ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 10
ตอนที่ 10
ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น เย่อวี้เฉิงมาถึงบ้านคณบดีตามเวลาที่กำหนด
คณบดีเปิดประตู เชิญเย่อวี้เฉิงเข้าห้องรับแขก “อาเฉิง คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้แต่งงาน ทั้งชีวิตผมอุทิศให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลายปีมานี่เริ่มแก่แล้ว เลยให้คนอื่นรับช่วงดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต่อ แต่มีเด็กคนหนึ่งผมเป็นห่วง เลยรับเขามาเป็นลูกบุญธรรม”
“ครับ ผมเข้าใจ” เย่อวี้เฉิงพยักหน้า รู้จักกับคณบดีมาตั้งนาน ความลำบากและการอุทิศตนของคณบดีอยู่ในสายตาเขาเสมอ อีกทั้งยังศรัทธาในตัวเขามาก
“เด็กคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่น ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง กลัวการสื่อสารพูดคุยกับคนอื่น ก่อนหน้านี้เคยโดนเพื่อนผลักไส วันนี้เปิดเรียน เขาบอก เขาก็ไม่อยากไปโรงเรียน ผมจึงขอให้คุณช่วย ให้เขาไปอยู่กับคุณ ผมจะได้วางใจหน่อย”
เย่อวี้เฉิงพยักหน้า “มีปัญหาอะไร เขาไม่เหมือนกับคนอื่นตรงไหนเหรอครับ?”
คณบดีหัวเราะ รินชาลงในถ้วยชาให้เย่อวี้เฉิง “ผมไปเรียกเขาลงมา เดี๋ยวคุณก็รู้”
เมื่อร่างสูงแต่บอบบางของไมค์โผล่ออกมาให้เย่อวี้เฉิงเห็น เขาก็เข้าใจทันทีว่าที่คณบดีบอกว่า “เขาไม่เหมือนคนอื่น” นั้นหมายถึงอะไร
ไมค์เป็นคนผิวดำ ผมหยิก ถึงแม้ร่างกายของเขาจะสูง แต่แววตาดูมีความหวาดกลัว พอเดินลงมาก็หลบอยู่ด้านหลังคณบดี เห็นได้ชัดว่ามีการปกป้องตัวเองจากคนแปลกหน้า สายตาและท่าทางของเขา รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ความเขินอาย แต่มันคือความกลัว เย่อวี้เฉิงจิตนาการออกได้ไม่ยากกับร่างสูงและผิวดำของไมค์ มันทำให้เขาเป็นที่น่าตลกขบขัน โดนรังแกและโดนผลักไส
“นั่งสิ” คณบดีจูงมือไมค์ให้นั่งลงข้างๆ “พรุ่งนี้พ่อจะพาลูกไปโรงเรียน ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน สวัสดีผู้อำนวยการสิลูก”
ไมค์มองดูเย่อวี้เฉิงอย่างอายๆ ผงกศีรษะเล็กน้อย พูดเบาๆ ว่า “สวัสดีครับ”
“สวัสดี” สำหรับเด็กประเภทนี้ เย่อวี้เฉิงรู้ว่าจะต้องเป็นฝ่ายรุก “เธอชอบเล่นบาสเกตบอลไหม? ปีนี้ฉันตั้งทีมบาสเกตบอลที่โรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ย เธออยากจะเล่นบาสเกตบอลกับพวกเขาหรือเปล่า?”
ไมค์ไม่ตอบ แต่กลับมองไปทางคณบดีแทน คณบดีจึงตอบแทนเขา “ไมค์ชอบบาสเกตบอลมาก ปกติเขาชอบดูเอ็นบีเอเป็นที่สุด แต่เขาแทบไม่ได้เล่นบาสเกตบอลเลย” แต่สิ่งที่คณบดีไม่ได้พูดก็คือ เพราะไมค์รู้สึกว่าในเอ็นบีเอมีนักบาสเกตบอลผิวดำเหมือนเขาหลายคน ดังนั้นเขาจึงชอบดูเอ็นบีเอที่สุด
“จริงเหรอ? แล้วเธอชอบนักบาสเกตบอลคนไหนล่ะ”
“ลูกบอกผู้อำนวยการไปสิ ว่าลูกชอบคนไหน” คณบดีไม่ดูเอ็นบีเอจึงช่วยตอบคำถามให้ไมค์ไม่ได้จริงๆ
“ไอ...ไอเวอร์สัน” ไมค์ก้มหน้า ไม่กล้ามองเย่อวี้เฉิง
“ไอเวอร์สัน อัลเลน ไอเวอร์สัน[1] ที่เป็นตำนานดาวตลอดกาลของฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์สนั่นนะ ราชาทำแต้มที่เตี้ยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ผู้คนให้ฉายาว่า ‘ดิ อานเซอร์’ใช่ไหม?”
ฟังสิ่งที่เย่อวี้เฉิงพูด แววตาไมค์เป็นประกาย เป็นครั้งแรกที่เขามองเย่อวี้เฉิง แต่ไม่นานเขาก็หลบสายตาไปมองพื้นเช่นเคย พยักหน้าตอบ “ครับ”
“แล้วเธอเคยได้ยินชาร์ล บาร์คลีย์[2] ไหม?“ปีเก้าศูนย์เขาเป็นพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด เขาเหมือนกับไอเวอร์สัน สูงไม่ถึงสองเมตรแต่ได้ตำแหน่งพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด และยังได้แบคบอร์ดคิง เป็นแบคบอร์ดคิงที่ตัวเตี้ยที่สุดของเอ็นบีเอ!”
“ผมรู้จักเขา” ไมค์พูดเสียงเบา
“เธอไม่รู้สึกว่าเขาสองคนเหมือนกันเหรอ? ตัวเตี้ยทั้งคู่ แต่ไม่เคยยอมแพ้ และแต่ละคนล้วนเป็นตำนาน สำหรับฉันแล้ว ถ้าตัดเรื่องส่วนสูงออกไป เขาสองคนเป็นคนที่เก่งของเอ็นบีเอเลยล่ะ!”
“ผมก็รู้สึกแบบนั้น” ไมค์แววตาเป็นประกายอีกครั้ง เย่อวี้เฉิงดีใจมาก เพราะไมค์เริ่มโต้ตอบกับเขาแล้ว
“เพียงแต่น่าเสียดาย เขาทั้งสองไม่มีโชคที่จะได้คว้าแชมป์ ในช่วงเวลาที่สูงสุดของพวกเขา ยังมีกำแพงที่สูงใหญ่กั้นไว้อย่าง ชาร์ล บาร์คลีย์ถูก ไมเคิล จอร์แดนกันไว้ และไอเวอร์สันก็...” เย่อวี้เฉิงมองไมค์อย่างให้กำลังใจ
ไมค์มองผู้อำนวยการแล้วพูดว่า “ตอนนั้นทีมลอสแอนเจลิส เลเกอรส์เก่งมาก โอนีลและโคบี้โคตรน่ากลัว”
“ใช่” เย่อวี้เฉิงดื่มชา ให้ชุ่มคอ “แล้วเธอได้ดูการแข่งขันบาสเกตบอลลีกมัธยมปลายของไต้หวันบ้างไหม?”
ไมค์ส่ายหน้า
เย่อวี้เฉิงพูดต่อ “แล้วเธอเคยได้ยินมัธยมปลายฉี่หนานไหม?”
ไมค์ยังคงส่ายหน้า
เย่อวี้เฉิงยิ้ม “เธอดูเอ็นบีเอน่าจะรู้นะว่าการที่ทีมหนึ่งจะได้แชมป์ติดต่อกันสามสมัยมันเป็นเรื่องยาก?” เห็นไมค์พยักหน้า เย่อวี้เฉิงจึงพูดต่อ “โรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานที่ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อตะกี้นี้ เป็นราชันบาสเกตบอลโรงเรียนมัธยมปลายของไต้หวัน สามสิบปีที่ตั้งทีมบาสเกตบอลมา ได้แชมป์มาแล้วยี่สิบครั้ง เก้าครั้งเกิดจากการบาดเจ็บของผู้เล่น ในโลกของบาสเกตบอลที่ไต้หวันมีฉายาให้เขาว่า ‘ราชันแห่งบาสเกตบอลที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้’ เธอคิดว่าเก่งหรือเปล่า?”
ไมค์ถูกเย่อวี้เฉิงพูดดึงดูดความสนใจของเขา จนลืมความกลัว เขาพยักหน้ารับฟังอย่างต่อเนื่อง เห็นไมค์พูดได้เยอะแบบนี้ จึงทำให้คณบดียิ้มอย่างมีความสุข
“แต่เธอเชื่อไหม ราชันอย่างฉี่หนานเคยถูกเขี่ยให้ตกรอบแรก ทั้งที่ตอนนั้นทีมก็แข็งแกร่ง ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ เป็นทีมที่คิดว่าจะได้แชมป์ในปีนั้นด้วย”
ไมค์อ้าปากค้าง มองเย่อวี้เฉิงอย่างงงงวย
เย่อวี้เฉิงเผยรอยยิ้มที่ทายใจไม่ถูกออกมา “จินตนาการไม่ออกเลยใช่เปล่า? เธออยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร?” ไมค์พยักหน้าอยากรู้เต็มที
“ปีนั้น จากคำวิจารณ์ แฟนบาส ไม่มีใครคิดว่าฉี่หนานจะแพ้ และโรงเรียนที่เอาชนะฉี่หนานก็เพิ่งคัดเลือกให้เข้าร่วมแข่งขันบาสเกตบอลด้วย ไม่คิดว่าสนามแรกในการแข่งขันจะต้องมาเจอกับราชันอย่างฉี่หนาน นักบาสเกตบอลส่วนใหญ่ล้วนแต่เสียขวัญกำลังใจ แต่หนึ่งในนั้นมีนักบาสเกตบอลคนหนึ่งกลับรู้สึกตื่นเต้นดีใจ เขาชื่อหลี่หมิงเจิ้ง”
“ความฮึกเหิมของเขาทำให้คนอื่นๆ ในทีมฮึดสู้ขึ้นมา เผชิญหน้ากับฉี่หนาน แสดงความสามารถในการต่อสู้ที่เกินร้อยออกมา อีกอย่างหลี่หมิงเจิ้งเป็นนักบาสเกตบอลที่ทะลุกาลเวลาจริงๆ ในการแข่งขันครั้งนั้นเขาแสดงศักยภาพที่มีออกมา กลบความเป็นราชันของฉี่หนานไปซะหมด และนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาการแข่งขันกลับมาพลิกได้คะแนน ชนะฉี่หนานไปเพียงแต้มเดียว!
“คืนนั้น ทั้งโรงเรียนและตัวหลี่หมิงเจิ้งทำให้วงการกีฬาบาสเกตบอลของมัธยมปลายดูช็อคไปเลย โรงเรียนที่เพิ่งผ่านการคัดเลือกให้เข้าแข่งขันเอาชนะราชันอย่างฉี่หนาน เธอนึกภาพออกไหม? ความรู้สึกตื่นเต้นแบบนั้น จนถึงวันนี้มันยากที่จะทำให้คนลืมได้ลง” เย่อวี้เฉิงสูดหายใจเข้าลึก จมอยู่กับความทรงจำนั้นอย่างเนิ่นนาน
“อยากรู้ไหมชื่อโรงเรียนอะไร?” ไมค์พยักหน้าจริงจัง
“โรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ย” เห็นสีหน้าตกใจของไมค์ เย่อวี้เฉิงยิ้มอย่างภูมิใจ
“อยากรู้จักนักบาสเกตบอลที่เอาชนะราชันฉี่หนานไหม?” ไมค์พยักหน้า
เย่อวี้เฉิงยื่นมือออกไป “สวัสดี เย่อวี้เฉิงเบอร์หก เป็นตัวป้องกันของโรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ยในสมัยนั้น”
สีหน้าของไมค์ยิ่งตกใจไปกันใหญ่ อ้าปากกว้างไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองกลับยังไง จากสายตาแนะนำของคณบดี สุดท้ายเขาจึงจับมือกับเย่อวี้เฉิง
“ฟังฉันพูดไปเยอะ เชื่อว่าเธอน่าจะอยากรู้เรื่องของหลี่หมิงเจิ้งใช่ไหม? ฉันจะบอกความลับกับเธอ ลูกชายหลี่หมิงเจิ้งเพิ่งเข้าเรียนปีนี้เอง เขาชื่อหลี่กวงเย่า เข้าร่วมทีมบาสเกตบอลแล้วด้วย เธออยากจะเล่นบาสเกตบอลกับเขาไหม?”
ไมค์แสดงสีหน้าตื่นเต้น แต่ไม่นานก็เลือนหายไป “แต่ผมเล่นบาสเกตบอลไม่เป็น”
“ไม่เป็นก็เรียน” เย่อวี้เฉิงพูดขึ้นทันที ส่วนสูงร้อยเก้าสิบสองถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ถึงแม้จะเล่นบาสเกตบอลไม่เป็น แค่ยืนอยู่ในเขตจุดโทษก็ทำให้หลายคนตกใจได้แล้ว อย่างน้อยก็ในลีกซีกับลีกบี
“งั้นผม...ผมขออยู่ห้องเดียวกับลูกชายหลี่หมิงเจิ้งได้ไหม?” ไมค์ถามอย่างอายๆ
“ได้อยู่แล้ว”เย่อวี้เฉิงตอบรับ
.............................................................................
[1] อัลเลน ไอเวอร์สัน ฉายา “เอ.ไอ.และ ดิแอนเซอร์” ตำนานฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ส่วนสูง183ซม. เป็นผู้เล่นที่เตี้ยที่สุดในประวัติศาสตร์ เอ็นบีเอ เอ็มพีวี (ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปี) ราชาทำแต้ม อาวุธพิเศษคือ crossover ปี2016ได้เป็นนักบาสเกตบอลของหอเกียรติยศอย่างเป็นทางการ
[2] ชาร์ล บาร์คลีย์ ฉายา “ปีศาจ” เป็นการ์ด ส่วนสูง198ซม. ครองจุดโทษของ เอ็นบีเอ ลบล้างความคิด "จุดโทษคือโลกของคนสูง" เป็นราชันบาสเกตบอลที่เตี้ยที่สุดในประวัติศาสตร์ ปี2006กลายเป็นผู้เล่นระดับหอเกียรติยศ และเป็นหนึ่งใน 50 นักบาสยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ ในชีวิตที่ผ่านมาเคยเป็นผู้เล่นให้กับทีมฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ทีมฟีนิกซ์ ซันส์ และทีมฮิวสตัน ร็อกเก็ตส์