ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
เวลาบ่ายสามโมง เลิกเรียนคาบที่สอง อีกยี่สิบนาทีจะเป็นวิชาพละ และนี่เป็นช่วงเวลาทำความสะอาดที่โรงเรียนจัดสรรไว้ เห็นแต่นักเรียนชั้นม.4/5 ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และผ่านการตรวจของเฉินเพ่ยอี๋แล้ว ก็วิ่งด้วยความเร็วหนึ่งร้อยเมตรไปสนามบาสเกตบอล
ยกเว้นนักเรียนหญิง
“ทุกคนยังมีแรงเหลือเฟือกันจริงๆ” หลี่กวงเย่าเดินอย่างช้าๆ ไปทางสนามกีฬา เวลานี้ทั้งสี่มุมของสนามบาส เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัยรุ่นและเสียงตะโกน
“ยังมีคนเอาลูกบอลของตัวเองมาเล่น ดูเหมือนมีหลายคนชอบเล่นบาสในเวลาเรียน” หลี่กวงเย่าเริ่มวอร์มร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อ ปี๊ด!
นักเรียน ชั้นม.4/5 ยังไม่ทันได้เหงื่อออก เสียงแหลมของนกหวีดก็หยุดการเคลื่อนไหวของพวกเขา ครูพละถือสมุดเช็คชื่อ ตะโกนสุดเสียง “นักเรียน ชั้นม.4/5 มารวมกันตรงนี้!”
เมื่อได้ยินคำสั่งให้รวมตัวกัน นักเรียนที่กำลังเล่นบาสหยุดเล่นอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เดินมาทางที่ครูยืนอยู่
“รีบเช็คชื่อให้เรียบร้อย วอร์มร่างกายเสร็จ พวกเธอจะได้มีเวลาเล่นบาสเยอะขึ้น” ครูพละมีประสบการณ์เยอะ รู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะเร่งความเร็วของนักเรียนเหล่านี้
หลังจากที่ครูพละพูดจบ นักเรียนที่กำลังเดินช้าๆ ก็รีบวิ่งมารวมตัวกันจนครบ
“ทุกคนนั่งลง ตอนนี้จะเริ่มเช็คชื่อ” ครูพละเปิดสมุดเช็คชื่อ พอเริ่มขานชื่อ ผ่านไปห้านาที มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา “ดีมาก ไม่มีใครโดดเรียน เริ่มวอร์มร่างกาย เริ่ม หมุนข้อมือ ข้อเท้า…”
นักเรียน ชั้นม.4/5 ขี้เกียจวอร์มร่างกาย ใจลอยไปอยู่ที่สนามบาสเกตบอลนานแล้ว หลังจากผ่านไปห้านาทีที่นานเหมือนเป็นศตวรรษ เมื่อเสียงครูพละบอกให้แยกย้าย กลุ่มนักเรียนชายก็รีบวิ่งไปทางสนามบาสเกตบอลทันที
“แค่วอร์มร่างกาย ไม่ได้ยืดกล้ามเนื้อ จะบาดเจ็บได้ง่ายๆ” หลี่กวงเย่ายืดกล้ามเนื้ออยู่ข้างสนามกีฬา”
ในขณะที่หลี่กวงเย่าวิ่งได้หนึ่งส่วนสี่รอบของลู่วิ่งขอบด้านนอกสุดของสนาม เขาปลายตามอง เห็นคนหนึ่งฝึกชู้ตสามคะแนนไม่หยุดตรงบริเวณที่เป็นหลุม ที่มีสภาพแย่ที่สุดของสนาม หลี่กวงเย่าหยุดวิ่ง ตั้งใจดูฉากนี้
สวบ!สวบ!สวบ! เสียงของลูกบาสลงกลางห่วงดังอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่หวังจงจวินชู้ตบาส ปล่อยให้ลูกบาสวาดเส้นคล้ายกับเส้นโค้งสายรุ้งในอากาศที่ตกลงกลางห่วงอย่างแม่นยำ
“ชู้ตสิบครั้งลงห่วงสิบครั้ง สุดยอด” หลี่กวงเย่าดูอย่างเงียบๆ ไม่ได้ส่งเสียงรบกวน จนกระทั่งหวังจงจวินชู้ตลงห่วงลูกที่สิบ
หวังจงจวินก็สังเกตเห็นหลีกวงเย่า หันกลับมามองเขาอย่างตกตะลึง บอลที่หล่นลงมากระเด้งไปข้างสนาม แล้วกลิ้งกระดอนมาที่เท้าของหลี่กวงเย่า
“ชู้ตแม่นขนาดนี้ ทำไมไม่เล่นบาสแบบสามคนกับพวกเขาล่ะ มาฝึกอยู่คนเดียวไม่เบื่อเหรอ?
