ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 20
ตอนที่ 20
ในเวลาเดียวกัน สนามบาสเกตบอลในสวนสาธารณะใหญ่ใกล้ๆ แห่งหนึ่ง นักเรียนมัธยมต้นคนหนึ่งหยิบบอลที่เด้งบนพื้น ส่งให้เซี่ยหย่าซูอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย พี่ใหญ่โคตรเก่งเลย ลงอีกแล้ว ลูกสามคะแนนลงติดต่อกันห้าลูกแล้ว”
เซี่ยหย่าซูรับบอล พูดอย่างภูมิใจว่า “มันแน่อยู่แล้ว พี่เป็นพี่ใหญ่นี่” พูดจบ เดินไปมุมด้านซ้าย ชู้ตบอล
สวบ!
นักเรียนมัธยมต้นเก็บบาสเกตบอล ส่งบอล จากนั้นถาม “พี่ใหญ่ ทำไมวันนี้เอาแต่ฝึกชู้ตเส้นสามคะแนนล่ะ?”
“อาทิตย์นี้พวกเราจะแข่งกระชับมิตรกับโรงเรียนมัธยมปลายตงไถ ถึงแม้ว่าพี่จะเก่ง แต่ตัวป้องกันของตงไถเก่งมาก พี่กลัวว่าตัดเข้าไปเขตจุดโทษเพื่อทำคะแนนมันจะยาก ดังนั้นวันนี้เลยฝึกซ้อมชู้ตจากเส้นสามคะแนนเพิ่ม”
“พี่ใหญ่โคตรเก่งเลย ได้แข่งกับโรงเรียนมัธยมปลายตงไถด้วย” นักเรียนมัธยมต้นมองเซี่ยหย่าซูด้วยสายตาที่อิจฉาและศรัทธา
เซี่ยหย่าซูอุทาน หืม ขึ้นมา “แข่งกับพวกเขาไม่เก่งเลยสักนิด ชนะพวกเขาสิถึงจะเรียกว่าเก่ง!”
ฟังที่เซี่ยหย่าซูพูด เด็กมัธยมต้นแววตาเป็นประกาย “พี่ใหญ่ พี่ชนะเขาแน่นอน!”
เซี่ยหย่าซูพูดอย่างกล้าหาญ “แน่นอน อนาคตพี่จะเป็นคนไต้หวันคนแรกที่เข้าดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอ จะแพ้ให้โรงเรียนเล็กๆ อย่างมัธยมปลายตงไถแบบนั้นได้ยังไง” รับบอล ชู้ตสองมือลงห่วง สวบ!
“อืม วันนี้สัมผัสของมือไม่เลว งั้นคงต้องฝึกเยอะๆ หน่อย!”เซี่ยหย่าซูบอกกับนักเรียนมัธยมต้น “วันนี้พี่จะฝึกซ้อมดึกหน่อย ถ้าเธอจะกลับไปอ่านหนังสือ ก็กลับไปก่อนเถอะ”
นักเรียนมัธยมต้นส่ายหน้า “ฉันไม่กลับหรอก แบบนี้ถ้าพี่ใหญ่เข้าดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอ ฉันก็สามารถอวดกับเพื่อนของฉันได้ว่า เพราะมีฉันคอยช่วยเก็บบอลให้พี่ใหญ่ ทำให้พี่ซ้อมบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พี่ถึงได้เข้าดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอได้อย่างราบรื่น!”
