ตอนที่ 236 ลำธารอัสนีร่ำร้อง
"หลิงฮัน เจ้าชักจะอวดดีเกินไปแล้ว!" หลี่เฉิงหู่และคนอื่นโห่ร้องใส่เขาทีละคน
หลิงฮันยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า "ไม่ใช่ว่าข้ากำลังดูถูกพวกเจ้า แต่ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น พวกเจ้าทุกคนมันก็แค่ขยะ!"
"สามห้าว!" หลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อหมดความอดทนและโจมตีหลิงฮันพร้อมกัน
ในความเป็นจริง พวกเขาเป็นคนที่มีความสามารถ เพราะคนที่เหลือเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับรวมธาตุเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่อยู่ระดับก่อเกิดธาตุขั้นแรก พวกเขาทำได้แค่มองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทั้งหลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อต่างมาจากตระกูลชั้นสูง ดังนั้นพวกมันทั้งสองคนเลยแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป
พวกมันทั้งสองคนใช้ดาบและปลดปล่อยทักษะของใครของมันออกมา
หลี่เฉิงหู่กวัดแกว่งดาบของมันและเปลวเพลิงได้ปรากฏออกในอากาศและก่อตัวเป็นดอกไม้เพลิงและพุ่งเข้าหาหลิงฮัน ในขณะเดียวกัน เมื่อฮวงเหว่ยเจ๋อชักดาบของมันออกมาทำให้พื้นดินสั่นไหวเล็กน้อยราวกับว่ามันกำลังร่ายรำ
มั่งคงดั่งขุนเขา หลิงฮันไม่ขยับแม้แต่น้อยและสีหน้าของเขาดูไร้ความกังวล
"อวดดีเสียจริง!" หลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อสบถออกมา พวกมันทั้งสองคนปลดปล่อยกระบวนท่าสุดยอดของมันออกมาแล้ว แต่หลิงฮันยังคงทำตัวอวดดีไม่เลิก
พวกมันเคยได้ยินเรื่องของหลิงฮันจากปากผู้อาวุโสของพวกมันและถูกตักเตือนว่าห้ามยั่วยุเขาอย่างเด็ดขาด
ดังนั้น พวกมันจึงไม่กล้าฆ่าหลิงฮัน แต่ยังต้องการสอนบทเรียนให้กับหลิงฮัน และทำให้เจ้าเด็กเหลือขอนี่รับรู้ว่าสาวงามทั้งสองคนของเมืองจักรพรรดิเป็นที่รู้จักกันแบบนั้นเพราะพวกนางเป็นคนของเมืองจักรพรรดิไม่ใช่ใครจะครอบครองก็ได้
การโจมตีจากพวกมันทั้งสองคนตรงเข้าหาหลิงฮัน
ในที่สุดหลิงฮันก็เคลื่อนไหวและปัดเป่าการโจมตีทั้งสองด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง
ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขามันดูธรรมดามาก ทุกคนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ได้มีอะไรพิเศษ อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือของหลิงฮันสามารถทำลายการโจมตีของหลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อได้อย่างง่ายดาย และโจมตีไปที่หน้าอกของพวกมันทั้งสองคน
ปัง ปัง เสียงสองเสียงดังออกมา ร่างของหลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อกระเด็นออกไป พวกมันกระอักเลือดออกมากลางอากาศและลอยเป็นเส้นโค้งก่อนที่จะตกลงสู่พื้นพร้อมกัน
อึก!
ทุกคนรู้สึกตกใจ หลี่เฉิงหู่เป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นสาม ขณะที่ฮวงเหว่ยเจ๋อมีระดับขั้นต่ำกว่า แต่ทั้งคู่กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิดโดยฝีมือของหลิงฮัน
ประเด็นหลักคือหลิงฮันเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นแรกเท่านั้น! และเขาเอาชนะได้อย่างง่ายดาย ราวกับแข็งแกร่งกว่าพวกมันทั้งสองคนถึงสิบเท่า
หลังจากที่หลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อตระหนักว่าพวกมันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ความมั่นใจของพวกมันเลยหายไป และในตอนนั้นเองพวกมันได้ละทิ้งความคิดที่จะสอนบทเรียนให้กับหลิงฮันทั้งหมดไป
สำหรับหลิงฮัน ตราบใดที่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับใครบางคนที่มีระดับพลังที่สูงกว่า แล้วด้วยประสบการณ์ของเขาในฐานะที่เคยเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์แล้ว จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุจะนับว่าเป็นอันใดได้?
