Divine King Of All Directions - 190
Divine King Of All Directions - 190
เมื่อจ้องมองไปยังเฒ่าขี้เมาแล้วหลินเทียนก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาก่อนที่จะหยุดการบ่มเพาะลงโดยทันที
ชายคนนี้สามารถลอยตัวอยู่เหนืออากาศได้ด้วยพลังของตัวเอง
"ท่าน......."
หลินเทียนได้แต่รู้สึกตกตะลึงอยู่ภายในใจ
ทำได้ด้วยตัวเองแบบนี้มันถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมัน
"เขตแดนจักรพรรดินภานั้นสามารถบินไปไหนมาไหนได้ ของแค่นี้ทำให้เจ้าประหลาดใจ ? "
ชายขี้เมาได้พูดออกมา
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ลดระดับกลับลงมาที่พื้น
"เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นน่ะ "
หลินเทียนได้ตอบตามความจริงกลับไป
ชายขี้เมาเองก็ได้หัวเราะออกมาว่า
"เจ้าหนูนี่มันจริงใจจริงๆเลยนะ "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้จ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมกับซดเหล้าพลางพูดว่า
"เจ้าหนู เดาสิว่าข้ามาจากไหนกัน ? "
หลินเทียนได้จ้องมองไปทางชายขี้เมาด้วยสีหน้าที่ตกต่ำลง
"นิกาย "
เขาได้ตอบกลับไป
ชายขี้เมาเองก็ได้ผงะไปพร้อมกับหัวเราะออกมาว่า
"เจ้านี่มันฉลาดจริงๆ ข้าไม่มีอะไรจะเซอร์ไพรส์เจ้าเลยสิ ! "
หลินเทียนได้แสยะออกมาและไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
"โอ้ ดูเหมือนเจ้าจะดูไม่สบอารมณ์กับนิกายนัก ? "
ชายขี้เมาได้พูดออกมา
หลินเทียนยังคงแสยะออกมาโดยที่ไม่ตอบอะไร
"เพราะว่าไอ้เด็กเปรดตระกูลเจียงนั่นน่ะรึ ? "
ชายขี้เมาได้ถามขึ้น
หลินเทียนเริ่มการหมุนวนเคล็ดวิชาซือจี่อีกครั้งพร้อมพูดว่า
"ดูเหมือนท่านจะรู้มากจริงๆเลยนะ "
มันเป็นเพราะว่ากิริยาที่เจียงเหลินเหวินแสดงต่อคนอื่นถึงได้ทำให้เขาไม่สบอารมณ์กับนิกายเท่าไหร่นัก
"แน่นอนว่าข้ารู้เรื่องเจ้าเยอะเลยล่ะ ก็วันนั้นเจ้าดันช่วยเหลือชายขี้เมาธรรมดาๆอย่างข้าจากห่าลูกศรหนิ ต้องรู้ก่อนนะว่าหากเป็นคนปกติเขาไม่มีใครทำในสถานการณ์แบบนั้นหรอก "
ชายขี้เมาได้พูดออกมาพร้อมกับพูดต่อว่า
"หลังจากนั้นข้าเลยเริ่มที่จะให้ความสนใจในตัวเจ้าอย่างลับๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดูเหมือนว่าการที่เจ้าช่วยข้าไว้มันจะเป็นโชคชะตาของเราจริงๆ "
เขาได้ซดเหล้าอีกครั้งพร้อมกับพูดต่อว่า
"สุดยอดไปเลย อายุ 16 ปี ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 3 มีพลังมากพอที่จะสังหารเจียงเหลินเหวินที่อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลาย , รอดจากการตกหน้าผาแถมยังอุส่าดูดกลืนคริสตัลเพลิงนี่มันทำให้หัวใจข้าสั่นระรัวเลยล่ะ เจ้านี่มันเป็นผู้มีพรสวรรค์ตัวน้อยเลยจริงๆ "
"เจ้า ......... "
หลินเทียนถึงกับตกตะลึงไปทันทีเพราะว่าชายคนนี้กลับรู้แม้กระทั่งเรื่องระหว่างตอนที่เขาตกหน้าผาไป
เดือนนั้นทั้งเดือนเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมนุษย์เลยแม้แต่น้อย
"ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกดังนั้นหลังจากวันนั้นถึงได้รู้เรื่องของเจ้าทั้งหมดไงส่วนเรื่องที่ทำไมเจ้าไม่สามารถตรวจจับกลิ่นอายของข้าได้ก็เป็นเรื่องปกติมากๆเพราะขนาดเขตแดนผู้รอบรู้ยังทำไม่ได้ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเขตแดนชีพจรเทวะอย่างเจ้าเลย "
ชายขี้เมาได้พูดเสริมว่า
"ว่าไง คิดว่าการที่ข้าอยู่คอยดูแลเจ้าตลอดทั้งเดือนมันน่าซาบซึ้งไหมล่ะ ? "
"ท่านต้องการอะไร ? "
หลินเทียนได้ถามออกไป
การที่ชายขี้เมาเพ่งเล็งเขาแบบนี้หากจะพูดว่าเพราะสนใจนี่เขาไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอนและตัวเขาก็ตระหนักได้ว่าไม่ได้เปิดเผยเรื่องตราสัญลักษณ์ที่มือออกไปด้วย
ชายขี้เมาเองก็ถึงกับหมดคำพูดไปก่อนที่จะหัวเราะแห้งๆออกมา
"เจ้าหนูนี่มันจริงๆเลย "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้เดินเข้าไปใกล้หลินเทียนอีกก้าวพร้อมกับพูดต่อว่า
"เอาล่ะ เจ้าสนใจที่จะเป็นศิษย์ของข้าไหม ? จะกลับไปบ่มเพาะพลังที่นิกายกับข้ารึเปล่า ? "
หลินเทียนได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"นี่คือเป้าหมายของท่าน ? "
ชายขี้เมาเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดอย่างไม่ลังเลเลยว่า
"ใช่แล้ว ! "
เขาได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟพลางถูมือของตัวเองไม่หยุด หลังจากที่เขาได้เฝ้าสังเกตการณ์หลินเทียนมาตลอดทั้งเดือนนั้นก็เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นด้านไหนหลินเทียนก็เป็นคนที่สมบูรณ์แบบทั้งหมดแถมยังมีความสามารถด้านข่ายอาคมและหากว่าสามารถรับเด็กคนนี้เป็นศิษย์ได้ชีวิตของเขาก็จะไม่เสียเปล่า
หลินเทียนได้แต่เงียบไป , แน่นอนว่าเขาต้องการไปบ่มเพาะที่นิกายเพราะถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้สำนักเป่ยหยานไม่มีอะไรที่เขาต้องการแล้ว
"แล้วท่านอยู่นิกายอะไร ? "
หลินเทียนได้ถามออกไป
ชายขี้เมาได้แต่ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินมากอดคอหลินเทียนพลางพูดว่า
"นิกายอาทิตย์ผลาญฟ้า มันเป็น 1 ใน 4 นิกายใหญ่ของสวรรค์ชั้นนี้ "
ชายขี้เมาได้พูดออกมา
หลินเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งพร้อมกับถามออกมาว่า
"ชั้นนี้ ? 1 ใน 4 ? "
ชายขี้เมาเองก็ยังคงฉีกยิ้มอยู่พร้อมทั้งปล่อยคอหลินเทียนเพื่อเดินไปนั่งตรงกันข้ามกับเขาแล้วพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า
"เจ้าหนู เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับโลกใบนี้บ้าง ? "
หลินเทียนได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"จักรวรรดิเป่ยหยาน , จักรวรรดิอื่น , นิกาย "
"แค่เนี้ย ? "
ชายขี้เมาได้ถามออกมา
"แค่นั้นแหละ "
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
ชายขี้เมาได้แต่ส่ายศีรษะของเขาก่อนที่จะพลิกฝ่ามือเรียกเอากระดาษและพู่กันออกมาพร้อมทั้งวาดวงกลมสิบชั้นขึ้นก่อนที่จะชี้ไปยังชั้นในสุดแล้วพูดว่า
"ตรงนี้คือโลกที่เราอยู่ในตอนนี้ "
หลินเทียนได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"นี่..........."
ชายขี้เมาได้โบกมือเพื่ออย่าขัดพร้อมทั้งชี้ไปแล้วพูดว่า
"จุดๆนี้คือจักรวรรดิเป่ยหยาน "
หลังจากนั้นเขาก็ได้วาดจุดๆอื่นพร้อมกับพูดว่า
"ส่วนนี่คือจักรวรรดิอื่น "
เขาได้วาดวงกลมเล็กๆขึ้นมา 4 วงทางเหนือ ใต้ ออก ตก พร้อมทั้งอธิบายต่อว่า
"ส่วนนี่คือนิกายใหญ่ทั้ง 4 "
หลินเทียนได้จ้องมองไปยังวงกลมชั้นในสุดพร้อมกับพบว่ามันมีจุดเล็กๆอยู่ภายในกว่าร้อยจุดดังนั้นถึงได้ถามออกมาว่า
"ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าจุดเล็กๆพวกนี้คือจักรวรรดิเป่ยหยานแสดงว่าในโลกนี้ก็ยังมีจักรวรรดิอื่นๆคล้ายๆแบบนี้อยู่อย่างน้อยๆเป็นร้อยจักรวรรดิ ? "
ชายขี้เมาได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
"ก็ประมาณนั้น "
หลินเทียนได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าเขาตะรู้ว่านอกจักรวรรดินี้ยังมีจักรวรรดิอื่นแต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะเยอะขนาดนี้
"สำหรับโลกใบนี้แล้วจักรวรรดิเป่ยหยานนั้นเป็นพื้นที่เล็กๆเพราะว่าในโลกนี้ยังมีจักรวรรดิขนาดเดียวกับของเจ้าอยู่มากกว่า 500 แห่ง "
ชายขี้เมาได้พูดออกมา
หลินเทียนถึงกับผงะ 500 แห่ง ! นี่มันเยอะเกินไปไหม !
ชายขี้เมาได้ชี้ไปยังวงกลมทั้งสี่ในวงกลมชั้นในสุดพลางพูดว่า
"อย่างไรก็ตามในโลกชั้นนี้มีนิกายใหญ่อยู่เพียงแค่ 4 นิกายคือ นิกายเจ็ดตำหนักรอบรู้ นิกายพิณใต้พิภพ นิกายร้อยหลอมและนิกายอาทิตย์ผลาญฟ้าซึ่งแน่นอนว่าเป็นผู้ควบคุมสูดสุดบนโลกชั้นนี้"
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง "
หลินเทียนได้พูดอยู่กับตัวเองด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงพร้อมกับมองไปยังวงกลมชั้นนอกอีก 9 วงแล้วถามออกมาว่า
"งั้นวงกลมรอบนอกที่เหลือ 9 วงก็คือ ? "
ชายขี้เมาได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจกับคำถามของหลินเทียน
"ข้าถามเจ้าก่อนหน้านี้ว่าเจ้ารู้เรื่องโลกใบนี้แค่ไหนใช่ไหม ? "
ชายขี้เมาได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
หลินเทียนได้ตอบกลับไปว่า
"โลกใบนี้ ? ไม่ใช่ว่ามี 500 จักรวรรดิ นิกายใหญ่ 4 นิกายที่ว่า ? "
ชายขี้เมาได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"เจ้าหนู อย่าได้คิดว่าโลกมันแคบแบบนั้นสิ ข้าหมายถึงโลกทั้งใบ "
หลินเทียนได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"หมายความว่า ? "
เขาได้มองไปยังวงกลมรอบนอกทั้ง 9 ก่อนที่จะผงะไป
ชายขี้เมาได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจพลางพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"เจ้าคิดถูกแล้ว"
หลังจากนั้นเขาก็ได้ชี้ไปยังวงกลมชั้นอื่นๆพร้อมกับอธิบายว่า
"ทั้ง 10 วงที่ข้าวาดน่ะแต่ละชั้นก็จะเป็นโลกใบหนึ่งจากชั้นในสุดถึงชั้นนอกสุดซึ่งมันจะมีพื้นที่กว้างขึ้นในแต่ละชั้น "
หลินเทียนได้แต่ผงะไปกับคำอธิบายนี้
ชายขี้เมาได้ชี้ไปยังชั้นที่ 10 พร้อมกับพูดว่า
"ตอนนี้สรุปแล้วแต่ละชั้นก็เป็นสวรรค์ 1 ที่เกิดจากการรวมตัวของโลก 10 ชั้นเข้าด้วยกันถึงได้ถูกเรียกมาตั้งแต่อดีตกาลว่า.......สวรรค์สิบชั้นอย่างไงล่ะ ! แต่ตอนนี้เราน่ะอยู่ในชั้นที่ต่ำตมที่สุดคือสวรรค์ชั้นแรก "
ชายขี้เมายังไม่ลืมที่จะซดเหล้าเข้าไปอีกกรึ๊บ
"อ๊า ชื่นใจจริงๆ ! "
เขาได้อุทานออกมา
หลินเทียนเองก็ได้แต่จ้องมองไปยังวงกลมทั้ง 10 ชั้นด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน
"สวรรค์ 10 ชั้น "
เขาได้พึมพำออกมา
วันนี้เป็นวันที่เขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของโลกใบนี้อย่างถ่องแท้
ตอนนี้เขาอยู่ในโลกที่ต่ำตมที่สุดอย่างสวรรค์ชั้นแรก
หลังจากที่เงียบไปพักหนึ่งเขาก็ได้มองไปยังชายขี้เมาแล้วถามออกมาว่า
"งั้นจะข้ามไปแต่ละชั้นอย่างไร ? จากสวรรค์ชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 2 ? แล้วจาก 2 ไปชั้นที่ 3 ล่ะ ? "
ตอนนี้เขาอยู่ในชั้นที่ 1 ดังนั้นสิ่งที่ควรคิดคือการไปที่สวรรค์ชั้นที่ 2 เพราะจากคำอธิบายของเฒ่าขี้เมาไม่เห็นบอกช่องทางแม้แต่น้อย
"เป็นคำถามที่ดี ! "
ชายขี้เมาได้ยกนิ้วขึ้นพร้อมกับพูดว่า
"แต่ละชั้นก็จะมีประตูมิติโบราณที่เชื่อมเข้าหากัน ตราบใดที่แข็งแกร่งมากพอก็จะสามารถเดินทางข้ามประตูมิตินี้ไปได้จากชั้นที่ 1 "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ฉีกยิ้มออกมาพลางพูดต่อว่า
"จริงๆแล้วระดับพลังไม่ถึงก็ไปได้นะแต่ไม่รับประกันว่าจะถูกคลื่นมิติฉีกออกเป็นชิ้นๆจนตกตายลงเสียก่อนรึเปล่า "
"แล้วต้องมีระดับพลังถึงเขตแดนไหนกัน ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
"โดยปกติแล้วแค่เขตแดนผู้รอบรู้ก็พอแล้วล่ะ "
ชายขี้เมาได้ตอบกลับไป
"โดยปกติ ? "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่สับสนออกมา
"เจ้าหนูนี่สามารถจับผิดคำพูดของข้าได้หมดเลยนะ ไม่น่ารักเอาซะเลย ! "
ชายขี้เมาได้แต่กรอกตาพร้อมกับพูดออกมาว่า
"เมื่อไม่กี่ปีก่อนมันมีปัญหาเกิดขึ้นกับประตูมิติระหว่างชั้นที่ 1 และ 2 ทำให้เขตแดนผู้รอบรู้ยังไม่พอที่จะข้ามไปได้ หลังจากนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เพราะขนาดเขตแดนจักรพรรดินภาเองยังเป็นเรื่องยากที่จะข้ามไปถึงอีกฝั่ง , ข้าเคยเห็นภาพผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดินภาถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆจนตายระหว่างข้ามไปกับตาตัวเองด้วยล่ะ "
หลินเทียนได้แต่ขมวดคิ้วของเขา , มันมีเรื่องแบบนี้ด้วย !
"งั้นแสดงว่าไม่สามารถผ่านไปยังสวรรค์ชั้นที่ 2 ได้ตลอดชีวิต ? "
หลินเทียนได้ถามออกไป
จากทำอธิบายของอีกฝ่ายแล้วเขาเข้าใจได้ว่าสวรรค์ชั้นที่ 2 นั้นมีพื้นที่กว้างกว่าแถมยังแข็งแกร่งกว่าซึ่งอีกความหมายหนึ่งคือมันมีอนาคตมากกว่า , เป้าหมายของเขาหลังจากที่มาถึงโลกใบนี้ก็คือต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของเส้นทางบ่มเพาะ หากว่าไม่สามารถก้าวข้ามไปยังชั้นที่สูงขึ้นได้ก็ถือว่าน่าผิดหวังอย่างมาก
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก หากว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าเขตแดนจักรพรรดิก็น่าจะข้ามไปได้ 100% "
ชายขี้เมาได้ตอบกลับไป