TQF:บทที่ 7 บอกความจริงกับพ่อแม่
TQF:บทที่ 7 บอกความจริงกับพ่อแม่
“ถ้าอย่างนั้นให้ เสี่ยวเสี่ยว จัดการเถอะ!”
นั่นคือคำพูดของ เฉิงไป๋หยวน และ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รีบไปจัดการทันทีเพื่อหลบหนีสายตาที่จ้องมองจากพ่อของเธอ หลังจากนั้นทุกคนในครอบครัวก็ทำหน้าที่ของตัวเอง
วันนี้อาหารเย็นค่อนข้างมีจำนวนมากทุกคนรู้สึกยินดีโดยเฉพาะบรรดาน้องๆของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พวกเขาแต่ละคนก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ในชาม พวกเขากินอย่างมีความสุข พวกเขาลูบท้องที่ยื่นออกมาและหัวเราะ ในช่วงเวลากลางคืนมีเพียงห้องของท่านพ่อและท่านแม่เท่านั้นที่มีแสงเทียนเด็กๆทั้ง 4 คนต้องกลับเข้าไปนอนในห้องของตัวเอง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เข้าสู่มิติของเธอเธอเก็บเกี่ยวทุกอย่างที่ทำได้ เธอปลูกหัวผักกาดขาวและกะหล่ำปลีมากขึ้น เธอไม่ได้ออกจากมิติทันทีเธอยังคงนั่งอยู่ในกระท่อมนี้สภาพจิตใจของเธอค่อนข้างสับสน
เธอกำลังสับสนว่าจะบอกความจริงแก่พ่อแม่ของเธอหรือไม่ มันจะทำให้ช่วงเวลาที่เธอนำสิ่งของออกมาจากมิตินั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง มันไม่เหมือนกับที่เธอบอกไปว่ามีสัตว์จำนวนมากปรากฏอยู่ในถ้ำ มันยากที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เธอจะอธิบายอย่างไรให้พวกเขายอมรับได้? เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตีหน้าผากของตัวเองและลุกขึ้นอย่างหมดหนทาง
ในวันรุ่งขึ้น เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ใช้ยาปรุงเป็นอาหารให้กับท่านพ่อของเธอและเธอก็ใช้ข้ออ้างนี้ไม่ขึ้นไปบนภูเขาแต่เธอส่งน้องชายและน้องสาวออกไปเก็บผักริมแม่น้ำแทน เมื่อเธอเห็นแม่ของเธอปรุงอาหารที่ผสมสมุนไพรเสร็จและนำเข้าไปยังห้องของพ่อเธอเธอติดตามเข้าไปอย่างใกล้ชิดเพื่อดูเขากินยาอย่างเงียบๆ
สักครู่ต่อมา!
เขากินยาหมดทั้งชาม เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เดินไปที่เตียงและถามขึ้นเบาๆ
“ท่านพ่อท่านรู้สึกยังไงบ้าง?สมุนไพรนี้ดีหรือไม่?”
“ดีมาก!” เฉิงไป๋หยวน พูดขึ้นในขณะที่เขามองไปที่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว สายตาของเขาอ่อนลง นางเฉิงวางชามไว้แล้วนั่งข้างเตียงเธอยิ้มแย้มแล้วพูดว่า
“เสี่ยวเสี่ยว เมื่อคืนท่านพ่อของเจ้าบอกว่าเขารู้สึกดีมากอาการเจ็บปวดนั้นลดลงดูเหมือนสมุนไพรที่เจ้านำมาจะช่วยได้จริงๆ”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พยายามฝืนยิ้มแต่ก็ล้มเหลวดังนั้นเธอจึงพยักหน้าแทน การแสดงออกของเธอไม่สามารถหลบสายตาของ เฉิงไป๋หยวน ได้ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า
“เสี่ยวเสี่ยว มีอะไรในใจอย่างนั้นหรอ”
“ข้า……”ภายใต้รูปลักษณ์ที่อยากรู้อยากเห็นของพ่อแม่ของเธอเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี นางเฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเธอดึงลูกสาวของเธอมาในอ้อมแขนแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เด็กโง่ ทำไมเจ้าไม่แบ่งปันความทุกข์กับพ่อแม่ของเจ้าเล่า?ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ยังเป็นลูกสาวที่ดีของพวกเรา”
แต่ฉันไม่ใช่ลูกสาวตัวจริงของคุณ!
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รู้สึกอารมณ์แปรปรวน เมื่อก่อนเธอเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่ที่คุณย่าของเธอได้เสียชีวิตไปแม้ว่าจะมีทหารบางคนให้เงินช่วยเหลือและค่าเล่าเรียนแก่เธอ แต่เธอก็ไม่เคยพบเห็นบุคคลนี้ เธอได้รับการเลี้ยงดูจากทุกคนในหมู่บ้าน
แต่ในตอนนี้เธอมีพ่อแม่ ใน 2 สัปดาห์ที่เธออยู่ในครอบครัวนี้เธอรู้สึกตกหลุมรักบ้านแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข
“เสี่ยวเสี่ยว แม่ของเจ้าพูดถูก เราเป็นครอบครัวเดียวกันเจ้าสามารถพูดเรื่องหนักใจกับเราได้” เฉิงไป๋หยวน กระตุ้นในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด
โดยธรรมชาติแล้วตัว เฉิงไป๋หยวน นั้นมีความอยากรู้อยากเห็น และเมื่อมีโอกาสที่ลูกสาวของเขาจะเปิดเผยความลับเขาจึงผลักดันให้เธอมีความกล้าที่จะพูด
เธอมองตาพ่อแม่ของเธอและพยายามสงบลง หลังจากเงียบสักพักเธอก็พูดว่า
“ท่านพ่อท่านแม่ไม่มีไก่หรือกระต่ายอยู่ในถ้ำ”
“อะไรนะ!”นางเฉิงอุทาน
เฉิงไป๋หยวน ไม่ได้มีปฏิกิริยามากเกินไปเขายังคงมองดูลูกสาวของเขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าและรอคำอธิบายเพิ่มเติมจากเธอ
“นี่…..” นางเฉิง มองดูลูกสาวของเธอจากนั้นหันไปมองผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงเธอกำลังสับสน
“นี่...เกิดอะไรขึ้นกับ เสี่ยวเสี่ยว”
ในที่สุดนางเฉิงที่มีท่าทางสับสนก็รู้สึกสงบลงเมื่อสังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นและที่สำคัญมันเกิดขึ้นกับลูกสาวของเธอ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ยิ้ม แต่ไม่ได้อธิบายทันทีเธอพูดเบาๆว่า
“ท่านพ่อท่านแม่ท่านยังจำได้ไหมว่าข้าหมดสติเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว?”
