Divine King Of All Directions - 171
Divine King Of All Directions - 171
ที่หลินเทียนต้องการหยาดจันทราก็เพราะว่าเขาอยากจะสร้างข่ายอาคมลมกระโชกขึ้น
"ไม่มีปัญหาทว่ามันเป็นวัตถุดิบที่ไม่ธรรมดาดังนั้นถึงต้องใช้แต้มแลก "
ชิงเฟิงได้พูดออกมา
"ข้าเข้าใจ "
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ
ที่สมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมของเมืองหลวงนั้นไม่เพียงแต่จะได้รับแต้มจากภารกิจที่สำเร็จเท่านั้นแต่สามารถใช้ข่ายอาคมหายากมาแลกได้ , ณ ตอนนี้หลินเทียนได้หยิบวัตถุดิบที่เตรียมไว้ก่อนแล้วออกมาเพื่อสร้างข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยว 10 ม้วนก่อนที่จะส่งให้กับมือของชิงเฟิง
เมื่อจ้องมองไปยังม้วนอาคมที่มือแล้วชิงเฟิงและคนอื่นๆก็ได้แต่มีประกายตาที่เปลี่ยนไป
"อื้ม ดีมาก "
ผู้อาวุโสจินได้พูดออกมา
ข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยวนั้นหายากมากและพวกเขาทั้งหมดก็ไม่มีความสามารถที่จะสร้างข่ายอาคมนี้ได้แถมหากพูดตามตรงแล้วคิดว่าทั้งจักรวรรดินี้คงมีเพียงหลินเทียนคนเดียวที่รู้ถึงวิธีการวาดข่ายอาคมนี้ดังนั้นมูลค่าของมันทั้ง 10 ม้วนถึงได้สูงมากๆ
เชิงเฟิงได้รับม้วนอาคมไปก่อนที่จะหยิบเอาขวดหยกออกมา
"ทั้งหมดมีอยู่ 20 หยด "
ชิงเฟิงได้พูดออกมา
แม้ว่าข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยวจะไม่ธรรมดาก็จริงแต่หยาดจันทราเองก็หายากมากๆและแม้ว่าพวกเขาทั้ง 3 คนจะชื่นชมหลินเทียนแต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎของทางสมาคม
"ขอขอบคุณพวกท่านมากๆ "
หลินเทียนได้พูดออกมา
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้เก็บขวดหยกกลับไป , 20 หยดนี้มันมากพอสำหรับเขาแล้ว
"น้องชายก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน "
ชิงเฟิงได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่จริงจัง
หลินเทียนเข้าใจถึงความหมายนี้ดีว่าพวกเขาเตือนเรื่องของตระกูลเจียงและตระกูลเหล็ง
"ขอบคุณคำแนะนำของพวกท่าน "
เขาได้ตอบกลับไป
ตอนนี้เป็นช่วงค่ำแล้วและหลินเทียนเองก็ได้สนทนาอยู่กับผู้อาวุโสอยู่สักพักก่อนที่จะซื้อวัตถุดิบต่างๆแล้วกลับออกไป , เขาได้กลับไปถึงที่สำนักอย่างรวดเร็วและหลังจากที่ถึงที่พักแล้วเขาก็ได้หยิบเอาหยาดจันทราทั้งหมดออกมาเพื่อเริ่มสร้างข่ายอาคมลมกระโชก
เขาได้ใช้เวลาอยู่ทั้งหมด 6 ชั่วโมงเพื่อสร้างข่ายอาคมลมกระโชกทั้ง 20 ม้วน , หลังจากนั้นเขาก็เริ่มสร้างข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยวและข่ายอาคมผสานทักษะต่อและตอนนี้เองที่ดวงอาทิตย์ได้สาดแสงลงมายังพื้นโลก , หลินเทียนได้ก้าวออกไปนอกที่พักก่อนที่จะเริ่มฝังม้วนอาคมต่างๆเอาไว้รอบๆที่พัก
"เรียบร้อย "
เขาได้พูด!กับตัวเองก่อนที่จะเดินออกไปด้านนอก
เวลาได้ผ่านไปเรื่อยๆขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้นมาทางทิศตะวันออก
หลินเทียนได้กลับเข้าไปในที่พักเพื่ออาบน้ำแล้วเดินออกไปทางลานฝึก , บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ดังนั้นถึงแม้ว่าจะใช้เวลาอยู่กับการสร้างข่ายอาคมทั้งวันแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างทางเขาก็ได้พบกับกลุ่มคนมากมาย
ณ ตอนนี้หนึ่งในคนเหล่านั้นได้มองมาทางเขาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
"นั่นมันเจ้าคนโหด ! "
หลังจากที่พูดออกมาแล้วคนนั้นก็รีบเดินหลบออกไปทันที
เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้วหลายๆคนก็ได้รีบหันหน้ากลับมามองด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
"หลินเทียน ?! "
"ไปเร็ว รีบๆหลีกทางให้คนโหดเร็ว ! "
"ข้าไปก่อนล่ะ !"
