HK ตอนที่ : 76
มัตสึชิตะทาคาโกะเริ่มเล่าเรื่องระหว่างตัวแทนแคนน่อนกับชิเล่ย ที่โคโนะอิจิโระพูดจาล่วงเกินหลิงหยูโม่กับมู่ชวง นอกนี้ชิเล่ยยังเป็นคนบอกให้พวกเขาไปที่ถนนด้านหลังอีกด้วย!
เฉินกวงเหลียงมองไปที่ชิเล่ยที่กำลิงดื่มนมโดยไม่สนใจอะไร ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ
"ชิเล่ยที่คุณมัตสึชิตะเล่ามาเป็นความจริงไหม?"
ถ้าเป็นเรื่องจริงละก็ ชิเล่ยต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง!
ชิเล่ยยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่กล่องนมและทำท่าทางว่าเขากำลังดื่มนมและนมเต็มปาก หลังจากที่รอสักครู่ ชิเล่ยก็วางกล่องนมลงบนโต๊ะและหัวเราะพูดว่า "กัปตันเฉินเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ! ตัวแทนบริษัทแคนน่อนจากประเทศวูซางถูกผมเชิญมา เพื่อมาเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจกัน!"
ดวงตาของเฉินกวงเหลียงดูเคร่งเครียดมากขึ้น "ชิเล่ยถ้าตามที่คุณมัตสึชิตะเล่ามา นายนัดเจอกันที่ในโรงแรมกรีนเลคนิ แล้วทำไมนายถึงได้เปลี่ยนที่ไปล่ะ?"
"ตอนห้าโมงเย็นทุกคนก็ต้องหิวกันถูกไหม? โรงแรมหรูๆอย่างโรงแรมกรีนเลค ผมไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารได้หรอก ดังนั้นผมเลยบอกให้พวกเขามาที่ถนนด้านหลัง มากินร้านอาหารข้างทางแทนดีกว่า!" ชิเล่ยกำลังพูดตามใจตัวเอง
เรื่องของที่ชิเล่ยเล่ามา จะจริงหรือเท็จนั้น เฉินกวงเหลียงยังไม่สามารถตรวจหาความจริงได้และเขาไม่ได้หลงกลชิเล่ย ยังคงถามต่อว่า "ชิเล่ยถ้ามันเป็นอย่างที่นายพูด แล้วทำไมนายไม่รออยู่ที่โรงแรมกรีนเลคแล้วไปพร้อมด้วยกันกับตัวแทนของแคนน่อนล่ะ?"
มัตสึชิตะทาคาโกะพูดแทรดขึ้นมาว่า "คุณชิเล่ยคะ ถ้าฉันจำไม่ผิดคำพูดของคุณโคโนะอิจิโระเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้คุณโมโหขึ้นมาและถ้าหากไม่ได้เพื่อนผู้หญิงของคุณทั้งสองคนห้ามเอาไว้ คุณคงลงมือไปแล้วถูกต้องไหมคะ?"
ชิเล่ยไม่ตอบเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นเท่านั้น
เต๋าชุนที่อยู่ด้านข้างกำลังมีความกังวลเล็กน้อยพูดขึ้นมาว่า "หัวหน้าเฉิน ผมคิดว่านี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ชิเล่ยไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นอย่างนั้นหรอกครับ!"
เฉินกวงเหลียงพูดด้วยเสียงขึ้นจมูกว่า "เสี่ยวเต๋า เราเป็นคนของประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมจะต้องไม่ใช้เหตุผลส่วนตัว! หากชิเล่ยเป็นผู้ต้องสงสัย เราก็ต้องตรวจสอบอย่างยุติธรรม ถ้าไม่ใช่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา! นายเข้าใจหรือยัง?"
เต๋าชุนพยักหน้า "หัวหน้าเฉิน ผมเข้าใจแล้วครับ!"
ชิเล่ยที่อยู่ด้านข้าง มองเต๋าชุนอย่างขอบคุณ "พี่ชายเต๋าขอบคุณมากครับ! ผมเชื่อว่าคนมือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง! ตัวแทนจากแคนน่อนต้องการใส่ร้ายผม แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำได้!"
