Divine King Of All Directions - 194
Divine King Of All Directions - 194
ชายชราผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้สามารถสัมผัสได้ถึงระดับพลังของหลินเทียนว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อวานดังนั้นถึงได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ตกต่ำลงว่า
"เป็นเจ้าขี้เมานั่นเรอะที่ช่วยเจ้า ? "
หลังจากที่คิดถึงเรื่องของชายขี้เมาแล้วสีหน้าของเขาก็ยิ่งตกต่ำลง
หลินเทียนยังคงจ้องมองไปทางจูหวูเต๋าโดยไม่ได้หันหน้ามองชายชราด้วยซ้ำ
"เอานางคืนข้ามา ! "
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
สีหน้าของชายชราได้ตกต่ำลงทันที , นี่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะมันกล้าที่จะเมินเขา ?
จูหวูเต๋าได้พูดออกมาว่า
"กล้าบุกเข้ามาที่นี่แล้วเจ้าคิดว่ามีสิทธิ์อะไรมาตั้งเงื่อนไขกับข้า ? "
หลินเทียนยังคงจ้องมองพร้อมทั้งปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมาพลางก้าวเดินออกไปด้านหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
"บังอาจ ! "
"หยุด ! "
หนึ่งในผู้คนได้ส่งเสียงออกมา
ทหารโดยรอยเองก็ต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปหลังจากที่มองไปยังร่างของหลินเทียนที่กำลังเดินเข้ามา แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเขาจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆไม่ได้
ดังนั้นหนึ่งในพวกเขาถึงได้ส่งเสียงออกมา
หลินเทียนไม่ได้ให้ความสนใจกับมันเล็กน้อยพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ออกไปตรงหน้า
"แกร๊ง ! "
คลื่นกระบี่สายฟ้าได้ถูกส่งออกไปเป็นสายฝนโดยรอบ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้แล้วทหารธรรมดาๆจะไปป้องกันได้อย่างไร ?
"พุฟฟ !"
"พุฟ !"
"พุฟฟฟฟ ! "
ในตอนนี้ชีวิตดูไร้ค่าไปเลย , หลินเทียนยังคงก้าวเดินออกไปขณะที่แต่ละก้าวของเขาได้เก็บเกี่ยวชีวิตของผู้คนไปมากมาย
"ถอยกลับมา ! "
จูหวูเต๋าได้ออกคำสั่งออกไปอย่างดัง
เมื่อได้ยินคำสั่งของจูหวูเต๋าแล้วเหล่าทหารเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาก่อนที่จะรีบถอยกลับโดยไม่กล้าขัดคำสั่งแต่ตอนนี้หลังจากที่มองไปยังหลินเทียนที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับแรงกดดันที่เข้มข้นนั้นได้แต่ทำให้พวกเขาหวาดผวาไปทันที
จูหวูเต๋ายังคงจ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดว่า
"คิดว่าอยากจะบุกเข้ามาในราชวังของข้าก็บุกได้งั้นรึ ? "
หลินเทียนยังคงนิ่งเงียบขณะที่ฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปโดยรอบพร้อมทั้งก้าวเดินเข้าหาจูหวูเต๋าเรื่อยๆ
สีหน้าของจูหวูเต๋าเองก็ตกต่ำลงไม่ต่างจากชายชราในทันที ตอนนี้เขาเป็นจักรพรรดิ ! แต่หลินเทียนกลับกล้าที่จะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาโดยก้าวเดินเข้ามาและไม่แม้แต่จะสนใจคำพูดของเขาซึ่งมันทำให้สายตาของเขาเย็นยะเยือกไปทันที
"เหอะ ! "
เขาได้ส่งเสียงแสยะพร้อมทั้งเรียกเอาตราหยกออกมาก่อนที่จะถ่ายพลังฉีลงไป
ตอนนี้เองที่ข่ายอาคมได้ปรากฏขึ้นมาเหนือพื้นตรงหน้าหลินเทียน
