Divine King Of All Directions - 172
Divine King Of All Directions - 172
เคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์ได้หมุนวนอย่างเงียบๆก่อนที่เขาจะยืนขึ้นแล้วเปิดใช้งานข่ายอาคมลมกระโชกเพื่อซ่อนตัวอยู่ในเงามืด , ณ ตอนนี้เองที่มีเสียงดังขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ประตูหน้าบ้านจะถูกเปิดออกและร่างเงาร่างหนึ่งได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเหมือนดั่งภูติพราย
หลังจากนั้นหลินเทียนก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังฉีก่อนที่ร่างเงานั้นจะพุ่งเข้าไปที่เตียงของเขา
หลินเทียนถึงกับขนลุกสู้เพราะว่าชายคนนี้อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 !
โครม ! เตียงของเขาได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆจนไม่เหลือซาก
"อื้ม ?! "
ร่างนั้นได้ส่งเสียงที่ประหลาดใจออกมาก่อนที่จะมองไปรอบๆห้อง
"ไม่อยู่ ? "
ร่างนั้นได้ส่งเสียงกระซิบก่อนที่จะพุ่งออกไปทางด้านนอก
ณ ตอนนี้เองที่ประกายตาของหลินเทียนได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนที่จะเรียกเอามีดสั้นออกมาแล้วเอื้อมไปปาดแผลบางๆที่คอของฝ่ายตรงข้าม
ร่างนั้นรู้สึกเพียงแค่ความเย็นของใบมีดก่อนที่จะสั่นสะท้านไปทันที
"อย่าได้คิดขยับ "
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมาก่อนที่ร่างของเขาจะปรากฏขึ้น
ร่างนั้นถึงกับสั่นไปไม่ได้เพราะว่าก่อนหน้านี้เขามองไปรอบบ้านแล้วและไม่พบร่างของหลินเทียนแม้แต่น้อยทว่าตอนนี้คอของเขากลับถูกมีดจ่อเอาไว้จนทำให้เขาไม่กล้าขยับไปไหน , ตอนนี้หลินเทียนสามารถปลิดชีวิตของเขาได้ง่ายมากๆ
"อยู่ดีๆเจ้ามาโผล่ด้านหลังข้าได้ไงกัน ? ก่อนหน้านี้ข้าตรวจสอบดูแล้วว่าภายในบ้านนี้ไม่มีใคร ! "
ร่างนั้นได้ส่งเสียงออกมา
หลินเทียนได้ยกเท้าถีบออกไปก่อนที่จะทำให้ร่างๆนั้นคุกเข่าลงกับพื้น
"ตอนนี้เจ้าเป็นเชลยของข้าและไม่มีสิทธิจะถามคำถามกับข้า "
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
หลังจากนั้นเขาก็ได้ฉีกหน้ากากของร่างๆนั้นออกพร้อมทั้งพบว่าอีกฝ่ายเป็นชายวัยกลางคน
ณ ตอนนี้ท่าทางของอีกฝ่ายตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ออกเลยว่าทั้งๆที่ตัวเองอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 แล้วลอบเข้ามาตอนกลางดึกแต่กลับถูกจับตัวได้ง่ายดายแบบนี้ ณ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเนื้อบนเขียงรอคนอื่นสับเสียแล้ว !
"ใครส่งเจ้ามา ? "
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมา
ชายคนนั้นได้แต่เงียบโดยที่ไม่ปริปากแม้แต่น้อย
ประกายตาของหลินเทียนได้เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกก่อนที่จะเรียกเอามีดสั้นอันที่ 2 ออกมาในมือซ้ายแล้วแทงเข้าไปที่ลำตัวของอีกฝ่าย , การแทงนี้ทะลุอวัยวะสำคัญของอีกฝ่ายและทำให้เขาส่งเสียงร้องออกมาทันทีแต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่เสียงที่ดังพอจะให้คนอื่นรู้สึกได้
"พูดมา !"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ชายคนนั้นได้แต่กัดฟันโดยที่ไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย
หลินเทียนได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะแทงลงไปอีกครั้ง
ชายวัยกลางคนได้แต่อดทนกับความเจ็บปวดพร้อมทั้งส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง
"ข้าว่าเจ้าอย่าได้ทดสอบความอดทนของข้าเลยไม่งั้นข้าจะให้เจ้าได้ตายทั้งเป็น ! "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง
ใบหน้าของชายวัยกลางคนได้เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดโดยทันที , เขาที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 กลับถูกข่มขู่โดยเด็กหนุ่มที่อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 6 !
