ตอนที่ 246 เกิดใหม่
หลงไหเชวียนสาปแช่งและพยายามรีบเข้าไปซ่อนในโลงศพทองแดง ตอนนี้มันรู้สึกแล้วว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ดาบกำเนิดมารนั้นเป็นของจริง ไม่ว่ายังไงมันก็ยังอยากได้อยู่ดี แต่กลิ่นอายของควันสีดำกับลวดลายอักขระที่ปรากฏขึ้นบนร่างกายของมันนั้นเหมือนกันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ดังนั้นมันจึงไม่กล้าพลีผลามและพยายามเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในโลงศพทองแดงทันที
สำหรับแขนซ้ายของมันกับดาบกำเนิดมาร มันค่อยไปเอาคืนทีหลัง
แม้ความคิดของมันจะฟังดูดี แต่ความเป็นจริงช่างโหดร้ายเสมอ!
ความเร็วของควันสีดำนั้นเร็วเกินกว่าที่มันจะซ่อนตัวได้ทัน
หลิงฮันสามารถหลบได้ทันเวลาเพราะเขาใช้เพียงความคิดในการเข้าไปยังหอคอยทมิฬ แต่หลงไหเชวียนไม่ใช่แบบนั้น มันจำเป็นต้องคลานเข้าไปในโลงศพทองแดง
‘ฟุบ’ มันยังไม่ทันเข้าไปยังโลงศพทองแดง ควันสีดำก็แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของมัน
มันชะงักไปชั่วขณะ แต่ดูเหมือนควันสีดำจะไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่คิด มันยังสามารถเข้าไปในโลงศพทองแดงได้อยู่ และเมื่อฝาโลงปิดลง หลงไหเชวียนคิดจะใช้วิธีเดิมในการขับไล่ปราณอสูร
“ปัง ปัง ปัง” เสียงโลงศพกระทุ้งไปมาดังสนั่นหวั่นไหว อักขระสีดำปรากฏขึ้นบนโลงศพทองแดง โลงศพสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับมันกำลังจะระเบิด
แต่จู่ๆแรงสั่นสะเทือนก็หยุดลงและกลายเป็นแน่นิ่งไม่ขยับ
‘ปัง’ ฝาโลกเปิดออก และหลงไหเชวียนปรากฏตัวอีกครั้งโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แขนที่ขาดของมันยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด แต่สีหน้าของมันนั้นสงบนิ่ง ดวงตาของมันส่องแสงสีดำ หากมองดีๆจะเห็นว่าดวงตามันเป็นรูปจันทราและดวงดาว
“ร่างกายนี้อาจจะไม่ค่อยน่าพอใจ แต่ก็ยังพอใช้ได้อยู่” หลงไหเชวียนพึมพำและมองไปยังแขนที่ถูกตัดขาด จากนั้นบริเวณช่วงหัวไหล่ของมันได้มีควันสีดำลอยออกมา
ภาพที่น่าขนลุกเกิดขึ้น... แขนของมันงอกออกมาด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า!
หลิงฮันอยู่ภายในคอยทมิฬ แต่เขาก็ยังเห็นและได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภายนอก
หลงไหเชวียนไม่ใช่หลงไหเชวียนคนเดิมอีกต่อไปแล้ว มันถูกครอบงำโดยจิตสำนึกของควันสีดำนั่น
เป็นความสามารถที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้!
อย่างน้อยเท่าที่หลิงฮันรู้ แม้แต่จอมยุทธระดับสวรรค์หรือระดับทลายมิติก็ไม่สามารถเข้าครอบเงาร่างกายคนอื่นได้ ไม่เช่นนั้นจอมยุทธระดับทลายมิติคงจะโผล่มาให้เห็นเยอะแล้ว เพราะพวกเขาจะมีชีวิตรอดในทุกยุคสมัยและไม่มีทางตาย
พระเจ้า!
หลิงฮันคิดถึงเรื่องที่จักรพรรดิจอมอสูรเล่าเกี่ยวกับพระเจ้าที่ถูกผนึกไว้ที่นี่ ดูเหมือนว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องจริง แต่พระเจ้าที่ถูกผนึกไม่ใช่เทพก่อเกิดหายนะแต่ตัวของเป็นจักรพรรดิจอมอสูรเอง!
ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมมันถึงยุยงให้หลิงฮันกับหลงไหเชวียนดึงดาบเพื่อปลดข่ายอาคมขนาดนั้น และสุดท้ายมันก็ไม่ลังเลที่จะใช้ปราณอสูรจำนวนมากเพื่อหยุดยั้งหลิงฮันในการห้ามหลงไหเชวียน
“เจ้าคือหลิงฮันสินะ!” หลงไหเชวียนพึมพำ ดูเหมือนว่ามันจะได้รับความทรงจำของหลงไหเชวียนหลังจากครอบครองร่างกายแล้ว มันหัวเราะและพูด “ออกมาซะ ข้ารู้เจ้ายังอยู่ที่นี่!”
เมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวหรือตอบรับจากหลิงฮัน มันอดที่จะเค้นเสียงดูถูกไม่ได้ “ข้ารู้ว่าเจ้าครอบครองสมบัติระดับพระเจ้า มีเพียงสมบัติระดับพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปได้... ฮ่าๆ แต่ด้วยประสบการณ์ของเจ้า เจ้าคงยังไม่รู้ ให้จักรพรรดิผู้นี้เป็นผู้สั่งสอนเจ้าเอง!”
“จักรพรรดิผู้นี้ครั้งหนึ่งเคยเหยียบย่ำอาละวาดบนดินแดนศักดิสิทธิ์ ความรู้เกี่ยวกับสมบัติระดับพระเจ้าของข้านั้นมีมากกว่าเจ้าอย่างเทียบไม่ติด! ตราบใดที่จักรพรรดิผู้นี้หามันเจอ ข้าจะหลอมมันเข้ากับข้าและเจ้าจะตายอยู่ภายในนั้น!”
“ก่อนหน้านี้จักรพรรดิผู้นี้ไม่สามารถจัดการเจ้าได้เป็นเพราะข้าถูกผนึกอยู่ในข่ายอาคม แต่ตอนนี้เมื่อมีกายหยาบแล้ว โชคชะตาเดียวที่เหลืออยู่ของเจ้าคือความตาย!”
“ฮึ่ม ในเมื่อเจ้าอยากจะเสียเวลาเปล่า งั้นจักรพรรดิผู้นี้จะค้นหาเจ้าเอง!”
มันคำรามเบาๆ ปราณอสูรจำนวนมากระเบิดออกมาจากร่างของมันและลอบไปยังบริเวณรอบๆ เห็นได้ชัดว่ามันกำลังค้นหาที่อยู่ของหอคอยทมิฬ
หลิงฮันได้ยินทุกอย่างที่มันพูดและอดที่จะรู้สึกกังวลไม่ได้ จักรพรรดิจอมอสูรเป็นตัวตนระดับพระเจ้ามาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเพียงแค่ร่างกายหนึ่งในเก้าส่วนของมัน... หลิงฮันก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้
“ไม่ต้องกังวล คนคนนั้นเป็นเพียงลูกแกะในคราบหมาป่า” จิตวิญญาณหอคอยปรากฏตัวและประเมินสถานการณ์ “มันถูกผนึกมาเป็นเวลานานแถมวิญญาณของมันก็ยังไม่สมบูรณ์ ถ้ามันต้องการจะฟื้นฟูพลังให้กลับเป็นอย่างเดิม มันจะต้องรักษาวิญญาณของมันเสียก่อน พลังต่อสู้ของมันตอนนี้มีเท่ากับกายหยาบของมันเท่านั้น และถึงแม้ปราณอสูรจะช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ของมันให้มากขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่ได้เพิ่มถึงระดับที่ต้องหวาดกลัว”
“ที่เจ้าจะบอกก็คือ ข้าสามารถต่อกรกับมันได้?” หลิงฮันเกิดจิตใจฮึดสู่ขึ้นมา
หอคอยทมิฬขนาดเล็กจ้องมองมาที่เขาและพูด “ถ้าเจ้าไม่ช้ำพลังของข้า เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน”
งั้นรึ... เขาต้องใช้พรศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ได้ครั้งเดียวสินะ?
หลิงฮันส่ายหัว มันไม่คุ้มเอาเสียเลย ในเมื่อจักรพรรดิจอมอสูรต้องการรวบรวมชิ้นส่วนร่างกายทั้งเก้าในการฟื้นสภาพกลับไปเป็นพระเจ้าอีกครั้ง งั้นมันก็ไม่สามารถสร้างความโกลาหลอะไรได้มาก เพราะโลกที่กว้างใหญ่นี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีจอมยุทธที่ทรงพลังอยู่
“อย่างไรก็ตาม เจ้าสามารถหลอมรวมเข้ากับปราณอสูรได้” จิตวิญญาณหอคอยพูด “นั่นจะทำให้พลังบ่มเพาะของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามขั้นแถมยังทำให้กายหยาบของเจ้าทรงพลังขึ้นด้วย คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เองก็จะบรรลุขั้นกายาหินผา”
หลิงฮันพยักหน้าและนั่งขัดสมาธิทันที เขาสะบัดมือหนึ่งครั้งและก้อนปราณอสูรได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
ภายในหอคอยทมิฬ เขาคือพระเจ้า
“หลอมกลั่น!” หลิงฮันพึมพำ ปราณอสูรเริ่มกระจัดกระกายกลายเป็นหมอกห่อหุ้มร่างของเขา
นี่คือปราณที่สร้างขึ้นมาจากตัวตนระดับพระเจ้า ปกติแล้วหลิงฮันไม่สามารถหลอมมันเข้ากับร่างกายได้ บางทีคนที่อยู่ในระดับทลายมิติอาจจะมีโอกาสทำสำเร็จ แต่คนที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุไม่มีทางหลอมได้สำเร็จแน่นอน
แต่ในหอคอยทมิฬเขามีอำนาจทุกอย่าง ปราณของตัวตนระดับพระเจ้าแล้วจะทำไม? มันทำได้เพียงยอมถูกหลอมรวมเข้ากับเขาอย่างเชื่อฟังเท่านั้น
“อัก!” เมื่อปราณอสูรเข้ามาในร่างกาย หลิงฮันร้องคร่ำครวญออกมาทันที ร่างกายของเขาพองขึ้นหนึ่งเท่าทำให้ดูเหมือนกับคนอ้วน พลังงานของปราณอสูรนั้นบริสุทธิ์เกินไป... เพราะอย่างไรมันก็มาจากตัวตนระดับพระเจ้า แม้จะเพียงแค่เศษเสี้ยวของปราณก็ยังมีพลังงานมากมายจนน่าสะพรึงกลัว
จิตวิญญาณเปลวเพลิงเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย มันส่งกระแสจิตมาหาหลิงฮันว่ามันอยากจะ’กิน’
เพราะพลังงานอันมหาศาล ตอนนี้หลิงฮันเลยรู้สึกอึดอัด เขาไม่รังเกียจที่จะแบ่งพลังงานเหล่านี้ไปให้จิตวิญญาณเปลวเพลิงสักเล็กน้อย ดังนั้นเปลวเพลิงสีชาดอันทรงพลังจึงได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากมือซ้ายของเขา มันโผล่มาไม่นานก็กลับเข้าไปและหลังจากนั้นจิตวิญญาณเปลวเพลิงก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
หลิงฮันใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบดูและหายเป็นกังวล จิตวิญญาณเปลวเพลิงได้ดูดซับพลังงานที่ทรงพลังเข้าไป ตอนนี้มันกำลังอยู่ในสภาพจำศีลเพื่อย่อยสลายพลังงานที่ดูดซับมา เมื่อมันตื่นระดับของมันจะต้องเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน
เมื่อหายกังวล หลิงฮันจึงเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการดูดซับปราณอสูร
น้ำพุก่อเกิดของเขาขยายใหญ่ขึ้น กายหยาบของเขาทรงพลังขึ้น และแม้แต่วิญญาณของเขาก็พัฒนาขึ้นเล็กน้อย!