ตอนที่ 259 เจตจำนงดาบ
โชคดีที่กระบี่ของเฟิงหยางเป็นเพียงแค่อาวุธทั่วไป มิฉะนั้น แม้ว่ามันเป็นอาวุธวิญญาณระดับหนึ่งมันไม่จำเป็นต้องมีเจตจำนง แค่ระดับความแหลมคมของมันเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายดาบของหลิงฮันให้หักครึ่ง
"กระบี่สุริยันพิโรธ จงบดยี้และทำลายสิ้น!" เฟิงหยางตะโกนออกมาเสียงดังและกวัดแกว่งกระบี่ที่อยู่ในมือ และสร้างระลอกคลื่นพลังออกมา พลังที่อยู่เบื้องหลังระลอกคลื่นนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
"เป็นเจตจำนงกระบี่ที่ทรงพลังอะไรเยี่ยงนี้!" เซี่ยช่างอุทานออกมาด้วยความตกใจ ตอนนี้ม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณนั้นถูกเก็บไปแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงกลับมาเป็นปกติและหันไปมองดูการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะทั้งสองคน
อย่างไรก็ตามก็มีบางคนที่หันไปมองดูฮูหนิวและเหยียนเทียนจ้าว นี่เป็นเพราะทั้งสองคนสามารถต่อต้านพลังของม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้ ซึ่งเป็นบางสิ่งที่ทั้งน่าตกใจและคาดไม่ถึง
เซี่ยช่างได้รับการขนานนามว่าเป็นมือกระบี่ที่เก่งกาจที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสามารถในศาสตร์กระบี่ของเขาอยู่ในอันดับต้นๆของแคว้นพิรุณ และแม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกตกตะลึง มันเลยแสดงให้เห็นว่าทักษะกระบี่ของเฟิงหยางนั้นจะต้องไม่ธรรมดา
"อืม!" คนจำนวนมากพยักหน้าเห็นด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะชอบเฟิงหยางหรือไม่มันไม่สำคัญ แต่ถ้าพวกเขามองไปที่ความสามารถของมันแล้ว ความสามารถในด้านกระบี่ของมันนับว่าไม่ธรรมดา มิฉะนั้นองค์ชายสาม จ้าวฮวานและชางเย่คงไม่พ่ายแพ้ให้กับมันอย่างง่ายดาย
หลิงฮันเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย บางทีทักษะกระบี่นี่อาจเป็นทักษะระดับดำขั้นสูง
แน่นอนว่าตระกูลเฟิงไม่มีทางที่จะมีทักษะระดับดำขั้นสูง ในแคว้นพิรุณมีเพียงแค่ตระกูลจักรพรรดิเท่านั้นที่ครอบครองทักษะระดับดำขั้นสูงและเป็นไปไม่ได้เลยที่เฟิงหยางจะได้รับทักษะลับจากตระกูลจักรพรรดิ ดังนั้น มันต้องได้รับการสอนทักษะนี่เมื่อมันได้ไปที่นิกายจันทร์เหมันตร์อย่างแน่นอน
ไม่เลว ไม่เลว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้รับความโปรดปรานจากจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ เฟิงหยางน่าจะฝึกฝนทักษะกระบี่นี่มาหลายเดือน แต่มันก็ใช้ทักษะกระบี่ของมันออกมาได้ดีทีเดียว อย่างน้อยมันต้องแสดงพลังที่แท้จริงของทักษะออกมาได้ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์ของโดดเด่นแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม มันก็แค่โดดเด่นเท่านั้น
ด้วยเสียงหวีดร้องของอากาศ หลิงฮันสะบัดดาบของเขาและทักษะเพลงดาบสี่ฤดูพุ่งเข้าหาเฟิงหยาง
ทักษะดาบนี่เป็นทักษะดาบที่เขาเคยสอนให้กับหลิวอู๋ตง และมันยังเป็นทักษะยุทธที่เขาเคยใช้ในชีวิตที่แล้ว มันไม่จำเป็นสำหรับเขาเลยที่จะต้องทำความคุ้นเคยกับมัน เพียงแค่คิด เขาก็สามารถปล่อยทักษะออกไปได้อย่างลื่นไหลและได้สร้างละอองฝนออกมา
เม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาเกิดจากพลังก่อเกิดของหลิงฮัน ตราบใดที่พวกมันสัมผัสกับร่างกายของผู้คน พลังก่อเกิดจะเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาและจะสร้างความเสียหายในระดับที่น่าสะพรึงกลัว
"เป็นทักษะดาบที่ยอดเยี่ยมอะไรเยี่ยงนี้!" เมื่อพวกเขาเห็นทักษะดาบของหลิงฮัน ผู้คนจำนวนมากอุทานออกมาด้วยความสรรเสริญ
ในศาสตร์วรยุทธ กระบี่และดาบเป็นอาวุธที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ทักษะกระบี่ของเฟิงหยางทำให้ผู้คนอุทานออกมาด้วยความตกตะลึงจากมือกระบี่ ในขณะที่ทักษะดาบของหลิงฮันทำให้อุทานออกมาด้วยการสรรเสริญ จากนักดาบ
"เจตจำนงดาบของชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจตจำนงกระบี่ของเฟิงหยางเลย!"
