ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 193
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 195

Divine King Of All Directions - 194


Divine King Of All Directions - 194

 

 

ชายชราผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้สามารถสัมผัสได้ถึงระดับพลังของหลินเทียนว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อวานดังนั้นถึงได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ตกต่ำลงว่า

 

"เป็นเจ้าขี้เมานั่นเรอะที่ช่วยเจ้า ? "

 

หลังจากที่คิดถึงเรื่องของชายขี้เมาแล้วสีหน้าของเขาก็ยิ่งตกต่ำลง

 

หลินเทียนยังคงจ้องมองไปทางจูหวูเต๋าโดยไม่ได้หันหน้ามองชายชราด้วยซ้ำ

 

"เอานางคืนข้ามา ! "

 

เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

 

สีหน้าของชายชราได้ตกต่ำลงทันที , นี่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะมันกล้าที่จะเมินเขา ?

 

จูหวูเต๋าได้พูดออกมาว่า

 

"กล้าบุกเข้ามาที่นี่แล้วเจ้าคิดว่ามีสิทธิ์อะไรมาตั้งเงื่อนไขกับข้า ? "

 

หลินเทียนยังคงจ้องมองพร้อมทั้งปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมาพลางก้าวเดินออกไปด้านหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

"บังอาจ ! "

 

"หยุด ! "

 

หนึ่งในผู้คนได้ส่งเสียงออกมา

 

ทหารโดยรอยเองก็ต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปหลังจากที่มองไปยังร่างของหลินเทียนที่กำลังเดินเข้ามา แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเขาจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆไม่ได้

 

ดังนั้นหนึ่งในพวกเขาถึงได้ส่งเสียงออกมา

 

หลินเทียนไม่ได้ให้ความสนใจกับมันเล็กน้อยพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ออกไปตรงหน้า

 

"แกร๊ง ! "

 

คลื่นกระบี่สายฟ้าได้ถูกส่งออกไปเป็นสายฝนโดยรอบ

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้แล้วทหารธรรมดาๆจะไปป้องกันได้อย่างไร ?

 

"พุฟฟ !"

 

"พุฟ !"

 

"พุฟฟฟฟ ! "

 

ในตอนนี้ชีวิตดูไร้ค่าไปเลย , หลินเทียนยังคงก้าวเดินออกไปขณะที่แต่ละก้าวของเขาได้เก็บเกี่ยวชีวิตของผู้คนไปมากมาย

 

"ถอยกลับมา ! "

 

จูหวูเต๋าได้ออกคำสั่งออกไปอย่างดัง

 

เมื่อได้ยินคำสั่งของจูหวูเต๋าแล้วเหล่าทหารเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาก่อนที่จะรีบถอยกลับโดยไม่กล้าขัดคำสั่งแต่ตอนนี้หลังจากที่มองไปยังหลินเทียนที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับแรงกดดันที่เข้มข้นนั้นได้แต่ทำให้พวกเขาหวาดผวาไปทันที

 

จูหวูเต๋ายังคงจ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดว่า

 

"คิดว่าอยากจะบุกเข้ามาในราชวังของข้าก็บุกได้งั้นรึ ? "

 

หลินเทียนยังคงนิ่งเงียบขณะที่ฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปโดยรอบพร้อมทั้งก้าวเดินเข้าหาจูหวูเต๋าเรื่อยๆ

 

สีหน้าของจูหวูเต๋าเองก็ตกต่ำลงไม่ต่างจากชายชราในทันที ตอนนี้เขาเป็นจักรพรรดิ ! แต่หลินเทียนกลับกล้าที่จะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาโดยก้าวเดินเข้ามาและไม่แม้แต่จะสนใจคำพูดของเขาซึ่งมันทำให้สายตาของเขาเย็นยะเยือกไปทันที

 

"เหอะ ! "

 

เขาได้ส่งเสียงแสยะพร้อมทั้งเรียกเอาตราหยกออกมาก่อนที่จะถ่ายพลังฉีลงไป

 

ตอนนี้เองที่ข่ายอาคมได้ปรากฏขึ้นมาเหนือพื้นตรงหน้าหลินเทียน

 

หลินเทียนได้หยุดเท้าลงก่อนที่จะพบว่ารอบข้างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยภาพมายา , เขาที่อยู่ตรงใจกลางต้องรับการโจมตีของสัตว์อสูร คลื่นกระบี่และอื่นๆอีกมากมายแถมพื้นที่โดยรอบยังเหมือนปิดกั้นโดยพลังที่แข็งแกร่งบางอย่าง

 

"ข่ายอาคมสังหาร ? "

 

ชายชราได้ผงะไป

 

จูหวูเต๋าได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดุร้ายว่า

 

"ข่ายอาคมสังหารที่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 6 วางไว้ "

 

"แล้วไง ? "

 

หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส

 

การโจมตีมากมายได้พุ่งเข้ามาทางเขาซึ่งแม้จะเป็นแบบนั้นแต่ในตอนนี้สีหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบเช่นเคย กระบี่ในมือของเขาได้กวัดแกว่งออกไปขณะที่ภาพมายาทั้งหลายพังทลายและสลายเป็นผุยผงไป

 

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นสัตว์อสูรและผู้เชี่ยวชาญก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

 

"เปล่าประโยชน์ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ก็รอดยาก ! "

 

จูหวูเต๋าได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ

 

เสียงคำรามของสัตว์อสูรได้ถูกส่งออกมาขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเองก็ต่างส่งคลื่นกระบี่ออกมาไม่หยุดซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างบาดแผลให้กับเขาจริงๆได้ , มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ

 

หลินเทียนได้หลบเลี่ยงคลื่นกระบี่เหล่านั้นพร้อมทั้งฟาดฟันไปยังสัตว์อสูร

 

ณ ตอนนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้วิ่งออกมาจากที่ห่างไกลนั่นคือ จูยี่

 

"ท่านพี่ ได้โปรดไว้ชีวิตเขาสักครั้ง ได้โปรดหยุดการทำงานของข่ายอาคมด้วย "

 

จูยี่ได้ขอร้องออกมา

 

จูยี่ได้รับการรายงานจากคนรับใช้มาว่าหลินเทียนได้บุกมาที่นี่คนเดียวดังนั้นสีหน้าของเขาถึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้ดีว่าภายในสถานที่แห่งนี้มีข่ายอาคมที่น่ากลัววางเอาไว้ซึ่งมันเป็นอะไรที่เกินกว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะจะรุกล้ำเข้ามาได้ , ขนาดผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ยังเอาตัวรอดได้ยาก !

 

จูหวูเต๋าได้เหลือบไปมองพร้อมกับตะโกนออกมาว่า

 

"กลับไปซะ ! "

 

"ท่านพี่ ข้าขอร้อง ได้โปรด ! "

 

จูยี่ได้พูดออกมา

 

เขาที่เป็นองค์ชายนั้นแทบไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่น้อยและมีเพียงหลินเทียนเท่านั้นที่เป็นเพื่อนของเขาดังนั้นเขาถึงไม่อยากให้หลินเทียนต้องตายลงที่นี่

 

เจียงเหลินเหวินได้มองไปทางจูยี่พร้อมกับพูดว่า

 

"ก็บอกให้ไสหัวไปไง ! "

 

เขาได้เหวี่ยงมือขวาของเขาก่อนที่จะส่งคลื่นกระบี่เข้าใส่ร่างของจู่ยี่

 

หลายเดือนที่ผ่านมานี้จูยี่อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 ตอนปลายดังนั้นจะไปสามารถต้านทานคลื่นกระบี่ที่น่ากลัวของเจียงเหลินเหวินได้อย่างไรกัน , ร่างของเขาได้ลอยเคว้งออกไปไกลขณะที่กระอักเลือดอยู่กลางอากาศ

 

"องค์ชาย 9 !!! "

 

คนใช้ชราที่อยู่ห่างออกไปรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างของจูยี่เอาไว้

 

จูหวูเต๋าไม่ได้หันไปมองทางจูยี่เลยด้วยซ้ำ สายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่หลินเทียนเช่นเคยแถมเขาไม่สนใจเรื่องการกระทำของเจียงเหลินเหวินด้วยแม้แต่น้อย , แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องกันก็จริงแต่หากคิดดูดีๆแล้วก็เป็นเพียงพี่น้องครึ่งเดียวไม่ใช่พี่น้องแท้ๆสายเลือดเดียวกันถึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนั้น สำหรับจูหวูเต๋าแล้วสถานะของจู่ยี่นั้นต่ำกว่าเจียงเหลินเหวินเยอะ