ซูเอ้อดิงมองการแสดงออกถึงความชอบธรรมของชิเล่ย ถ้าชิเล่ยไม่สั่งให้เขาไปจัดการวูซางน้อยเหล่านั้นละก็ ตอนนี้ซูเอ้อดิงอาจจะเชื่อว่าชิเ่ลยเป็นผู้บริสุทธิ์!
"ชิเล่ย เรื่องนี้นายมีส่วนเกี่ยวข้องไหม?" เฉินกวงเหลียงถามอย่างตรงไปตรงมา
ชิเล่ยส่ายหัวปฏิเสธ "แน่นอนว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! บางทีคนที่ชื่อโคโนะอิจิโระอาจจะเดินไม่ระวังแล้วไปสะดุดขาล้มลงเข้าและทำให้อายเลยโมโหขึ้นมาก็ได้ใช่ไหม?"
เอ้อเหมาที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาย่างรวดเร็วว่า "ใช่ใช่ใช่! เป็นแบบนั้นแหละ! วูซางน้อยนั่นเดินไม่ระวังแล้วล้มลงไปเอง ผมไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย!"
ซูเอ้อดิงก็เปิดปากพูดขึ้นเสริมว่า "ในตอนนั้น ผมกำลังแคะหูอยู่ แล้วก็เผลอยืดเท้าออกไปโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นอ้วนน้อยคนนั้นก็เดินมาสะดุดเท้าเอง แล้วก็หันมาต่อว่าผมและยังเรียกเพื่อนของเขาให้มาต่อยผมอีก!" จากนั้นซูเอ้อดิงก็ถลกเสื้อขึ้นเผยให้เห็นรอยช้ำบนหน้าอก "กัปตันเฉินคุณดู นี่คือรอยที่วูซางน้อยต่อยผม! ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณสามารถเรียกผู้เชี่ยวชาญของคุณ เพื่อมาตรวจสอบอาการบาดเจ็บนี้ได้ แน่นอนว่ามันเป็นรอยจากการโดนต่อย!"
เต๋าชุนตรวจสอบดูแล้วพยักหน้าให้กับเฉินกวงเหลียงและพูดว่า "หัวหน้าเฉิน รอยฟกช้ำรอยนี้เกิดจากการต่อยแน่นอน เวลาที่เกิดรอยนี้น่าจะไม่เกินสองชั่วโมงครับ"
มัตสึชิตะทาคาโกะรีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า "คุณตำรวจคะ เพราะพวกเรากำลังถูกคุกคามโดยพวกเขา พวกเราจึงทำลงไปเพราะต้องการป้องกันตัวเท่านั้นค่ะ"
เฉินกวงเหลียงมองไปที่ซูเอ้อดิงแล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ซูเอ้อดิง นายรู้จักกับชิเล่ยหรือเปล่า? ผมขอเตือนคุณก่อนนะว่า ในกรณีนี้เกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางการทูต หากปกปิดหรือไม่รายงานตามกฎหมาย นายต้องเข้าคุก!"
ซูเอ้อดิงใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อยและกระพริบตา "ผมไม่รู้จักเขา!"
เฉินกวงเหลียงตะคอกออกมาเสียงดังโกน "นายแน่ใจนะว่าไม่รู้จัก?"
ซูเอ้อดิงตอนนี้หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาก้มหน้าลงไม่กล้ามองเฉินกวงเหลียง และยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่กล้าหันไปมองชิเล่ย เขาเลือกที่จะเงียบและไม่ตอบคำถาม
เฉินกวงเหลียงหันไปมองชิเล่ยและในดวงตาของเขาดูมีความซับซ้อนอยู่ในนั้น เนื่องจากสถานีตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับชิเล่ยและทางสถานีตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบประวัติของชิเล่ยโดยละเอียด เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าเท่านั้นและไม่มีอำนาจอะไร แล้วทำไมอันธพวกนี้ถึงฟังคำสั่งเขา? หรือว่าโดนขู่เอาชีวิต?