"ถูกต้อง! พูดด้วยความสัตย์ ถ้าระดับพลังของข้าอยู่ที่ระดับก่อเกิดธาตุ แม้แต่ข้าเองก็ไม่อาจใช้ทักษะดาบที่ทรงพลังแบบนั้นได้"
"แปลกยิ่งนัก ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าการโจมตีนั่นมันยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของมันหรือว่าเขากำลังออมมืออยู่?"
"หืม เจ้าเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกันรึ?"
เมื่อการโจมตีพุ่งเข้ามา เฟิงหยางกวัดแกว่งกระบี่ที่อยู่ในมือของมัน
ติ่งงงง!
เสียงที่คมชัดดังออกมา และสร้างคลื่นเสียงกระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง บรรดาจอมยุทธที่มีพลังต่ำกว่าระดับก่อเกิดธาตุเริ่มมีโลหิตไหลออกมาจากหู จมูก และตาของพวกเขา และดูสยดสยองเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีจอมยุทธที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุหลายคนไม่อาจทนได้และปิดหูของพวกเขา
หลิงฮันและเฟิงหยางพวกเขาทั้งคู่ถูกบังคับให้ถอยหลัง และการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าในครั้งนี้ทำให้พวกเขาสูสีกัน จึงตัดสินใจได้ยากว่าใครเป็นผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
"ข้าประเมินเจ้าต่ำไปเล็กน้อย!" เฟิงหยางพูดออกมาด้วยคลื่นพลังจากกระบี่ยาวของมัน มันได้สร้างประกายแสงที่หนาวเย็นออกมาที่โหมกระหน่ำเหมือนน้ำตก"
มือของเซี่ยช่างสั่นระริกและช่วยไม่ได้ที่เขาจะแตะไปที่กระบี่ของเขาพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย
เจตจำนงกระบี่นั่นทำให้เขาคันไม้คันมือ ทำให้เขาอยากต่อสู้กับเจตจำนงกระบี่ที่ทรงพลังนั่น
"การโจมตีเมื่อครู่ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดของเขา?"
"พระเจ้า เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งยิ่งนัก และเขายังเพิ่มพลังของตัวเองได้ เขาเป็นคนที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง!"
"ครั้งนี้ หลิงฮันคงทำได้แค่ถอยเมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่เหนือกว่าเขา!"
ท่ามกลางความตื่นตระหนกจากผู้ชม หลิงฮันกวัดแกว่งดาบของเขาและฝนฤดูใบไม้ผลิโปรยปรายออกมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มันก็แค่ชั่วขณะก่อนที่เจตจำนงดาบจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จากฝนฤดูใบไม้ผลิที่อ่อนโยน มันกลายเป็นพายุฤดูร้อนที่น่าตกใจ เปรี๊ยง เปรี๊ยง เปรี๊ยง เสียงฟ้าผ่าดังออกมาไม่หยุด มันเกือบจะทำให้พวกเขาหูหนวก!
"นี่มันอะไรกัน!?" ทุกคนรู้สึกตกตะลึง
"มันเป็นทักษะดาบแบบไหนกัน?"
"มันจะเป็นยังไงต่อ? การโจมตีครั้งแรกยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมาให้เห็น แต่เขาก็สามารถสร้างการโจมตีออกมาได้อีก?"
"นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปของเจตจำนงดาบของเขายังเป็นธรรมชาติมากที่จะช่วยให้คนคนหนึ่งรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งสอดคล้องกับกฎของธรรมชาติ"
"ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อครู่ข้าถึงรู้สึกว่ามันยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมา ดังนั้น มันดูเหมือนว่าเจตจำนงของเขาไม่มีวันแตกหัก และยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมา!"
"นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ เจ้าเด็กนั่นฝึกฝนทักษะแบบนั้นได้อย่างไร?"
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันจะลงเอยยังไง?
เจตจำนงดาบของหลิงฮันเปลี่ยนไปอีกครั้ง สายลมที่หนาวเย็นเริ่มพัดผ่าน มันให้ความหนาวเย็นเล็กน้อยและเต็มไปด้วยจิตสังหาร จากนั้นมันได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง และกลายเป็นสายคมที่เยือกเย็นของฤดูหนาว ทั้งยังมีหิมะสีขาวร่วงโรยลงมาอยู่รอบด้านและช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะยืนกอดอกด้วยความหนาว
"หนึ่งทักษะดาบมีถึงสี่เจตจำนง!"
"พระเจ้า! นี่มันยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดเสียอีก! มันเป็นไปได้ยังไงกัน!"
ทุกคนรู้สึกตกตะลึง เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกินระดับความเข้าใจของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ทักษะดาบดังกล่าวไม่ควรปรากฏอยู่บนโลกมนุษย์
หลิงฮันยิ้มออกมาอย่างเรียบเฉย เมื่อเขารวมทักษะเพลงดาบสี่ฤดูให้กลายเป็นหนึ่ง ทำให้มันอาจมีระดับใกล้เคียงกับทักษะระดับปฐพี ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าเขามีสัมผัสสวรรค์ของจอมยุทธระดับสวรรค์ เขาคงไม่อาจใช้ทักษะดาบนี้ได้อย่างลื่นไหลขนาดนี้
ฝนฤดูใบไม้ผลิ พายุฤดูร้อน สายลมฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว หลิงฮันได้ควบคุมเจตจำนงดาบทั้งสี่และใช้มันต่อสู้กับเฟิงหยาง
ช่วยไม่ได้ที่สีหน้าของเฟิงหยางจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ถ้าหลิงฮันใช้แค่ทักษะดาบหนึ่งฤดู มันจะไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยและสามารถใช้พลังกระบี่ของมันปราบหลิงฮันได้ แต่ทว่าตอนนี้ ทักษะเพลงดาบสี่ฤดูถูกรวมกันเป็นหนึ่ง มันเทียบได้กับมีจอมยุทธสี่คนร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับมันอยู่ ดังนั้นไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันจะยืดหยัดต่อสู้กับหลิงฮันสี่คนพร้อมกันได้อย่างไร?
เฟิงหยางคำรามออกมาโกรธเกรี้ยว และลดกระบี่ของมันลงแล้วแทงลงพื้น เท้าขวาของมันเหยียบย่ำพื้นและกระโดดบังคับร่างกายให้บินกลับไปด้านหลัง
ปัง หลิงฮันโจมตีพลาด โต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆถูกสะบั้นเป็นชิ้นๆ
แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...เฟิงหยางหอบอย่างรุนแรง เมื่อครู่ มันฝืนบังคับหยุดการโจมตี ซึ่งมันเทียบเท่ากับการโจมตีตัวเอง ดังนั้น ตอนนี้มันเลยรู้สึกย่ำแย่ มันจึงรีบกลืนกินเม็ดยาทันที และสายตาของมันจับจ้องไปที่หลิงฮันและความหวาดหวั่นปรากฏอยู่ในสายตาของมัน
มันสามารถพูดได้ว่าการโจมตีครั้งเดียวนั่นจากหลิงฮันเปรียบได้กับทักษะดาบสี่ทักษะและมีเจตจำนงดาบสี่เจตจำนงที่แตกต่างกัน ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนอื่น มันคงไม่เกรงกลัว แต่เมื่อพลังของทักษะเพลงดาบสี่ฤดูถูกปล่อยออกมา มันจะต้องทรงพลังมากอย่างแน่นอน แม้แต่มันก็ยังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนั้น
บัดซบ! บัดซบ!
ในตอนแรก มันคิดว่ามันสามารถบดขยี้หลิงฮันได้อย่างง่ายดายด้วยมือเดียว อย่างไรก็ตาม มันยังไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมนิกายจันทราเหมันตร์อย่างเป็นทางกัน ดังนั้นมันจึงระมัดระวังและวางแผนที่จะฆ่าหลิงฮันในอีกสามเดือนให้หลัง
มันไม่เคยคิดเลยว่าความผิดพลาดของมันจะเป็นเหตุที่ทำให้น้องชายของมันตายด้วยน้ำมือของหลิงฮัน และยิ่งไปกว่านั้นหลิงฮันยังมีความสามารถที่จะยืนหยัดต่อสู้กับมัน!
เจ้าเด็กเหลือขอนี่ไม่ใช่ว่ามันก้าวหน้าเร็วเกินไปหน่อยหรือ?
กำจัดมัน ข้าจะต้องกำจัดมันให้ได้อย่างแน่นอน!
เฟิงหยางนำม้วนคำสั่งออกมาอีกครั้งและคลี่มัน แรงกดดันถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง และตุบ ตุบ ตุบ ทุกคนถูกบังคับให้คุกเข่าหรือนั่งลงบนพื้น
"ตาย!" เฟิงหยางใช้ม้วนคำสั่งเหมือนกับแส้และเหวี่ยงมันไปทางหลิงฮัน มีอักขระบางอย่างกระพริบอยู่บนพื้นผิวของมันและด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เกิดความรู้สึกขนลุก