TQF:บทที่ 12 สัตว์วิญญาณ
TQF:บทที่ 12 สัตว์วิญญาณ
“มีอะไรผิดปกตินั่นหรอ?”ผู้เฒ่าหนิงไม่คาดคิดว่าจะเจอคำถามนี้เขารู้สึกงงๆจากนั้นเขาถามกลับว่า
“ผู้เฒ่าหลำมันมีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่ใช่ว่ามีปัญหา หรือจะให้พูดก็คือ สิ่งนี้มันยอดเยี่ยมมาก นี่คือ…”ผู้เฒ่าหลำส่ายหน้าปฏิเสธและพบว่าเขากำลังถูกจ้องมองจากทุกคน จากนั้นเขาจึงชี้ไปที่เนื้อกระต่ายบนโต๊ะ
“พวกเจ้าทุกคนลองกินสิ่งนี้!”
ทุกคนหันมองกันไปมาและมองเนื้อกระต่ายที่อยู่บนโต๊ะในเวลาเดียวกัน จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ยกตะเกียบและหยิบเนื้อกระต่ายเข้าไปในปากของพวกเขา
พฤติกรรมแปลกๆนี้ได้รับความสนใจจากทุกคนที่อยู่ในโรงครัว พวกเขาหยุดทำทุกสิ่งอย่างและกำลังมองพฤติกรรมเหล่านี้ พ่อบ้านที่อยู่นอกห้องรับประทานอาหาร รู้สึกสับสนเขาเป็นกังวลเรื่องที่เกิดขึ้น เขาใช้แขนเสื้อตัวเองเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก
บัดซบ!นี่เป็นแขกพิเศษของท่านอาจารย์ หากเป็นไปได้ถ้าไม่ควรซื้อไก่และกระต่ายเหล่านี้จากแหล่งที่ไม่รู้จัก เกิดอะไรขึ้นถ้ามันมีเรื่องผิดพลาด?เขาจะต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน
ภายใต้การจ้องมองของทุกคนผู้อาวุโสต่างรู้สึกประหลาดใจ หนึ่งในนั้นอดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า
“เกิดอะไรขึ้น?รสชาติแบบนี้นี้มันเหมือนกับเนื้อสัตว์วิญญาณ ผู้เฒ่าหนิงเจ้าหาเนื้อสัตว์พวกนี้มาได้อย่างไร”
เนื้อสัตว์วิญญาณ?
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง ทุกคนดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อโดยเฉพาะพ่อบ้านที่กำลังเสียใจกับการตัดสินใจของเขาเขายืนอยู่ที่นั่นด้วยอาการตกตะลึง ทันใดนั้นฉากที่สับสนวุ่นวายก็เงียบสงบลงทุกคนหันไปมองผู้เฒ่าหนิงเป็นสายตาเดียวกันเพื่อหาคำตอบ
ผู้เฒ่าหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาหันกลับไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านนอก
“เฒ่าฮุย มาที่นี่?เนื้อเหล่านี้เจ้านำมันมาจากที่ไหน”
ทุกคนในตระกูลหนิงรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สัตว์ที่พวกเขาเลี้ยงดังนั้นต้องซื้อมาจากภายนอกอย่างแน่นอน พ่อบ้านเดินเข้ามาภายใต้การจ้องมองของทุกคน เขาป้องมือคารวะทุกคนก่อนจะหันไปหาผู้เฒ่าหนิงและพูดว่า
“ท่านอาจารย์ไก่และกระต่ายเหล่านี้ซื้อมาจากท่านพ่อบ้านเกา ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันเลย”
“เกาหยาง?”ผู้เฒ่าหนิงรู้สึกแปลกใจ
“ผู้เฒ่าหนิง ทำไมท่านไม่เชิญ เกาหยางมาที่นี่เพื่อเล่าให้พวกเราฟังว่าเกิดอะไรขึ้น” มันเป็นเสียงของผู้เฒ่าหลำ ทุกคนเองก็พยักหน้าเช่นกันเขาอยากรู้ว่าเนื้อเหล่านี้มาจากที่ไหน
ผู้เฒ่านี้ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า
“ทุกคนเกาหยางนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าให้เขาไปทำธุระให้ข้าเมื่อเช้านี้”
“ฮึ..”
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่พอใจกับคำตอบ แต่ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาทำได้
“พี่ชายหนิงเมื่อไหร่เกาหยางจะกลับมา?”ชายชราในชุดสีเทาถาม
“เร็วสุดก็ครึ่งเดือน!”ผู้เฒ่านี้ตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ขมขื่น
ทุกคนรู้สึกผิดหวังมาก
พ่อบ้านที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาพูดอีกครั้งว่า
“ท่านอาจารย์ไก่และกระต่ายพวกนี้ถูกนำมาโดยแม่ลูกคู่หนึ่ง ท่านต้องการให้ข้าค้นหาพวกเขาหรือไม่?”
จากคำพูดของพ่อบ้านนำความหวังมาสู่ทุกคนอีกครั้งสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือตามหาแม่และลูกสาวสองคนนั้นพวกเขาต้องการหาแหล่งที่มาของสัตว์วิญญาณเหล่านี้ ผู้เฒ่าหนิงเห็นปฏิกิริยาของทุกคนและพยักหน้าเบาๆจากนั้นพูดว่า
“ตกลง เจ้าไปจัดการซะหากพบแม่และลูกสาวคู่นั้นอย่าลืมที่จะสุภาพกับเขาและเชิญพวกเขามาที่นี่”
“ขอรับ!”
ในขณะที่คนตระกูลหนิงกำลังตามหานางเฉิงและ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พวกเธอทั้งสองคนยังไม่รู้ว่าได้รับความสนใจผู้คนมากมาย
ภายในมิติ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เก็บเกี่ยวกะหล่ำปลีของเธอ มิติได้ยกระดับมาเป็น เลเวล 3 แล้ว และเมื่อมองไปในคลังสินค้ามันเต็มไปด้วยหัวไชเท้ากะหล่ำปลีและกระเทียม เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รู้สึกมีปัญหาเล็กน้อย แม้ว่าพืชเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่แย่แต่เธอไม่สามารถปลูกพืชชนิดเดียวไปได้ตลอดเธอต้องการปูอย่างอื่นด้วย เธอคลิกเข้าไปบนหน้าจอมอนิเตอร์ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว มองไปที่ข้าวบาร์เลย์และข้าวโพด บ้านเฉิงนั้นทุกวันนี้พวกเขายังคงรับประทานโจ๊กหรือบะหมี่ข้าวโพด สำหรับคนที่โตมากับการกินข้าวอย่างเธอต้องการที่จะปลูกข้าวอย่างแน่นอน หลังจากคิดเพิ่มเล็กน้อยเธอก็คลิกไปที่ข้าวและหว่านเมล็ดข้าวทั้ง 10 แปลง รวมทั้งสิ่งของที่ได้มา 5 รายการเป็นรางวัลจากการเพิ่มระดับนั้นขึ้นว่าเธอจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในวันรุ่งขึ้น
ความคิดที่จะได้กินข้าวสดใหม่ในวันรุ่งขึ้นทำให้เธอหัวเราะอย่างมีความสุข เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เดินออกจากกระท่อมและไปนั่งที่สระน้ำเธอมองดูปลาตัวโตที่อยู่เต็มสระมันนึกถึงซุปปลาในค่ำคืนนี้ จากนั้นเธอยิ้มอย่างสดใส แต่รอยยิ้มของเธอค่อยๆจางลงและนึกถึงอาการบาดเจ็บ ของ เฉิงไป๋หยวน เธอนั่งอยู่ใกล้สระน้ำและขบคิด
“ไม่ว่ายังไงข้าจะพยายามยกระดับมิติขึ้นอีก ไม่เพียงแต่มีการปลูกพืชมากขึ้นแต่อาจจะมีปฏิหารอื่นๆอีกด้วย!”
หลังจากตัดสินใจได้เธอออกมาจากมิติและสังเกตเห็นว่าในขณะนี้มันเกือบจะมืดแล้วเธอจึงไปช่วยแม่ของเธอเตรียมอาหารเย็น คืนนั้นครอบครัวของพวกเขามีซุปปลาและปลาทอดที่แสนอร่อย เด็กทุกคนตื่นเต้นและไม่ได้ถามว่าปลาเหล่านี้มาจากไหน ภายในห้องครัว เฉิงไป๋หยวน กำลังแสดงออกถึงความประหลาดใจหลังจากที่ กินซุปปลาเข้าไป จากนั้นความประหลาดใจของเขาก็กลายเป็นความกังวล เขามองไปที่ภรรยาของเขาและพูดว่า
“ภรรยาเจ้าได้ชิมซุปปลาหรือเปล่า”
“ใช่ข้าได้กินแล้ว ท่านจะบอกว่าในซุปปลานี้มีพลังวิญญาณใช่หรือไม่?”นางเฉิงถอนหายใจอย่างแผ่วเบา เฉิงไป๋หยวน จึงไม่พูดอะไรมากเพียงแค่ดื่มซุปปลาอย่างเงียบๆ นางเฉิงพูดเบาๆกับตัวเอง
“ข้าสงสัยว่านี่เป็นพรหรือเป็นคำสาปกันแน่”
“มันต้องเป็น พร อย่างแน่นอน!” เฉิงไป๋หยวน พูดด้วยท่าทางมั่นใจ
“แม้ว่ามันจะเป็นปัญหาแต่มันยังคงเป็นพรที่พระเจ้าต้องการให้พวกเราประสบความสำเร็จและไม่ให้ใครรังแกเราได้อีกต่อไป !”
“ท่าน……”นางเฉิงมอง เฉิงไป๋หยวน มีความกังวล
“หยูฉิน ไม่ต้องกังวลไป สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เสี่ยวเสี่ยว ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย” เฉิงไป๋หยวน ให้ความมั่นใจนางเฉิงและพูดว่า
“เจ้าต้องให้ความสนใจในการดูแล เจิ้งหยวน และ เจิ้งปิน ให้มากขึ้นพวกเขาจะต้องไม่ลืมที่จะศึกษาเล่าเรียนและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้”
“ข้าทราบแล้ว!” นางเฉิง ตอบด้วยความอ่อนโยน
“การที่เรามีไก่และกระต่ายมันทำให้เรามีเสบียงเพียงพอที่จะอยู่อีกสักพัก”ในใจของ เฉิงไป๋หยวน เขาไม่ต้องการให้ภรรยาและลูกสาวของเขาได้ขายสิ่งเหล่านี้
นางเฉิงพยักหน้า “เสี่ยวเสี่ยว บอกข้าว่านางกำลังปลูกข้าวในมิติและมันจะเก็บเกี่ยวได้ในวันพรุ่งนี้ พวกเราจะมีผักและข้าวดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องขายอะไรในตลาด แต่…”
เธอมองไปที่เขาอย่างเจ็บปวด “พวกเราต้องการยาสำหรับท่าน!”
“ไม่ต้องรีบ ข้าคิดว่าสมุนไพรที่ เสี่ยวเสี่ยว นำกลับมาบ้านนั้นค่อนข้างดี!”
----------------------------------------------