัวว่าสิ่งต่างๆมันจะเกิดขึ้นแบบชัดเจนมากกว่าสิ"
ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาเล็กๆในระหว่างที่หันหน้าโต้กับสายลม เลียร่าก็ยังยิ้มออกมาเช่นกัน
มันยังไม่ถึงปีเลยนับตั้งแต่ที่โลกได้เจอกับหายนะครั้งใหญ่ แต่ว่าเลเวลของยูอิลฮานก็ไปถึง 144 แล้ว โลกเพิ่งจะเกือบถึงหายนะครั้งใหญ่ขั้นที่สองเท่านั้น แต่ว่าค่าเฉลี่ยของคนบนโลกนี้ผิดแปลกไปแล้ว
มีโลกอื่นๆนับไม่ถ้วนได้เข้ามาเชื่อมต่อกับโลกด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ กองทัพปีศาจแห่งการทำลาย กองทัพจรัสแสงแล้วก็พวกคนทรยศในรูปแบบต่างๆที่ลงมาบนโลก ที่โลกแห่งนี้มันพิเศษจริงๆ...
เหตุการณ์ที่ยูอิลฮานได้เจอมาเป็นเหตุการที่วุนวายมากที่สุดแล้วนับตั้งแต่ที่เลียร่าเคยเจอมาตลอดการเป็นทูตสวรรค์ของเธอ ยูอิลฮานจะทนผ่านการเปลื่ยนแปลงและไปต่อได้ไหมนะ? เขาจะไม่ยอมแพ้กับบนโลกนี้ใช่ไหม? เลียร่าได้แต่ห่วงในเรื่องนี้
และในตอนนี้เอง
"เลียร่า ฉันมีบางอย่างที่อยากจะยืนยันกับเธอในเรื่องนี้ ฉันคิดว่าในตอนนี้มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง"
[หา?.... พะ พะ พะ พูดสิ] (เลียร่า)
เลียร่าได้พูดออกมาอย่างตกใจเมื่อคิดถึงสิ่งที่ยูอิลฮานจะพูดออกมา นำเสียงที่ชวนสงสัยนี่มันอะไรกัน? ปักธง? ไม่ใช่ว่านี่มันคือธงการสารภาพหรอ?
'ไม่ว่ายังไงก็ขอบคุณ ฉันจะยินดีกับมันเสมอ!'
"พระเจ้ามีตัวตนอยู่จริงหรอ?"
[อ่า... มีสิ ไม่ใช่ว่าฉันบอกตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งแรกแล้วหรอ? ฉันมาเจอนายที่นี่ก็เพราะคำสั่งของพระเจ้า ต้องขอบคุณเรื่องนั้นที่ทำให้เรา...] (เลียร่า)
"แล้วเธอก็ได้เจอกับพระเจ้าแล้วรับคำสั่งจากเขาตรงๆงั้นหรอ?"
