ตอนที่ 242 จักรพรรดิจอมอสูร
หลิงฮันยิ้มและพูด “เป็นผู้ใหญ่แท้ๆ แต่กลับทำตัวหลบๆซ่อนๆ เจ้าไม่กลัวจะถูกหัวเราะรึไง?”
“ฮ่าๆ หนุ่มน้อย ในตอนที่จักรพรรดิผู้นี้เหยียบย่ำโลกทั้งใบ บรรพบุรุษของเจ้ายังไม่เกิดด้วยซ้ำ!” เสียงความนึกคิดหัวเราะ “ชื่อของจักรพรรดิผู้นี้คือ... จักรพรรดิจอมอสูร!”
จักรพรรดิจอมอสูร?
หลิงฮันชะงัก จากบันทึกของเซียวติง ผู้สร้างเขตแดนอสูรฟ้าลี้ลับขึ้นมาคือ ‘ราชาอสูร’ หรือว่าจะเป็นคนคนนี้? “ฉายาของเจ้าช่างน่าเกรงขามและทรงพลังยิ่งนัก แต่เจ้าไม่มีชื่อจริงรึไง?”
“ฮ่าๆๆ หนุ่มน้อย เจ้าคิดจะล้วงข้อมูลจากจักรพรรดิผู้นี้งั้นรึ?” เสียงความนึกคิดที่เรียกตัวเองว่าจักรพรรดิจอมอสูรหัวเราะ “เฮ้อ จักรพรรดิผู้นี้ไม่ได้พบเจอผู้คนมานานแล้ว ข้าจะพูดคุยกับเจ้าซักหน่อยแล้วกัน!”
หลิงฮันไม่ได้ซาบซึ้งที่มันยอมพูดด้วย เขาพูดกลับไปอย่างเย็นชา “ท่านจักรพรรดิจอมอสูรที่ใช้ทักษะลึกลับในการควบคุมผู้คน ข้าไม่กล้าที่จะคุยกับท่านหรอก ข้าเกรงว่าข้าจะตกไปสู่กับดักได้ตลอดเวลา”
จักรพรรดิจอมอสูรหัวเราะอย่างไม่มีร่องรอยความโกรธ มันรู้สึกอับอายเล็กน้อยที่แผนการของมันถูกเปิดโปง “ที่นี่คือเขตแดนลี้ลับที่ถูกผนึกเอาไว้โดยข่ายอาคมนับไม่ถ้วนเพื่อกันไม่ให้ผู้คนเข้ามา จักรพรรดิผู้นี้มีหน้าที่ในการดูแลดินแดนแห่งนี้ เป็นเจ้าเองต่างหากที่เข้ามาโดยพลการ”
คำพูดเหล่านี้ดูมีเหตุผลอยู่บ้าง
หลิงฮันคุ้นเคยกับคำพูดแบบนี้อยู่แล้ว เขาหัวเราะและพูด “ผู้อาวุโสเฒ่า สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งล้างมาหลายสิบหลายร้อยปี มันกลายเป็นดินแดนที่ไม่มีเจ้าของแล้ว! พวกเราเหล่าจอมยุทธต่างก็ต้องเดินทางค้นหาวาศนาในโบราณสถานเช่นนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? หรือผู้อาวุโสเฒ่าจะต้องส่งใบอนุญาตออกไปข้างนอกก่อนที่จะมีใครเข้ามาในเขตแดนนี้?”
จักรพรรดิจอมอสูรระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เจ้าหนุ่ม เจ้าช่างเป็นคนชวนทะเลาะได้เก่งยิ่งนัก! จักรพรรดิผู้นี้จะไม่เถียงกับเจ้าเรื่องเข้ามาในเขตแดนแห่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดหรือถูกแล้ว แต่ในเมื่อเจ้าเข้ามาในเขตแดนและก็พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง งั้นเจ้าก็อาจจะทำให้ความปรารถนาของจักรพรรดิผู้นี้เป็นจริงได้”
“ผู้อาวุโสมีความปรารถนาอันใด?” หลิงฮันถาม
“ให้จักรพรรดิผู้นี้บอกเจ้าก่อนว่าทำไมถึงเกิดเขตแดนอสูรฟ้าลี้ลับขึ้นมา” จักรพรรดิจอมอสูรถอนหายใจและเริ่มเล่าเรื่องให้หลิงฮันฟัง “เมื่อนานมาหลายหมื่นปี ตัวตนอันทรงพลังผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นบนโลกนี้ ชื่อของเขาคือเทพก่อเกิดหายนะ...”
เทพพระเจ้า?
หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย เหล่าตัวตนที่บรรลุถึงระดับทะลวงมิติจะสามารถบดขยี้ท้องนภาและเปิดช่องว่างมิติเพื่อขึ้นไปยังดินแดนศักดิสิทธิ์ในตำนาน หรือว่าเทพก่อเกิดหายนะจะมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์? ถ้าตัวตนเช่นนั้นปรากฏตัวขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาจะกลายเป็นผู้ไร้พ่ายในดินแดนมนุษย์หรอกรึ?
“เทพก่อเกิดหายนะนั้นแข็งแกร่ง แต่เขาก็ก่อความผิดอันชั่วร้ายขึ้น ทำให้ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนร่วมมือกันต่อต้านเขา หลังจากสูญเสียชีวิตไปมากมาย จอมยุทธเหล่านั้นก็สามารถโค่นล้มเทพก่อเกิดหายนะลงได้ ร่างกายของเทพก่อเกิดหายนะถูกแยกออกเป็นเก้าส่วน แต่ละส่วนถูกผนึกเอาไว้ในดินแดนลี้ลับที่ต่างกัน” จักรพรรดิจอมอสูรพูดเสริม
หลิงฮันตกตะลึงอย่างแท้จริง เขาขมวดคิ้วและพูด “ที่แห่งนี้ผนึกหนึ่งในเก้าส่วนของร่างกายเทพก่อเกิดหายนะเอาไว้?”
“ถูกต้อง”
หลิงฮันตกตะลึงและถามอีกครั้ง “ท่านพูดว่าร่างกาย ไม่ใช่ศพ?”
“เทพก่อเกิดหายนะทรงพลังเกินไป แม้จะถูกบดขยี้ออกเป็นชิ้นๆเขาก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ทันที ทำให้ไม่สามารถสังหารเขาได้ ดังนั้นจึงเหลือวิธีเดียวคือการแยกร่างกายของเขาออกเป็นเก้าส่วนเพื่อบั่นทอนพลังของเขาและผนึกร่างกายแต่ละส่วนแยกจากกัน” จักรพรรดิจอมอสูรอธิบาย
‘สมกับเป็นพระเจ้า แข็งแกร่งยิ่งนัก’
หลิงฮันคิดในใจและถามอีกครั้ง “ทำไมไม่แยกร่างของเขาออกเป็นสิบส่วนหรือร้อยส่วนล่ะ?”
“นั่นเพราะเก้าส่วนคือขีดจำกัดแล้ว ถ้าแยกเกินเก้าส่วน เทพก่อเกิดหายนะจะสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ แต่หากแบ่งออกเป็นเก้าส่วนหรือต่ำกว่า พลังของเขาจะลดลงแต่ไม่ฟื้นสภาพในทันที ดังนั้นเก้าส่วนจึงเป็นขีดจำกัด” จักรพรรดิจอมอสูรพูด
หลิงฮันพยักหน้า ความสงสัยข้อหนึ่งผุดขึ้นมาในความของหลิงฮันและถามออกไปทันที “หลังจากผ่านมาหลายหมื่นปี เทพก่อเกิดหายนะยังไม่ตายรึ?”
“อายุขัยของพระเจ้านั้นยาวนานเกินกว่าเจ้าจะจินตนาการ” จักรพรรดิจอมอสูรพูดอย่างเฉยเมย
“ช่วงชีวิตของผู้อาวุโสเองก็ดูเหมือนจะยาวนานเช่นกัน” หลิงฮันพูดอย่างไม่แยแส
“ฮ่าๆๆ เรื่องนี้เป็นความลับอีกอย่างหนึ่ง แต่มันก็เกี่ยวข้องกับความปรารถนาที่จักรพรรดิผู้นี้อยากจะขอให้เจ้าทำให้สำเร็จ” จักรพรรดิจอมอสูรหัวเราะและพูด “การผนึกเทพก่อเกิดหายนะให้อยู่ภายในเขตแดนลี้ลับทั้งเก้านั้นทำได้เพียงชั่วคราว ชิ้นส่วนทั้งเก้ายังคงหลงเหลือสัญชาตญาณที่จะกลับไปรวมกันใหม่”
เขาหยุดไปชั่วขณะและพูดต่อ “ดังนั้นเขตแดนลี้ลับแต่ละเขตแดนจึงมีข่ายอาคมป้องกันที่แข็งแกร่งเพื่อคอยผนึกเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ข่ายอาคมเหล่านั้นได้อ่อนแอลงทีละน้อยเพราะกาลเวลา น่าจะเป็นประมาณเมื่อสองหมื่นปีก่อนที่ข่ายอาคมอ่อนแอลงจนถึงขั้นเกือบจะผนึกเทพก่อเกิดหายนะเอาไว้ไม่อยู่ ดังนั้นจักรพรรดิผู้นี้จึงใช้ร่างของตัวเองผสานเข้ากับข่ายอาคมเพื่อทำให้มันกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง”
เพราะงั้นพวกชาวบ้านในเขตแดนลี้ลับถึงถูกขับออกไปจากเขตแดนอสูรฟ้าลี้ลับเหมือนที่เซียวตงเขียนเอาไว้รึ?
