ตอนที่แล้วทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 15
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 17

ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 16


ตอนที่ 16

บรรยากาศเริ่มอึมครึม หยางเสียงอิงบีบระหว่างคิ้ว ถือโอกาสนี้ไล่แขก “ขอโทษครับ ผมยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ขอบคุณ คุณทั้งสองที่มาเยี่ยม ผมขอบคุณพวกคุณ แทนเจินอี้ด้วย” แล้วก็กดสปีกเกอร์โฟน ขณะที่จะโทรให้คนพาเย่อวี้เฉิงกับอู๋ติ้งหวาออกไป ทันใดนั้น ประตูออฟฟิศถูกผลักออกอย่างแรง

“เอ่อ ฉันมาช้าไปไหม?” หลี่หมิงเจิ้งสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกติ หันไปถามเย่อวี้เฉิง

เย่อวี้เฉิงถอนหายใจ แล้วพยักหน้า

“อ้อ รู้อย่างนี้ฉันก็จะไม่มา ถ้าฉันโดนกล้องจับความเร็วถ่ายไว้ แกต้องช่วยฉันจ่ายด้วย”

หยางเสียงอิงโบกมือปฏิเสธให้เลขาที่มีสีหน้าเคร่งเครียด ที่ยืนอยู่ข้างหลังหลี่หมิงเจิ้ง ให้ออกไปก่อน “คุณคนนี้ก็มาพูดเกลี้ยกล่อมผม ให้ผมยอมให้ลูกชายเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลใช่ไหม?”

“ใช่ครับ” หลี่หมิงเจิ้งชี้ไปที่เย่อวี้เฉิง “เขาบอกว่าคุณเป็นรุ่นพี่พวกเราสองปี แล้วบอกว่าลูกชายของคุณแข็งแกร่งทีเดียว หวังจะให้ผมมาช่วยกันพูดเกลี้ยกล่อมคุณ” พูดจบ หลี่หมิงเจิงก็ใช้สายตาแปลกๆ มองหยางเสียงอิง

หยางเสียงอิง ทนไม่ไหว “ผมขอบคุณพวกคุณแทนเจินอี้อีกครั้ง ที่เห็นความสำคัญของเขา แต่ว่าผมไม่ยอมให้เจินอี้เข้าร่วมทีมบาสเกตบอล เชิญพวกคุณกลับไปเสียเถอะ!” ในขณะที่เย่อวี้เฉิงกำลังจะลุกขึ้น หลี่หมิงเจิ้งเดินไปด้านหน้าโต๊ะทำงานของหยางเสียงอิง สองมือวางบนโต๊ะ ค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหน้า ถามว่า “ทำไมครับ?”

หยางเสียงอิงไม่ได้รู้สึกถูกกดดันจากท่าทีของหลี่หมิงเจิ้ง เอนตัวพิงเก้าอี้ “ผมได้บอกเหตุผลไปแล้ว เชิญคุณถามพวกเขาได้เลย ผมยังมีงานต้องทำ ก็คงไม่ได้ไปส่งพวกคุณนะ!”

“แต่คุณไม่ได้ไม่ชอบเล่นบาสเกตบอลใช่ไหม? รุ่นพี่หยางอิงหยาง”หลี่หมิงเจิ้งถามอย่างสงสัย พอได้ยิน ‘หยางอิงหยาง’ สามคำนี้ ตัวของหยางเสียงอิงก็สั่นสักพัก เขามองหลี่หมิงเจิ้งอย่างไม่น่าเชื่อ

เย่อวี้เฉิงรีบเดินไปด้านหน้า พูดกระซิบ “ไอ้เหี้ย ชื่อเต็มของประธานหยางคือ หยางเสียงอิง ไม่ใช่หยางอิงหยางอะไรนั่น!”

หลี่หมิงเจิ้งขมวดคิ้ว มองหยางเสียงอิง “หรือว่าผมจำผิดเหรอ?”

หยางเสียงอิงถอนหายใจอย่างช้า “เปล่า คุณจำไม่ผิดหรอก ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนชื่อ จริงๆ แล้วผมชื่อหยางอิงหยาง นึกไม่ถึงว่าคุณจะรู้จักผม?”

หลี่หมิงเจิ้งมองหยางเสียงอิง แล้วก็หัวเราะ “เมื่อตะกี้พอผมเห็นคุณ ก็รู้สึกคุ้นหน้ามาก อิจฉาคุณจริงๆ ผ่านมาหลายปี หน้าคุณนอกจากมีริ้วร้อยขึ้นมานิดหน่อยแล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ยังหุ่นดี แถมยังเป็นประธานบริษัทใหญ่ของครอบครัวอีก   หลายปีมานี้เลี้ยงสาวๆ ไว้ข้างนอกกี่คนล่ะ?

เย่อวี้เฉิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็อึ้งจนเหงื่อไหลพลัก แต่หยางเสียงอิงกลับไม่ทีท่าโกรธเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ยิ้มแหย่ะๆ “นายยังเหมือนเดิมเลยนะ พูดจาตรงไปตรงมา”

เย่อวี้เฉิงกับอู๋ติ้งหวามองตากัน รู้สึกสงสัยกับท่าทีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงของหยางเสียงอิงเมื่อสักครู่นี้ เย่อวี้เฉิงถาม “พวก

คุณรู้จักกันเหรอครับ?”

หลี่หมิงเจิ้งพยักหน้า “แกจำได้ไหม ที่ฉันเคยพูดกับแกว่า มีรุ่นพี่ที่แก่กว่าเราสองปี เล่นบาสเก่งมาก นอกจากฉันแล้ว ในโรงเรียนก็ไม่มีใครเก่งกว่าเขา? รุ่นพี่คนนั้นก็คือเขานี่แหละ เสียดายตอนที่พวกเราตั้งทีมบาสเกตบอล เขาเรียนจบแล้ว ไม่อย่างนั้นการแข่งขันกับฉี่หนานนัดนั้น ฉันก็ไม่ต้องเล่นจนเหนื่อยขนาดนั้น”

เย่อวี้เฉิงพยายามนึกย้อนกลับไป แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก “จำไม่ค่อยได้แล้ว”

อู๋ติ้งหวาพูดตำหนิ “ตอนนั้นแกยังเล่นบาสเกตบอลไม่เป็นเลย ถ้าจะให้จำเรื่องอะไรแบบนี้ นายลำบากแย่!”

หลี่หมิงเจิ้งยิ้มแป้นมองไปที่หยางเสียงอิง “ยีนนี้ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจริงๆ ยีนเล่นบาสเกตบอลของคุณ ถ่ายทอดให้ลูกชายคุณแล้วล่ะ ผมก็เหมือนกัน”

“ลูกชายของคุณ?” หยางเสียงอิงงงงวย

“ใช่แล้ว ปีนี้เขาขึ้นม.4 เข้าร่วมทีมบาสเกตบอลของกวงเป่ยด้วย แล้วคุณล่ะ ให้ลูกชายคุณเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลด้วยกันเถอะ ให้พวกเขาช่วยกันทำในสิ่งที่พวกเราทำไม่สำเร็จในตอนแรก ให้มันสำเร็จเถอะ” หลี่หมิงเจิ้งถือโอกาสพูดตัดเข้าประเด็น

“เรื่องอะไร” หยางเสียงอิงถาม

หลี่หมิงเจิ้งเอียงตัวมองตาของหยางเสียงอิง “คว้าแชมป์”

มองดูสายตาที่จริงใจของหลี่หมิงเจิ้ง คำพูดของหยางเสียงอิงที่เคยพูดกับเย่อวี้เฉิงและอู๋ติ้งหวาเมื่อตะกี้ กลับพูดไม่ออกทันที นึกถึงตอนแรกๆ ที่หลี่หมิงเจิ้งชวนเขาเข้าร่วมบาสเกตบอล แต่ว่าตอนที่ตั้งทีมบาสเกตบอล เขาเรียนจบแล้ว ดังนั้นตอนที่กวงเป่ยสู้กับฉี่หนานในเกมนั้น เขาเป็นได้แค่เพียงผู้ชมคนหนึ่งที่นั่งดูการแข่งขันอยู่ข้างสนามเท่านั้น

สปิริตในการต่อสู้ของกวงเป่ยในตอนนั้น ความตื่นเต้นและความซาบซึ้งที่เอาชนะฉี่หนาน จนถึงวันนี้ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา ไม่สามารถลืมได้ลง เสียงเชียร์ที่ดังสนั่นของทุกคนยังคงปรากฏอย่างชัดเจน เสียใจเพียงเรื่องเดียวก็คือ เขาไม่สามารถเป็นสมาชิกของทีมบาสเกตบอลกวงเป่ย ลงสนามกับเพื่อนร่วมทีมต่อสู้ด้วยกันเพื่อเกียรติยศ