เซี่ยหย่าซูหัวเราะ “ได้ งั้นเธอรอก่อนนะอย่าร้องกลับบ้านล่ะ”
เด็กมัธยมต้นบอก “แน่นอน”
เวลาทำความสะอาดช่วงบ่ายของวันพุธ นักบาสเกตบอลทุกคนรวมตัวกันที่สนาม
“ผู้เล่นทุกคน เชื่อว่าทุกคนก็เหมือนกับครู ที่รอคอยการแข่งขันกระชับมิตรกับโรงเรียนมัธยมปลายตงไถในอาทิตย์นี้ ก่อนหน้านี้ได้ตกลงวันที่จะแข่งขันกระชับมิตรแล้ว ก็คือวันศุกร์นี้หลังเลิกเรียน สถานที่คือสนามบาสเกตบอลที่อยู่กลางสนาม รายชื่อตัวจริงครูกับโค้ชได้ข้อตกลงมาบ้างแล้ว วันนี้ก่อนเลิกเรียนจะประกาศ ช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ ครูเชื่อว่าพวกเธอจะต้องฝึกฝนเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่ต้องระวังด้วย อย่าได้รับบาดเจ็บก่อนการแข่งขันกระชับมิตรล่ะ”
หลังจากประกาศเรื่องการแข่งขันกระชับมิตรเสร็จแล้ว เย่อวี้เฉิงก็ยกด้านหน้าสนามให้อู๋ติ้งหวาแล้วหมุนตัวเดินจากไป
ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการงานจึงเยอะ เรื่องทีมบาสเกตบอลที่เขาสนใจที่สุดจึงมักยกให้อู๋ติ้งหวาไปจัดการ
“ทุกคนได้ยินที่ผู้อำนวยการพูดไปเมื่อตะกี้แล้วใช่ไหม ไม่กี่วันนี้ต้องดูแลตัวเองหน่อยนะ อย่าบาดเจ็บก่อนการแข่งขันกระชับมิตรล่ะ โอเค ใกล้เวลาแล้ว กลับไปเข้าเรียนกันได้แล้ว” อู๋ติ้งหวามองดูนาฬิกาข้อมือ ไม่นานนักก็ให้ผู้เล่นทีมบาสเกตบอลแยกย้าย
เว่ยอี้ฝาน เซี่ยหย่าซูและหยางเจินอี้กลับไปด้วยกัน เซี่ยหย่าซูถามจากด้านข้างว่า “ฉันรู้สึกอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกว่าโค้ชไม่ได้ให้พวกเราฝึกซ้อมด้วยกันก่อนที่จะแข่งกระชับมิตร?”
หยางเจินอี้คิด “น่าจะเจตนานะ”
เซี่ยหย่าซูขมวดคิ้วขึ้น “เจตนาเหรอ?”
เว่ยอี้ฝานพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่หยางเจินอี้พูด “ฉันก็คิดแบบนั้น จากความสามารถของพวกเราตอนนี้ อาจจะไม่ชนะตัวสำรองของตงไถด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวจริงของตงไถเลย ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ดูจนมุมไปซะหมด แต่ฉันคิดว่าผู้อำนวยการและโค้ชจะต้องดูว่าในสถานการณ์แบบนี้เราจะทำอย่างไร พูดง่ายๆ ก็คือ ฉันคิดว่าการแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้เป็นข้อสุดท้ายในการทดสอบผู้เล่นทีมบาสเกตบอล สิ่งที่ทดสอบก็คือคุณภาพจิตใจของผู้เล่น”
หยางเจินอี้คิดว่าการวิเคราะห์ของเว่ยอี้ฝานมีเหตุผล “ด้านจิตใจก็เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม สังเกตคุณภาพจิตใจผู้เล่นผ่านการแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้ เข้าใจผู้เล่นอย่างละเอียดชัดเจนแล้ว โค้ชถึงสามารถเข้าใจลักษณะพิเศษของผู้เล่นแต่ละคน ตอนที่ยังไม่เข้าใจผู้เล่น หากทำเพื่อการแข่งขันกระชับมิตรแค่นัดเดียวและฝึกซ้อมแบบมั่วๆ ต้องไม่ได้ผลลัพธ์อะไรแน่นอน”
เว่ยอี้ฝานพูดสมบท “ถูกต้อง”
“ฉันเข้าใจความหมายของพวกนาย แต่อะไรก็ไม่ทำเลยมันรู้สึกแย่ไปหน่อย” เซี่ยหย่าซูมองหยางเจินอี้และเว่ยอี้ฝาน “ถ้างั้นก่อนการแข่งขัน พวกเราสามคนมาฝึกซ้อมด้วยกันดีไหม?”
หยางเจินอี้กับเว่ยอี้ฝานเหลือบมองตากัน ไม่เอ่ยอะไร
เซี่ยหย่าซูขวางด้านหน้าทั้งสองคนไว้ “สองวันมานี้ฉันซ้อมคนเดียว มันไม่ได้ผล แต่ฉันก็ไม่อยากหาคนที่อ่อนกว่าฉันมาซ้อมด้วย แบบนี้ยิ่งไม่ได้ผล”
เห็นสายตาเป็นประกายของเซี่ยหย่าซู เว่ยอี้ฝานกลับมองหน้าหยางเจินอี้อีกครั้ง จากนั้นพยักหน้า “ได้ แต่ฉันบอกก่อนว่า ตอนที่ฉันกับเจินอี้ฝึกซ้อมกัน ท่าทางมันดูน่ารังเกียจหน่อยนะ”
เซี่ยหย่าซูกรอกตาใส่ “หรือตอนที่นายแข่ง นายอยากจะให้ฝ่ายตรงข้ามเมตตานายห๊ะ?”