หลี่กวงเย่าเก็บลูกบาสขึ้นมา เดินไปมาในสนามไปหยุดอยู่ที่หน้าเส้นสามคะแนนแล้วชู้ตบาส
สวบ!
“เยส!” หลี่กวงเย่ากำมือแน่นอย่างมั่นใจ “ตอนนั้นเห็นนายกำลังอ่าน ‘สแลมดังก์’ ฉันรู้ว่านายต้องเล่นบาสเป็น
“ฉันเล่นบาสไม่เป็น” หวังจงจวินเก็บบอลขึ้นมาอย่างเงียบๆ ชู้ตสามคะแนนต่อ “ฉันชู้ตเป็นอย่างเดียว”
“ชู้ตเป็นอย่างเดียว?” หลี่กวงเย่าไม่เข้าใจ “บาสเกตบอลจริงๆ แล้วก็คือกีฬาที่โยนลูกบอลลงห่วง”
หวังจงจวินได้ยินแล้ว เพียงแค่ผงกหัว เขารู้ว่าหลี่กวงเย่าเข้าใจความหมายของเขาผิด แต่เขาก็ไม่คิดจะอธิบาย
“โอเค” หลี่กวงเย่ายักไหล่ กลับไปที่ทางวิ่งแล้ววิ่งต่อ
หวังจงจวินชู้ตบอล เก็บบอลต่อ แล้วก็ไม่ได้สนใจหลี่กวงเย่าอีก
เพียงแต่หวังจงจวินดูถูกความสามารถในการตื้อของหลี่กวงเย่าเกินไป ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที หลี่กวงเย่าถือลูกบอลมา ยืนข้างหวังจงจวินชู้ตสามคะแนน
“ชู้ตบอลอยู่คนเดียวน่าเบื่อจะตาย สู้พวกเรามาแข่งชู้ตยี่สิบลูกไม่ได้ คนที่ชู้ตได้น้อยกว่าต้องเลี้ยงน้ำ”
หวังจงจวินไม่ได้มองหลี่กวงเย่าเลยสักนิด แต่ชู้ตลงห่วงหนึ่งลูกทันที
สวบ! บอลลงตรงกลางห่วงพอดี
“ชู้ตเข้าหนึ่งลูก ตาฉันบ้าง” หลี่กวงเย่าชู้ตต่อ ลูกบอลโดนขอบด้านหน้าห่วง เด้งขึ้นลงอยู่บนขอบห่วงอยู่หลายทีแล้วกระดอนออกมา หลี่กวงเย่าทนไม่ได้ตะโกน “น่าเสียดาย!”