เมื่อเค้นข้อมูลจากซูเอ้อดิงไม่ได้ เฉินกวงเหลียงจึงหันไปสอบสวนอันธพาลที่เหลืออยู่ อย่างไรก็ตามคนหนุ่มเหล่านี้ทุกคนรู้ 'เบื้องลึกเบื้องหลัง' ของชิเล่ยจากซูเอ้อดิง แล้วพวกเขาจะกล้าพูดความจริงออกมาได้อย่างไร?
พวกเขาแคค่ถูกตำรวจจับและอาจถูกตัดสินให้จำคุกตามการกระทำของพวกเขา พวกเขาแค่ถูกคุมขังเป็นเวลาสิบถึงสิบห้าวันหรือไม่ก็หนึ่งเดือนเท่านั้นเอง แต่ถ้าขายชิเล่ยใครจะรู้ว่าพวกเขาอาจจะถูกฆ่าโดยกลุ่มของเย่เฟิง?
"เต๋าชุนนำพวกเขาทั้งหมดไปที่ห้องสอบปากคำ แยกคนละห้อง!" เสียงของเฉินกวงเหลียงเต็มไปด้วยความโกรธ ในฐานะที่เป็นตำรวจหัวกะทิ เขาเห็นได้ชัดว่าพวกอันธพาลพังค์กลุ่มเล็กๆพวกนี้ ถูกควบคุมโดยชิเล่ย แต่ชิเล่ยทำได้อย่างไรถึงควบคุมอันธพาลพวกนี้ได้?
เต๋าชุนพากำลังจะพาพวกอันธพาลทั้งแปดคนเดินออกไปเข้าห้องสอบปากคำก่อน แต่ก่อนที่จะถูกพาออกไปชิเล่ยก็พูดเสียงเบาออกมาว่า "กัปตันเฉิน ไม่ว่าคุณจะถามอะไรผม ผมบอกได้เลยว่าผมไม่รู้จักพวกเขา! แล้วก็ไม่ว่าคุณจะถามพวกอันธพาลพวกนี้ยังไง พวกเขาก็ไม่รู้จักผมแล้วผลลัพธ์ก็ยังคงออกมาเหมือนเดิมอยู่ดี! ถูกกล่าวหาแบบนี้ ตอนจบมันคงออกมาสวยเท่าไหร่นัก!"
แม้คำพูดพวกนี้จะพูดให้เฉินกวงเหลียงฟัง แต่ในความเป็นจริงเขากำลังบอกกับพวกอันธพาล!
ในตาของอันธพาลทั้งแปดคนแสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง ชิเล่ยกำลังเตือนพวกเขา!
แม้ว่าชิเล่ยจะไม่รู้ว่าทำไมพวกอัธพาลถึงกลัวเขามากขนาดนี้ แต่เนื่องจากพังค์น้อยพวกนี้กลัวเขา เขาก็ถือว่าเป็นทุนของตัวเอง!
หลังจากเต๋าชุนพาพวกอันธพาลออกไปจากแผนกอาชญากรรม ด้านในจึงเหลือแค่มัตสึชิตะทาคาโกะ เฉินกวงเหลียง และชิเล่ยเท่านั้น
ชิเล่ยออกจากโต๊ะของเฉินกวงเหลียง จากนั้นก็ดึงเก้าอี้ออกมานั่ง
มัตสึชิตะทาคาโกะมองชิเล่ยอย่างหงุดหงิด ในฐานะที่เป็นล่ามแปลภาษาเซี่ยจึงทำให้เธอรู้จักประเทศเซี่ยมาก ในสถานีตำรวจ ชิเล่ยยังคงทำตัวไร้ยางอาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชิเล่ยต้องติดสินบนแน่นอน มัตสึชิตะทาคาโกะกำลังตัดสินใจว่าจะถอยหนีดีหรือเผชิญหน้ากับชิเล่ยต่อดี แต่เธอก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้!