เมื่อเห็นว่าชายคนนี้ไม่ยอมปริปากดังนั้นหลินเทียนถึงได้แสดงสายตาที่เย็นชาออกมาก่อนที่จะเตะไปยังขาที่อยู่ที่พื้นของอีกฝ่ายก่อนที่จะได้ยินเสียง กร๊อบ ! , ณ ตอนนี้เองที่เสียงกระดูกแตกหักได้ถูกส่งออกมาและทำให้กระดูกขาซ้ายของชายคนนั้นแตกละเอียดโดยทันที
"ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็รู้ว่าผู้นำตระกูลเจียงส่งเจ้ามา "
เหงื่อได้ท่วมไปทั่วใบหน้าของชายวัยกลางคนและอดที่จะสั่นไปทั้งตัวไม่ได้
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาเพราะดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของเขาจะถูกต้อง
เขาได้จ้องมองออกไปตรงหน้าพร้อมกับพูดต่อว่า
"ด้วยระดับพลังของเจ้าแล้วดูเหมือนว่าจะมีสถานะไม่น้อยในตระกูลเจียงและน่าจะรู้ความลับหลายๆเรื่อง ก่อนหน้านี้ข้าเตือนเจ้าไปแล้วและตอนนี้ข้าจะถามอีกรอบ , หากว่าอยากจะเงียบต่อไปหรือให้คำตอบที่ข้ารู้สึกไม่พึงพอใจก็ได้นะแต่หลังจากนั้นข้าจะเหยียบกระดูกขาขวาเจ้าต่อและหากว่าคำตอบของคำถามที่สองทำให้ข้าไม่พอใจ ข้าก็จะเหยียบกระดูกแขนซ้ายเจ้า , สุดท้ายนี้ก็จะเป็นแขนขวา ตาซ้าย และตาขวาตามลำดับ "
ชายวัยกลางคนได้แต่พูดออกมาด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านว่า
"จะ..........เจ้ามันปีศาจ ! "
"ปีศาจ ? "
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมกับพูดว่า
"คิดแบบนั้นได้ก็ได้ "
หลังจากที่พูดจบแล้วน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาขึ้นพลางพูดออกมาว่า
"คำถามแรก ระดับพลังของผู้นำตระกูลเจียงอยู่ในระดับอะไร ? "
ริมฝีปากของชายวัยกลางคนได้ขยับเล็กน้อยแต่ตอนนี้เองที่หลินเทียนได้กระทืบลงไปยังขาขวาของเขาอย่างจัง
เสียงกระดูกแตกหักได้ถูกส่งออกมาโดยทันที
"เจ้า...."
ชายวัยกลางคนได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยความโกรธและความกลัว
"ข้าบอกแล้วว่าอย่าเงียบ"
หลินเทียนได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
"มาต่อกัน , ระดับพลังของผู้นำตระกูลอยู่ในเขตแดนอะไร ? "
"ระดับพลังของท่านผู้นำตระกูล ได้ ได้ อยู่ในเขตแดน......"
"กร๊อบ ! "
หลินเทียนได้บิดแขนซ้ายของชายวัยกลางคนจนละเอียดโดยทันที
"เจ้า..."
"เจ้าลังเลอะไร "
หลินเทียนได้พูดต่อด้วยดวงตาที่ดุร้ายว่า
"งั้นมาอีกรอบ , ระดับพลังของผู้นำตระกูลอยู่ในเขตแดนอะไร ? "
"เขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลาย "
ครั้งนี้ชายวัยกลางคนได้รีบตอบกลับอย่างรวดเร็วเพราะอารมณ์ของหลินเทียนทำให้เขากลัวอย่างมาก
"ดีมาก "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่พึงพอใจออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"คำถามที่สอง ระดับพลังของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเจียงอยู่ในเขตแดนอะไร ? "
"เขตแดนผู้รอบรู้ระดับ 2 "
"กี่คน "
"คนเดียว"
หลินเทียนได้หรี่ตาลงก่อนที่จะถามต่อว่า
"คำถามสุดท้าย นิกายที่เจียงเหลินเหวินเข้าร่วมชื่อนิกายอะไร ? "
ชายวัยกลางคนได้แต่สั่นสะท้านไปพร้อมกับพูดว่า
"เรื่องนี้ข้าไม่รู้ ! "
"ไม่รู้ ? "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่เย็นชาออกมาก่อนที่จะขยับมีดเข้ามาอย่างช้าๆแล้วพูดว่า
"ข้าจะถามอีกรอบว่านิกายที่เจียงเหลินเหวินเข้าร่วมชื่ออะไร ? หากว่าไม่ตอบข้าจะแทงดวงตาซ้ายของเจ้าช้าๆจะได้ให้เจ้าดื่มด่ำกับความรู้สึก "
ชายวัยกลางคนได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยความโกรธว่า
"ทำไมเจ้าถึงได้โหดเหี้ยมแบบนี้ ! "
"โหดเหี้ยม ? เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาพูดกับข้าด้วยคำนี้ ? "
หลินเทียนได้แสยะออกมาก่อนที่จะขยับมีดเข้ามาหาดวงตาซ้ายของชายวัยกลางคนแล้วพูดว่า
"นิกายที่เจียงเหลินเหวินเข้าร่วมมีชื่อว่าอะไร ? "
สีหน้าของชายวัยกลางคนได้ซีดเผือดขณะที่สั่นไปทั้งตัว
"ไม่พูดใช่ไหม "
หลินเทียนได้ส่งเสียงที่เย็นชาออกมาก่อนที่มีดสั้นในมือขวาจะกดลงที่ลำคอของชายวัยกลางคนพร้อมทั้งใช้มือซ้ายปาดไปที่ดวงตาของอีกฝ่าย
"หยุด ข้าจะพูด !"
ชายวัยกลางคนได้ส่งเสียงออกมา
หลังจากที่เขาคิดตามคำพูดของหลินเทียนแล้วหากว่าถูกมีดแทงเข้าไปที่ดวงตาช้าๆนี่มันจะเจ็บปวดขนาดไหนกัน ? นี่มันเป็นการทรมานที่ใครจะไปทนได้ ?
หลินเทียนได้หยุดมือลง
"พูดมา "
เขาได้ส่งเสียงออกมา
ท่าทางของอีกฝ่ายพยายามขัดขืนเล็กน้อยก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
"จะ...........เจ็ดตำหนักรอบรู้ "
"เจ็ดตำหนักรอบรู้ ? "
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมาก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วพูดกับตัวเองว่า
"ไม่เคยได้ยินจริงๆด้วยแหะ "
เขาได้จ้องมองออกไปพร้อมกับพูดว่า
"แล้วระดับพลังของนิกายนั่นล่ะเป็นไง ? ตั้งอยู่ที่ไหน ? "
"นี่.........ข้าไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ข้ารู้เพียงแค่ว่าภายในนิกายนั้นมีตัวตนระดับผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดินภาเท่านั้น ! "
ชายวัยกลางคนได้ส่ายศีรษะซ้ำๆ
หลินเทียนได้แสยะออกมาก่อนที่จะกดมีดสั้นในมือขวาลงพร้อมทั้งขยับมีดสั้นในมือซ้ายเข้าใกล้ดวงตาซ้ายของเขาอีกครั้ง
"หยุด ! ข้าไม่รู้จริงๆ ! ข้าไม่รู้จริงๆ ! "
ชายวัยกลางคนได้แต่พูดออกมาด้วยท่าทางที่กระวนกระวายอย่างมาก
หลินเทียนได้หยุดมือลงก่อนที่จะหรี่ตาเล็กน้อยเพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ
หลังจากที่เงียบไปเขาก็ได้พูดต่อว่า
"แล้วผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้ของตระกูลเจ้ายังบริหารงานของตระกูลอยู่รึไม่ ? "
"ไม่.......มีเพียงหากเกิดหายนะกับทางตระกูลเท่านั้นไม่งั้นท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ก็จะไม่ออกมา"
ชายวัยกลางคนได้พูดออกมา
ณ ตอนนี้เขากลัวหลินเทียนเป็นอย่างมากและไม่ลังเลที่จะพูดเลยแม้แต่น้อย
หลินเทียนได้ถอนมือซ้ายกลับมาก่อนที่จะจับไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วพูดว่า
"แม้ว่าจะได้ข้อมูลไม่มากแต่ก็ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ "
ชายวัยกลางคนได้โล่งอกก่อนที่จะกัดฟันแล้วพูดว่า
"ปล่อยข้า ? "
"ปล่อยข้า ? พูดเล่นหรือเปล่า ? "
หลินเทียนได้แสยะออกมา
"เจ้า.........."
"พุฟฟฟฟ ! "
เขาได้กดมือขวาลงก่อนที่มีดสั้นจะแทงทะลุลำของของอีกฝ่ายไปทันที
...................
เช้าวันรุ่งขึ้นหลินเทียนก็ได้เอาศพของชายวัยกลางคนไปทิ้งไว้หน้าบ้าน
"เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมถึงได้มีศพอยู่นี่ ? "
"แปลกแหะ "
"แถมยังเป็นชายวัยกลางคนที่ไม่รู้จักด้วย "
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? "
"มันอยู่หน้าบ้านของคนโหดนั่น หรือว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเขา ?"
หลายๆคนได้พูดออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ
ไม่นานเรื่องเหล่านี้ก็ไปถึงหูของผู้อาวุโสภายในสำนักก่อนที่ฮานเฮอและหลุยหลานจะรีบตามมาดูร่างไร้วิญญาณที่ถูกทิ้งเอาไว้หน้าที่พักของหลินเทียนด้วยท่าทางที่ตกต่ำลงอย่างมาก ด้วยความที่พวกเขาเป็นผู้อาวุโสถึงได้พอรู้จักตัวตนที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวงเป็นอย่างดีและตระหนักได้ว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าเป็นผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเจียง
หลังจากที่เงียบอยู่สักพักพวกเขาก็ได้เดินเข้าไปภายในที่พักของหลินเทียน
ณ ตอนนี้หลินเทียนยังคงนั่งบ่มเพาะพลังอยู่และหลังจากที่สัมผัสได้ถึงการมาถึงของพวกเขาจึงได้ลืมตาขึ้น
เขาได้ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าที่ไม่แปลกใจนัก
ฮานเฮอได้ถามออกมาว่า
"ศพนั่นเจ้าเป็นคนทำ ? "
"อื้ม "
หลินเทียนได้ตอบกลับไปอย่างราบเรียบ
พวกเขาได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาเพราะพวกเขารู้ดีว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านนอกนั้นอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลายแต่กลับถูกหลินเทียนสังหาร
"นี่มันเรื่องอะไรกัน ? "
หลุยหลานได้ถามออกมา
หลินเทียนได้ตอบกลับไปว่า
"หรือว่าพวกท่านอยากจะสืบสวนข้า ? อยากจะลงโทษข้า ? "
หลุยหลานและฮานเฮอได้แต่ผงะไปด้วยสีหน้าที่หมดหนทาง
"หลินเทียน เราไม่มีหนทางจริงๆเพราะว่าแรงกดดันที่นิกายสร้างให้กับทางจักรวรรดินั้นมันใหญ่หลวงมากๆ เจ้าเองก็น่าจะเข้าใจ "
ฮานเฮอได้พูดต่อว่า
"ส่วนเรื่องนี้เจ้าไม่ต้องพูดประชดหรอก เราไม่ใช่คนโง่ดังนั้นจะไปเอาความกับเจ้าได้ไง "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วความรู้สึกด้านลบในใจของเขาก็ลดลงเล็กน้อยก่อนที่จะเงียบไปแล้วอธิบายเรื่องราวทั้งหมดออกมา แน่นอนว่าเขาบอกไปเพียงแค่ว่าอีกฝ่ายเข้ามาลอบสังหารเขาแต่กลับถูกเขาสังหารแทนโดยที่ไม่ได้อธิบายเนื้อหาสำคัญออกไป
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วสีหน้าของฮานเฮอและหลุยหลานเองก็น่าเกลียดลงอย่างมาก
"แม้ว่าจะคิดไว้แล้วว่าตระกูลเจียงต้องลงมือแน่ๆแค่ไม่คิดเลยว่าจะส่งคนเข้ามาภายในสำนักแบบนี้ !"
หลุยหลานได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นช
ตัวตนของสำนักเป่ยหยานนั้นอยู่เหนือ 3 ตระกูลผู้บ่มเพาะ ภายในสำนักแห่งนี้มีตัวตนระดับเขตแดนผู้รอบรู้อยู่หลายคนซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของจักรวรรดินี้แต่ตระกูลเจียงกลับกล้าทำเรื่องหยามหน้าพวกเขาแบบนี้มันทำให้ทั้งสองโกรธอยู่ภายในใจ
"หลังจากที่เจียงเหลินเหวินมันได้เข้าร่วมกับนิกายก็ทำให้ตระกูลของพวกมันเหิมเกริมขึ้นมาทันที !"
ฮานเฮอได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา