ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 7
ตอนที่ 7
หลังจากส่งบอลให้รุ่นพี่เปิดบอลเพื่อเริ่มเกม หลี่กวงเย่าถือบอล แล้วก็ส่งบอลต่อให้หวังจงจวินทันที หวังจงจวินยืนอยู่ด้านนอกเส้นสามคะแนน ชู้ตบอลโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
สวบ!
รุ่นพี่สองคนที่อยู่ในสนามต่างมองหน้ากัน นึกไม่ถึงว่าจะถูกนำไปก่อนหนึ่งคะแนน แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหนึ่งคะแนนนี้เป็นแค่ความโชคดีของคู่ต่อสู้เท่านั้น
เปิดเกมใหม่ที่เส้นจุดโทษ หลี่กวงเย่าก็ส่งบอลต่อให้หวังจงจวินอีกครั้ง
สวบ!
ลูกที่สองที่ชู้ตลงห่วงนั้น ไม่เพียงแค่ทำให้รุ่นพี่ตกตะลึงแล้ว ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าคะแนนที่ได้จากลูกแรกไม่ใช่ความโชคดี หลังจากที่เปิดเกมใหม่อีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกนำไปสองคะแนนนี้ หนึ่งในรุ่นพี่ที่ค่อนข้างเตี้ยรีบมายืนด้านหน้าป้องกันไว้ ยกสองมือขึ้นสูงพยายามรบกวนหวังจงจวิน ไม่ให้เขาสามารถเล็งแป้นบาสได้สะดวก
แต่หวังจงจวินที่รับบอลจากหลี่กวงเย่า ชู้ตบอลอย่างไม่ลังเล โดยไม่ได้มองตัวป้องกันของฝ่ายตรงข้ามสักนิดเดียว
สวบ!
หวังจงจวินทำได้สามคะแนนต่อเนื่องกัน แต่ไม่ได้แสดงสีหน้าภูมิใจเลยสักนิด ได้สามคะแนนต่อเนื่องกันเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับว่ามันคือการฝึกชู้ตตามปกติ แต่กลับเป็นหลี่กวงเย่าที่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “เย้! สามแอสซิสต์”
หวังจงจวินชู้ตสามลูกต่อเนื่องกันทำได้สามคะแนน ยิ่งทำให้รุ่นพี่กังวลมากขึ้น หลังจากเริ่มเปิดเกมใหม่ รุ่นพี่ก็เข้าประกบหวังจงจวินในระยะประชิด ทำให้เขาไม่มีโอกาสรับบอล หลี่กวงเย่าที่ครองบอลอยู่ กลับไม่รีบร้อน หันหน้าไปทางรุ่นพี่ที่อยากจะขโมยบอล หลี่กวงเย่าก้มตัวต่ำลง เอาบอลไว้ในอ้อมแขน วิธีง่ายๆ นี้เป็นรูปแบบการป้องกันบอลที่มีประสิทธิภาพ
“ทำไมล่ะ น้อง ไม่กล้าชู้ตเหรอ?” รุ่นพี่ที่แย่งบอลไม่ได้ รู้สึกรำคาญหลี่กวงเย่าที่ไม่ชู้ตสักที ถ้ายังยื้อเวลาต่อไปอีกก็เลิกเรียนแล้ว
“ไม่ ผมแค่อยากรู้ว่าเขาชู้ตแม่นขนาดไหนเท่านั้นเอง” พูดจบ หลี่กวงเย่าโยนลูกสูงส่งข้ามหัวรุ่นพี่ประกบหวังจงจวิน เขามองลูกบาสที่ส่งมา แล้วก้าวขาถอยสองสามก้าวจึงจะรับบอลได้อย่างราบรื่น ในเวลานี้ตำแหน่งที่เขายืนห่างจากเส้นสามคะแนนอยู่สามก้าวใหญ่
ระยะห่างขนาดนี้ เว้นแต่ว่ามีกรณีพิเศษ ไม่อย่างนั้นคนปกติจะไม่เลือกชู้ตเป็นอันขาด ยิ่งไกลจากแป้นบาส อัตราการทำคะแนนก็ลดลงตามไปด้วย ขณะที่รุ่นพี่ที่ป้องกันหวังจงจวินกำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปประกบหรือไม่ หวังจงจวินก็ชู้ตได้อีกแล้ว
สวบ!
รุ่นพี่ทั้งห้าคนตกตะลึง
“ไกลขนาดนี้ ยังชู้ตลงได้ เยี่ยมจริงๆ” หลี่กวงเย่าชมอย่างไม่ลังเล
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป การป้องกันของรุ่นพี่ครั้งนี้ เหลือแค่ไม่ได้กอดหวังจงจวินเท่านั้น
“รุ่นพี่ เขาชู้ตแม่นจริงๆ ใช่ไหม” หลี่กวงเย่าครั้งนี้ไม่ได้พยายามส่งลูกให้หวังจงจวิน
รุ่นพี่ไม่สนใจเขา คิดแต่จะทำให้คะแนนนำกลับขึ้นมา
“ถ้ามีเขาเป็นเพื่อนร่วมทีม ต้องเยี่ยมมาก” พูดจบ ทันใดนั้นหลี่กวงเย่ากระโดดลอยตัวขึ้นชู้ต
สวบ!
“ห้าต่อศูนย์” กระโดดชู้ตทำคะแนนได้ หลี่กวงเย่าพูด “รุ่นพี่ พวกพี่เหลือโอกาสสุดท้ายแล้วนะ”
เมื่อตะกี้เห็นการกระโดดชู้ตที่ยอดเยี่ยมของหลี่กวงเย่า แล้วยังมีเทพเจ้าแห่งการชู้ตสามคะแนนอย่างหวังจงจวินอีก พวกรุ่นพี่รู้แล้วว่าฝีมือของรุ่นน้องสองคนนี้เก่งเกินพวกเขา แต่ทั้งสองคนที่ต่อสู้อยู่ในสนามกลับไม่ยอมแพ้
หลังจากเริ่มส่งบอลใหม่ รุ่นพี่สองคนรีบไปประกบหลี่กวงเย่าและหวังจงจวิน ไม่ยอมให้พวกเขามีโอกาสชู้ตวงนอกได้ แม้ว่าการประกบระยะประชิด สำหรับผู้ป้องกันแล้วสามารถเพิ่มความกดดันในการชู้ตได้ ในทางกลับกันก็เพิ่มความเสี่ยงถูกส่งบอลผ่านไปได้เช่นกัน
หลี่กวงเย่า เลี้ยงบอลตัดไปทางขวา แรงประทะของเขาผ่านการป้องกันของรุ่นพี่ ขณะที่รุ่นพี่คิดว่าเขาจะวิ่งตัดเข้าทำคะแนน หลี่กวงเย่าคว้าบอลทันที สายตาจ้องที่แป้นบาส แล้วกระโดดชู้ต
กระโดดไปหนึ่งก้าวทำการชู้ต การชู้ตแบบนี้คือเทคนิคการชู้ตพื้นฐานมาก แต่ต้องทั้งว่องไวและคล่องแคล่ว และเป็นสิ่งที่ใช้แรงเยอะทีเดียว พวกรุ่นพี่มองหลี่กวงเย่าโน้มตัวขึ้นชู้ต ก็รู้แล้วว่ากำลังของรุ่นน้องคนนี้ไม่ควรมองข้าม
สวบ!
“แล้วเจอกันใหม่นะรุ่นพี่!” หลี่กวงเย่าโบกมือให้รุ่นพี่ แต่รุ่นพี่ทั้งห้าคนที่แพ้ย่อยยับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว หงอยเหงาเหมือนกลุ่มไก่ตัวผู้ที่พ่ายแพ้ เคลื่อนย้ายออกไปจากสนาม
“พวกเราเล่นต่อเถอะ ฉันอยากพลิกกลับมาชนะ” ครั้งนี้หลี่กวงเย่ามีความมั่นใจกลับคืนมา
หลี่กวงเย่าที่ไม่ยอมแพ้ หลังจากแพ้รอบแรก ต้องการแข่งอีกรอบ พอแพ้ครั้งที่สอง ก็แข่งครั้งที่สาม หลี่กวงเย่าแพ้ ต้องเลี้ยงเครื่องดื่ม อยากจะแข่งครั้งที่สี่ เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น
“ฉันไม่ได้พกเงินติดตัวมาเยอะ ให้ฉันผ่อนละกัน ครั้งนี้เลี้ยงน้ำนายก่อนหนึ่งขวด” หลี่กวงเย่าหยอดเหรียญห้าสิบที่ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ
หวังจงจวินกดน้ำเกลือแร่ยี่ห้อซูเผ่าขนาดห้าร้อยเก้าสิบมิลลิลิตร ไม่รอให้หลี่กวงเย่าถามว่าอยากดื่มน้ำอะไร เขาโน้มตัวลงหยิบเครื่องดื่ม แล้วเดินไปทางห้องเรียน
“นายชู้ตแม่นขนาดนั้น ต้องเคยฝึกหนักมากเลยสิ?” หลี่กวงเย่าซื้อเครื่องดื่มยี่ห้อซูเผ่าเหมือนกัน ก้าวขาตามหวังจงจวิน
“อืม” หวังจงจวินตอบแบบส่งๆ ไป
“นายอยากเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลกับฉันไหม? พอคิดว่าในทีมมีนายอยู่ ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นมาก!”