หลินเทียนได้หยุดเท้าลงก่อนที่จะพบว่ารอบข้างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยภาพมายา , เขาที่อยู่ตรงใจกลางต้องรับการโจมตีของสัตว์อสูร คลื่นกระบี่และอื่นๆอีกมากมายแถมพื้นที่โดยรอบยังเหมือนปิดกั้นโดยพลังที่แข็งแกร่งบางอย่าง
"ข่ายอาคมสังหาร ? "
ชายชราได้ผงะไป
จูหวูเต๋าได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดุร้ายว่า
"ข่ายอาคมสังหารที่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 6 วางไว้ "
"แล้วไง ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส
การโจมตีมากมายได้พุ่งเข้ามาทางเขาซึ่งแม้จะเป็นแบบนั้นแต่ในตอนนี้สีหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบเช่นเคย กระบี่ในมือของเขาได้กวัดแกว่งออกไปขณะที่ภาพมายาทั้งหลายพังทลายและสลายเป็นผุยผงไป
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นสัตว์อสูรและผู้เชี่ยวชาญก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
"เปล่าประโยชน์ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ก็รอดยาก ! "
จูหวูเต๋าได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ
เสียงคำรามของสัตว์อสูรได้ถูกส่งออกมาขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเองก็ต่างส่งคลื่นกระบี่ออกมาไม่หยุดซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างบาดแผลให้กับเขาจริงๆได้ , มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ
หลินเทียนได้หลบเลี่ยงคลื่นกระบี่เหล่านั้นพร้อมทั้งฟาดฟันไปยังสัตว์อสูร
ณ ตอนนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้วิ่งออกมาจากที่ห่างไกลนั่นคือ จูยี่
"ท่านพี่ ได้โปรดไว้ชีวิตเขาสักครั้ง ได้โปรดหยุดการทำงานของข่ายอาคมด้วย "
จูยี่ได้ขอร้องออกมา
จูยี่ได้รับการรายงานจากคนรับใช้มาว่าหลินเทียนได้บุกมาที่นี่คนเดียวดังนั้นสีหน้าของเขาถึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้ดีว่าภายในสถานที่แห่งนี้มีข่ายอาคมที่น่ากลัววางเอาไว้ซึ่งมันเป็นอะไรที่เกินกว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะจะรุกล้ำเข้ามาได้ , ขนาดผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ยังเอาตัวรอดได้ยาก !
จูหวูเต๋าได้เหลือบไปมองพร้อมกับตะโกนออกมาว่า
"กลับไปซะ ! "
"ท่านพี่ ข้าขอร้อง ได้โปรด ! "
จูยี่ได้พูดออกมา
เขาที่เป็นองค์ชายนั้นแทบไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่น้อยและมีเพียงหลินเทียนเท่านั้นที่เป็นเพื่อนของเขาดังนั้นเขาถึงไม่อยากให้หลินเทียนต้องตายลงที่นี่
เจียงเหลินเหวินได้มองไปทางจูยี่พร้อมกับพูดว่า
"ก็บอกให้ไสหัวไปไง ! "
เขาได้เหวี่ยงมือขวาของเขาก่อนที่จะส่งคลื่นกระบี่เข้าใส่ร่างของจู่ยี่
หลายเดือนที่ผ่านมานี้จูยี่อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 ตอนปลายดังนั้นจะไปสามารถต้านทานคลื่นกระบี่ที่น่ากลัวของเจียงเหลินเหวินได้อย่างไรกัน , ร่างของเขาได้ลอยเคว้งออกไปไกลขณะที่กระอักเลือดอยู่กลางอากาศ
"องค์ชาย 9 !!! "
คนใช้ชราที่อยู่ห่างออกไปรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างของจูยี่เอาไว้
จูหวูเต๋าไม่ได้หันไปมองทางจูยี่เลยด้วยซ้ำ สายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่หลินเทียนเช่นเคยแถมเขาไม่สนใจเรื่องการกระทำของเจียงเหลินเหวินด้วยแม้แต่น้อย , แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องกันก็จริงแต่หากคิดดูดีๆแล้วก็เป็นเพียงพี่น้องครึ่งเดียวไม่ใช่พี่น้องแท้ๆสายเลือดเดียวกันถึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนั้น สำหรับจูหวูเต๋าแล้วสถานะของจู่ยี่นั้นต่ำกว่าเจียงเหลินเหวินเยอะ
หลินเทียนที่อยู่ในข่ายอาคมเองก็ยังคงเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรและคลื่นกระบี่มากมาย
สายตาของเขาได้มองผ่านจูหวูเต๋าไปทางเจียงเหลินเหวินพร้อมทั้งพูดว่า
"อีกเดี๋ยวข้าจะตัดแขนขวาของเจ้า "
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
เจียงเหลินเหวินเองก็จ้องมองกลับไปยังหลินเทียนด้วยสายตาที่ชั่วร้ายกว่าเก่า
จูหวูเต๋าได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า
"เจ้าไม่มีโอกาสหรอก ! "
หลังจากนั้นสัตว์อสูรและคลื่นกระบี่ที่รายล้อมหลินเทียนอยู่ก็เริ่มรุนแรงขึ้นกว่าเก่าจนทำให้หัวใจของผู้คนถึงกับตื่นตระหนก
ประกายตาของหลินเทียนได้เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกพร้อมทั้งยกมือซ้ายขึ้นมาแล้วเหวี่ยงลำแสงสีเงินออกไป
"คิดว่าของแบบนี้จะสามารถจัดการข้าได้จริงๆ ? "
เขาได้จ้องมองไปทางจูหวูเต๋าพร้อมกับถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ขณะที่พูดจบแล้วแสงสีเงินได้เปล่งประกายออกมามากกว่าเก่า , ณ ตอนนี้เคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์ได้หมุนวนถึงขีดสุดถึงขั้นทำให้คนธรรมดาที่ไม่ได้มีพลังวิญญาณรู้สึกตกตะลึง
"เจ้า ?! "
จูหวูเต๋ามีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยทันที
เขาที่เป็นถึงลำดับที่ 2 ของตารางสายลมและหมู่เมฆนั้นรู้ดีว่านี่คือพลังอะไร มันเป็นของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมแถมพลังวิญญาณขนาดนี้มันมากกว่าปรมาจารย์ระดับ 4 บางคนด้วยซ้ำ
สีหน้าของหลินเทียนยังคงเคร่งขรึมขณะที่เหวี่ยงมือซ้ายเพื่อส่งลำแสงสีเงินออกไป
ตอนนี้ข่ายอาคมรอบตัวเขาเริ่มบิดตัวก่อนที่จะเข้าสู่สภาวะปั่นป่วน , หลายเดือนมานี้ระดับความสามารถด้านข่ายอาคมของเขาตัดผ่านไประดับ 4 แล้วดังนั้นมันเพียงพอสำหรับสั่งการข่ายอาคมประเภทนี้ได้
ข่ายอาคมเริ่มหม่นหมองลงก่อนที่จิตสังหารจะสลายไปในไม่กี่ลมหายใจ
หลินเทียนได้ก้าวออกไปพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ออกไปตรงหน้า
"อวดดีนักนะ ! "
ชายชราได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งส่งฝ่ามือเข้าใส่คลื่นกระบี่ของหลินเทียน , ครั้งนี้ชายชราได้ฉวยโอกาสเพื่อสังหารหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนได้หยุดยิ่งพร้อมทั้งจ้องมองออกไปอย่างไม่แยแส
วินาทีหลังจากนั้นมีร่างๆหนึ่งได้พุ่งออกมาจากด้านหลังของเขาก่อนที่จะส่งฝ่ามือเข้าปะทะกับชายชรา
"ใครกัน ! "
ชายชราได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งมองไปยังชายตรงหน้า
"ผู้อาวุโสจิน ! "
จูหวูเต๋าได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยทันที
ผู้อาวุโสของสมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมของเมืองหลวง เขาเป็นปรมาจารย์ระดับ 4ที่จูหวูเต๋ารู้จักเป็นอย่างดี
ผู้อาวุโสจินเองก็ยังคงขวางทางชายชราเอาไว้พร้อมกับพูดว่า