“แน่นอน”นางเฉิงตอบทันที เฉิงไป๋หยวน ไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เขาจดจำได้เช่นกัน
“ท่านพ่อท่านแม่ เมื่อข้าฟื้นสติขึ้นมาข้าได้สูญเสียความทรงจำในอดีตไปทั้งหมด แต่ถ้าได้รับบางสิ่งบางอย่างมาเช่นกัน สิ่งนั้นคือภายในจิตของข้ามีมิติเกิดขึ้น ในนั้นถ้าสามารถปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ได้ และนั่นคือคำอธิบายว่า หัวไชเท้า ไก่ และกระต่ายมาจากไหน”
“จริงอย่างนั้นหรอ!”
นางเฉิงหน้าซีดมองลูกสาวของเธอขึ้นลงและถามอย่างกังวล
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?รู้สึกไม่สบายหรือเปล่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?มันมีผลข้างเคียงต่อร่างกายของเจ้าหรือไม่?โอ้สวรรค์ทำไมสิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้น…”
นางเฉิงรู้สึกกังวลและหวาดกลัว ไม่ใช่เพียงแค่เธอเท่านั้นที่รู้สึกแม้แต่ เฉิงไป๋หยวน ที่นอนอยู่บนเตียงก็ดูหน้าซีดเซียวและมีความประหลาดใจ เขากำลังคิดคำอธิบายมากมาย แต่เขาไม่ได้นึกถึง มิติที่เกิดขึ้นเองในจิตของลูกสาวของเขา? มันทำให้เธอสามารถปลูกผักหรือเลี้ยงสัตว์ได้?
เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยได้ยินอะไรที่เรียกเกี่ยวกับ “มิติ”และมันเกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์ได้อย่างไร เฉิงไป๋หยวน ขมวดคิ้วอย่างขบคิด ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็กระพริบราวกับเขาจำเรื่องบางสิ่งได้ จากนั้นในดวงตาของเขาก็มีประกาย
“ท่านแม่ข้าสบายดี เห็นไหม?” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว บอกกับนางเฉิงที่กำลังร้องไห้เธอกำลังรู้สึกสับสนและทำอะไรไม่ถูก เธอไม่ได้รอคำตอบจากแม่ของเธอจากนั้นเธอพูดต่อ
“ท่านแม่ท่านไม่ต้องกังวล มิตินี้เป็นพรสำหรับพวกเรา ไม่ต้องกังวลมันไม่ได้ทำร้ายข้าแต่อย่างใด”
“หยูฉิน (ชื่อนางเฉิง) เสี่ยวเสี่ยว พูดถูก นี่เป็นพรจากสวรรค์ที่ให้กับครอบครัวเราไม่อย่างนั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่ครอบครัวของเราจะอยู่รอด”
“ท่านที่…..” นางเฉิง เช็ดน้ำตาจากนั้นมองดูลูกสาวของเธอและพยักหน้าเล็กน้อย
“ท่านพี่พูดถูก ครอบครัวของเราจะดีขึ้นด้วยความสามารถในการ เสกคาถาของ เสี่ยวเสี่ยว”
เสกคาถา?
เสี่ยวเสี่ยว ไม่แน่ใจว่าเธอควรเห็นด้วยกับความคิดนี้หรือไม่ ในความเป็นจริงเธอสามารถทำฟาร์มและเลี้ยงสัตว์ได้ในมิติมันอาจจะเทียบได้กับคำว่าเสกคาถาจากแม่ของเธอ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดเธอก็ไม่สามารถอธิบายเกี่ยวกับการทะลุมิติมาพร้อมกับ QQ ฟาร์ม ดังนั้นเธอจึงไม่ขัดคำพูดของแม่เธอ
หลังจากอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับความเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นของท่านพ่อและท่านแม่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ก็ได้นำหัวผักกาดขาว ไก่ และกระต่ายออกมาจากมิติ หลังจากที่ เฉิงไป๋หยวน และ นางเฉิง ได้เห็นว่าลูกสาวของเขาสามารถผลิตสิ่งของออกมาได้จากอากาศ ตอนนี้นางเฉิงเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าลูกสาวของเธอนั้นมีความสามารถในการเสกคาถา
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าบอกว่าเจ้าสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 8 ชั่วโมงอย่างนั้นหรอ” เฉิงไป๋หยวน ถาม
“ใช่แล้วท่านพ่อ”
-------------------------------------------