ตอนที่ 254 มุ่งหน้าสู่ที่พักตระกูลหลิว
องค์ชายเจ็ดรู้จักวิธีการวางตัว เขาไม่แสดงท่าทียิ่งยโสในฐานะคนสนับสนุนหรือขอให้หลิงฮันทำอะไรตอบแทนแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่พูดถึงวิธีการที่เขาจะลงมือร่วมกับหลิงฮันในวันพรุ่งนี้
เมื่อพวกเขาทั้งสองพูดคุยกันมาเป็นเวลานาน องค์ชายเจ็ดก็ขอตัวกลับ หลิงฮันไปส่งเขาที่หน้าประตูและพูด “ข้าจะไปหาองค์ชายเพื่อร่วมกินดื่มกันในอนาคต”
“แน่นอน!” องค์ชายเจ็ดหัวเราะ เขารู้แล้วว่าในที่สุดหลิงฮันก็ยอมรับในตัวเขา
องค์ชายทั้งสามล้วนแต่ต้องการความช่วยเหลือของหลิงฮันแทนที่จะเป็นเฟิงหยาง เพราะจักรพรรดิพิรุณต้องไม่ยอมแน่หากมีนิกายจันทราเหมันต์เข้ามาแทรกแซงการแย่งชิงบัลลังก์ของแคว้นพิรุณ
ดังนั้นถึงแม้องค์ชายหนึ่งกับองค์ชายสามจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลิงฮัน พวกมันก็ไม่มีทางเปลี่ยนฝั่งไปอยู่กับเฟิงหยาง
ค่ำคืนผ่านไปและวันแต่งงานของเจ้าหญิงตระกูลหลิวก็มาถึง
ผู้คนที่พอจะมีสถานะอยู่บ้างล้วนแต่ให้ความสนใจไปยังตระกูลหลิว วันนี้อาจจะเกิดพายุลูกใหญ่ขึ้นที่ตระกูลหลิวก็ได้ แต่ถ้าหลิงฮันขี้ขลาดและไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็จะเป็นวันที่สาวงามราวกับเทพธิจะต้องแต่งงานกับเศษขยะ
“หนิวหนิวพร้อมรึยัง?” หลิงฮันถาม
“รอก่อน หนิวจะต้องดูงดงาม!” ฮูหนิวพูดขึ้นมาจากภายในห้อง
หลิงฮันหัวเราะและเข้าไปดู ฮูหนิวกำลังแต่งหน้าอยู่ตรงกระจก นางขีดเขียนใบหน้าเล็กๆของนางให้กลายเป็นสีแดงและสีเขียวจนดูราวกับเป็นปีศาจน้อย หลิงฮันเดินเข้าไปพร้อมกับยิ้มผ้าขนหนูออกมาเช็ดหน้าเด็กสาว “หนิวหนิวไม่ต้องแต่งหน้าก็ดูงดงามที่สุดอยู่แล้ว”
ฮูหนิวรู้สึกพึงพอใจและยอมให้หลิงฮันเช็ดใบหน้าของนาง
หลิงฮันส่ายหัว เด็กสาวคนนี้ต้องเรียนรู้มาจากหลิวอู๋ตงกับหลีซื่อฉางแน่ๆ สตรีนี่ช่างมีนิสัยต้องการให้ตัวเองงดงามจริงๆ แม้แต่เด็กเล็กๆแบบนี้ยังเรียนรู้การแต่งหน้าเสียแล้ว
“ไปกันเถอะ!” หลิวฮันจับมือเล็กๆของฮูหนิวและเดินออกจากห้อง เมื่อพวกเขาเดินมาถึงลานภายนอก กว่างหยวน ชูหวู่จิว จิงหวู่จื้อและหลี่เฮ่าก็เดินเข้ามา
“เจ้าหนู เจ้าคิดจะไปสร้างความวุ่นวายจริงๆงั้นรึ?” กว่างหยวนถามอย่างไม่เห็นด้วย
“ถ้าเจ้ากลัวก็ไม่ต้องตามมา” หลิงฮันพูดอย่างสงบนิ่ง
“เหอะ ข้าจะกลับคำพูดของตัวเองได้อย่างไร?” กว่างหยวนเค้นเสียงและชี้ไปยังหลิงฮัน “อย่าไรก็ตาม ถ้าวันนี้ข้าต้องตายอยู่ในที่พักตระกูลหลิว แม้จะกลายเป็นผีข้าก็จะไม่ยกโทษให้เจ้า!”