ความกระตือรือร้นของหลี่กวงเย่า ทำให้หวังจงจวินขมวดคิ้ว เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่เอา”
“ทำไมล่ะ นายไม่รู้เหรอว่าการชู้ตสามคะแนนของนายมันมีค่าแค่ไหน?” ถ้ามีมือชู้ตแม่นอย่างนาย จะทำให้คู่ต่อสู้ไม่ปล่อยการป้องกันวงนอก วงล้อมการป้องกันก็จะกว้างขึ้น แล้วเมื่อวงป้องกันขยายใหญ่ขึ้น ก็สามารถทำให้สมอลฟอร์เวิร์ดกับเซ็นเตอร์มีช่องว่างในการรุกเข้าพื้นที่เขตจุดโทษมากขึ้น ทำให้เล่นได้สะดวก และเวลาที่พวกเขาถูกประกบ ก็คือโอกาสของนายที่จะชู้ตสามคะแนน การร่วมมือด้วยเทคนิกนี้ของทั้งทีม ต้องทำให้คู่ต่อสู้ปวดหัวอย่างแน่นอน!” หลีกวงเย่าพูดอธิบายอย่างตื่นเต้น แต่ทว่าหวังจงจวินยังคงไม่ไม่มีปฎิกิริยาใดๆ
มองหน้าตาที่เย็นชาของหวังจงจวิน เป็นครั้งแรกที่หลี่กวงเย่าพูดได้ด้วยน้ำเสียงท้อแท้ “เอาเถอะ น่าเสียดาย คนที่ฉันรู้จัก สำหรับการชู้ตสามคะแนนของนายแล้วถือว่าเป็นอันดับสอง
หวังจงจวินได้ยินคำพูดนี้กลับมีปฏิกิริยาขึ้นมา เขาขมวดคิ้ว ครึ่งหนึ่งไม่อยากเชื่อ ครึ่งหนึ่งพูดอย่างกระวนกระวาย “เมื่อตะกี้นายพูดว่าอะไรนะ”
“เอาเถอะ น่าเสียดาย?”
“ประโยคต่อจากนั้น”
หลี่กวงเย่าครุ่นคริด ทันใดนั้นก็นึกอะไรออก หัวเราะก๊ากขึ้นมา “ฮ่า” “ทำไม เพราะว่าฉันพูดว่านายเป็นที่สอง นายก็เลยอารมณ์เสีย?”
หวังจงจวินพ่นเสียงจากจมูก ทำให้หลี่กวงเย่าหัวเราะดังลั่น
“จริงๆ แล้วนายกับเขาคล้ายกันมาก รูปร่างไม่ค่อยสูง ผอมบาง เป็นพวกที่อยู่ในประเภทเล่นบาสแล้วเสียเปรียบมาก” หลี่กวงเย่าเริ่มเล่าเรื่องราวของเพื่อน ซึ่งไม่ได้สนใจว่าหวังจงจวินจะอยากฟังหรือไม่ก็ตาม
“เขาไม่ค่อยว่องไว แรงปะทะก็ไม่แข็งแกร่ง ยากมากที่จะวิ่งเข้าตัดไปทำคะแนนในพื้นที่เขตจุดโทษ แย่งลูกรีบาวด์กับพวกป้องกันที่ตัวสูงใหญ่ในพื้นที่เขตจุดโทษยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบจะเอาชีวิตเขา ได้ลูกที่ทำรีบาวด์เป็นบางครั้งก็ถือว่าโชคดีแล้ว ถึงแม้ว่าเขาอัธยาศัยดี แต่ทุกคนก็ไม่ชอบอยู่ทีมเดียวกับเขา สุดท้ายก็ไม่มีคนชอบความรู้สึกพ่ายแพ้”
“ตอนแรกๆ เขารู้สึกแย่มาก แต่เพื่อให้ได้เล่นบาสเกตบอลกับทุกคน เขาฝึกชู้ตสามคะแนนกับระยะห่างตรงกลางสนามมาตลอด จนกระทั่งชู้ตได้แม่นยำมาก แต่กลับมีความรู้สึกตัวเองด้อยกว่าคนอื่น เขาไม่กล้าลงสนาม จนกระทั่งฉันมาชวนเขาไปเล่นบาสด้วยกัน ทุกคนถึงพบว่าเขาเป็นมือชู้ตที่น่าเชื่อถือมาก ยิ่งเล่นเขายิ่งมีความมั่นใจ หากฉันจำไม่ผิด ต้นปีหน้าเขาน่าจะไปปรากฏตัวอยู่ในสนามแข่งมัธยมปลายลีกเอละ ฉันรอคอยวันที่ได้เผชิญหน้ากับเขา”
หลีกวงเย่าพูดไปเรื่อยๆ สายตาส่งประกายแวววาว
“ฉะนั้น มาเป็นเพื่อนร่วมทีมของฉันเถอะ ฉันต้องการนาย” หลี่กวงเย่าก้าวขาเดินเร็วไปหยุดอยู่ตรงหน้าของหวังจงจวิน ยื่นมือขวาให้เขา
หวังจงจวินมองตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของหลี่กวงเย่า แล้วก็มองมือขวาของหลี่กวงเย่าที่ยื่นออกมา ภายใต้สายตาที่เฝ้ามองของเขา หวังจงจวินก็ก้าวเดิน ผ่านด้านข้างของเขาไป
“นายไม่ชอบเล่นบาสเกตบอลเหรอ?” หลี่กวงเย่าตะโกนใส่ด้านหลังของหวังจงจวิน
หวังจงจวินค่อยๆ หยุดเดิน แววตาแสดงอารมณ์สับสน แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น แล้วเขาก็เดินไปข้างหน้าต่อ
………………………………………………………………….