เฉินกวงเหลียงเต็มไปด้วยความยุติธรรมและอารมณ์ของเขาตรงไปตรงมามาก มันเป็นเพราะเหตุนี้จึงทำให้ในสถานีตำรวจไม่มีคนชอบเขามากเท่าไหร่!
"ชิเล่ยทำไมนายถึงได้บงการอยู่เบื้องหลังเพื่อลงมือกับตัวแทนจากแคนน่อนกันล่ะ?" เฉินกวงเลียงกำลังพยายามสวมหมวกขนาดใหญ่ให้ชิเล่ยกลายเป็นผู้บงการที่อยู่ที่เบื้องหลัง
ชิเล่ยเอนหลังบนเก้าอี้พูดอย่างขี้เกียจว่า "กัปตันเฉินถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนจะดีมาก แต่ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายว่าคุณจะพูดอะไรก็ได้แต่ถ้าพูดเรื่องไร้สาระอีก! ผมจะฟ้องหมิ่นประมาทคุณจริงๆแน่นอน!"
เฉินกวงเหลียง "ชิเล่ยฉันแค่ทำตามขั้นตอนเท่านั้น! ตอนนี้นายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่ทางตำรวจกำลังสงสัยว่านายได้สั่งให้คนไปทำร้ายร่างชาวต่างชาติจากประเทศวูซาง!"
"ไอ้หยากัปตันเฉิน คุณล้อผมเล่นแล้ว!" ชิเล่ยเหลือบมองไปที่มัตสึชิตะทาคาโกะแวบหนึ่งยิ้มและพูดว่า "กัปตันเฉิน ผมยอมรับว่าผมไม่ชอบขี้หน้าพวกวูซางน้อยพวกนี้ แต่ตอนที่อยู่ในโรงแรมกรีนเลคไอ้อ้วนอัปลักษณ์นั่นมันกล้าบอกว่าเพื่อนนักศึกษาของผมมาขายตัว! แล้วจะให้ผมไม่โกรธได้ยังไง?"
มัตสึชิตะทาคาโกะจ้องมองสักครู่แล้วพูดด้วยภาษาญี่ปุ่นว่า "คุณเข้าใจภาษาญี่ปุ่น?"
ชิเล่ยตอบด้วยญี่ปุ่นโดยตรงว่า "คุณมัตสึชิตะทาคาโกะ ผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้ คุณคงประหลาดใจมากสินะ?"
ฟังการออกเสียงด้วยสำเนียงโอซาก้าของชิเล่ย ทำให้ตอนนี้หน้าของมัตสึชิตะทาคาโกะกลายเป็นน่าเกลียดอย่างมาก!
ใบหน้าของเฉินกวงเหลียงยิ่งดูไม่ดีมาก ในข้อมูลที่พวกเขาตรวจสอบ ไม่มีอันไหนบอกว่าชิเล่ยพูดภาษาญี่ปุ่นได้เลย! มันอาจเป็นไปได้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายเกี่ยวกับชิเล่ยที่พวกเขายังไม่รู้?
ครึ่งชั่วโมงต่อ เต๋าชุนนำอันธพาลทั้งแปดคนกลับมาด้วยความผ่อนคลาย เฉินกวงเหลียงจึงถามถึงการสอบสวนว่า
"เสี่ยวเต๋า เด็กน้อยพวกนี้รับสารภาพหรือยัง?"
เต๋าชุนยิ้มและส่ายหัว "หัวหน้าเฉิน เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชิเล่ย อันธพาลน้อยพวกนี้ไม่รู้จักชิเล่ย แม้ว่าจะถูกสอบปากคำแยกกัน แต่มันก็ยังเหมือนเดิม"
เฉินกวงเหลียงพูดด้วยเสียงขึ้นจมูกว่า "ซูเอ้อดิง ฉันไม่รู้ว่าทำไมนายถึงต้องการปกป้องชิเล่ย แต่ฉันจะบอกนายไว้อย่าง ตามกฎหมายคนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายเพื่อนต่างชาติต้องถูกตัดสินจำคุกสามถึงห้าปี เรื่องนี้ฉันไม่ได้หลอกพวกนาย!"
ชิเล่ยหัวเราะและพูดว่า "กัปตันเฉิน คุณกำลังพยายามจะทำให้เด็กโง่พวกนี้ที่ไม่รู้กฎหมายกลัวยังงั้นหรอครับ! ผมและเพื่อนมหาลัยของผมอีกสองคนจะเป็นพยานให้เพื่อพิสูจน์ว่าคนพวกถูกบังคับให้ต้องป้องกันตัวเอง แต่พวกเขาก็ยังไม่พ้นผิดถูกต้องไหมครับ? ปกติแล้วคุณต้องให้พวกเขารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและจ่ายค่าปรับกับสั่งขังพวกเขา 3-7 วัน มันต้องประมาณนี้สิครับ!"
แต่เดิมเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินกวงเหลียง ก็ทำให้ซูเอ้อดิงและคนอื่นๆเต็มไปด้วยความกังวล แต่เมื่อได้ยินชิเล่ยพูดขึ้นมาพวกเขาจึงผ่อนคลายขึ้นมาก
ทันใดนั้นมัตสึชิตะทาคาโกะที่อยู่ด้านข้างก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาว่า "คุณตำรวจคะ คุณชิเล่ยเล่ยได้ติดต่อเราผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ในโทรศัพท์มือถือของเขาน่าจะมีบันทึกการโทรอยู่นะคะ ถ้าเขาติดต่อกับพวกอันธพาลพวกนี้ฉันว่าโทรศัพท์มือถือของเขาก็น่าจะมีบันทึกอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมีสิทธิ์ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของคุณชิเล่ยได้หรือเปล่า?"
ในตาของเฉินกวงเหลียงก็ดูเจดจ้าขึ้นมา มองมัตสึชิตะทาคาโกะอย่างชื่นชม แล้วมองไปที่ชิเล่ยพูดว่า "ชิเล่ยถ้านายไม่ว่าอะไร เอาโทรศัพท์มือถือของนายออกมาที!"
ชิเล่ยหัวเราะเบาๆ "กัปตันเฉิน ตามกฎหมายแล้วถ้าคุณต้องการดูของที่เป็นของส่วนบุคคล คุณต้องมีหมายค้น? หากไม่มีผมก็ไม่เอาออกมา! แน่นอนถ้าคุณต้องการที่จะบังคับให้ผมต้องเอาออกมา ผมก็จะไม่ต่อต้าน แต่ผลที่ตามมานั้นผมไม่สามารถรับประกันได้นะครับ!"
มัตสึชิตะทาคาโกะพูดขึ้นอีกครั้งว่า "คุณตำรวจ ตรวจโทรศัพท์พวกนั้นก็ได้!"
กลุ่มอันธพาลเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี โดยเฉพาะซูเอ้อดิงที่ไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือมือถือของเขาไม่มีบันทึกการโทรกับชิเล่ย!
ใบหน้าของเฉินกวงเหลียงเริ่มดูไม่ดี เงื่อนงำอยู่ที่นี่และเขาถูกขัดจังหวะอีกครั้ง?
ชิเล่ยลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ด้านข้างของเฉินกวงเหลียง พูดผ่านที่หูของเขาว่า "กัปตันเฉิน! คนที่อยู่เบื้องหลังคือผมเอง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐาน!"
หลังจากนั้นชิเล่ยก็ยืดตัวขึ้นและกลับสู่สภาพปกติ "กัปตันเฉิน พี่ชายเต๋าชุน นี่ก็สายมากแล้ว ผมต้องกลับมหาลัยแล้วล่ะ ถ้ายังมีคำถามอะไรอีกพรุ่งนี้โทรมาหาผมได้!"
เมื่อถึงหน้าประตู ชิเล่ยพูดขึ้นมาอีกว่า "อ้อใช่ เบอร์โทรศัพท์ของผมคุณมัตสึชิตะทาคาโกะน่าจะมี! แล้วเจอกันทุกคน!"
เสียงก้าวเท้าของชิเล่ยค่อยๆไกลออกไป!