Divine King Of All Directions - 185
Divine King Of All Directions - 185
ซินเจิ้งเย่ไม่ได้ถามหลินเทียนว่าเขาต้องการอาวุธสมบัติระดับสูงไปทำไมเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญดังนั้นการเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองก็เป็นเรื่องที่ปกติอยู่แล้ว
"ทางเราเพิ่งมีกระบี่สมบัติระดับสูงเข้ามาพอดี "
ซินเจิ้งเย่ได้พูดออกมา
"ราคาเท่าไหร่ ?"
หลินเทียนได้ถามกลับไป
ซินเจิ้งเย่ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า
"มันเป็นเพราะเจ้าถือครองตราประจำตัวดังนั้นถึงสามารถขายในราคาทุนได้ ทั้งหมดเป็นเงิน 15ล้านเหรียญ "
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับส่งบัตรแทนเงินสีม่วงออกไป
ที่เมืองเฟิงเจียนนั้นมีโรงงานของตระกูลหลินอยู่ซึ่งก่อนหน้านี้ตระกูลชินเองก็ได้จัดการสมบัติของตระกูลเสี่ยวและรายได้ทั้งหมดในรอบหลายเดือนของธุรกิจต่างๆเพื่อมอบให้กับเขาเป็นเงินกว่า 20 ล้านเหรียญ
ซินเจิ้งเย่เองก็ไม่คิดเลยว่าหลินเทียนนั้นจะรวยขนาดนี้
"รอสักครู่"
หลังจากที่รับมาแล้วเขาก็ได้เดินออกจากห้องไป
ไม่นานเขาก็ได้กลับมาพร้อมกับกระบี่ในมือ
"มันเป็นสมบัติระดับสูงขั้นต้นซึ่งมีชื่อว่ากระบี่ซ่งหลิง "
ซินเจิ้งเย่ได้พูดออกมา
หลินเทียนได้ชักมันออกจากฝักก่อนที่จะมองไปยังกระบี่ที่มีความยาวประมาณ 4 ฟุตและให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันสามารถตัดทุกสิ่งออกได้เป็นชิ้นๆ
หลินเทียนรู้สึกพอใจอย่างมากขณะที่เก็บมันกลับเข้าไปในแหวนมิติของเขา
อาวุธชิ้นนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาขึ้นได้กว่า 70%
"ขอบคุณ "
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดออกมา
เมื่อพูดจบแล้วเขารีบหันหลังแล้วเดินจากไปทันที
"รอก่อน !"
ซินเจิ้งเย่ได้หยุดเรียกเขาก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลังเลว่า
"เรื่องของทางคฤหาสน์แม่ทัพ......."
ดูเหมือนว่าหลินเทียนและจี่หยูนั้นจะสนิทสนมกันมากหลังจากที่เคยมาที่นี่ด้วยกันถึงได้ทำให้เขาเดาว่าหลินเทียนต้องมีความสัมพันธ์กับทางคฤหาสน์แม่ทัพอย่างแน่นอนและตอนนี้ทางคฤหาสน์เองก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากอย่างมากและเขาอยากจะรู้ว่าหลินเทียนจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
หลินเทียนได้หยุดเท้าลงก่อนที่ซินเจิ้งเย่จะรู้สึกได้ว่าบรรยากาศโดยรอบกำลังเย็นตัวลงอย่างมาก
"เจ้า......"
บรรยากาศที่เย็นยะเยือกแบบนี้ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันทีเพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นจิตสังหารที่เข้มข้น
หลินเทียนได้หันหน้ากลับมามองทางซินเจิ้งเย่พร้อมกับพูดว่า
"เจ้าคิดว่าจี่หยวนฉานจะทำเรื่องแบบนั้นจริงๆ ? "
ซินเจิ้งเย่ได้แต่เงียบไปพร้อมทั้งส่ายศีรษะของเขา
"ท่านแม่ทัพออกไปต้านทานข้าศึกอยู่กว่าหลายสิบปีซึ่งเกียรติยศของเขาโด่งดังอย่างมากซึ่งองค์จักรพรรดิองค์ใหม่เองก็คงไม่อยากจะให้มีภัยคุกคามของตัวเองหลงเหลืออยู่ดังนั้นถึงได้......."
