Divine King Of All Directions - 169
Divine King Of All Directions - 169
เมื่อจ้องมองออกไปทางทั้งสองแล้วสายตาของหลินเทียนนั้นไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
ฮานเฮอและหลุยหลานเองก็ตระหนักถึงสายตาเหล่านั้นก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"หลินเทียน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าสถานะของเจียงเหลินเหวินนั้นไม่เหมือนคนอื่น "
"อื้ม ไม่ธรรมดาจริงๆนั่นแหละดังนั้นเขาถึงได้หมดสภาพอยู่ที่พื้น ดังนั้นถึงต้องให้พวกเจ้ามาช่วย "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
หลุยหลานได้พูดออกมาว่า
"ถึงอย่างไรเขาก็เป็นศิษย์สำนักเดียวกัน เราไม่สามารถยืนดูเขาตายด้วยเงื้อมมือของเจ้าได้ "
"งั้นรึ ? หากว่าเปลี่ยนไปข้าที่นอนกองอยู่แล้วเจียงเหลินเหวินจะฆ่าข้า พวกเจ้าจะยื่นมือเข้ามาช่วย ? "
หลินเทียนได้พูดออกมา
ฮานเฮอและหลุยหลานเองก็ได้เงียบไปก่อนที่จะส่ายศีรษะ
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าที่พักไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ดีว่าทั้งสองนั้นต้องปกป้องเจียงเหลินเหวินและตอนนี้เขาไม่สามารถฆ่ามันได้
"ขยะที่สามารถขัดกฎของสำนักได้ ได้ชื่อว่าเป็นสำนักที่อยู่เหนือสุดในจักรวรรดิงั้นรึ ก็งั้นๆแหละ "
คำพูดเหล่านี้ได้ดังก้องอยู่ภายในอากาศ
แน่นอนว่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วผู้คนล้วนแต่สูดหายใจเข้าลึกไปตามๆกัน
อยู่ต่อหน้าหน้าเหี่ยวๆของผู้อาวุโสทั้งสองแต่หลินเทียนกลับกล้าที่จะดูหมิ่นสำนักตรงๆเลยงั้นรึ
มันต้องมีจิตวิญญาณกล้าหาญขนาดไหนกัน ?
สีหน้าของฮานเฮอและหลุยหลานเองก็ได้ ปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างมากแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าครั้งนี้พวกเขาเป็นฝ่ายผิดและไม่มีคุณสมบัติพอจะเถียงกับหลินเทียนแม้แต่น้อย ทว่าสิ่งหลักๆคือความสามารถของหลินเทียนนั้นทำให้พวกเขาได้แต่ตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าและดูเปล่งประกายกว่าเจียงเหลินเหวินด้วยซ้ำ
พวกเขาได้แต่มองไปที่กันและกันก่อนที่จะส่ายศีรษะด้วยสีหน้าที่หมดหนทาง
"ไปกัน "
ฮานเฮอได้ส่งเสียงออกมา
พวกเขาได้นำร่างไร้สติของเจียงเหลินเหวินออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
ต๊วนเหวินโปเองก็ได้แต่มองไปทางที่พักของหลินเทียนก่อนที่จะจากไปกับพวกเขา
เหลียงชิงและศิษย์ตำหนักราชาคนอื่นๆเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่น่าเกลียดออกมา พวกเขาไม่คิดเลยว่าแม้เจียงเหลินเหวินจะมาด้วยตัวเองแต่กลับต้องตกอยู่ในสภาพอนาถขนาดนี้ หากว่าไม่ได้เป็นเพราะฮานเฮอและหลุยหลานมาช่วยเอาไว้มีหวังต้องตายด้วยเงื้อมมือของหลินเทียนไปแล้ว
นั่นมันเจียงเหลินเหวินเลยนะ !
"กลับกัน !"
เหลียงชิงได้แต่กัดฟันพูดออกมา
ศิษย์คนอื่นๆเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ไร้เลือดออกมาก่อนที่จะนึกถึงภาพก่อนหน้านี้ด้วยขนที่ลุกสู้
"มันผิดมนุษย์ขนาดนั้นได้ไงกัน "
หนึ่งในพวกเขาได้พูดออกมา
พวกเขารู้ดีว่าหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับคลื่นกระบี่เหล่านี้แล้วต้องตกตายลงทั้งหมดอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้พวกเขาสู้กับคนแบบนี้ !