“จากที่ข้าเห็น พี่ชายกว่างนั้นเป็นคนที่โชคดีอย่างมากและไม่อายุสั้นแน่นอน” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้านั่นแหละเป็นดาวแห่งความโชคร้ายของข้า!” กว่างหยวนยังคงมีท่าทีไม่พอใจ
หลิงฮันหัวเราะลั่น กว่างหยวนยังคงตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขา ซึ่งหลิงฮันรู้สึกดีใจมาก เขามองคนไม่ผิดจริงๆ ในเมื่ออีกฝ่ายยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเขาขนาดนี้ งั้นเขาก็จะไม่ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายอย่างไม่เท่าเทียม
ถ้าวันนี้กว่างหยวนพบเจออันตรายจนถึงชีวิต เขาจะพาตัวกว่างหยวนเข้าไปหอคอยทมิฬแม้จะต้องเปิดเผยว่าเขาครอบครองสมบัติระดับพระเจ้าอยู่ก็ตาม
ชูหวู่จิวกับคนอื่นไม่ได้พูดอะไร พวกเขาทำเพียงเดินตามหลิงฮันอย่างเงียบๆ
จุดหมายคือที่พักตระกูลหลิว!
พวกเขาหกคนเดินไปถึงที่พักตระกูลหลิวอย่างรวดเร็ว ประตูหน้าที่พักขนาดใหญ่เปิดกว้างอยู่ พร้อมกับมีพรมแดงปูเอาไว้ที่พื้น คนรับใช้มากมายกำลังยืนต้อนรับแขกที่หน้าประตู ส่วนคนที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานแต่งงานก็ยืนรอดูเรื่องสนุกๆอยู่ข้างนอก
หลิงฮันเดินเข้าไป ชูหวู่จิวกับคนอื่นๆอีกสี่คนเดินตามหลังเขา เพราะตัวละครหลักในวันนี้คือหลิงฮัน
“นายน้อย โปรดแสดงบัตรเชิญด้วย” คนรับใช้เดินเข้ามาหาพวกเขาและยิ้มให้กับหลิงฮัน
หลิงฮันยิ้มและถาม “ถ้าหากข้าไม่มีบัตรเชิญล่ะ?”
“ถ้าไม่มีบัตรเชิญก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้!” คนรับใช้ยังคงยิ้มออกมา วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีของตระกูลหลิว การไม่สร้างปัญหาอะไรจะเป็นเรื่องดีที่สุด ยิ่งกว่านั้นมันยังไม่สามารถมองเห็นพลังบ่มเพาะของหลิงฮัน ซึ่งแสดงว่าอีกฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่ามัน ถ้าต้องปะทะกันมันจะต้องเป็นฝ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ดังนั้นมันจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้หลิงฮันกลับไปอย่างสันติ
หลิงฮันยิ้มและพูด “ข้าคือหลิงฮัน จะเป็นไปได้รึไม่ที่ข้าจะได้รับการยกเว้นและเข้าร่วมได้เป็นกรณีพิเศษ?”
หลิงฮัน!
คนรับใช้คนนั้นรู้สึกหวาดกลัว มันเคยได้ยินชื่อหลิงฮันมาก่อน ต้องบอกว่าเหตุผลที่หลิวอู๋ตงต้องแต่งงานนวันนี้เป็นเพราะหลิงฮัน ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงฮันเป็นศัตรูกับเฟิงหยาง หลิวอู๋ตงจะไปแต่งงานกับคนอย่างเฟิงหมิงได้อย่างไร?
“เป็นนายน้อยหลิงนี่เอง เชิญเลย!” คนรับใช้แสดงท่าทางเพื่อให้หลิงฮันผ่านเข้าไป
หืม? เขาไม่ถูกห้ามงั้นรึ?
ตอนแรกหลิงฮันคิดจะใช้กำลังผ่านเข้าไป แต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะสามารถผ่านประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ เหอะๆ ดูเหมือนว่าตระกูลหลิวก็ยังลังเลกับงานแต่งงานนี้และไม่ยินยอมจะเป็นเครื่องมือของเฟิงหยาง ดังนั้นภายในตระกูลจึงมีสองฝ่ายที่ขัดแย้งกัน
เขาเดินผ่านประตูหลักเข้าไป ใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างนอกตาไวและมองเห็นหลิงฮันเดินผ่านเข้าไปโดยไม่ต้องแสดงบัตรเชิญ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนด่าเพราะรู้สึกไม่ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม คนรับใช้ได้มองไปที่พวกเขาและพูด “คนคนนั้นคือหลิงฮัน นายน้อยหลิง!”
ผู้คนสงบนิ่งทันที แต่ความสงบนิ่งนั้นก็เกิดเพียงชั่วขณะก่อนที่พวกเขาจะเริ่มกระซิบพูดคุยกัน หลิงฮันมาร่วมงานแต่งจริงๆด้วย วันนี้จะต้องมีการแสดงสนุกๆให้ดูอย่างแน่นอน
“นี่พี่ชาย ให้พวกเราเข้าไปดูหน่อยเถอะ!”
“ใช่แล้ว พวกเราไม่ได้จะเข้าไปกินอาหารฟรีนะ ขอแค่มีที่ให้ยืนดูก็พอแล้ว”
“หรือจะให้พวกเราจ่ายค่าเข้าก็ได้”
คนรับใช้จ้องไปที่พวกเขาและพูด “พวกเจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหน? ตลาดหรือเวทีประลองรึไง? ถ้าใครยังกล้าพูดไร้สาระอยู่อีกจะต้องถูกจับกุม!”
ตระกูลหลิวเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ ต่อให้เป็นคำขู่ของคนเฝ้าประตูก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ คำพูดของคนรับใช้ทำให้พวกเขาหุบปากและไม่กล้าพูดอะไรต่อ
แน่นอนว่าข่าวนี้ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะอย่างไรหลิงฮันก็เป็นคนที่ทำให้เกิดงานแต่งงานนี้ขึ้นมา เขาคือหนึ่งในตัวละครหลัก ข่าวการมาถึงของหลิงฮันได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งที่พักตระกูลหลิวอย่างรวดเร็ว เหล่าแขกที่มาเข้าร่วมงานแต่งดูเหมือนกับกำลังรอดูการแสดงอะไรบางอย่างอยู่
“หลิงฮัน!” “นายน้อยฮัน!” “คุณชายหลิง!”
ผู้คนมากมายเข้ามาทักทายเขา มีเพียงองค์ชายหนึ่งกับองค์ชายสามเท่านั้นที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนโดยมีสีหน้ามืดมน เห็นได้ชัดว่าองค์ชายทั้งสองไม่พอใจอย่างมากที่หลิงฮันไม่ฟังคำเตือนของพวกมันและมาร่วมงาน
หลิงฮันประสานมือทักทายไปยังแขกทุกคน
“พี่ชายหลิง!” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหลิงฮัน มันดูมีอายุประมาณสิบห้าถึงสิบหกปี บนใบหน้าของมันมีความเขินอายอยู่เล็กน้อย แต่ลึกเข้าไปภายในดวงตาของมันกลับปรากฏความมืดมิดอันไร้ก้นบึ้ง
หยานเทียนจ้าว
หลิงฮันพยักหน้าและรู้สึกตกตะลึงในทันที เขาไม่สามารถมองเห็นพลังบ่มเพาะของชายหนุ่มตรงหน้าได้!