ตอนที่ 258 ม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ
"เฟิงหมิงตายแล้ว ดังนั้นการแต่งงานครั้งนี้ควรจะสิ้นสุดลง!" หนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลหลิงป่าวประกาศ เขาเป็นหนึ่งในผู้คัดค้านการแต่งงานและอดกลั้นมานาน และตอนนี้เขาเลือกที่จะพูดออกมา
ถ้าตระกูลหลิวให้หลิวอู๋ตงแต่งงานกับคนตายจริง พวกเขาจะมีหน้าอยู่ในเมืองจักรพรรดิได้อย่างไร?
เฟิงหยางยิ้มออกมาอย่างเฉยเมยและพูดว่า "มันตายแล้วจะทำไม? เมื่อข้ากลับมา ข้าจะหาชายคนใหม่จากตระกูลเฟิงให้ และถ้าแม่นางหลิวคิดว่าคนเดียวไม่พอ ข้าก็จะหาเพิ่มให้"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลิวทุกคนต่างโกรธเกรี้ยว
เจ้าคิดว่าผู้หญิงของตระกูลหลิวคืออะไรกัน? โสเภณีงั้นรึ? และเจ้าพูดว่าเจ้าจะหาชายคนใหม่ให้และถ้าคนเดียวไม่เพียงพอ เจ้าจะหาให้เพิ่มงั้นรึ!?
เฟิงหยางไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นถ้ามันรู้สึกตื่นเต้นกับความโกรธของฝูงชนแล้วจะทำไม? ถึงแม้ฝูงแกะจะรวมตัวกันอยู่ แต่พวกมันจะต่อสู้กับราชสีห์ได้อย่างไร? มันมีพลังอำนาจอยู่ในมือมากพอ มากพอถึงขั้นไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้จักรพรรดิพิรุณเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แล้วตระกูลหลิวจะนับว่าเป็นอันใดได้
"ฮึ่ม พิธีแต่งงานถูกยกเลิกแล้ว ไสหัวกันไปได้แล้ว!" ผู้นำตระกูลหลิวป่าวประกาศ กลิ่นอายของจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณแผ่กระจายออกมาเหมือนกับคลื่นทะเล ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างใบหน้ากลายเป็นซีดขาว
ความโกรธของเขาเพียงพอที่จะทำให้ท้องฟ้าและพื้นปฐพีพลิกคว่ำ!
แต่เฟิงหยางหาได้สนใจไม่ มันเพียงแค่สบัดมือขวาและม้วนกระดาษได้ปรากฏอยู่ในมือของมัน ไม่มีผู้ใดเห็นว่ามันปรากฏออกมาจากที่ไหน และเฟิงหยางได้พูดต่อว่า "นี่คือคำสั่งที่อาจารย์ของข้ามอบมันให้กับข้า แล้วจะมีผู้ใดกล้าฝ่าฝืนหรือไม่?"
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที หลังจากที่เฟิงหยางจงใจปล่อยข่าวออกมา บรรดาผู้คนที่มีสถานะสูงส่งจะรู้ว่าเฟิงหยางได้กลายเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสแห่งนิกายจันทราเหมันตร์ ซึ่งอาจารย์ของมันคือจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ
ในแคว้นพิรุณ จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเป็นตัวตนที่ไร้พ่าย แต่แล้วถ้าเป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณล่ะ นั่นเป็นเหมือนการดำรงอยู่ของพระเจ้า!
ด้วยความสั่งจากจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณที่มันถืออยู่ แม้แต่จักรพรรดิพิรุณองค์ปัจจุบันยังต้องไว้หน้าเขาใช่ไหม?
ผู้นำตระกูลหลิวตกตะลึง แม้เขาจะแข็งแกร่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ เขาจะทำตัวขัดขืนต่อไปได้อย่างไร?
ดวงตาของเฟิงหยางกวาดสายตามองกลุ่มฝูงชน และไม่มีใครกล้าที่จะสบตามัน พวกเขาทุกคนต่างก้มหน้าลง มันจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่มันจะทำตัวหยิ่งยโสออกมา มันทำตัวเป็นทรราชย์ แต่แล้วมันจะทำไม? เพราะมันมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น!
วันนี้ มันต้องทำให้หลิงฮันได้รับความอัปยศอย่างสิ้นเชิง...ก่อนที่จะลงมือสังหารหลิงฮันด้วยมือของมันเอง
"เพียงแค่เจ้าบอกว่ามันเป็นคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ แต่มันจะเป็นของจริงหรือไม่ใครจะไปรู้?" หลิงฮันส่ายหน้าและพูดว่า "ข้าเองก็มีเหรียญตราของจอมยุทธระดับทลายมิติอยู่กับตัว เจ้าอยากดูมันไหม?"
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ามันก็แค่พวกดื้อรั้น!" เฟิงหยางหัวเราะเสียงดัง แต่เมื่อมันเห็นบางคนเริ่มสงสัยในตัวมัน มันเลยพูดออกมาว่า "ดี เช่นนั้นข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าทุกคนเบิกตาดูคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ!"
มันค่อยๆคลี่ม้วนกระดาษอย่างช้าๆ ซึ่งมันทำมาจากวัสดุบางอย่างที่มีความอ่อนนุ่มของผ้าไหม แต่มีด้ายสีทองเย็บเข้าด้วยกันเป็นอย่างดีและมีมูลค่าสูงมาก
ฟุบ กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวกระจายออกมาจากคำสั่ง ราวกับว่าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณมาที่นี่ด้วยตัวเขาเอง และทำให้ทุกคนสั่นเทา แขนขาของพวกเขาเหมือนจะแข็งค้างและหัวใจของพวกเขาสามารถกระโดดออกมาจากทรวงอกของพวกเขาได้ทุกเมื่อ
นี่เป็นคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณอย่างแน่นอน เพียงแค่เจตจำนงที่ถูกส่งเข้าไปในนั้นที่แพร่กระจายออกมาก็เพียงพอที่จะสะกดข่มทั่วทั้งบริเวณได้ และไม่มีใครมีความคิดที่จะต่อต้าน
จากนั้น พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นทีละคน คนกลุ่มแรกที่คุกเข่าคือจอมยุทธระดับหลอมกายา ตามด้วยจอมยุทธระดับรวมธาตุ และจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุ ในขณะที่คำสั่งถูกคลี่ออกมามากขึ้น แม้แต่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณก็ไม่อาจยืนหยัดได้อีกต่อไป ยังไงก็ตาม จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณยังไงก็คือจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณ พวกเขาบังคับตัวเองแค่นั่งลงบนพื้นเพื่อไม่ทำให้ตัวเองอับอายมากเกินไป
ในตอนนั้น มีเพียงแค่จอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว หลิงฮันและเฟิงหยางก็ยังคงยืนอยู่เช่นเดียวกันในขณะเดียวกัน ฮูหนิวยังคงนั่งลงอยู่และเพลิดเพลินกับอาหารของนาง นางเชื่อฟังคำสั่งของหลิงฮันและไม่วิ่งเล่นไปไหน
นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่ยังคงนั่งอย่างสบายใจ
นั่นคือ เหยียนเทียนจ้าว!
เหตุผลที่เฟิงหยางยังคงยืนหยัดได้อยู่เพราะเขาเป็นคนถือม้วนคำสั่ง สำหรับหลิงฮันแล้ว เขาเคยเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์มาก่อน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่รู้หวาดกลัวต่ออำนาจนั่น ในทางกลับกัน ฮูหนิวเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อเกินไป
แล้วเหยียนเทียนจ้าวล่ะ? เขาครอบครองอะไรอยู่ถึงทำให้เขาสามารถต่อต้านพลังของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้?
เหยียนเทียนจ้าวเหลือบมองหลิงฮันและแสยะยิ้มอย่างเย็นชาที่มุมปากของมัน มันหันไปมองฮูหนิวและช่วยที่มันจะขมวดคิ้วออกมาด้วยความมึนงง เห็นได้ชัดว่ามันไม่อาจทำความเข้าใจเรื่องของฮูหนิวได้
ม้วนคำสั่งที่อยู่ในมือเฟิงหยางถูกคลี่ออกมาหมดแล้ว และถึงแม้ว่าจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณยังคงยืดหยันได้อยู่ แต่พวกเขาได้สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป เมื่อเฟิงหยางกวาดสายตามองรอบๆ มันดูเหมือนกับว่าทุกคนกำลังเคารพมัน ทำให้มันเหมือนกับหงส์ในฝูงไก่
ม้วนคำสั่งนี่ไม่สามารถใช้งานได้หลายครั้ง เจตจำนงที่อยู่ภายในจะกระจายตัวออกมาอย่างรวดเร็ว และมันสามารถใช้งานได้แค่ครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป
หากตัดสินใจจากข้อเท็จจริงที่ว่าเฟิงหยางได้รับม้วนคำสั่งดังกล่าวมา มันแสดงให้เห็นว่าผู้อาวุโสนิกายจันทราเหมันตร์ให้ความสำคัญกับมันมากแค่ไหน
มันน่าจะได้รับสิ่งนี้เมื่อมันกลับไปที่นิกายจันทราเหมันตร์เพื่อขอเม็ดยารักษาบาดแขนให้กับเฟิงหลัว มิฉะนั้น ก่อนหน้านี้มันคงจะมีความสามารถกำจัดหลิงฮันได้อย่างราบคาบ และไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องระหว่างพวกเขายืดเยื้อมาถึงจุดจุดนี้
เฟิงหยางหัวเราะออกมาเสียงดังและทำตัวหยิ่งยโสอย่างมาก
พวกเขาเป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณแล้วมันจะทำไม? พวกเขาก็แค่ไม่ทำตัวสั่นเทาเหมือนกับหนูต่อหน้าเขาก็เท่านั้น! แล้วถ้าเป็นองค์ชายหรือเหล่านายน้อยล่ะ?พวกเขาทำได้แค่คุกเข่าลงต่อหน้ามันเท่านั้น!
"นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!" อย่างไรก็ตาม เมื่อเฟิงหยางกวาดสายตาไปมองหลิงฮัน ทำให้มันรู้สึกประหลาดใจทันที เจ้านั้นมันยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างไรและยังดูผ่อนคลายขนาดนั้น?
"ทำไมเจ้าถึงยังยืดหยันอยู่ได้?" ช่วยไม่ที่เฟิงหยางจะถามออกมา ที่มันกำลังถืออยู่คือม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณเชียวนะ
"มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า!" หลิงฮันชูนิ้วกลางใส่มัน
เฟิงหยางเค้นเสียงออกมาและพูดว่า "ดูเหมือนข้าจะไม่ได้ประเมินเจ้าต่ำไปที่คิดว่าเจ้ายังปกปิดพลังที่แท้จริงของเจ้าอยู่! อย่างไรก็ตาม วันนี้แหละมันจะต้องเป็นวันตายของเจ้าและจะไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้!"
หลิงฮันหัวเราะออกมาเสียงดังและพูดว่า "เจ้าช่างเป็นคนที่พูดจาโอ้อวดเสียจริง! เช่นนั้นเข้ามา และมาดูกันว่าลิ้นไก่ของเจ้ายาวแค่ไหน"
"สามห้าว!" เฟิงหยางรู้สึกโกรธเกรี้ยวมาก เหตุผลที่มันนำม้วนคำสั่งออกมาก็เพื่อบังคับให้หลิงฮันคุกเข่าลงเพื่อดูพิธีแต่งงานอย่างเงียบๆ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
และตอนนี้...หลิงฮันยังสามารถต่อต้านอำนาจของม้วนคำสั่งได้
"ตาย!" เฟิงหยางหมดความอดทน ระดับความสามารถของหลิงฮันทำให้เกิดความหวาดกลัวอยู่ภายในใจของมัน ในแง่ของระดับบ่มเพาะพลังหลิงฮันอยู่ในระดับเดียวกับมันแล้วและยังมีผู้หนุนหลังที่ทรงพลังเหมือนกัน และตอนนี้ หลิงฮันยังต่อต้านม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้!
มันจะเป็นการดีที่สุดสำหรับมันที่จะกำจัดศัตรูแบบนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ด้วยการก้าวกระโดดเพียงครั้งเดียว เฟิงหยางมาถึงตัวหลิงฮัน มือขวาของมันแบออกและกดทับไปที่หลิงฮัน มันราวกับว่ามือของมันมีน้ำหนักเทียบเท่ากับภูเขา
หลิงฮันยกกำปั้นขึ้นมาเพื่อปัดป้อง
ปัง การโจมตีทั้งสองปะทะกัน และสามารถมองเห็นได้ว่าพลังก่อเกิดจากการโจมตีของพวกเขาทั้งสองคนแตกกระจายราวกับกระจก ชิ่ว ชิ่ว ชิ่ว มันกระเด็นออกไปทุกทิศทางในขณะนั้น ทุกคนถูกพลังของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณสะกดข่มอยู่ ทำให้พวกเขาไม่อาจปกป้องตัวเองได้ เมื่อเศษเสี้ยวของพลังก่อเกิดเฉี่ยวพวกเขาไป ทำให้เลือดของพวกเขาไหลออกมาทันที
ชายหนุ่มทั้งสองคนสลับตำแหน่งกันและจ้องมองกันด้วยสีหน้าจริงจัง ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่งทีเดียว
เฟิงหยางเก็บม้วนคำสั่ง มือขวาของมันสั่นเล็กน้อยและกระบี่ยาวได้ปรากฏอยู่ในมือของมัน
แหวนมิติ
ชายคนนี้ช่างหยิ่งยโสจริงๆ หลังจากที่มันได้รับสมบัติดังกล่าวมา มันก็กล้าที่จะแสดงสมบัติดังกล่าวในที่สาธารณะ มันไม่เกรงกลัวว่าแหวนมิติจะดึงดูดความอิจฉาของผู้คนเลยรึ?
หลิงฮันชักดาบของเขาออกมา แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่ดาบกำเนิดมาร เขาจะแสดงอาวุธวิญญาณระดับสิบออกมาง่ายๆได้อย่างไร?