พริบตาเดียวพวกเขาทั้งหมดก็ได้เดินออกไปนอกเขตที่พักโดยทันที
ผู้คนทั้งหลายที่มองตามศิษย์ตำหนักราชาที่อยู่ในสภาพอนาถเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
"เจียงเหลินเหวินเกือบถูกสังหารไปแล้ว..........."
"นอกจากเหล็งเฟิงแล้วศิษย์ตำหนักราชาที่เหลือล้วนมีส่วนร่วมทั้งหมดแต่กลับ..........แพ้แบบหมดท่า"
"ต่อให้เหล็งเฟิงมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก "
"นี่มันคนๆเดียวเอาชนะทั้งตำหนักเลยนะ !"
"นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว !"
หลายๆคนต่างพากันพูดออกมา
พวกเขาได้แต่มองไปทางที่พักของหลินเทียนที่พบว่าภายนอกมันได้รับความเสียหายจากคลื่นกระบี่และเมื่อสัมผัสถึงเจตจำนงแห่งกระบี่ที่ยังหลงเหลืออยู่แล้วก็ได้แต่ทำให้ใบหน้าของพวกเขาซีดลง
หลินเทียนไม่ได้สนใจคนเหล่านี้แม้แต่น้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปพบกับซินเชิงหยุนที่กำลังมีนัยน์ตาเบิกกว้างถึงได้เตะไปที่แก้มของเขาแล้วถามว่า
"เป็นไง สนุกไหม ? "
ซินเชิงหยุนได้แต่พยักหน้าซ้ำๆพลางพูดว่า
"สุดยอด สุดยอดไปเลย !!"
"พูดครั้งเดียวก็รู้เรื่องแล้ว"
หลินเทียนได้พูดออกมา
ซินเชิงหยุนที่เรียกสติกลับมาได้แล้วเองก็ได้พูดพลางกระโดดว่า
"พี่เขย ท่านนี่มันสุดยอดไปเลย ! "
เขาไม่คิดเลยว่าลำดับที่ 1 ในตารางสายลมและหมู่เมฆจะเกือบตกตายลงด้วยเงื้อมมือของหลินเทียน
"ธรรมดาอยู่แล้ว "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างไม่แยแส
"ธรรมดา ? พี่เขยก็ถ่อมตัวเกินไป หัดภูมิใจเสียมั่งสิ "
ซินเชิงหยุนได้ออกความคิดเห็น
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยสีหน้าที่อับอายว่า
"ไปไกลๆเลย "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้เดินเข้าไปในส่วนลึกเพื่อหยิบเอาอุปกรณ์ต่างๆออกมาพร้อมทั้งกลับออกไปด้านนอก , การมาของเจียงเหลินเหวินทำให้ประตูหน้าบ้านเขาพังเสียหายก็จริงแต่ส่วนอื่นๆนั้นได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่เขาพอจะซ่อมแซมได้
ซินเชิงหยุนได้มองไปมาก่อนที่จะพูดว่า
"หลังจากนี้หลายๆตระกูลคงตกตะลึงไม่น้อย "
"เจ้าหนูซิน รีบๆมาช่วยเร็ว "
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมา
"มาแล้วพี่เขย ! "ซินเชิงหยุนได้ตะโกนออกมาก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น
................
อีกฝั่งหนึ่งในตำหนักผู้อาวุโส
ฮานเฮอและหลุยหลานที่นำเจียงเหลินเหวินกลับมาเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่จริงจังออกมา
"กล้ามเนื้อและเอ็นเกือบทั้งหมดถูกตัดออกแต่ก็ไม่ได้รับความเสียหายไปถึงรากฐานดังนั้นรักษาตัวสักครึ่งเดือนก็น่าจะหายดี "
ฮานเฮอได้พูดออกมา
หลุยหลานเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"น่ากลัวมากๆ สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด มีความสามารถมากกว่าเจียงเหลินเหวินด้วยซ้ำ "
"เขาอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น !"
