บทที่ 18 หลี่ซานเหอ
บทที่ 18
หลี่ซานเหอ
ณ ตระกูลกวน
เป็นทศวรรษที่รุ่งโรจน์สำหรับตระกูลกวน ภายในสิบปีที่ผ่านมาตระกูลกวนยังรักษาตำแหน่งผู้นำที่มีลูกศิษย์ลูกหาเข้านิกายคังเหลียนมากที่สุดจำนวนเก้าคน รองลงมา ตระกูลหยางเจ็ดคน, ตระกูลเฉินตูหกคน, และตระกูลหลี่ไม่มีสักคนเลย
เมื่อการแข่งขันอัจฉริยะใกล้เข้ามา ศิษย์สองคนกลับไปที่ตระกูลกวน พวกเขาคือกวนฮงและกวนหยาน
กวนฮงได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันสองครั้งที่ผ่านมา
ในขณะที่กวนหยานได้อันดับหนึ่งของการแข่งขันก่อนหน้ากวนฮง
การแข่งขันห้าครั้งในหนึ่งทศวรรษ ตระกูลกวนได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันสามครั้ง
กวนฮงอายุยี่สิบในปีนี้ ระดับเริ่มต้นขอบเขตปราณก่อกำเนิด
กวนหยานอายุยี่สิบเอ็ดปีระดับสอง ขอบเขตก่อกำเนิด.
ลูกหลานของตระกูลกวนนั้นมักจะดูท่าทางดี กวนฮงและกวนหยานก็เช่นกัน
“ใครมีศักยภาพดีที่สุดสำหรับการแข่งขันในปีนี้?” กวนฮง ด้วยความสูงเจ็ดฟุตถามกวนเผิ้งและกวนห่าว
กวนเผิ้งกล่าวว่า “ณ ตอนนี้คือหยางไคแห่งตระกูลหยางระดับที่เจ็ดขอบเขตก่อกำเนิดหลังจากแช่สระน้ำทิพย์ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาสูงขึ้นถึงหนึ่งพันกิโลกรัมและตอนนี้ก็เป็นหมายเลขหนึ่งโดยไม่มีใครแย้ง”
“ไม่มีใครแย้ง งั้นเหรอ? อาจไม่จริง จุดประสงค์การกลับมาของข้าและพี่สาวกวนหยาน เพื่อช่วยให้เจ้าประสบความสำเร็จในห้าอันดับแรกเป็นสิ่งที่อยู่ในใจข้า” กวนฮงป่าวประกาศ
“อันดับแรก? มันจะเป็นไปได้เหรอ?”
ประกายแสงปรากฏขึ้นในดวงตาของกวนเผิ้ง หยางไคนั้นยอดเยี่ยมแค่ไหนคนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขาเข้าใจดี เขาบังเอิญได้ยินจากคนรับใช้จากตระกูลหยางว่าหยางไคทำสถิติใช้เพียงหนึ่ง ตวัดดาบเพื่อสยบสัตว์อสูรระดับกลางชั้นหนึ่ง
เป็นที่ทราบกันดีว่าการป้องกันตัวของสัตว์อสูรระดับกลางขั้นหนึ่งนั้นร้ายกาจมาก ถ้าไม่โดนจุดอ่อนของมันอย่างแม่นยำอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ฟาดฟันสองถึงสามโหลอาจไม่สามารถพิฆาตมันได้
กวนหยานของชื่อของนาง สวยงามราวดอกซากุระสมกับชื่อ มีเสน่ห์ราวกับว่านางมอบอากาศที่เย็นสบายและอิ่มเอม (หยาน หมายถึงการมีเสน่ห์ในภาษาจีน)
กวนหยานปัดปอยผมและกล่าวอย่างภาคภูมิ "วิชาการต่อสู้ของนิกายไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจินตนาการได้ ด้วยขอบเขตพลังลมปราณเดียวกัน ศิษย์สาวกนิกายสามารถจัดการสามหรือสี่คนเพียงหนึ่งกระบวนท่า ข้าและกวนฮงจะบอกสิ่งที่เรียนรู้ที่สำนักและถ้าพวกเจ้าเข้าใจหนึ่งหรือสองอย่างจากกลยุทธ์การต่อสู้เหล่านี้ ชิงอันดับแรกก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล "
เมื่อได้ยินคำพูดของกวนหยานดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายด้วยความหวัง
กวนฮงกล่าวต่อ “นอกเหนือจากหยางไค มีใครอีกไหม?”
กวนห่าว ตอบ “กวนเผิ้งพ่ายหลี่ฟู่เฉินแห่งตระกูลหลี่อย่างน่าสังเวช”
ตอนแรกเขาคิดว่า หลังจากกวนเผิ้งพ่ายแพ้หลี่ฟู่เฉิน เขาจะมีโอกาสสูงขึ้นในการเข้าสู่สระน้ำทิพย์ ใครจะคิดว่าผู้อาวุโสจะยังคงเลือกกวนเผิ้ง สิ่งนี้ทำให้เขาหดหู่ใจ
“หลี่ฟู่เฉินมันมีดียังงั้นเหรอ?” กวนหยานและกวนฮงมองดูกวนเผิ้งด้วยความประหลาดใจ
กวนเผิ้งถลึงตามองที่กวนห่าว “ฉันแพ้เพราะลดการป้องกันตัวลง นอกจากนี้เขามีแค่โครงกระดูกปกติไม่มีคุณสมบัติเข้าสู่สระน้ำทิพย์ เขาไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึง”
“โครงกระดูกปกติเหรอ? งั้นลืมไปเถอะ” กวนหยานหัวเราะเบาๆ
กวนฮงสงสัย “หลี่ฟู่เฉินใช่อดีตคู่หมั้นของกวนเซี่ยหรือเปล่า?”
กวนฮงเพิ่งเข้านิกายคังเหลียนเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขารู้สึกประทับใจบางอย่างเกี่ยวกับหลี่ฟู่เฉิน
“ใช่ แต่ตระกูลกวนของเราได้ทำลายสัตย์สาบานที่ให้กับตระกูลหลี่” กวนห่าวอธิบาย
กวนฮงพูดเยาะเย้ย “ คางคกต้องการลิ้มรสหงส์ ข้าประหลาดใจว่าตระกูลหลี่กล้าคิดแบบนั้นได้อย่างไร ตอนนี้กวนเซี่ยถือเป็นบุคคลสำคัญของนิกาย
ด้วยพรสวรรค์มากล้นที่มีมาแต่กำเนิด นางอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายชื่อผู้อัจฉริยะทั้งหมด ตระกูลหลี่รู้ว่าหลี่ฟู่เฉินมีเพียงโครงกระดูกปกติ ควรเป็นผู้ออกตัวยุติการหมั้น แต่พวกเขาคาดหวังให้เราทำมันแทน ทำให้ตระกูลกวนดูโหดร้ายและตระกูลหลี่ของพวกเขาดูเป็นฝ่ายไร้เดียงสา”
“ตระกูลหลี่กำลังตกต่ำอาจต้องการใช้ประโยชน์จากกวนเซี่ยเพื่อรักษาสถานะของตระกูลของพวกเขา เจตนาทรยศ เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”
กวนหยานรู้สึกรังเกียจตระกูลหลี่อย่างยิ่ง
***
ในช่วงเวลาเดียวกัน ศิษย์ของนิกายคังเหลียนกลับไปที่ตระกูลหลี่
หลี่ซานเหอเข้าสู่นิกายคังเหลียนเมื่อสิบสองปีที่แล้ว ปีนี้อายุยี่สิบแปดปีอยู่ระดับที่สี่ของขอบเขตก่อกำเนิด การฝึกฝนในระดับนี้ถือว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับต้น ๆ ของตระกูลหลี่และเขาก็ยังอยู่ในวัยเยาว์
“ซานเหอ ยินดีต้อนรับกลับมา!” หลี่เทียนฮั่นกล่าวต้อนรับอย่างกระตือรือร้น
“ท่านผู้นำ ไม่จำเป็นหรอก” หลี่ซานเหอผงกศรีษะดูเย่อหยิ่ง
หลี่เทียนฮั่นไม่ได้สนใจ เพราะศิษย์นิกายทั้งหมดหยิ่งทรนงโดยไม่มีข้อยกเว้น พูดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว ทั่วทั้งเมืองหยุ่นวู่ มีเพียงเจ้าเมืองที่เป็นศิษย์ของคังเหลียนเท่านั้นที่มีบรรดาศักดิ์สูงที่สุดเมื่อเทียบกับศิษย์คนอื่นๆ มีการทำนายว่าตระกูลหลี่ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับตระกูลอื่นและพวกเขาต้องการความช่วยเหลือทั้งหมดเท่าที่จะมีได้
หลี่ซานเหอกล่าวตรงๆเข้าประเด็น “ท่านปรมาจารย์ ตระกูลหลี่กำหนดให้ข้าต้องให้คำแนะนำแก่ผู้ใด และโครงกระดูกของพวกเขาระดับไหน?”
หลี่เทียนฮั่นตอบว่า “หนึ่งในนั้นคือลูกพี่ลูกน้องของเจ้าและอีกคนคือบุตรชายของข้า หลี่หยุ่นไห่ผู้มีโครงกระดูกสองดาว ส่วนหลี่ฟู่เฉิน…. มีโครงกระดูกปกติ”
หลี่เทียนฮั่นรู้สึกลังเล แต่ท้ายสุดก็เปิดเผยโครงกระดูกธรรรมดาของหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ซานเหอ ขมวดคิ้ว “ท่านปรมาจารย์ โปรดให้อภัยถ้าข้าพูดตรงๆ แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรชายของท่าน แต่โครงกระดูกปกติไม่มีค่าพอให้สนับสนุน”
หลี่เทียนฮั่นอธิบายด้วยความรู้สึกอึกอัด “ฟู่เฉินเป็นอะไรที่พิเศษ เขาเป็นผู้ที่มีการรับรู้เยี่ยมยอดมาก ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เขาไม่ได้ด้อยกว่าหลี่หยุ่นไห่เลย แถมยังสามารถเอาชนะอัจฉริยะหยางฉีแห่งตระกูลหยางและกวนเผิ้งแห่งกวนตระกูล”
“สิ่งนี้ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นอดีตไปแล้ว สิ่งที่สำคัญคือสถานะปัจจุบัน แต่เมื่อเห็นว่าท่านคือท่านผู้นำ ข้าก็จะแนะนำเขา”
หลี่ซานเหอเห็นพ้องในที่สุดเพื่อผลประโยชน์ที่ให้ความเคารพต่อท่านผู้นำ
***
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้มีความสุขกับการแสดงที่หยิ่งผยองของหลี่ซานเหอ เขาสนใจแค่ว่านิกายคังเหลียนได้รับการฝึกฝนอย่างไร้เพื่อใช้ในการต่อสู้
“หยุ่นไห่ ความแข็งแกร่งทางกายภาพอยู่ที่ 750 กิโลกรัม การควบคุมขอบเขตพลังลมปราณระดับที่หก โดยรวมแข็งแรงอยู่ที่ประมาณ 2,000 กิโลกรัม ข้ามีเพียงพละกำลังที่ 1,500 กิโลกรัมเท่านั้น ลองฟาดฟันข้าในขณะที่ข้าไม่ได้ใช้พลังลมปราณของข้าสิ”
ในสนามฝึกซ้อม ด้านหน้าหลี่ซานเหอมีสี่ผู้คนตระกูลหลี่ พวกเขาคือหลี่ฟู่เฉิน, หลี่หยุ่นไห่และสาวกอีกสองคน
สำหรับหลี่หยุ่นเหอ เขาตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เขาอาจรู้สึกว่าแต้มต่อของเขาไม่ค่อยดีและเลือกที่จะลงแข่งในครั้งต่อไป
การแข่งขันอัจฉริยะของเมือง ห้าอันดับแรกเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่นิกายคังเหลียน แต่มีรางวัลยอดเยี่ยมสำหรับผู้เข้าแข่งขันยี่สิบอันดับแรก รางวัลเหล่านี้ให้โดยเหล่าตระกูลหลัก ไม่มีตระกูลใดต้องการสูญเสีย ดังนั้นเป้าหมายของสองผู้ชิงของตระกูลหลี่จะต้องเข้าสู่ยี่สิบอันดับแรกและเอารางวัลมาให้ได้
“ขอรับ ท่านลุง”
หลี่หยุนไห่ผงกศรีษะและเดินไปข้างหน้า
เฮ้!
หลี่หยุนไห่ทำน้ำเสียงฮึดฮัด แกว่งดาบเหล็ก ด้วยแรงสองพันกิโลกรัมในขณะกวัดแกว่งใบมีดของเขาคมชัด ฝุ่นผงรอบหลี่ซานเหอหมุนวน แม้กระทั่งก่อนที่ดาบจะไปถึงยังจุดหมายของมัน
แคล้ง!
หลี่ซานเหอขยับควงดาบอย่างเบามือ ต้านดาบของหลี่หยุ่นไห่ และผลักดาบบินออกจากมือของหลี่หยุ่นไห่
“มันเป็นไปได้อย่างไร?”
หลี่หยุ่นไห่อ้าปากค้าง...
หลี่ซานเหอกล่าวอธิบายอย่างภูมิใจว่า“ความแข็งแกร่งทางร่างกายไม่สามารถแสดงถึงสิ่งใดได้ ความเข้าใจคือกุญแจสำคัญ สิ่งที่ข้าเพิ่งทำคือการใช้ดาบของข้ามุ่งไปที่จุดอ่อนของดาบเจ้า และผลักมันออกมาจากมือของเจ้า หากนี่คือการต่อสู้ที่แท้จริง ข้าจะตามโจมตีและจุดจบคือความตาย”
“ข้าเข้าใจคำพูดของเจ้าเรื่องการใช้จุดแข็งเพื่อโจมตีจุดอ่อนของศัตรู แต่ข้าจะทำสิ่งนั้นสำเร็จได้อย่างไร” หลี่หยุ่นไห่ถาม
หลี่ซานเหอตอบ “นี่เป็นสิ่งที่ข้าจะบอกกับพวกเจ้าทุกคนอย่างละเอียด เจ้าจะเข้าใจได้มากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับตัวเจ้า....”
...........................................................
ติมตามอัพเดทตอนใหม่ได้ที่ แฟนเพจ indynovels นะครับ มีอัพเดทมากกว่า 25 ตอน