"หลินเทียนไม่ใช่คนที่เจ้าจะแตะต้องได้ "
สีหน้าของชายชราได้หม่นหมองลงทันที
จูหวูเต๋าในตอนนี้เองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน เขาได้แต่จ้องมองไปยังผู้อาวุโสจินพร้อมกับพูดออกมาว่า
"ผู้อาวุโสจิน เขาบุกเข้ามาในราชวังในวันนี้ถือว่ามีโทษประหาร 9 ชั่วโครตดังนั้นมันต้องตาย ! การกระทำของท่านมันหมายความว่าไงกัน ? "
"ข้าช่วยเขาบุกเข้ามาที่นี่ไงล่ะ "
ผู้อาวุโสจินได้ตอบกลับไปอย่างไม่แยแส
สีหน้าของจูหวูเต๋าได้เปลี่ยนไปอีกครั้งและไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสจินจะไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
"นี้เป็นเรื่องของจักรวรรดิเป่ยหยาน การกระทำของท่านไม่กลัวว่าท่านจ้าวสมาคมจะลงโทษ ? "
ผู้อาวุโสจินได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"นั่นก็เรื่องของข้า องค์เหนือหัวไม่ต้องกังวลหรอก "
ให้พูดตามตรงแล้วเขาไม่ได้กลัวจูหวูเต๋าเลยแม้แต่น้อย
"ผู้อาวุโสจิน ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เห็นหัวข้าเลยสินะ "
เสียงแสยะที่เย็นชาได้ถูกส่งออกมา
ภายในส่วนลึกของราชวังได้มีร่าง 3 ร่างพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเหวี่ยงเข้าใส่ผู้อาวุโสจินโดยทันที
"เจ้าก็ด้วย "
ร่างอีกร่างหนึ่งได้พุ่งออกมาจากด้านหลังของหลินเทียนพร้อมกับรับการโจมตีจากร่าง 3 ร่างเอาไว้แล้วพูดว่า
"หลินเทียนเป็นปรมาจารย์รับเชิญของสมาคมเรา จักรพรรดิองค์ใหม่ที่เพิ่งจะครองราชย์กลับกล้าใช้วิธีต่ำช้าและโหดเหี้ยมกับเพื่อนของปรมาจารย์รับเชิญของข้า คิดว่าสมาคมของเราอยากจะรังแกก็รังแกได้งั้นรึ ? "
ร่างที่พุ่งออกมานั้นคือผู้อาวุโสเนี่ย ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 4 ในชุดคลุมสีฟ้า
"เนี่ยหยุนฟาน ! เจ้าเองก็มาด้วยงั้นรึ ! สมาคมของเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่ ! อยากจะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิของข้า ? "
หนึ่งใน 3 ร่างได้พูดออกมา
"จูชิงจี่ เจ้าคิดว่าจักรวรรดิตัวเองยิ่งใหญ่นักหรือไง ? "
ผู้อาวุโสเนี่ยได้ถามกลับไปด้วยสีหน้าราบเรียบ
ร่างสามร่างนี้มีชื่อว่า จูชิงจี่ จูเจียนฉี จูปิงเหลาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ของจักรวรรดิ พวกเขาทั้งสามคนได้พุ่งเข้าไปยืนข้างจูหวูเต๋าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างรวดเร็ว
"ท่านบรรพบุรุษที่ 2 ท่านบรรพบุรุษที่ 3 ท่านบรรพบุรุษที่ 4"
จูหวูเต๋าได้โค้งคำนับ
เจียงเหลินเหวินที่อยู่ห่างออกไปเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะกลับเป็นเหมือนเก่า
จูเจียนฉีได้ก้าวเดินออกไปพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสว่า
"ไม่รู้หรอกนะว่าต้องการอะไรกันแน่แต่การที่มันกล้าบุกเข้ามาในวันนี้ถือเป็นความผิดมหันดังนั้นต่อให้เป็นเจ้าก็ปกป้องมันไม่ได้หรอก "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาได้เรียกเอากระบี่ออกมาโดยทันที
"งั้นรึ ? ถ้าเพิ่มข้าเข้าไปอีกคนล่ะเป็นไง ? "
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้น
ร่างๆหนึ่งได้ปรากฏขึ้นข้างๆหลินเทียน
สีหน้าของจูเจียนฉีได้ตกต่ำลงทันทีพร้อมกับอุทานออกมาว่า
"ชินเฟิง ! "