 

หลินเทียนที่อยู่ในข่ายอาคมเองก็ยังคงเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรและคลื่นกระบี่มากมาย

 

สายตาของเขาได้มองผ่านจูหวูเต๋าไปทางเจียงเหลินเหวินพร้อมทั้งพูดว่า

 

"อีกเดี๋ยวข้าจะตัดแขนขวาของเจ้า "

 

เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก

 

เจียงเหลินเหวินเองก็จ้องมองกลับไปยังหลินเทียนด้วยสายตาที่ชั่วร้ายกว่าเก่า

 

จูหวูเต๋าได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า

 

"เจ้าไม่มีโอกาสหรอก ! "

 

หลังจากนั้นสัตว์อสูรและคลื่นกระบี่ที่รายล้อมหลินเทียนอยู่ก็เริ่มรุนแรงขึ้นกว่าเก่าจนทำให้หัวใจของผู้คนถึงกับตื่นตระหนก

 

ประกายตาของหลินเทียนได้เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกพร้อมทั้งยกมือซ้ายขึ้นมาแล้วเหวี่ยงลำแสงสีเงินออกไป

 

"คิดว่าของแบบนี้จะสามารถจัดการข้าได้จริงๆ ? "

 

เขาได้จ้องมองไปทางจูหวูเต๋าพร้อมกับถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

 

ขณะที่พูดจบแล้วแสงสีเงินได้เปล่งประกายออกมามากกว่าเก่า , ณ ตอนนี้เคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์ได้หมุนวนถึงขีดสุดถึงขั้นทำให้คนธรรมดาที่ไม่ได้มีพลังวิญญาณรู้สึกตกตะลึง

 

"เจ้า ?! "

 

จูหวูเต๋ามีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยทันที

 

เขาที่เป็นถึงลำดับที่ 2 ของตารางสายลมและหมู่เมฆนั้นรู้ดีว่านี่คือพลังอะไร มันเป็นของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมแถมพลังวิญญาณขนาดนี้มันมากกว่าปรมาจารย์ระดับ 4 บางคนด้วยซ้ำ

 

สีหน้าของหลินเทียนยังคงเคร่งขรึมขณะที่เหวี่ยงมือซ้ายเพื่อส่งลำแสงสีเงินออกไป

 

ตอนนี้ข่ายอาคมรอบตัวเขาเริ่มบิดตัวก่อนที่จะเข้าสู่สภาวะปั่นป่วน , หลายเดือนมานี้ระดับความสามารถด้านข่ายอาคมของเขาตัดผ่านไประดับ 4 แล้วดังนั้นมันเพียงพอสำหรับสั่งการข่ายอาคมประเภทนี้ได้

 

ข่ายอาคมเริ่มหม่นหมองลงก่อนที่จิตสังหารจะสลายไปในไม่กี่ลมหายใจ

 

หลินเทียนได้ก้าวออกไปพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ออกไปตรงหน้า

 

"อวดดีนักนะ ! "

 

ชายชราได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งส่งฝ่ามือเข้าใส่คลื่นกระบี่ของหลินเทียน , ครั้งนี้ชายชราได้ฉวยโอกาสเพื่อสังหารหลินเทียนอย่างรวดเร็ว

 

หลินเทียนได้หยุดยิ่งพร้อมทั้งจ้องมองออกไปอย่างไม่แยแส

 

วินาทีหลังจากนั้นมีร่างๆหนึ่งได้พุ่งออกมาจากด้านหลังของเขาก่อนที่จะส่งฝ่ามือเข้าปะทะกับชายชรา

 

"ใครกัน ! "

 

ชายชราได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งมองไปยังชายตรงหน้า

 

"ผู้อาวุโสจิน ! "

 

จูหวูเต๋าได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยทันที

 

ผู้อาวุโสของสมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมของเมืองหลวง เขาเป็นปรมาจารย์ระดับ 4ที่จูหวูเต๋ารู้จักเป็นอย่างดี

 

ผู้อาวุโสจินเองก็ยังคงขวางทางชายชราเอาไว้พร้อมกับพูดว่า

 

"หลินเทียนไม่ใช่คนที่เจ้าจะแตะต้องได้ "

 

สีหน้าของชายชราได้หม่นหมองลงทันที

 

จูหวูเต๋าในตอนนี้เองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน เขาได้แต่จ้องมองไปยังผู้อาวุโสจินพร้อมกับพูดออกมาว่า

 

"ผู้อาวุโสจิน เขาบุกเข้ามาในราชวังในวันนี้ถือว่ามีโทษประหาร 9 ชั่วโครตดังนั้นมันต้องตาย ! การกระทำของท่านมันหมายความว่าไงกัน ? "

 

"ข้าช่วยเขาบุกเข้ามาที่นี่ไงล่ะ "

 

ผู้อาวุโสจินได้ตอบกลับไปอย่างไม่แยแส

 

สีหน้าของจูหวูเต๋าได้เปลี่ยนไปอีกครั้งและไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสจินจะไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

 

"นี้เป็นเรื่องของจักรวรรดิเป่ยหยาน การกระทำของท่านไม่กลัวว่าท่านจ้าวสมาคมจะลงโทษ ? "

 

ผู้อาวุโสจินได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

 

"นั่นก็เรื่องของข้า องค์เหนือหัวไม่ต้องกังวลหรอก "

 

ให้พูดตามตรงแล้วเขาไม่ได้กลัวจูหวูเต๋าเลยแม้แต่น้อย

 

"ผู้อาวุโสจิน ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เห็นหัวข้าเลยสินะ "

 

เสียงแสยะที่เย็นชาได้ถูกส่งออกมา

 

ภายในส่วนลึกของราชวังได้มีร่าง 3 ร่างพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเหวี่ยงเข้าใส่ผู้อาวุโสจินโดยทันที

 

"เจ้าก็ด้วย "

 

ร่างอีกร่างหนึ่งได้พุ่งออกมาจากด้านหลังของหลินเทียนพร้อมกับรับการโจมตีจากร่าง 3 ร่างเอาไว้แล้วพูดว่า

 

"หลินเทียนเป็นปรมาจารย์รับเชิญของสมาคมเรา จักรพรรดิองค์ใหม่ที่เพิ่งจะครองราชย์กลับกล้าใช้วิธีต่ำช้าและโหดเหี้ยมกับเพื่อนของปรมาจารย์รับเชิญของข้า คิดว่าสมาคมของเราอยากจะรังแกก็รังแกได้งั้นรึ ? "

 

ร่างที่พุ่งออกมานั้นคือผู้อาวุโสเนี่ย ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 4 ในชุดคลุมสีฟ้า

 

"เนี่ยหยุนฟาน ! เจ้าเองก็มาด้วยงั้นรึ ! สมาคมของเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่ ! อยากจะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิของข้า ? "

 

หนึ่งใน 3 ร่างได้พูดออกมา

 

"จูชิงจี่ เจ้าคิดว่าจักรวรรดิตัวเองยิ่งใหญ่นักหรือไง ? "

 

ผู้อาวุโสเนี่ยได้ถามกลับไปด้วยสีหน้าราบเรียบ

 

ร่างสามร่างนี้มีชื่อว่า จูชิงจี่ จูเจียนฉี จูปิงเหลาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ของจักรวรรดิ พวกเขาทั้งสามคนได้พุ่งเข้าไปยืนข้างจูหวูเต๋าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างรวดเร็ว

 

"ท่านบรรพบุรุษที่ 2 ท่านบรรพบุรุษที่ 3 ท่านบรรพบุรุษที่ 4"

 

จูหวูเต๋าได้โค้งคำนับ

 

เจียงเหลินเหวินที่อยู่ห่างออกไปเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะกลับเป็นเหมือนเก่า

 

จูเจียนฉีได้ก้าวเดินออกไปพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสว่า

 

"ไม่รู้หรอกนะว่าต้องการอะไรกันแน่แต่การที่มันกล้าบุกเข้ามาในวันนี้ถือเป็นความผิดมหันดังนั้นต่อให้เป็นเจ้าก็ปกป้องมันไม่ได้หรอก "

 

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาได้เรียกเอากระบี่ออกมาโดยทันที

 

"งั้นรึ ? ถ้าเพิ่มข้าเข้าไปอีกคนล่ะเป็นไง ? "

 

เสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

 

ร่างๆหนึ่งได้ปรากฏขึ้นข้างๆหลินเทียน

 

สีหน้าของจูเจียนฉีได้ตกต่ำลงทันทีพร้อมกับอุทานออกมาว่า

 

"ชินเฟิง ! "

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด