TQF:บทที่ 4 ท่านพ่อที่ชาญฉลาด
TQF:บทที่ 4 ท่านพ่อที่ชาญฉลาด
“โอ้ ขอบคุณสวรรค์!”
นางเฉิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นไก่ที่ผูกอยู่บนเอวของพวกเขา
“ไก่ 2 ตัวนี้จะเป็นสารอาหารที่สมบูรณ์ให้กับท่านพ่อของพวกเจ้า”
จากนั้นเธอมองไปที่ใบหน้าที่มีความหวังของเด็กๆและยิ้มอย่างต่อเนื่อง
“ท่านพ่อจะได้ซุปไก่ส่วนพวกเจ้าจะได้กินเนื้อ!”
“เย้!คืนนี้ได้กินเนื้อไก่!”
“ท่านแม่ ถ้าต้องการน่องของมัน!”
เจิ้งปิน และ หลานหลาน ที่อายุน้อยที่สุดทั้งสองคนยิ้มอย่างสดใสพร้อมกับปรบมืออย่างสนุกสนาน นางเฉิง เฉิงเสี่ยวเสี่ยว และ เจิ้งหยวน ต่างหัวเราะพร้อมกัน บ้านฟางหลังเล็กๆนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ หลังจากนั้นทุกคนเริ่มลงมือช่วยกัน ฆ่าไก่และจุดไฟ เด็กน้อยที่อายุน้อยสุดทั้ง 2 คนนำหัวไชเท้ามารองท้องขณะที่รออาหารมื้อใหญ่
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น!
พี่น้องทั้ง 4 คนนั่งอยู่รอบโต๊ะสายตาของพวกเขามองไปที่ชามอยู่ด้านหน้า ไม่มีใครที่แตะต้องตะเกียบ
“เสี่ยวเสี่ยว--”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว หันไปตามเสียง นางเฉิงเดินมาหาเธอ “เสี่ยวเสี่ยวท่านพ่อของเจ้าต้องการที่จะคุยด้วย!”
“เจ้าค่ะ….” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ลังเลเล็กน้อยแต่ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเดินเข้าไปในห้องที่เธอไม่เคยเข้าไปมาก่อน เธอกำลังขบคิดเล็กน้อยว่าทำไมท่านพ่อของเธอจึงต้องการที่จะพูดคุยด้วย เธอยกม่านแล้วเดินเข้าไปในห้องของเขา เธอพบชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง เขาอายุประมาณ 36-37 ปี ใบหน้าของเขาค่อนข้างผอม คางแหลมและมีหนวดเล็กน้อย คิ้วของเขาชี้ขึ้น โดยรวมแล้วสมบูรณ์ ดูเหมือนท่านพ่อของเธอคนนี้จะไม่ใช่คนธรรมดา นั่นคือความคิดแรกที่แวะเข้ามาในหัวของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เธอไม่ได้แสดงออกบนใบหน้าของเธอเธอเดินเข้าไปและพูดเบาๆว่า
“ท่านพ่อ ท่านต้องการเจอข้าอย่างนั้นหรอ?”
“เสี่ยวเสี่ยว วันนี้เจ้าจับไก่ 2 ตัวในถ้ำและพบพืชที่กินได้ใช่ไหม”ดวงตาสีหมึกของ เฉิงไป๋หยวน นั้นเต็มไปด้วยการตรวจสอบ เขารู้จักลูกสาวของเขาดี ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอเป็นเด็กฉลาดและมีอารมณ์อ่อนโยนเก็บตัว เธอดูแลน้องชายและน้องสาวอย่างเงียบๆและเป็นเด็กที่เชื่อฟังเสมอ แต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา…. เธอเสียสละตัวเองเพื่อขัดขวางการโจมตีที่ประสงค์ร้ายกับเขาทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นไม่กี่วันเธอก็หมดสติ และเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาเธอบอกว่าเธอสูญเสียความทรงจำไปหมด สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจที่สุดก็คือลูกสาวที่แสนจะอ่อนแอของเขาสามารถจับไก่ในภูเขานำมาให้ครอบครัวได้
ตอนนี้เขาจึงรู้สึกสงสัย แต่มันเป็นความจริงที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้คือลูกสาวของเขา ไม่มีทางที่เขาและภรรยาจะสงสัยในเรื่องนี้ ไม่มีใครที่สามารถมีลักษณะที่เหมือนลูกสาวของเขาได้ขนาดนี้
“ใช่แล้วท่านพ่อ เสี่ยวเสี่ยว เข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้ตั้งใจจากนั้นก็เห็นไก่กำลังกินพืชบางอย่าง ข้าต้องการจับมันเพื่อนำมาบำรุงให้แก่ท่านพ่อ”
เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย หัวใจของเธอเต้นแรง เธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนโง่ที่จะถูกเธอหลอกแต่เธอไม่อาจบอกความจริงกับเขาได้ดังนั้นเธอจึงต้องสร้างเรื่องราวขึ้นมาปิดบัง
เฉิงไป๋หยวน มองไปที่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตรงๆและเขาสังเกตเห็นว่าไม่เพียงแต่ลูกสาวของเธอจะพยายามหลบเลี่ยงสายตาเท่านั้นดวงตาของเธอยังสั่นไหวเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังโกหก
เขาถอนหายใจช้าช้าและไม่ต้องการกดดันอีกต่อไป จากนั้นเขาเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุย
“อาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ท่านพ่อข้าหายดีแล้วไม่ต้องกังวล” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆเมื่อมองไปที่ใบหน้า ซีดๆของชายที่นอนอยู่บนเตียง จากนั้นเธอพูดว่า
“ท่านพ่อข้าจะขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้งเพื่อหาสมุนไพรมารักษาท่าน”
“สมุนไพร?ข้าคงเป็นภาระให้กับเจ้าและแม่ของเจ้า”
เขาส่ายหัวเล็กน้อยปรากฏรอยยิ้มที่ขมขื่น เขาจ้องมองเธอโดยตรงและพูดว่า
“เสี่ยวเอ๋อ ไม่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใด ข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“เจ้าค่ะ..ท่านพ่อ” หัวใจของเธอเต้นแรงเธอรู้สึกว่าพ่อของเธอกำลังรู้อะไรบางอย่าง แน่นอนว่าความหมายลึกซึ้งที่เขาแสดงออกมานั้นเธอสามารถรับรู้ได้- ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยังอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
“เจ้ายังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม ไปกินซะเถอะ เดี๋ยวมันจะมืดเกินไป!”
“ท่านพ่อ…” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว มองดูชายผู้เป็นพ่อของเธออย่างเศร้าโศก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและกำลังจะขยับปากพูดแต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เฉิงไป๋หยวน จับสังเกตได้เขารู้ว่ามีบางอย่างในใจของเธอดังนั้นเขาจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
หลังจากที่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว แสดงความลังเลเล็กน้อยเธอก็เปิดปากเบาๆและจ้องมองอย่างเคร่งเครียดเธอถามเบาๆว่า
“ท่านพ่อคนเหล่านั้นจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่”
ทำไมท่านพ่อถึงถูกทำร้าย?ใครเป็นคนทำ?นั่นคือคำถามที่เธออยากจะถาม ที่สำคัญที่สุดเธอไม่สามารถเข้าใจภูมิหลังของครอบครัวนี้ได้ เธอเชื่อว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องที่พ่อของเธอถูกทุบตีและนั่นคือคำตอบที่เธอต้องการที่สุด
เฉิงไป๋หยวน ที่อยู่บนเตียงจ้องมอง เฉิงเสี่ยวเสี่ยว อย่างจริงจังและพูดว่า
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรับรู้เรื่องนี้ พวกเขาได้ทำให้พ่อพิการแล้ว พ่อไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมาอีก”
“ท่านพ่อพวกเขาเป็นใคร บอกข้าได้ไหม...เพื่อที่เราจะได้…”
“เสี่ยวเสี่ยว ไปกินข้าวเย็นซะ!” เฉิงไป๋หยวน ขัดจังหวะเธอและพูดออกมาเสียงเข้ม เมื่อ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว มองดูท่านพ่อที่ไม่ยอมบอกความจริงกับเธอ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกไปจากห้องของเขา แม้ว่าเนื้อไก่จะอยู่บนโต๊ะอาหารแต่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ไม่ได้ตื่นเต้นเธอรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่เมื่อมองเห็นว่าพวกน้องๆของเธอมีความสุขมากแค่ไหนเธอจึงสามารถผ่อนคลายความกังวลได้ในขณะนั้น
ในตอนกลางคืน เฉิงเสี่ยวเสี่ยว นอนบนเตียงเดียวกับน้องสาวของเธอ เธอนอนไม่หลับมีสิ่งที่รบกวนจิตใจของเธออยู่เธอค่อนข้างแน่ใจว่าครอบครัวนี้มีเบื้องหลังบางอย่าง แต่พ่อแม่ของเธอไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยเรื่องนี้กับเธอ เธอไม่สามารถทำอะไรได้ดังนั้นเธอจึงทิ้งความคิดทั้งหมดและเข้าไปยังมิติของเธอ
หลังจากผ่านมาทั้งวันหัวไชเท้าสีขาวที่หน้ากระท่อมก็สุกพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว แต่เธอไม่ได้เก็บเกี่ยวในทันทีเธอไปเยี่ยมคอกสัตว์ ไก่ 5 ตัวและกระต่ายอีก 5 ตัวพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวแล้วเช่นกัน หลังจากดูผลใน 1 วัน เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ก็ยิ้มออกมาอย่างสดใส ผลิตผลในปัจจุบันและสัตว์เลี้ยงในฟาร์มของเธอเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับครอบครัว อีกไม่กี่วันมันสามารถนำไปขายทอดในตลาดได้จากนั้นพวกเขาจะมีเงินพอที่จะจ้างหมอมาตรวจรักษาร่างกายท่านพ่อของเธอ
เมื่อเข้าสู่บ้านหลังเล็ก เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เริ่มคลิกที่หน้าจอ สิ่งแรกที่เธอทำคือการไปดูคลังสินค้า ที่เธอกำลังกังวล…
-----------------------------