"ไปให้พ้นหน้าข้า!" หลิงฮันตะโกนไล่
ถ้าคนพวกนี้ทำตัวสุภาพกับเขา เขาก็จะทำตัวสุภาพกลับพวกมันเมื่อเขาขอให้พวกมันออกไป แต่พวกมันต้องการทำให้เขาอับอาย ดังนั้นทำไมเขาจะต้องไว้หน้าพวกมันด้วย?
เขาจะไม่ปล่อยให้คนนอกรู้เรื่องหอคอยทมิฬเด็ดขาด ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้คนอื่นติดสอยห้อยตามไปด้วย
หลี่เฉิงหู่และฮวงเหว่ยเจ๋อไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก และในไม่ช้าพวกมันก็ลุกขึ้นยืนจ้องมองหลิงฮันอย่างดุร้ายและหันหลังจากไป ขณะที่พวกมันจากไป คนที่เหลือก็ตามพวกมันไปด้วย
"หลีซื่อฉาง ทำไมเจ้าถึงไม่ไปกับพวกมันล่ะ?" หลิ่วอู๋ตงถามด้วยความไม่พอใจ
"ข้าแค่พบเจอพวกมันระหว่างทางเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ข้าเป็นแค่นักปรุงยาอันต่ำต้อยแล้วไม่ใช่สมาชิกของแปดตระกูลใหญ่ พอพูดถึงเรื่องพวกนั้นแล้ว เจ้าน่าจะเข้าร่วมกับพวกมันนะ!" หลีซื่อฉางตอบโต้ด้วยวิธีการทำนองเดียวกัน
"ฮึ่ม!" พวกนางสองคนจ้องหน้ากันไปมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
"ตลก!" ฮูหนิวพุ่งเข้ากอดหลิงฮัน ใบหน้าเล็กๆของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม—คนน่าเกลียดสองคนกำลังถกเถียงกันอย่างโง่เขลา แต่หลิงฮันเป็นของหนิว!
หญิงสาวทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันและพูดออกมาด้วยความกังวล "แต่...หลิงฮัน ตอนนี้เจ้าได้ยั่วยุรุ่นเยาว์ของทั้งแปดตระกูลใหญ่แล้ว เมื่อเจ้ากลับไปที่เมืองจักรพรรดิ เจ้าอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก!"
หลิงฮันยิ้มอย่างมั่นใจออกมา ตอนนี้เขาได้ก้าวผ่านระดับก่อเกิดธาตุแล้วและเหนือกว่ารุ่นเยาว์เกือบทุกคน ตราบใดที่เหล่าผู้อาวุโสไม่ออกมา เขาจำเป็นต้องหวาดกลัวด้วยหรือ?
"ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน" หลิงฮันกล่าว
ทั้งสองสาวคิดเหมือนกันว่ากังวลตอนนี้ไปมันก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าตำหนักโอสถสวรรค์มอบเหรียญตรานักปรุงยาระดับดำขั้นสูงให้กับหลิงฮัน เช่นนั้นแม้แต่ผู้นำทั้งแปดตระกูลใหญ่ยังต้องปฏิบัติกับเขาอย่างสุภาพและเรียกเขาว่านายน้อยฮันเมื่อพวกเขาพบเจอหลิงฮัน แล้วพวกรุ่นเยาว์จะไปทำอะไรได้?
ครึ่งวันต่อมา พวกเขาได้เดินทางมาถึงลำธารขนาดใหญ่
ห่างไปข้างหน้าเป็นพื้นที่ต้องห้ามของเขตแดนลี้ลับ แต่ว่าลำธารนี่...ไม่ง่ายที่จะข้ามผ่านมันไป!
หลิงฮันจับตาดูอย่างใกล้ชิดและเห็นว่าในลำธารมีประกายแสงของสายฟ้าปรากฏออกมา
นี่คือลำธารอัสนีร่ำร้อง ถ้าใครผลีผลามข้ามลำธารนี่ไป คนผู้นั้นจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆด้วยพลังของสายฟ้า ไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุ หรือระดับห้วงจิตวิญญาณและแม้แต่จอมยุทธระดับสวรรค์ยังต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นมัน
หลิงฮันรู้สึกแปลกและพูดว่า "มีใครเคยข้ามลำธารนี่มาก่อนหรือไม่?"
"ตามบันทึกของบรรพบุรุษได้เขียนไว้ว่ามีคนเคยข้ามไปได้ แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาใช้วิธีการอะไร...และไม่มีใครเคยกลับมา ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้วิธีข้าม" หลิ่วอู๋ตงกล่าว
หลิงฮันพยักหน้า ตามบันทึกโบราณของเซียวติงที่ทิ้งไว้ ที่ไหนสักแห่งในลำธารอัสนีร่ำร้องจะมีพื้นผิวน้ำที่ช่วยให้ผู้คนสามารถข้ามได้ซ่อนอยู่ซึ่งจะปรากฏในแต่ละวันในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่หลายคน
หลิงฮันกำลังค้นหาสถานที่ที่มีต้นตอซ่อนอยู่
พวกเขาเดินไปตามลำธารและมองหาสมุนไพรและต้นไม้ระหว่างทาง ถึงแม้สมุนไพรที่พวกเขาจะเก็บเกี่ยวได้จะอยู่ในระดับต่ำ แต่มันก็ยังมีประโยชน์ นอกจากนี้ พื้นที่ในหอคอยทมิฬนั้นแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด แล้วจะปล่อยพวกมันให้สูญเปล่าได้อย่างไร?
เมื่อเห็นหลิงฮันทำให้สมุนไพรและต้นไม้หายไปขณะที่เขาเดินผ่าน หลี่ซื่อฉางทำท่าราวกับว่านางเห็นผี ขณะที่หลิ่วอู๋ตงแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา แม้ว่าไม่กี่วันก่อน นางจะทำสีหน้าแบบนั้นออกมา แต่ว่าตอนนี้นางสามารถหัวเราะเยาะหลี่ซื่อฉางได้เหมือนกับคนบ้านนอกที่ทำตัวตื่นตระหนก
หลิงฮันเปิดเผยความลับของแหวนมิติให้พวกนางทั้งสองคนรู้ และพูดว่าตอนนี้เขามีช่องเก็บของใหม่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงความลับของหอคอยทมิฬ และตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้แหวนมิติอีกต่อไปตั้งแต่ที่ใช้หอคอยทมิฬแทนมันได้ ทั้งยังมีพื้นที่กว้างใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นเขาจึงจะมอบแหวนมิติให้กับพวกนาง
ทั้งสองสาวอยากรู้อยากเห็นมากกับสิ่งที่ไม่เคยเห็น และจ้องมองแหวนมิติด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
มุมมองหนึ่งแหวนมิติเป็นสิ่งของที่ดี แต่ในอีกมุมมองหนึ่งแหวนแสดงได้อีกความหมาย
"มันเป็นของหนิว!" หญิงสาวทั้งสองคนกำลังรอให้หลิงฮันเลือกว่าจะมอบแหวนมิติให้ใคร แต่มีใครบางคนที่ไม่เล่นตามกฎ และคว้าไปที่แหวนมิติแล้วสวมมันบนนิ้วมือของนางพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมา
หลังจากที่ฮูหนิวสวมแหวนบนนิ้วมือของนาง นางพูดว่ามันว่างเปล่าทำให้นางโวยวายออกมาด้วยความโกรธ
หลิงฮันหัวเราะออกมาเสียงดัง และนำเชือกสีแดงออกมา แล้วทำเป็นจี้คอและสวมมันไว้บนคอของฮูหนิว ทำให้เด็กสาวตัวน้อยที่กำลังโกรธเกรี้ยวมีความสุขขึ้นมาทันทีและจูบแก้มหลิงฮันเป็นรางวัล
หลิ่วอู๋ตงและหลี่ซื่อฉางมองหน้ากันไปมาและเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นภายในใจของพวกนาง