หวังจงจวินที่อยู่ข้างๆ ชู้ตลงอีกลูกทันที
สวบ! แล้วบอลก็ลงกลางห่วงอีก
“นายนี่แม่นจริงๆ” หลี่กวงเย่ายิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น เมื่อเห็นผลงานของหวังจงจวิน โยนลูกบาสออกไป ครั้งนี้ลูกตกลงด้านในห่วง หมุนอยู่ในห่วงสองรอบ แล้วก็กลิ้งออกมา
“บ้าจริง!” หลี่กวงเย่าตะโกน
สวบ! หวังจงจวินชู้ตต่อทันที แล้วตกลงตรงกลางห่วงอย่างสวยงามเป็นที่น่าจดจำอีกครั้ง
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป ผลัดกันชู้ตคนละลูก เมื่อทั้งสองคนชู้ตได้สิบห้าลูก ครู่หนึ่งมีเสียงตะโกนมาขัดจังหวะการแข่งขันของพวกเขา
“นี่น้อง พวกเราแค่กวาดขยะนานไปหน่อย เลยมาช้า พวกน้องก็ครองทั้งสนามเลยเหรอ จะมากเกินไปแล้ว!” ห้าคนที่ปรากฏตัวขึ้นคือรุ่นพี่ ซึ่งถือลูกบอลมาสองลูกเดินไปที่ทั้งสองคนยืนอยู่ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่พอใจ
“งั้นก็มาเล่นด้วยกันสิ” ชู้ตสามคะแนนของหวังจงจวินแม่นจริงๆ ชู้ตสิบห้าลูกลงสิบสามลูก หลี่กวงเย่าที่ชู้ตได้แค่เก้าลูก สบโอกาสที่จะหนีการเลี้ยงน้ำได้พอดีเลย
“พวกนายมีแค่สองคนเอง” รุ่นพี่แสดงท่าทางดูถูกออกมา พูดอย่างวางอำนาจว่า “พวกเราต้องการเล่นบาสที่นี่ นายสองคนไปเล่นที่อื่น”
“รุ่นพี่ แบบนี้มันเกินไปแล้ว” หลี่กวงเย่าพูดได้ครึ่งหนึ่ง เผยรอยยิ้มมีเลศนัย “ถ้าอยากให้พวกเราไปก็ได้ แต่ว่ารุ่นพี่ต้องส่งสองคนมาดวลกับพวกเรา หากพวกพี่ชนะ สนามนี้ยกให้พวกพี่”
ต่างฝ่ายต่างมองกัน คิดไม่ถึงหลี่กวงเย่าจะเสนอเงื่อนไขง่ายๆ อย่างนี้ขึ้นมา แม้ว่าหลี่กวงเย่าจะสูงแค่ร้อยแปดสิบกว่าเซนติเมตร ดูเหมือนคู่ของผู้เล่นจะเล่นบาสเกตบอลเก่ง แต่ก็เป็นแค่รุ่นน้องม.4 จะแข่งแกร่งขนาดไหนกัน? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสูง หวังจงจวินที่ดูผอมบาง ดูแล้วน่าจะประมาณร้อยเจ็ดสิบกว่าเซนติเมตร
ข้อเสนอนี้มีแต่ได้กับได้ ทำให้รุ่นพี่ทั้งห้าคนไม่คิดเลยสักนิด ก็รีบตอบตกลงหลี่กวงเย่า และตัดสินใจส่งคนที่เก่งที่สุดสองคนลงแข่ง ไม่แย่งสนามนี้ก็คงจะไม่ได้
“ตกลง การแข่งขันนี้ตัดสินแพ้ชนะ ใครได้หกคะแนนก่อนเป็นผู้ชนะ”
“ใช้วิธีเป่ายิงฉุบ ตัดสินสิทธิ์ครองบอล จะได้ไม่เสียเวลา” หลี่กวงเย่าพูด โดยไม่ได้สนใจว่าหวังจงจวินจะมีความคิดเห็นหรือไม่ก็ตาม
รุ่นพี่ไม่พูดอะไรสักคำ ดำเนินการทันที “ไม่ต้องแล้ว สิทธิ์ครองบอลให้พวกนาย รีบเริ่มเกม” เพราะว่าในใจพวกเขามั่นใจอยู่แล้วว่า สนามนี้เป็นของพวกเขาอย่างแน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------------------