ตอนที่ 235 กำไรเล็กน้อย
หลิงฮันพยักหน้า จากบันทึกโบราณ มันอาจมีรูปแบบอาคมถูกวางไว้อยู่เบื้องหลังลำธารขนาดใหญ่ และถ้าใครต้องการข้ามมันไป คนผู้นั้นจะต้องมีความเข้าใจรูปแบบอาคมอย่างลึกซึ้ง หรือมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำลายรูปแบบอาคมได้
ถ้าเขาอยากเข้าใจเขตแดนลี้ลับนี่ เขาต้องผจญภัยเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุด
ถ้าเขายังอยู่ในระดับรวมธาตุ หลิงฮันไม่อาจประเมินควาสามารถของตัวเองได้มากเกินไปและทำแบบนั้น นอกจากนี้เขาไม่จำเป็นต้องทิ้งชีวิตของตัวเองเพราะความอยากรู้อยากเห็น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีความมั่นใจมาก แม้ว่าเขาจะหาความลับของเขตแดนลี้ลับไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็สามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย
"มาลองดูกันว่าข้าจะเจอสมุนไพรหรือไม่" หลิงฮันกล่าว
หอคอยทมิฬชั้นแรกมีความสามารถในการเร่งอันตราการเจริญเติบโตของสมุนไพร เขาเป็นจักรพรรดิปรุงยา—ถ้าเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน มันถือว่าเขาเป็นคนโง่เขลาอย่างแท้จริง
พื้นที่บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่อันตรายมากและมีขนาดกว้างใหญ่ สิ่งที่สามารถมองเห็นได้คือป่า ต้นไม้ ต้นหญ้าและดอกไม้ที่แตกต่างกันไป
ทันใดนั้น ฮูหนิวได้แสดงความสามารถของนางออกมาอีกครั้ง
เด็กน้อยเริ่มสูดดมกลิ่นและพาหลิงฮันไปที่ 'หญ้าดาราคราม' มันเป็นสมุนไพรจิตวิญญาณระดับสี่ซึ่งสามารถสกัดเป็นเมล็ดยาแห่งความโกรธระดับสี่ได้ หลังจากที่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณใช้มัน พลังของพวกเขาสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์หรืออาจมากกว่านั้น มันเป็นเม็ดยาที่มีประโยชน์มาก
"เอ่อ ฮูหนิว เจ้าเจอมันได้ยังไงกัน?" หลิงฮันถามออกมาด้วยความอยากรู้
"ฮูหนิวเป็นนักชิม!" ฮูหนิวกล่าว ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเองมาก
หลิงฮันอดที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาไม่ได้ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะฮูหนิวมีรากฐานวิญญาณที่น่าทึ่ง—แน่นอนว่านางไม่ธรรมดา นางมีความสามารถต่างจากคนปกติมาก
หลิ่วอู๋ตงรู้สึกมืดมน ในเรื่อง 'คู่แข่งด้านความรัก' รัศมีของนางถูกกลบจนหมดจากเด็กสาวตัวน้อยที่มีอายุห้าหรือหกปี ทำให้ใบหน้าของนางแดงด้วยความอัปยศ
หลิงฮันขุดต้นหญ้าดาราครามอย่างระมัดระวัง ยิ่งหญ้าดาราครามมีอายุมากเท่าใด ประสิทธิภาพของการสกัดเม็ดยาแห่งความโกรธยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น อย่างมากที่สุดมันอาจเพิ่มพลังได้มากถึงสิบเท่าและไม่ใช่ทุกคนที่จะทนพลังของเม็ดยาได้ มันอาจทำให้ร่างกายของคนที่ทนไม่ไหวระเบิดจากผลของเม็ดยา
ถ้าเขาปลูกหญ้าดาราครามภายในหอคอยทมิฬ หนึ่งปีมันจะเท่ากับหนึ่งพันปี!
โดยปกติ หญ้าดาราครามอายุห้าสิบปีถือว่าดีเกินพอแล้ว ตอนนี้ หญ้าดาราครามนี่มีอายุประมาณสามสิบปี ดังนั้นหากเขาปลูกมันหนึ่งวันภายในหอคอยทมิฬมันก็จะมีอายุห้าสิบปี
ฮูหนิวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในไม่ช้านางก็หาไม้เจ็ดสายเจอ
ต้นไม้เจ็ดสายหรือที่เรียกกันว่าต้นไม้เมฆาเป็นสิ่งทีช่วยสนับสนุนจอมยุทธสายน้ำแข็งได้เป็นอย่างดี มันไม่จำเป็นต้องทำเป็นเม็ดยา แค่สกัดด้วยเปลวเพลิงจิตวิญญาณก็เพียงพอ ราคาของต้นเจ็ดสายนั้นจะแตกต่างกันไปตามอายุของมันและยิ่งมากก็จะยิ่งดี แต่โดยปกติแล้ว มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหาต้นที่มีอายุมากกว่าพันปีเจอ
ต้นเจ็ดสายนี่มีอายุร้อยกว่าปีเท่านั้น แต่มันไม่ได้สำคัญ ถ้ามัน 'อยู่' ในหอคอยทมิฬอีกไม่กี่เดือนมันก็จะมีอายุหนึ่งพันปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม โชคลาภไม่ได้อยู่ข้างเขาตลอด ในอีกสองวันต่อมาพวกเขาไม่ได้รับอะไรเลย แม้ฮูหนิวจะพบต้นไม้ต้นอื่น แต่โชคร้ายที่ผลของมันถูกเด็ดออกไปเรียบร้อยแล้ว แต่หลิงฮันก็ไม่ได้สนใจมัน เขาก็แค่ย้ายมันไปปลูกในหอคอยทมิฬก็จบแล้ว
"มีใครบางคนอยู่ใกล้ๆ!" หลิงฮันหยุดชะงักทันที
"ใช่! ใช่!" ฮูหนิวพยักหน้าอย่างรุนแรง
มีคนสิบกว่าคนกำลังลงมาจากภูเขาด้านหน้า คนที่แก่ที่สุดมีอายุไม่เกินสามสิบปีและมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงในกลุ่มคนเหล่านั้น
"หืม?" หลิงฮันกวาดสายตามองและเผยให้เห็นถึงความแปลกใจ
"หลิงฮัน!" หญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มตะโกนออกมาเป็นคนแรกและโบกมือให้กับหลิงฮันแล้ววิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
นางคือหลีซื่อฉาง
เมื่อเห็นหลีซื่อฉางเดินไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินตามมา จมูกของพวกมันแต่ละคนต่างชี้ขึ้นฟ้าเผยให้เห็นถึงความหยิ่งยโส
"โอ้ว เจ้าคือหลิงฮัน?" ชายหนุ่มเสื้อคลุมถักพูดออกมาอย่างไม่แยแส น้ำเสียงของมันดูสงบ แต่ปลดปล่อยความรู้สึกของคนที่อยู่เหนือกว่าออกมา เหมือนกับคนที่มีสถานะสูงส่งกำลังมองเหยียดสามัญชน
"มันมีหลิงฮันอยู่หลายคนงั้นรึ?" หลิงฮันพูด
เด็กหนุ่มที่ดูหยาบคายเดินเข้ามาและพูดว่า "ข้าได้ยินมาเจ้าสามารถปะมือกับเฟิงหยางได้ แต่ข้าไม่เชื่อแม้แต่น้อย!"
"เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกันและเจ้าจะเชื่อหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?" หลิงฮันพูดอย่างไม่แยแส
เด็กหนุ่มคนนั้นรู้สึกโกรธและตะโกนออกมาว่า "ข้ามาจากตระกูลฮวง ฮวงเหว่ยเจ๋อ เจ้ากล้าดูหมิ่นข้างั้นรึ!?"
"โอ้ว ดูเหมือนข้าจะพูดผิดไป งั้นเจ้าคือคนไร้ค่าสินะ..." หลิงฮันกล่าว
"เจ้า..." ดวงตาของฮวงเหว่ยเจ๋อเบิกกว้างด้วยความโกรธและเผยให้เห็นถึงจิตสังหาร
ฮูหนิวรีบแยกเขี้ยวออกมาทันทีและแสดงให้เห็นเขี้ยวที่แหลมคมของนาง
"เหว่ยเจ๋อ!" ชายหนุ่มเสื้อคลุมถักหยุดมัน แล้วพูดออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะว่า "ต่อหน้าบุปผาที่งดงามอย่างพวกนางสองคนเจ้าลืมมารยาทไปได้อย่างไร?"
"พี่เฉิงหู่พูดถูก!" ฮวงเหว่ยเจ๋อยับยั้งความโกรธของมันทันที มันไม่อาจทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าหญิงสาวที่งดงามทั้งสองคนได้
"น้องอู๋ตง!" ชายหนุ่มเสื้อคลุมถักกล่าวทักทายหลิ่วอู๋ตง ทั้งสองคนรู้จักกันและกัน
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ไว้หน้าหลิงฮันเลย ดังนั้นหลิ่วอู๋ตงจึงไม่ไว้หน้ามันเช่นกัน นางเพียงแค่เบนหน้าหนีเล็กน้อยและทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เหล่าชายหนุ่มรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันที สถานะและความสามารถของหลิงฮันมันคืออะไรกันถึงทำให้นางทำตัวแบบนั้นได้! ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าแค่หลิ่วอู๋ตงเพียงคนเดียวมันยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่แม้แต่หลีซื่อฉางดูเหมือนจะกลายเป็นของเขาไปแล้ว แล้วเหล่าชายหนุ่มในเมืองจักรพรรดิจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร?
"ข้าคือหลี่เฉิงหู่!" ชายหนุ่มเสื้อคลุมถักพยายามรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองและพูดกับหลิงฮันว่า "ชื่อเสียงของน้องชายหลิงฮันข้ารู้จักมานานแล้ว พวกเรามาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันสักเล็กน้อยไหม?"
"หลี่เฉิงหู่? ทำไมเจ้าถึงไม่เรียกตัวเองว่าหลี่เฉินหลงล่ะ หรือว่าความทะเยอทะยานของเจ้าจะมีน้อยเกินไป?" หลิงฮันหัวเราะ
สีหน้าของหลี่เฉิงหู่เผยให้เห็นถึงความไม่พอใจ มังกรคือตราสัญลักษณ์ของตระกูลจักรพรรดิ และถ้ามันเรียกตัวเองว่า "เฉินหลง" มันจะเป็นการล่วงเกินตระกูลจักรพรรดิ เมื่อหลายพันปีก่อน ในตอนที่แคว้นพิรุณก่อตั้งขึ้นมันอาจไม่สำคัญเท่าไหร่นัก นั่นเป็นเพราะเก้าตระกูลใหญ่นั้นมีพลังอำนาจใกล้เคียงกัน แต่ทว่าตอนนี้ ตระกูลฉีมีจอมยุทธเฒ่าระดับบุปผาผลิบานอยู่เบื้องหลังพวกเขา และด้วยพลังของตระกูลจักรพรรดิ พวกเขาสามารถกำจัดแปดตระกูลใหญ่ได้
"ลิ้นของเจ้าช่างแหลมคมเสียจริง แล้วความสามารถของเจ้าล่ะ?" มันพูดออกมาอย่างเย็นชา
"หลี่เฉิงหู่ เจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายยิ่งนัก หลิงฮันเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับรวมธาตุขั้นแรกเท่านั้น แต่เจ้าเป็นถึงจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นสาม! เจ้ายังกล้าขอให้เขาประมือกับเจ้าอีกรึ?" หลีซื่อฉางตะโกนออกมาทันที
"ระดับรวมธาตุขั้นแรก?" สีหน้าของหลี่เฉิงหู่และคนอื่นดูแปลกใจ เพราะออร่าที่หลิงฮันปลดปล่อยออกมามันอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นแรก
การต่อสู้ระหว่างจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นสามกับขั้นแรกอาจไม่ยุติธรรม แต่ทั้งคู่ก็อยู่ระดับก่อเกิดธาตุชั้นต้น ซึ่งอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้
หลิงฮันถอนหายใจออกมา เขาสบัดนิ้วมือและพูดว่า "ข้าไม่อยากเสียเวลาไปกับคนอย่างเจ้า พวกเจ้าทุกคนเข้ามาพร้อมกันให้หมดเลย เพราะอาจมีคนรับไม่ได้หลังจากที่ข้าเอาชนะพวกเจ้า ถ้าเจ้าแพ้ก็ไสหัวไปซะ!"
"อวดดีนัก!" เหล่าชายหนุ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที พวกมันคิดว่าหลิงฮันกล้ามากที่ดูถูกพวกมันแบบนั้น!