เลียร่าได้หมดคำพูดไปในทันที เธอที่กำลังคิดไปถึงอนาคตที่โรยด้วยกลีบกุหลายจนมาถึงตอนนี้ เธอไม่เข้าใจเลยว่ายูอิลฮานกำลังคิดอะไรอยู่และสลดลงไปทันที
[มันไม่ใช่แบบนั้น ท่านพระเจ้าเป็นบุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์กว่าที่ทูตสวรรค์อย่างฉันจะไปพบได้... นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้กองทัพสวรรค์มีอยู่ พวกเราได้กระจายประสงค์ของท่านไปทั่วทุกโลก ปกป้องในโลกระดับต่ำ ติดตั้งกับดักแห่งการทำลาย...] (เลียร่า)
"งี้นี่เอง"
เลียร่าได้รีบอยู่มาก เธอกังวลว่าเขาจะบินหนีไปหากเขาไม่จับเขาเอาไว้มันทำให้เธอพูดเหมือนจะชักจูงเขา
[อิลฮาน ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่ามันมีหลักฐานที่มากมายที่พิสูจน์ในตัวตนของพระเจ้าอยู่! ดูฉันสิ! ความจริงที่ฉันได้กลายเป็นทูตสวรรค์และได้รับปีกนี้มาก็เพราะการมีอยู่ของพระเจ้าไงล่ะ! พระเจ้าที่แท้จริงนะมีอยู่จริง!] (เลียร่า)
"โอเค"
[อ่า มันไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เข้าใจถึงความกังขาของนายที่โลกมันเป็นแบบนี้นะ แต่ว่าความจริงที่ว่าโลกยังมีอยู่ก็เป็นการพิสูจน์ในการมีอยู่ของพระเจ้าแต่แรกแล้ว] (เลียร่า)
เลียร่าได้พยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะชักจูงยูอิลฮาน แน่นอนว่าเป้าหมายในท้ายที่สุดของเธอคือการทำให้ยูอิลฮานมาเป็นทูตสวรรค์และจัดการแต่งในสวรรค์ขึ้น! ยูอิลฮานก็แค่หยักหน้ารับโดยไม่ได้แสดงสัญญาณของการรับรู้ใดๆออกมา
"ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ฉันก็แค่อยากจะถามดูแค่นั้นเองดังนั้นอย่าโกรธเลยน่า ฉันไม่ได้คิดที่จะขัดแย้งความศรัทธาของเธอหรอก"
ยูอิลฮานได้หันหน้าไปจากเธอมองตรงไปด้านหน้า ยังไงก็ตามเลียร่าก็ยังคงไม่อาจจะเข้าใจในสิ่งที่เขาคิดได้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ เมื่อตะกี้เขายังอยู่ในอารมณ์ดีอยู่เลยนะ?
[นายเข้าใจฉันจริงๆใช่ไหม...?] (เลียร่า)
แน่นอนว่ายูอิลฮานไม่ได้ตอบกลับไป เขาแค่กระพือปีกสร้างคลื่นกระแทกพุ่งไปด้านหน้า
[เฮ้ รอฉันก่อนสิ!] (เลียร่า)
เมื่อเห็นแบบนี้เลียร่าได้รีบตามเขาไป คำถามที่จู่ๆก็ออกมาของยูอิลฮานและระลอกคลื่นภายในใจของเธอได้จางหายไปตามเสียงของปีกที่กระพือ เขาถามก็เพราะเขาสงสัยอย่างที่เขาพูด เธอก็แค่หยุดคิดมันเท่านั้นเอง
ทั้งสองคนได้มาถึงเกตที่อยู่ในนิวยอร์กด้วยเวลา 17 นาทีพอดี แม้แต่สเปียร่าที่ถือหอกรออยู่แถวหน้าของพวกหมาป่าก็ยังตกตะลึง
[พวกนายมากันเร็วแบบนี้ได้ยังไงกัน?] (สเปียร่า)
[อิลฮานมักจะทำอุปกรณ์ที่ทรงพลังเสมอแหละ นี่เพราะพิมพ์เขียวที่เขาทำก่อนหน้านี้ไง] (เลียร่า)
[...อ่า เป็นงั้นสินะ] (สเปียร่า)
แม้ว่ามันจะไม่นานนักนับตั้งแต่ที่สเปียร่ามาอยู่กับยูอิลฮาน แต่ว่าเธอก็ได้ยอมรับในความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดแล้วเมื่อเขาเริ่มโต้เถียงเขา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีกแม้แต่ในตอนที่ยูอิลฮานขยับปีกใบมีดของเขา
[มันจะเปิดขึ้นในอีกไม่นานแล้ว ฉันสัมผัสได้ถึงวงเวทย์ขนาดใหญ่จากอีกฝั่งหนึ่ง] (สเปียร่า)
[วงเวทย์นี่...] (เลียร่า)
[ใช่แล้ว เป็นเอิลต้าที่ทำมันขึ้น ฉันต้องถามว่าเธอทำมันได้ไงกันในเมื่อเธอดึงเอาพลังของทูตสวรรค์ออกมาใช้ไม่ได้นะ] (สเปียร่า)
สเปียร่าได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ เลียร่าได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มันดูเหมือนว่าเธอก็เป็นห่วงเอิลต้าเหมือนกัน
[มันถูกเชื่อมต่อแล้ว] (สเปียร่า)
[ออร่านี่มัน...!] (เลียร่า)
ไม่นานนักเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบเอ็ดขวบ ผมดำ ตาสีทอง และดูหล่อมากๆก็ได้เดินออกมา แม้ว่าเขาจะดูแก่กว่าในตอนที่เจอครั้งล่าสุดสี่ห้าปี ยูอิลฮานก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือลูกของเขา ยูมิลนั่นเอง
"มิล!"
"พ่อ!"
ยูมิลได้วิ่งเข้ามากอดยูอิลฮานโดยไม่ลังเลใดๆสักนิด ยูอิลฮานได้ถอดเกราะออกไปด้วยเทคนิคการสับเปลื่ยนทีเขาฝึกมาอย่างดีและสวมกอดลูกของเขา
"เป็นพ่อจริงๆด้วย! พ่อ..."
"ใช่แล้ว นี่พ่อเอง"
ยูมิลได้ร้องออกมาในท้ายที่สุดเมื่อเขาได้สัมผัสถึงอ้อมกอดของยูอิลฮาน
แม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่ 10 วัน แต่ว่าพวกเขาคงจะมีประสบการณ์ที่โหดร้ายมากๆเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลขึ้นมาขนาดนี้สินะ มันจะต้องเป็นเรื่องที่ยากมากๆและน่าเศร้าแน่ ยูอิลฮานได้กอดมิลเงียบๆและปลอบโยนเขา ท่าทางของเขาดูเป็นธรรมชาติมากและนี่มันเเป็นเพราะในตอนที่เขาถูกทิ้งเป็นพันปีเขาก็เคยถูกเลียร่ากอดปลอบเขา
มันจะไม่เป็นการพูดเกินไปเลยหากจะพูดว่าเหตุผลที่ยูอิลฮานเป็นชายที่อบอุ่นเพราะเลียร่า
"มันลำบากมากเลยสินะ?"
"ครับผม สูดด มันลำบากมาเลย ผมอยากจะเจอพ่อมากๆ"
"พ่อก็อยากจะเจอลูกเหมือนกันมิล"
"จริงหรอครับ?"
"แน่นอนสิ"
ในขณะที่ยูมิลกำลังถูกยูอิลฮานปลอบอยู่ คนอื่นๆทั้งหมดก็ได้กระโดดออกมาจากเกต
"นายท่าน"
"โชคดีจริงๆนะที่ได้เจอเธออีกครั้ง"
เอริเซียที่พัฒนาขึ้นมาอย่างมากและเฟมิลที่มีออร่าที่แหลมคมมากขึ้น กับหมาป่าทั้งสองตัวที่สนับสนุนสองคนนี้
"องค์จักรพรรดิ!"
"องค์จักรพรรดิมาที่นี่เพื่อรับพวกเรา เป็นเกียรติอะไรแบบนี้..."
"อ่า ภาพนี้ขององค์จักรพรรดิดูมีชีวิตชีวามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยนี่!"
"องค์จักรพรรดิ พวกเราได้ปกป้ององค์ชายตามคำสั่งของท่าน! ...แม้ว่ามันจะให้ความรู้สึกเหมือนเราถูกปกป้องแทนก็ตามทีเถอะนะ!"
เอลฟ์ทั้งสี่คนก็ทำให้เขาสงสัยมากเหมือนกันว่าพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ไดยังไงในเวลาแค่สิบวันและตามมาด้วยเอิลต้า...
[ยูอิลฮาน!] (เอิลต้า)
ไม่ใช่เอิลต้าในขนาดจิ่วตามที่เขาเห็นปกติ แต่เป็นเอิลต้าในขนาดของมนุษย์ที่วิ่งเข้ามากอดเขาเหมือนกับที่ยูมิลทำ
แม้ว่ายูอิลฮานจะเอามือข้างหนึ่งรับเธอไว้อย่างตั้งใจ แต่เขาก็มีแต่ตกตะลึงเท่านั้น
"เฮ้ บุคลิกเธอเปลื่ยนไปมากเลยนะ!?"
[อย่าเข้าใจฉันผิดสิ ฉันก็แค่ใกล้ชิดกับนายเพราะความสัมพันธ์ระหว่างทูตสวรรค์กับผู้ทำสัญญาเท่านั้น] (เอิลต้า)
"เธอพูดแบบนี้อีกแล้วสินะ...?"
[ชิ! เงียบแล้วก็อ้าแขนกว้างอีกนิดซะสิ!] (เอิลต้า)
ยูมิลอยู่ในแขนข้างหนึ่งและอีกข้างเป็นเอิลต้า ในตอนนี้ยูอิลฮานไม่อาจจะกระดิกได้แล้ว เลียร่าได้หยิบหอกของเธอออกมาและเล็งมาที่เอิลต้า
[ผู้หญิงคนนี้อยากจะตายงั้นสิ...] (เลียร่า)
[เธออยู่ในโลกที่ถูกทิ้งมาจนถึงตอนนี้ เมื่อคิดถึงความกังวลและตึงเครียดของเธอ ให้เวลาเธอสักเดี๋ยวคงจะไม่เป็นไรหรอกน่า?] (สเปียร่า)
[...ฮึ่ม] (เลียร่า)
เยี่ยมสิ ก็แค่ตอนนี้เท่านั้น! เพิ่งเมื่อลียร่าสงบใจลง เกตก็ได้มีคนอีกสองคนที่โผล่ออกมาคือ คังมิเรย์กับนายูนา
"อ่า"
"คุณอิลฮาน"
"เป็นคุณยูอิลฮานจริงๆด้วย! เขายังคงเหมือนเดิมเลย! เดี๋ยวนะ ไม่สิ เขาดูหล่อขึ้นหรือป่าวนะ?"
แม้ว่าพวกเธอจะแข็งแกร่งขึ้นเหมือนคนอื่นๆ แต่ว่าเพราะอะไรซักอย่างพวกเธอทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะโตขึ้นมาอีกนิดแล้วในเวลาสิบวัน พวกเธอต้องผ่านความยากลำบากมามากแค่ไหนกันนะ?
แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ยูอิลฮานก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยพวกเธอไปง่ายๆที่ลากมิลไปอีกโลก แต่ว่าในตอนนี้แล้วเขารู้สึกเห็นใจพวกเธอ
แต่จากนั้นเองบางสิ่งที่เหนือกว่าจินตนาการของยูอิลฮานก็ได้เกิดขึ้น
"อ่า"
ดวงตาทั้งสองข้างของคังมิเรย์ได้มีน้ำตาออกมาเมื่อเห็นยูอิลฮาน จากนั้นเธอก็พุ่งตัวเข้ามาหาเขาแม้ว่าแขนของเขาจะมีทั้งยูมิลกับเอิลต้าอยู่แล้ว
"หือ? หาาาาาาาา?"
"ฮือออออออออออออออออ!"
จากนั้นจู่ๆเธอก็เริ่มร้องเสียงดังออกมาในระหว่างที่กอดคอของยูอิลฮษน
"เกิดบ้าอะไรกันเนี้ย? พวกเธอทั้งหมดถูกคำสาปแปลกๆอะไรงั้นหรอ?"
ยูอิลฮานที่ไม่ได้คุ้นชินกับหญิงสาวคนอื่นๆนอกจากคนในครอบครัวได้ตกใจจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี แต่แล้วจากนั้นนายูนาที่คิดว่าสถานการณ์นี้มันน่าสนใจดีก็พุ่งเขามาหาและกอดเขาไว้ จากการที่เต็มไปด้วยหญิงสาวรอบตัวเขายิ่งทำให้เขาตระหนกมากขึ้น
"ดีอะไรแบบนี้!"
"บ้าอะไรเนี้ย!? ปล่อยฉันออกไปนะ! เธอคนแรกเลยปล่ลอยฉันไป! ฉันไม่ได้ชอบเธอเลยนะ ปล่อยฉันไปได้แล้ว!"
"ไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย"
แม้ว่ายูอิลฮานมั่นใจในความเใจเย็นของเขาในตลอดเวลา แต่ว่าเขาก็ไม่อาจจะเอาชนะในสถานการณ์นี้ได้
"บ้าอะไรเนี้ย!? มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับพวกเธอกันหมดเนี้ย? ทำไมพวกเธอทุกคนถึงเป็นแบบนี้?"
"เย้ นี่มันสนุกจังเลย! ทุกคนก็มาสิ!"
"ถ้างั้นก็ขออภัยด้วยนะองค์จักรพรรดิ!"
"ยาฮู้"
เมื่อเอลฟ์ที่ติดเบ็ดของนายูนาก็กระโดดเข้ามาหายูอิลฮานเช่นกัน! เอิลต้ากับยูมิลแทบจะหายใจไม่ออกแต่ว่าพวกเขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยยูอิลฮานไป
ในท้ายที่สุดแล้วแม้แต่เอริเซียก็ยังเข้ามาร่วมด้วยอย่างระวังและยูอิลฮานก็มองด้านนอกไม่เห็นอีกต่อไป ยังโชคดีอยู่บ้างที่เฟมิลกับหมาป่าอีกสองตัวไม่ได้มาร่วมด้วย
[นี่มันอะไรกัน!] (เลียร่า)
[ฉันเคยได้ยินว่ามันจะมีอยู่สามครั้งที่ความนิยยมของมนุษย์จะพุ่งถึงขีดสุดในระหว่างชั่วชีวิต...] (สเปียร่า)
[ไม่ใช่แบบนั้นแน่ จริงด้วยถึงแม้แบบนั้นอิลฮานของฉันก็เท่าเสมอ แต่ถึงแบบนั้นก็ตาม!] (เลียร่า)
[ทูตสวรรค์ที่หมดหวังนี่...] (สเปียร่า)
เลียร่าสับสนมากจนไม่ทันได้โกรธแม้ว่าจะเห็นฉากๆนี่ ยูอิลฮานได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาให้เธอเมื่อขีดจำกัดของเขาได้พังลงจากเวลาที่ผ่านไปอย่างยาวนาน แต่ว่าเธอก็สับสนจนไม่ทันเห็นสัญญาณนั่นของเขา
"อ่าาาาาาาาา!"
ยูอิลฮานได้ระเบิดออกมาและตะโกนออกมาในขณะที่ผลักนายูนาออกไปด้วยทุกอย่างที่เขามี
"ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ทำไมทุกคนถึงได้เป็นแบบนี้ทั้งๆที่ผ่านไปแค่สิบวันเอง?"
ในตอนนี้เองทุกๆคนที่กอดยูอิลฮานอยู่ได้หยุดสิ่งที่ทำทันที
"หือ?"
"หา?"
"โทษนะ?"
"...สิบวัน?"
"ท่านจักรพรรดิ?"
"สิบวัน!?"
"...หือ?"
เมื่อยูอิลฮานเอียงหัวกับการตอบสนองแปลกๆนี้ ยูมิลที่ยังกอดเขาอยู่ได้เงยหน้าขึ้นมาและพูดขึ้น
"พ่อครับ พวกเราใช้เวลาที่นั่นอยู่หนึ่งพันวัน"
"อะไรนะ?"
ยูมิลและยูอิลฮานได้สบตากัน
"1000 วัน?"
"ใช่แล้วครับ 1000 วัน!"
ยูอิลฮานได้เงยหน้าขึ้นมา สายตาของเขาได้สบกับเลียร่า ดวงตาของเธอได้สั่นอย่างไม่หยุดลงไป ยูอิลฮานจะต้องแสดงอารมณ์ที่เหมือนๆกับเธอในตอนนี้แน่
10 วัน กับ 1000 วัน
นี่มันเป็นอัตราส่วนที่คุ้นเคยอะไรแบบนี้