“ใช่ ไมค์ แบบนี้แหละ บีบให้ฉันอยู่ข้างนอก!”
หลี่หมิงเจิ้งกับไมค์ดันเบียดกัน อยู่ใต้ห่วงบาสเกตบอลมองดูทิศทางบอลที่เด้ง ทั้งสองกระโดดขึ้นเกือบพร้อมกัน แต่เพราะไมค์ติดแน่นอยู่กับหลี่หมิงเจิ้ง และแย่งได้ตำแหน่งที่ดีกว่า จึงได้รีบาวด์นี้อย่างสบาย
“ไมค์ ได้รีบาวด์แล้วก็อย่าชะล่าใจนะ ครองบอลให้ดีก่อน มองดูให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยส่งบอล อย่ารีบจัดการกับบอล ย่อตัวให้ต่ำ ใช้สองมือและร่างกายครองบอลไว้”
หลี่หมิงเจิ้งกางสองมือออก บล็อคไมค์ไว้ ไมค์ใช้ข้อได้เปรียบของร่างกายครองบอลไว้ จากนั้นยกบอลสูง ส่งบอลข้ามหัวไปให้หลี่กวงเย่าที่อยู่ตรงเส้นสามคะแนน
“ไมค์ ถึงแม้ว่าการส่งบอลข้ามหัวจะใช้ได้ดีสำหรับนาย แต่นายต้องจำไว้ วิธีการส่งบอลแบบนี้ถ้าเทียบกับส่งบอลระดับอกกับส่งบอลกับพื้น เวลาที่บอลอยู่กลางอากาศจะนานกว่า จะเพิ่มความเสี่ยงในการถูกแย่งบอล ดังนั้นก่อนที่จะส่งลูกให้ดูดีๆ ก่อน รู้ไหม?”
ไมค์ที่ร่างเต็มไปด้วยเหงื่อพยักหน้าเบาๆ
หลี่หมิงเจิ้งมองไมค์อย่างพอใจ ไมค์เรียนรู้ได้เร็วจนน่าตกใจ หลายๆ เรื่องแค่นิดเดียวก็เข้าใจ ถึงแม้ว่าท่าพื้นฐานจะยังมีส่วนที่จะพัฒนาได้อีกมาก แต่แนวความคิดของไมค์มีหลายอย่างที่ถูกต้อง หลี่หมิงเจิ้งคิดในใจหรืออาจจะเป็นเพราะไมค์ดูการแข่งขันเอ็นบีเอบ่อยๆ
สอนไมค์ทุกวัน เห็นไมค์เติบโตขึ้น ทำให้หลี่หมิงเจิ้งได้รับความพึงพอใจและรู้สึกว่าตัวเองทำสำเร็จเป็นอย่างมาก
“กวงเย่า เอาใหม่!”หลี่หมิงเจิ้งหันหลังตะโกนบอกหลี่กวงเย่า จากนั้นรีบเบียดปะทะกับไมค์ที่ใต้ห่วงบาสเกตบอล ขวางตำแหน่ง เพื่อแย่งให้ได้ตำแหน่งที่ดีกว่า
สี่ทุ่ม หลี่กวงเย่าอาบน้ำเสร็จ คลุมผ้าขนหนูบนหัวเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาหยิบนมกล้วยแอปเปิ้ลจากโต๊ะขึ้นมาเปิด เดินไปที่ห้องรับแขก กำลังจะนั่งลงเตรียมดูการแข่งขันเอ็นซีเอเอ[1]ระหว่างมหาวิทยาลัยดุ๊กกับมหาวิทยาลัยแคนซัสของอเมริกาที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ ‘กริ๊งๆๆ’ โทรศัพท์ดังขึ้น
หลี่กวงเย่าถอนหายใจ หลังจากดื่มนมกล้วยแอปเปิลไปอึกใหญ่ จึงรับโทรศัพท์ ในปากยังมีนม จึงพูดออกมาอย่างไม่เต็มถ้อยเต็มคำ “ฮัลโหล สวัสดีครับ?” จากนั้นรีบกลืนนมอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ตูดเหม็น มั่นใจในตัวเอง สมองเหลือน้อย งี่เง่า หน้าด้าน หลี่กวงเย่า ไม่เจอกันนานเลยนะ”
น้ำเสียงคุ้นเคยจากปลายสาย หลี่กวงเย่าแปลกประหลาดใจ “เสี่ยวซวี่?”
“ฉันเอง ตกใจใช่ไหมล่ะ?”
หลี่กวงเย่าพูดอย่างดีใจ “ก็นิดหน่อย นายโทรมาได้ยังไง?”
ช่วงหนึ่งแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน ทั้งสองคุยกันสนุกสนาน พูดนั้นโยงนี้คุยกันจนเกือบสิบนาที ขณะเดียวกันยังมีเพื่อนร่วมทีมสมัยก่อนของมัธยมต้นตงไถแทรกขึ้นมาเป็นระยะๆ ทำให้ช่วงเวลาสั้นๆ สิบนาทีที่คุยกันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แต่ทันใดนั้น เพราะคำพูดของเสี่ยวซวี่ไม่กี่คำ บรรยากาศของทั้งสองฝั่งจู่ๆ ก็เริ่มเครียดขึ้นมา
“ตอนที่รวมตัวกันเมื่อกี้ โค้ชบอกรายชื่อตัวจริงของพวกเราแล้ว จากนั้นก็บอกกับพวกเราว่า การแข่งขันกระชับมิตรวันศุกร์นี้ ถ้าหากการแข่งขันจบแล้วคะแนนไม่ห่างจากพวกนายห้าสิบคะแนน กลับไปพวกเราต้องโดนดีแน่”
หลี่กวงเย่าเงียบไปไม่กี่วินาที ยิ้มที่มุมปากอย่างมีความสนใจ “งั้นก็มาสู้กัน!”
เสี่ยวซวี่หัวเราะ “ฉันรู้ว่านายจะต้องพูดแบบนี้”
“เออใช่ เสี่ยวซวี่ มีเรื่องหนึ่งอยากจะให้นายช่วย ฉันมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งเขาชู้ตเส้นสามคะแนนได้แม่นมาก ถึงแม้ว่าถ้าเทียบกับนายแล้วจะแย่กว่าหน่อย แต่ฉันเชื่อว่าเขาเป็นมือชู้ตที่น่าพึ่งพาได้คนหนึ่ง แต่เขาไม่ยอมเข้าทีมบาสเกตบอล ฉันเลยนัดกับเขาไว้ วันนั้นเขาจะมาดูการแข่งขัน...”
หลี่กวงเย่ายังพูดไม่จบ เสี่ยวซวี่ก็ชิงพูดซะก่อน “ฉันจะช่วยนายทำไม? ตอนนี้เราเป็นศัตรูกันนะ”
ทั้งสองเงียบไปพัก จากนั้นก็หัวเราะกันใหญ่ หลี่กวงเย่าหัวเราะด่า “พูดไม่รู้จักคิด!”
เสี่ยวซวี่สงบสติลง “โอเค นายจะให้ฉันช่วยยังไง?”
น้ำเสียงของหลี่กวงเย่ามั่นคง “ทำให้เต็มที่ ลงมือแบบไม่ต้องเกรงใจ หลังจากที่เขาดูนายเล่นแล้ว บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจ ฉันดูออกว่าเขาชอบเล่นบาสเกตบอลมาก”
เสี่ยวซวี่หัวเราะ “นายไว้ใจได้เลย ถึงแม้นายไม่พูด ฉันก็จะทำให้เต็มที่ ในเมื่อโอกาสที่จะสู้กับนายมันไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่”
หลี่กวงเย่าดึงผ้าขนหนูออกจากหัว “ในเมื่อจะสู้กันแล้ว! ยังมีอีกเรื่อง บอกอาไข่ระวังหน่อย การแข่งขันวันศุกร์นี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาได้คะแนนง่ายๆ แน่”
ปลายสายมีเสียงดังพักหนึ่ง จากนั้นมีเสียงตะโกนดังขึ้น “ฉันก็ไม่ปล่อยให้นายได้ง่ายๆ เหมือนกัน!”
หลี่กวงเย่าหัวเราะ “วันศุกร์เจอกันที่สนามนะ”
............................................................................
[1] National Collegiate Athletic Association หรือ NCAA (เอ็นซีเอเอ) เป็นองค์กรอาสาสมัครจัดการ การแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆ มากกว่า 1,200 สถาบัน