หลิงฮันคิดในใจ คำพูดของจักรพรรดิจอมอสูรไม่มีส่วนใดที่ไม่ลงรอยกันแม้แต่ส่วนเดียว และถ้าเขาเสียสละร่างกายของตนผสานเข้ากับข่ายอาคมเพื่อผนึกเทพก่อเกิดหายนะเอาไว้จริงๆ งั้นเขาก็คงเป็นคนที่น่าเคารพเป็นอย่างมาก
หลิงฮันพยักหน้าและพูด “ความเสียสละของผู้อาวุโสทำให้ข้าประทับใจยิ่งนัก”
จักรพรรดิจอมอสูรถอนหายใจและพูด “ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรพรรดิผู้นี้คือการกำจัดเทพก่อเกิดหายนะให้หายไปตลอดกาล! ซึ่งปกติแล้วความปรารถนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่การที่จักรพรรดิผู้นี้ผสานร่างกายของตนเองเข้ากับข่ายอาคมและต่อสู้กับเทพก่อเกิดหายนะมาหลายหมื่นปีทำให้จักรพรรดิผู้นี้เข้าใจเกี่ยวกับเทพก่อเกิดหายนะอย่างลึกซึ้ง หนุ่มน้อย จักรพรรดิผู้นี้มีหนทางในการกำจัดเทพก่อเกิดหายนะให้สิ้นซาก เจ้าจะช่วยจักรพรรดิผู้นี้ได้รึไม่?”
หลิงฮันยิ้ม ถึงแม้เรื่องที่จักรพรรดิจอมอสูรเล่าจะฟังดูเป็นเรื่องจริง แต่มันก็เป็นเขาฝ่ายเดียวที่พูด เขาที่มีชีวิตมาแล้วถึงสองชีวิตจะไม่เชื่อใครฝ่ายเดียวเด็ดขาด
หลิงฮันพูด “ข้าจะช่วยท่านได้อย่างไร?”
“สถานที่แห่งนี้ผนึกแขนซ้ายของเทพก่อเกิดหายนะเอาไว้ จักรพรรดิผู้นี้สามารถช่วยให้เจ้านำมันมาหลอมเข้ากับตัวเจ้าได้! เมื่อทำเช่นนั้น เทพก่อเกิดหายนะก็จะสูญเสียพลังหนึ่งในเก้าไปอย่างสมบูรณ์... และถ้าหากเจ้าครอบครองร่างกายของพระเจ้าหนึ่งในเก้าส่วน เมื่อเจ้าจะทะลวงผ่านพลังบ่มเพาะระดับพระเจ้า เจ้าจะมีโอกาสทะลวงสำเร็จถึงเจ็ดสิบหรือแปดสิบเปอร์เซ็นต์” จักรพรรดิจอมอสูรโยนข้อเสนอที่ยั่วยวนออกมา
ขยี้ท้องนภาและบรรลุขึ้นเป็นพระเจ้า... นี่คือความฝันของจอมยุทธทุกคน! ที่หลิงฮันตระเวนสำรวจโบราณสถานนับไม่ถ้วนก็เพราะเขาอยากจะทะลวงผ่านระดับทะลายมิติไม่ใช่รึไง?
ตอนนี้เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์ได้ปรากฏอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว... หนึ่งก้าวสู่สวรรค์!
การได้ครอบครองแขนของพระเจ้ามันสุดยอดขนาดไหนน่ะรึ?
มันสุดยอดถึงขนาดที่จิตใจอันแข็งแกร่งของหลิงฮันยังต้องสั่นไหว จังหวะหัวใจของเขาเต้นแรงกว่าเดิมสามเท่า อย่างไรก็ตาม เขาพยายามควบคุมอารมณ์ให้สงบอย่างรวดเร็ว “ข้าต้องทำอย่างไร?”
“ง่ายมาก เพียงแค่ดึงดาบออกมา และจักรพรรดิผู้นี้จะสามารถควบคุมพลังของข่ายอาคมได้ และเมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะช่วยเจ้าผสานเข้ากับแขนของพระเจ้าและเจตจำนงของเทพก่อเกิดหายนะ!” จักรพรรดิจอมอสูรพูดด้วยความตื่นเต้น