ซินเจิ้งเย่ได้เงียบไปพร้อมกับถอนหายใจออกมาว่า
"คนที่มีเกียรติขนาดนั้นไม่ได้มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ "
"เกียรติขนาดนั้น ? "
หลินเทียนได้แสยะออกมา
ครั้งนี้ซินเจิ้งเย่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงยิ่งกว่าเก่าจนอดก้าวถอยกลับไปไม่ได้
หลังจากที่ตั้งสติแล้วเขาก็ได้พูดออกมาว่า
"พรุ่งนี้จะเป็นวันเดินขบวนขององค์จักรพรรดิและเป็นวันประหารท่านแม่ทัพ"
ตรงนี้เขาเองก็รู้สึกหมดหนทางเป็นอย่างมาก มีหลายคนภายในเมืองหลวงต่างไม่เห็นด้วยเพราะว่าจี่หยวนฉานนั้นรับใช้จักรวรรดิมาหลายสิบปีแถมลูกๆหลานๆหลายคนก็ตกตายลงในสนามรบซึ่งเรียกได้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยเหลือจักรวรรดิในช่วงหลายๆปีนี้
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิกลับไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เพราะเพียงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจี่หยวนฉานร่วมมือกับศัตรู
"ข้ารู้แล้ว ดังนั้นข้าถึงได้มาเอากระบี่นี่ไง "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วซินเจิ้งเย่ก็ได้แต่มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพลางพูดออกมาว่า
"เจ้า.......เจ้าคิดที่จะ........."
หลินเทียนไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมทั้งก้าวเดินออกไปทันที
เมื่อจ้องมองไปยังแผ่นหลังของหลินเทียนแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนว่าหน้าอกของเขาถูกกระแทกด้วยบางสิ่ง
แผ่นหลังของชายหนุ่มคนนี้มันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
.............
วันนั้นได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หิมะยังคงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าขณะที่บ้านเรือนต่างๆต่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหิมะสีขาวโพลน
อากาศโดยรอบเย็นอย่างมากแต่วันนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
ห่างออกไปไม่ไกลก็จะพบว่ามีกองกำลังทหารกำลังเดินขบวนอยู่นับหลายร้อยคน
ใจกลางของคนเหล่านั้นมีชายชราถูกขังเอาไว้ภายในกรงเหล็กด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
"นั่นมันท่านแม่ทัพ "
"ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีความคิดก่อกบฏ "
"โอ้ ไม่น่าเลย "
หลายๆคนได้ส่งเสียงออกมา
หลังจากที่เสียงฮือฮาได้ดังขึ้นนั้นพวกมันทั้งหมดก็ถูกกลบโดยเสียงการเดินขบวนของทหารนับหลายร้อยคนอย่างพร้อมเพรียง
ร่างสี่ร่างกำลังอยู่ตรงใจกลางของขบวน
จูหวูเต๋า เจียงเหลินเหวิน เหล็งเฟิง ต๊วนเหวินโป
"จากการที่แม่ทัพจี่ได้ทำการร่วมมือกับศัตรูเพื่อก่อกบฏอย่างลับๆนั้นมันทำให้องค์จักรพรรดิรู้สึกผิดหวังอย่างมาก วันนี้เราจะประหารโดยการกุดศีรษะของเขา ! "
หนึ่งในทหารที่อยู่ในกลางได้ส่งเสียงออกมาอย่างดัง
เสียงเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างต้องส่ายศีรษะไปตามๆกัน
จี่หยวนฉานที่อยู่ภายในกรงนั้นมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากขอทานเลยในตอนนี้ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อย
"หลังจากวันนี้ทุกอย่างก็จะเข้าที่เข้าทาง "
ต๊วนเหวินโปได้พูดออกมา
เหล็งเฟิงเองก็ได้พยักหน้าตาม
จูหวูเต๋าที่กำลังสวมมงกุฎอยู่เองก็ได้ยิ้มตอบพวกเขา
ทั้ง 4 คนยังคงพูดคุยกันด้วยท่าทางราบเรียบขณะที่ขบวนยังคงเดินหน้าต่อไปและทิ้งรอยเท้าเอาไว้
ทันใดนั้นเองที่สายลมได้ปั่นป่วนจนถึงขั้นทำให้ผู้คนต้องยกมือขึ้นมาป้องกันดวงตาเอาไว้
"วันนี้อากาศแปลกไปจริงๆ "
หนึ่งในผู้คนได้ส่งเสียงออกมา
หลังจากที่สายลมได้สลายไปแล้วการเดินขบวนของทหารก็ได้หยุดลงอย่างฉับพลัน
"หยุดทำไม ?! "
ผู้บัญชาการทหารได้ส่งเสียงคำรามอ กมาอย่างดัง
ผู้คนต่างมองออกไปทางหน้าถนนก่อนที่จะพบกับชายหนุ่มในชุดคลุมยาวที่ไม่รู้ว่าไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"หลินเทียน !"
สายตาของเจียงเหลินเหวินได้เป็นประกายเย็นยะเยือกออกมาพร้อมทั้งปลดปล่อยจิตสังหารออกไปทุกทิศทาง
ต๊วนเหวินโปและเหล็งเฟิงเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน หลินเทียนที่ตกหน้าผาไปกลับยังมีชีวิตรอดกลับมาได้ !
นัยน์ตาของจูหวูเต๋าเองก็หดเล็กลงเช่นกันก่อนที่จะปรับสภาพกลับมาราบเรียบเหมือนก่อน
จี่หยวนฉานที่อยู่ภายในกรงเองก็ได้แต่สั่นสะท้านไปก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจว่า
"น้องชาย เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ! "
หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งพร้อมทั้งรีบพูดออกมาว่า
"มาที่นี่ทำไมกัน ! หนีไปเร็ว ! "
สายตาของหลินเทียนยังคงราบเรียบและไร้ความรู้สึกใดๆ
"ท่านแม่ทัพ หากว่าย้อนเวลากลับไปได้ท่านจะยังฝ่าดงสมรภูมิเพื่อจักรวรรดินี้อยู่อีก ? "
เขาได้มองออกไปพร้อมกับถามออกมา
จี่หยวนฉานได้แต่เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า
"ข้าจะทำ "
หลินเทียนยังคงถามต่อด้วยสีหน้าที่ราบเรียบว่า
"เพราะอะไร ? "
"เพื่อประชาชน ! "
จี่หยวนฉานได้ตอบกลับไป
หลินเทียนได้กวาดตามองไปทางสองข้างทางพร้อมทั้งแสยะออกมาว่า
"เพื่อประชาชน ? "
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของหลินเทียนแล้วเหล่าผู้คนธรรมดาเองก็ต่างสั่นสะท้านไปตามๆกัน
เขาได้จ้องมองกลับไปทางจี่หยวนฉานพร้อมกับพูดต่อว่า
"ด้วยความที่ข้าเป็นรุ่นเยาว์ดังนั้นถึงไม่อยากจะเถียงความคิดเห็นของท่านแต่ข้าบอกได้เลยว่ามันเป็นความคิดที่โง่เง่ามากๆ ! ท่านเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อจักรวรรดินี้มาหลายสิบปีเพื่อให้เกิดความสงบสุขแต่แล้วยังไงล่ะ ? ใครจดจำท่านบ้าง ? มันเป็นเพราะว่าการใส่ความก็ทำให้ท่านถูกป ะหารแถมไม่เห็นมีประชาชนคนไหนออกหน้ามาเพื่อท่านแม้แต่คนเดียว ! "
คำพูดเหล่านี้ทำให้สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปโดยทันที
หลายคนที่อยู่ข้างทางได้แต่แสดงสีหน้าที่รู้สึกผิดออกมาก่อนที่จะก้มหัวลงเพราะพวกเขารู้ดีว่าทางจักรวรรดิคิดอะไรและจี่หยวนฉานได้รับความไม่เป็นธรรมแต่ใครจะกล้าออกหน้าเพื่อสู้กับอำนาจจักรวรรดิ ? นั่นมันมีโทษประหาร 9 ชั่วโครตเลยนะ !
"สามหาม จับตัวมันซะ ! "
ผู้บัญชาการได้ออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ทหารหลายคนได้พุ่งเข้าไปทางหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
"น้องชายหนีไปเร็ว ! "
จี่หยวนฉานได้รีบพูดออกมา
หลินเทียนยังคงตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า
"หากว่าเป็นข้า ข้าจะไม่มีทางเสียสละอะไรเพื่อจักรวรรดินี้ เพราะพวกมันไม่มีค่าพอให้ทำเช่นนั้น "
"แกร๊ง ! "
เสียงกระบี่คำรามได้ดังขึ้นก่อนที่คลื่นกระบี่สายฟ้าจะกวาดออกไปโดยรอบ
"พุฟ !"