"หลีกเร็ว อย่ามาขวางทางข้า ! "
"ให้ข้าหนีก่อน ! "
เกิดความวุ่นวายขึ้นทันทีก่อนที่ทางด้านหน้าของหลินเทียนจะโล่งกว้างในพริบตา
หลินเทียนได้หยุดเท้าลงด้วยท่าทางที่หมดคำพูด นี่เขาดูเหมือนปีศาจร้ายเลยหรือไง ?
เขาได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะเดินไปทางลานฝึกด้วยสีหน้าที่ไม่สนใจนัก
ไม่นานเขาก็ได้ไปถึงถ้ำข่ายอาคมสังหารก่อนที่จะส่งตราประจำตัวให้กับผู้ดูแล
"ข้าอยากจะเข้าไปฝึกภายในถ้ำข่ายอาคมสังหาร "
เขาได้พูดออกมา
ถ้ำข่ายอาคมสังหารนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ฝึกที่โด่งดังของสำนัก หลังจากที่เข้าไปแล้วผู้ฝึกก็จะได้เผชิญหน้ากับภาพลวงตาของตัวเองซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้ใช้ ทักษะที่ภาพลวงตาเหล่านั้นใช้ก็จะเป็นแบบเดียวกันซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความสามารถของตัวเองให้มากขึ้นไปอีกขั้น
จริงๆแล้วเขามีความคิดจะเข้าไปในถ้ำรวมพลังฉีมากกว่าเพราะว่ามันสามารถช่วยให้เขาก่อจุดชีพจรเทวะจุดต่อไปได้เร็วขึ้นแต่น่าเสียดายที่เขาใช้โควต้าของเดือนนี้หมดไปแล้วและยังต้องใช้เวลาอีก 5 วันกว่าจะถึงเดือนต่อไป
ดังนั้นถึงได้คิดว่าเอาเวลามาใช้ในถ้ำข่ายอาคมสังหารนี้ก่อนน่าจะดีกว่า
ผู้ดูแลเองก็ได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ
"มาที่นี่ครั้งแรกสินะ เอาล่ะไม่ต้องตรวจหรอก เข้าไปได้เลย "
ผู้ดูแลได้ส่งตราประจำตัวกลับไปให้เขา
ตอนนี้ชื่อเสียงของหลินเทียนนั้นโด่งดังไปทั่วทั้งสำนักดังนั้นเขาที่เป็นผู้ดูแลจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน
หลินเทียนได้แต่ผงะไปก่อนที่จะรับตรากลับมาแล้วโค้งคำนับ
หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ภายในนั้นให้ความรู้สึกมืดและชื้นซึ่งหลังจากที่ก้าวเข้ามาแล้วเขารู้สึกได้เลยว่ามีพลังบางอย่างได้ห่อหุ้มเขาเอาไว้และหลังจากนั้นก็พบว่ามีร่างของตัวเองปรากฏขึ้นตรงกันข้าม
"ลึกลับดีจริงๆ "
เขาได้แต่คิดอยู่ภายในใจก่อนที่จะส่งจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบและพบว่าร่างโคลนนี้ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอาย ความสูง รูปลักษณ์ภายนอกต่างเหมือนกับเขาไม่มีผิด
"วิ้ส ! "
อากาศได้สั่นไหวก่อนที่ร่างนั้นจะส่งคลื่นกระบี่วายุสะท้านออกมา
หลินเทียนได้แต่ผงะไปด้วยความประหลาดใจเพราะว่าคลื่นกระบี่ที่ร่างโคลนส่งออกมารุนแรงไม่ด้อยไปกว่าเขาแม้แต่น้อย
เขาได้ก้าวถอยหลังกลับไปก่อนที่จะเรียกเอากระบี่ออกมาพร้อมทั้งฟาดฟันเพื่อส่งคลื่นกระบี่ออกไป
คลื่นกระบี่ทั้ง 2 ได้ปะทะเข้าใส่กันและกันก่อนที่แรงระเบิดจะกระจายตัวออกไปรอบทิศทางแต่อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องพวกนี้เพราะว่าร่างโคลนของเขาไม่เปิดโอกาสให้เขาตั้งตัวแม้แต่น้อย มันได้เคลื่อนไหวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
"แกร๊ง ! "
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ตอนนี้ในมือของร่างโคลนนั้นได้มีกระบี่แบบเดียวกันปรากฏขึ้นมา
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่มุ่งมั่นออกมาก่อนที่จะกวัดแกว่งกระบี่ในมือออกไปด้วยความเร็วไม่แพ้กันก่อนที่จะปะทะเข้ากับกระบี่ของอีกฝ่าย
"แกร๊ง ! "
กระบี่ทั้ง 2 ได้ปะทะกันก่อนที่จะส่งเสียงเสมือนจริงออกมา
ไม่นานหลินเทียนก็ได้ปะทะเข้ากับร่างโคลนหลายสิบครั้งและทุกครั้งเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้ามได้แม้แต่น้อยเหมือนว่าอีกฝ่ายรู้ถึงความคิดของเขา , พริบตาที่เขาได้ส่งการโจมตีออกไปนั้นอีกฝ่ายก็จะสามารถหลบหลีกมันได้ทั้งหมดและมันส่งผลให้เขาได้แต่แสดงสีหน้าที่น าเกลียดออกมาเพราะว่าตอนนี้เขากำลังเสียเปรียบ
ดวงตาของเขาได้หดเล็กลงก่อนที่จะสำแดงทักษะกระบี่สายฟ้ามรกตออกมา
หลังจากนั้นร่างโคลนของเขาก็ได้สำแดงทักษะแบบเดียวกันออกมา
"ไม่ธรรมดาจริงๆ "
หลินเทียนได้พูดกับตัวเอง
ในระยะเวลา 1 ชั่วโมงนี้หลินเทียนยังคงเผชิญหน้าอยู่กับร่างโคลนของเขาและไม่ได้ตั้งเป้าเพื่อจะฆ่าอีกฝ่ายแล้วแต่กลับกลายเป็นการพยายามคิดว่าตัวเองยังมีจุดอ่อนตรงไหน , หลังจากนั้นพลังฉีของเขาก็เริ่มที่จะเข้มข้นขึ้นขณะที่การเคลื่อนไหวเองก็ยิ่งราบรื่นและการโจมตีก็ยิ่งแม่นยำ
ทุกการเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้เพื่อสังหารศัตรูเท่านั้น !
ฆ่าศัตรูทุกคนที่อยู่เบื้องหน้า !
"แกร๊ง ! "
คลื่นกระบี่ได้ถูกส่งออกไปและแม้ว่ามันอาจดูเหมือนการฟาดฟันธรรมดาๆแต่กลับสามารถสะบั้นแขนของร่างโคลนตัวเองได้
ประกายตาของเขาได้เปลี่ยนไปก่อนที่ความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้น ตอนนี้ทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ของเขาได้พัฒนาไปอีกขั้นแล้วถึงได้ฟาดฟันออกไปอีกครั้ง
"ตาย ! "
เขาได้ส่งเสียงทุ้มต่ำออกมาก่อนที่จะกวาดกระบี่ออกไปพร้อมกับหมัดของเขาอย่างสุดแรง
บึ้สสส ! ร่างโคลนของเขาได้สลายหายไปโดยทันที
หลินเทียนได้ปาดเหงื่อที่ท่วมหน้าผากเพราะตอนนี้พลังฉีของเขาได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้วดังนั้นใบหน้าของเขาถึงได้ดูซีดลงอย่างมาก
"สู้กับตัวเองนี่มันเป็นปัญหาจริงๆ "
เขาได้พูดกับตัวเองก่อนที่จะก้าวเดินออกไป
เมื่อเห็นว่าหลินเทียนได้เดินออกมาแล้วผู้ดูแลเองก็ได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมาพลางพูดกับตัวเองว่า
"เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเอง ? "
หลินเทียนได้หยุดเท้าลงก่อนที่จะถามออกมาว่า
"ใช้เวลานานไป ? "
"อื้ม ? "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วผู้ดูแลก็ได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"ข้าหมายถึงการใช้เวลา 2 ชั่วโมงจัดการกับร่างโคลนของตัวเองน่ะ "
ดวงตาของผู้ดูแลถึงกับเบิกกว้างก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"อะไรนะ ? "
เขาได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนโดยที่ไม่สามารถพูดอะไรได้แม้แต่น้อย , โดยปกติแล้วศิษย์ที่เข้าใช้ที่นี่เป็นครั้งแรกนั้นจะถูกส่งออกมาเพราะว่าพลังฉีหมดหรือไม่ก็เพราะถูกร่างโคลนสังหารซึ่งคนปกติจะสามารถใช้เวลาอยู่ด้านในได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมงแต่หลินเทียนกลับใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นและมันทำให้เขารู้สึกแปลกมากๆว่าคนดังของสำนักทนได้เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ? แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินเทียนแล้วคำพูดทั้งหมดของเขาก็ได้แต่ค้างอยู่ที่ลำคอเพราะว่าอีกฝ่ายใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเพื่อสังหารร่างโคลน !
หลินเทียนได้ขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกมาว่า
"ทำไม ? "
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร ไปเถอะ "
ผู้ดูแลได้โบกมือให้กับเขาก่อนที่จะส่งเสียงกระซิบออกมาว่า
"เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆด้วย "
หลินเทียนได้แต่เดินออกไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไร
หลังจากนั้นเขาก็ได้ตรงไปยังวังน้ำวนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายโดยน้ำที่เย็นยะเยือก ครั้งนี้เขาไปได้ไกลกว่า 150 เมตรและหลังจากนั้นก็ดำลงไปแช่น้ำทั้งตัวซึ่งภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างแสดงสีหน้าที่โง่งมออกมาตามๆกัน
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ด้านในจนถึงช่วงเย็นแล้วเขาก็ได้กลับไปยังที่พักของตัวเอง
"เห้อ "
เขาได้ยืดเส้นยืดสายอยู่พักหน่อยก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วโน้มตัวลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน
เมื่อผ่านไปได้ 4 ชั่วโมงแล้วเขาก็ได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง
สำหรับเขาแล้วระยะเวลาเท่านี้มันก็เพียงพอต่อการพักผ่อนแล้ว เขาได้รวบรวมสติก่อนที่จะเปิดการทำงานของข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณ 2 ม้วนพร้อมทั้งเริ่มหมุนวนเคล็ดวิชาซือจี่เพื่อดูดกลืนพลังฉีและพลังจากหมู่ดาวโดยรอบเพื่อเริ่มก่อจุดชีพจรเทวะจุดที่ 7
"บึ้ส ! "
แสงสีเงินได้ห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้ก่อนที่กลิ่นอายจะค่อยๆเพิ่มขึ้น
ไม่นานก็ผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง
ตอนนี้กลิ่นอายและร่ายกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะลืมตาที่เป็นประกายเย็นชากลับขึ้นมาเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยวที่เขาวางเอาไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งมันหมายความว่ามีคนบุกรุกเข้ามาภายในอาณาเขตที่เขาวางเอาไว้