หลุยหลานได้พูดออกมา
16 ปีแต่กลับแข็งแกร่งขนาดนี้และหากว่าเติบโตไปได้อย่างราบรื่นแล้วทั้งจักรวรรดิคงต้องสั่นสะเทือน
"สิ่งแรกคือเราต้องทำให้อาการบาดเจ็บของเจียงเหลินเหวินทรงตัวก่อน "
"อื้ม "
พวกเขาได้พยายามส่งพลังฉีเข้าไปรักษาบาดแผลของเจียงเหลินเหวิน
...........
ภายในราชวัง
ชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงที่กำลังถือรายงานทางทหารเองก็ได้แสดงสีหน้าที่ตั้งใจออกมา ชายหนุ่มคนนี้นั้นมีผมสีดำดวงตาเปล่งประกายแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย
"องค์ชายขอรับ "
เสียงหนึ่งได้ถูกส่งเข้ามา
ชายหนุ่มได้สางรายงานลงก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
"เข้ามา "
คนที่อยู่ด้านนอกได้เดินเข้ามาก่อนที่จะพูดว่า
"เจียงเหลินเหวินได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก กล้ามเนื้อและเอ็นทั้งร่างเกือบขาดหมด......."
คนๆนี้ได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดออกไป
ชายหนุ่มคนนี้ได้แต่ขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดว่า
"คนที่ลงมืออยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 6 แล้วเป็นศิษย์ใหม่ของสำนักงั้นรึ ? "
"หากว่าไม่ได้เป็นเพราะว่าฮานเฮอและหลุยหลานรีบมาช่วยไว้ เจียงเหลินเหวินก็คงตกตายไปแล้วขอรับ "
คนๆนั้นได้พูดเสริม
ชายหนุ่มได้เงียบไปด้วยดวงตาที่เปลี่ยนไป
"เอายาไปส่งที่สำนักแล้วส่งคนไปสืบเรื่องของเจ้าศิษย์ใหม่คนนั้นมา "
เขาได้ออกคำสั่งไป
"ขอรับ "
คนๆนั้นได้เดินกลับออกไป
วันนี้เองที่เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมืองขณะที่ผู้นำตระกูลทั้งหลายต่างมีสีหน้าที่ตกตะลึงโดยเฉพาะตระกูลเจียง, หลังจากที่ได้รับข่าวแล้วผู้นำตระกูลเจียงก็รีบมุ่งหน้าไปยังสำนักซึ่งหลังจากที่เห็นสภาพอันน่าอนาถของเจียงเหลินเหวินแล้วจิตสังหารอันรุนแรงก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา
"ไอ้ระยำ ! "
ผู้นำตระกูลเจียงได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างเย็นชา
เจียงเหลินเหวินนั้นถือเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเขา มันเป็นเพราะว่าเจียงเหลินเหวินดังนั้นสถานะของตระกูลเขาถึงไม่มีใครเทียบได้ แม้แต่คนของราชวงเองก็ยังต้องไว้หน้าแต่ตอนนี้เจียงเหลินเหวินกลับกลายเป็นแบบนี้ด้วยฝีมือของศิษย์ใหม่นี่มันทำให้ตระกูลพวกเขาเสียหน้ามากๆ
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ท่าทางของตระกูลเหล็งเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
เหล็งเฟิงได้รีบตรงดิ่งกลับไปที่สำนักพร้อมทั้งสอบถามเรื่องราวต่างๆจากต๊วนเหวินโปด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็ได้แต่ซีดเผือดลงอย่างมาก
"ระยำ ! "
ในเวลาไม่กี่เดือนหลินเทียนกลับแข็งแกร่งขนาดนี้ถึงขั้นที่เกือบจะฆ่าเจียงเหลินเหวินได้ !
"อายุเพียงแค่ 16 ปี ! มันทำได้ไงกัน !"
"เจียงเหลินเหวินคนนั้นแพ้ซะได้ !"
เสียงฮือฮาดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง
เจียงเหลินเหวินผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ระดับ 9 ดารา เขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลาย ลำดับที่ 1 ในตารางสายลมและหมู่เมฆแถมยังได้เข้าร่วมกับนิกายทว่าคนที่เป็นเทพขนาดนั้นกลับได้รับความพ่ายแพ้ในวันนี้ พ่ายแพ้แบบหมดท่า ! และหากว่าไม่ได้เป็นเพราะว่าผู้อาวุโสของสำนักยื่นมือเข้าช่วยก็คงจะไม่มีเจียงเหลินเหวินอยู่อีกต่อไปแล้ว !
วันนี้หากว่าเป็นคนที่มีหน้ามีตาสักหน่อยก็ไม่มีทางพลาดข่าวนี้
"เป็นการผงาดของผู้มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด ! "
บางคนได้ส่งเสียงออกมา
ด้านหน้าที่พักศิษย์ตำหนักนอกนั้นต่างเต็มไปด้วยผู้คนที่ล้วนจ้องมองไปยังที่พักของหลินเทียนซึ่งตอนนี้หลินเทียนก็ได้ซ่อมจุดต่างๆไปบ้างแล้ว , ศิษย์เหล่านี้มาที่นี่ก็เพราะว่าพวกเขาอยากจะเห็นหน้าคนที่มีความสามารถเกือบจะสังหารเจียงเหลินเหวินคนนั้น
ซินเชิงหยุนได้มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับพึมพำออกมาว่า
"พี่เขย ท่านกลายเป็นดาราไปแล้ว !"
หลินเทียนได้แต่ยิ้มออกมาและไม่ได้พูดอะไรเพราะเขารู้ดีว่าตัวเองนั้นอาศัยข่ายอาคมเอาชนะเจียงเหลินเหวินแถมยังเป็นข่ายอาคมทีเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว หากว่าสู้ด้วยพละกำลังล้วนๆนั้นเขายังห่างชั้นกับเจียงเหลินเหวินอยู่ไกลมาก หากว่าต่อสู้กับจริงๆเขาต้องตกตายด้วยเงื้อมมือของอีกฝ่ายไปแล้ว
"ตอนนี้จะได้อยู่แบบสงบๆสักพักล่ะนะ "
เขาได้พูดกับตัวเอง
เขารู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของเจียงเหลินเหวินนั้นหนักมากๆและอย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาเกินครึ่งเดือนเพื่อรักษาตัว , ในเวลาเหล่านี้เขาต้องพยายามตัดผ่านไปยังเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 7 ให้ได้ซึ่งหากถึงจุดนั้นแล้วครั้งหน้าเขาจะไม่แพ้อย่างแน่นอน
"ปึก "
ตอนนี้เองที่มีเสียงเคาะประตูได้ดังขึ้นด้วยจังหวะที่ดูลนลาน
หลินเทียนได้เดินไปเปิดประตูก่อนที่จะพบกับคนรู้จักอยู่จูยี่
"เจ้ามานี่ได้ไง ? "
หลินเทียนได้ถามออกมาด้วยสีหน้าที่สงสัย
จูยี่ได้รีบเข้ามาในห้องก่อนที่จะพูดกับเขาว่า
"เห้เพื่อน ไม่สิ ท่านบรรพบุรุษ เจ้านี่เกือบสังหารเจียงเหลินเหวินไปแล้วนี่มันสุดยอดไปเลยโว้ย ! เจ้ารู้ไหมว่าตระกูลเจียงทั้งตระกูลอยากจะควักหัวใจเจ้าจะบ้าอยู่แล้ว "
"ก็มันอยากจะแย่งของๆข้าเอง "
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
"แต่เจ้าก็ทำเกินไปหน่อยนะ ตอนนี้เจ้าล่วงเกินทั้งตระกูลเหล็งและตระกูลเจียงหมดแล้ว"
จูยี่ได้กรอกตาก่อนที่จะพูดต่อด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นว่า
"ถึงอย่างไรก็ตามข้าล่ะรู้สึกสะใจจริงๆเลยโว้ย เจ้านั่นมันอวดดีเกินไปตั้งแต่ที่ได้เข้าร่วมกับนิกายแล้ว ขนาดพบข้ายังไม่เหลือบตามองด้วยซ้ำ แม่งเอ้ย ถึงอย่างไรพ่อคนนี้ก็ยังเป็นองค์ชายอยู่นะโว้ย ! "
ซินเชิงหยุนเองก็ได้แต่พูดออกมาด้วยสีหน้าอับอายว่า
"องค์ชาย 9 ช่วยรักษาภาพพจน์ตัวเองด้วย ท่านเป็นถึงองค์ชายนะ "