"พุฟฟฟ! "
"พุฟฟ ! "
เลือดสาดกระจายไปทั่วขณะที่ทหารหลายสิบคนที่กระโจนเข้ามาต่างตกตายลงทันที
ภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน
"กบฏ ! จับตัวมันซะ ! "
ผู้บัญชาการได้คำรามออกมาอย่างดัง
กลางถนนนี้มีกองกำลังทหารอยู่กว่าหลายร้อยนายและแน่นอนว่าแต่ละคนเองก็ไม่ได้อ่อนแอด้วย
ทันใดนั้นเองที่กลุ่มทหารหลายสิบคนได้กระโจนเข้าไปทางหลินเทียนอีกครั้ง
หลินเทียนยังคงก้าวเดินออกไปทางกรงเหล็กด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสพร้อมทั้งพูดพลางจ้องมองไปทางจี่หยวนฉานว่า
"ตอนนี้ท่านกำลังจะถูกประหารหลังจากที่เดินขบวนเสร็จและหลานสาวเพียงคนเดียวก็ยังถูกจับตัวไว้ในราชวัง ท่านตอบข้าหน่อยสิว่าการที่ท่านออกไปสู้รบหลายสิบปีมันเพื่ออะไรกัน !! "
จิตสังหาร ันรุนแรงได้แผดออกไปรอบทิศทางพร้อมๆกับคลื่นกระบี่ที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
"พุฟฟ !"
"พุฟฟ !"
"พุฟฟ ! "
เลือดสาดกระจายไปทั่วดั่งสาฝนขณะที่ร่างไร้วิญญาณต่างทรุดลงกับพื้น
ภาพเหตุการณ์อันน่ากลัวของชายหนุ่มที่เผชิญหน้ากับกองกำลังทหารนับร้อยแต่กลับไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เขาในระยะ 3 เมตรได้เลยแม้แต่น้อย , ตราบใดที่เข้ามาใกล้ก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยคลื่นกระบี่อันรุนแรงไม่เว้นแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะ !
สีหน้าของจี่หยวนฉานน่าเกลียดเป็นอย่างมากและอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
ผู้บัญชาการกองทหารได้พุ่งออกมาด้วยตัวเองพร้อมกับอารมณ์ที่ปะทุอย่างรุนแรง
"ตายไปซะ ! "
ระดับพลังของผู้บัญชาการนั้นอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 8 ตอนปลาย
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ไม่แยแสพร้อมทั้งฟาดฟันเพื่อส่งคลื่นกระบี่ออกไป
"พุฟฟฟ ! "
ลำคอของผู้บัญชาการได้ถูกคลื่นกระบี่แทงเป็นรูโหว่ก่อนที่เลือดจะทะลักออกมาไม่หยุดพร้อมทั้งตายลงโดยทันที
ผู้คนมากมายที่อยู่รอบข้างล้วนแสดงสีหน้าที่โศกเศร้าออกมา
"นี่...."
"เขา............ เขาต้องการจะทำลายกรงนั่น !"
"นี่คิดจะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ ? ! "
"จักรพรรดิก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ ! "
หลายๆคนได้แต่แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปออกมา
ตอนนี้ราชวงเป็นผู้ดูแลทั้งจักรวรรดิแต่กลับมีคนกล้าขัดคำสั่งขององค์จักรพรรดิแถมยังสังหารกองกำลังทหารต่อหน้าผู้คนมากมายนี่มันเป็นโทษที่หนักหนาสาหัสอย่างมาก !
"ข้าไปเอง "
เสียงที่เย็นชาได้ถูกส่งออกมา
เจียงเหลินเหวินได้พุ่งออกไปด้วยสีหน้าที่ดุร้ายเป็นอย่างมาก
"ตกผาไปแต่ยังรอดมาได้อีกนะ โชคดีจริ ๆ ! แต่วันนี้ข้าจะเป็นคนสังหารเจ้าด้วยมือข้าเอง ! "
เจียงเหลินเหวินได้พูดออกมาอย่างเย็นชา
คลื่นกระบี่อันรุนแรงส่งผลให้หิมะโดยรอบสลายหายไปในทันที
"ขยะ "
หลินเทียนได้ตอบกลับไปคำเดียว
เขาได้กวัดแกว่งกระบี่ในมือเพื่อส่งคลื่นกระบี่สายฟ้าออกไปกระแทกเข้ากับร่างของเจียงเหลินเหวินและส่งอีกฝ่ายกระเด็นออกไปหลายฟุต