เวลาค่อยๆ ผ่านไป ความกระตือรือร้น สนใจบาสเกตบอลในใจของเขาดับลงอย่างช้าๆ การทำงานที่ยุ่งเหยิง ก็ทำให้เขากับบาสเกตบอลยิ่งห่างเหินออกไป จนกระทั่งหลี่หมิงเจิ้ง คนที่พยายามอย่างสุดความสามารถอย่างไร ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา จิตวิญญาณในความบ้าคลั่งบาสเกตบอลตอนวัยรุ่นของเขา ราวกับว่ากลับเข้ามาอยู่ในตัวเขาอีกครั้ง รู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่หน้าอก ทำให้เขาพูดไม่ออก

“ในปีนั้น เรื่องที่ผมรู้สึกเสียดาย ก็คือไม่สามารถต่อสู้เคียงบ่า เคียงไหล่กับคุณ รับปากผมนะ อย่าปล่อยให้ความเสียใจนี้ เกิดขึ้นกับลูกชายของคุณและผมอีก!” หลี่หมิงเจิ้งยื่นมือขวาให้หยางเสียงอิง ยิ้มกว้างออก “เออใช่ บ้านผมมีสนามบาสเกตบอล ถ้าหากว่าอยากจะประลองฝีมือกันอีก เรียกได้ตลอดเวลานะ”

 

 

ในตอนค่ำของวันนั้น หยางเจินอี้เรียนกวดวิชาเสร็จ หอบร่างที่เหนื่อยล้ากลับมาถึงบ้าน หลังจากเปิดประตูบ้าน แปลกใจที่ไฟห้องรับแขกยังสว่างอยู่ หรือว่าแม่กลับมาจากต่างประเทศก่อนกำหนด? หยางเจินอี้คิดในใจ

เขาเปลี่ยนรองเท้า เดินเข้าไปในห้องรับแขก รู้สึกประหลาดใจเห็นพ่อที่มักจะกลับบ้านดึก นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาในเวลานี้

“กลับมาแล้วเหรอ” หยางเสียงอิงวางหนังสือพิมพ์ไว้ด้านข้าง มองมาที่หยางเจินอี้

“อืม” หยางเจินอี้พยักหน้า

“วันนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนของลูก มาหาพ่อ เขาบอกว่าลูกเล่นบาสฝืมือไม่เลว หวังจะให้พ่อรับปากว่าจะให้ลูกเข้าร่วมทีมบาสเกตบอล” หยางเสียงอิงพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา

หยางเจินอี้ตอนแรกจะเข้าห้องนอนไป พอได้ยินแบบนี้ ตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่ได้หวังอะไรกับบาสเกตบอลแล้ว เขาหยุดก้าวขา เตรียมพร้อมยอมรับการเทศน์อันน่าเบื่อ

แต่คำพูดต่อมาของหยางเสียงอิง เกินความคาดเดาของเขา “เจินอี้ พ่อถามลูกคำหนึ่ง ลูกต้องบอกพ่อตรงๆ นะ ลูกชอบเล่นบาสเกตบอลไหม?”

เพราะคำถามนี้ หยางเจินอี้อึ้งไปสักพัก หยางเสียงอิงมอง การแสดงออกของหยางเจินอี้ พูดอย่างช้าๆ “พูดความจริง ไม่เป็นไร”

“ชอบครับ” หยางเจินอี้ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“อยากเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลไหม?”

หยางเจินอี้มองพ่อที่เข้มงวด กัดฟันแน่น น้ำเสียงหนักแน่น “อยากครับ”

หยางเสียงอิงยืนขึ้น มองลูกชายที่ผ่านไปไม่ทันไร ก็โตจนสูงกว่าตัวเขา ตบไหล่เขา “ดี งั้นก็ไปเถอะ”

“พ่อครับ?”

“ลูกชอบเล่นบาสเกตบอล และอยากเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลไม่ใช่เหรอ?” หยางเสียงอิงถาม

“อืม” หยางเจินอี้พยักหน้าอย่างหนักแน่น

“งั้นก็ไปเถอะ” หยางเสียงอิงกลับไปนั่งที่โซฟา หยิบหนังสือพิมพิมพ์ขึ้นมา “แต่จำไว้ว่า ต้องคว้าแชมป์กลับมานะ”

หยางเจินอี้เงียบไปครู่หนึ่ง พูดอย่างช้าๆ “พ่อ ขอบคุณครับ”

มองดูด้านหลังของหยางเจินอี้เดินกลับเข้าไปในห้องนอน ดูเหมือนจะสูงกว่าที่คิดไว้หลายเซนติเมตร หยางเสียงอิงเผยรอยยิ้มปลื้มปิติออกมา “เจ้านกอินทรีย์น้อยตัวนี้ มีปีกกว้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ”

……………………………………………………………………….

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด