Divine King Of All Directions - 166
Divine King Of All Directions - 166
ด้านนอกที่พัก , ผู้คนโดยรอบต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกันไม่เพียงเพราะว่าความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อของหลินเทียนแต่มันเป็นคำพูดประโยคสุดท้ายของเขาด้วย
"ให้เจียงเหลินเหวินมาหาเขาเอง ? "
"นี่......"
"นี่มันบ้าเกินไปแล้ว ! "
หลายๆคนได้แต่กลืนน้ำลายของตัวเองกลับไป
ชื่อเสียงของเจียงเหลินเหวินนั้นดังไปทั่วทั้งมองและแม้แต่ทางราชวงยังต้องกลัว , ผู้อาวุโสของทางสำนักยังต้องให้ความเคารพแต่ตอนนี้หลินเทียนกลับพูดแบบนี้มันต้องมีความบ้าบิ่นขนาดไหนกัน ?
เหลียงชิงเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่น่าเกลียดออกมาขณะที่จ้องมองไปยังใบหน้าของหลินเทียน
"เจ้ามันรนหาที่ตาย ! "
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
หลังเทียนยังคงไม่ได้สนใจอะไรก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเขาแล้วยกเท้าถีบออกไป
โครม ! ร่างของเหลียงชิงได้กระเด็นออกไปไกลกว่า 15 เมตร
"อยากจะได้หญ้าวิญญาณสีฟ้าก็ให้เจียงเหลินเหวินมันมาเอาเอง ! "
หลินเทียนได้พูดออกมาอีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบกับอีกฝ่ายแต่คำพูดของเจียงเหลินเหวินนั้นคำให้เขาไม่พอใจมากๆ ต้องการให้เขาไปพบแล้วยังจะเอาของๆเขาอีก นี่มันคิดว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิหรือไงกัน ? สำหรับเขาแล้วจะไม่มีทางไว้หน้าคนอวดดีแบบนี้
"เจ้า........."
เหลียงชิงได้พูดออกมาขณะที่เลือดไหลตามมุมปากด้วยสีหน้าที่โกรธสุดๆ
หลินเทียนได้มองกลับไปทางเขาพร้อมกับพูดว่า
"เรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ ? หรือว่าอยากจะตายอยู่ตรงนี้ ? "
หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ได้ปลดปล่อยจิตสังหารออกมา
จนถึงตอนนี้เขาสังหารคนมานับ 200 กว่าชีวิตแล้วซึ่งจิตสังหารที่เขาปลดปล่อยออกมามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแม้แต่น้อย แม้แต่เหลียงชิงที่ผ่านประสบการณ์มามากมายยังต้องสั่นสะท้านไป
เขาได้แต่มองไปทางหลินเทียนด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดก่อนที่จะกัดฟันและหันหลังเดินจากไป
พริบตาเดียวเหลียงชิงก็ได้เดินลับสายตาไป
ณ ตอนนี้ด้านหน้าที่พักของหลินเทียนยังคงเต็มไปด้วยศิษย์ตำหนักราชาหลายสิบคนกำลังหมดสภาพอยู่ที่พื้นเพราะว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย
"ขวางหูขวางตาจริงๆ "
เขาได้ส่งเสียงออกมา
หลังจากที่พูดจบแล้วมือขวาของเขาได้สั่นไหวพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่สายฟ้ามรกตออกไป
"โครม !"
"โครม !"
"โครม !"
ศิษย์ทั้งหลายที่กองอยู่ตามพื้นต่างปลิวตามคลื่นพายุเหล่านี้ไปพลางส่งเสียงร้องออกมาอย่างดัง
ผู้คนที่กำลังมองไปยังภาพเหล่านี้เองก็ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกไปตามๆกัน
"เจ้านี่มันโหดจริงๆ "
หนึ่งในพวกเขาได้พูดออกมา
หลินเทียนได้กวาดตามองกลับไปก่อนที่จะแสดงสีหน้าไม่สนใจแล้วเดินกลับไปยังที่พัก
"พี่เขย ท่านนี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว ! หากว่าข้าเป็นผู้หญิงข้าต้องแต่งกับท่านให้ได้ ! "
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่สรรเสริญ
หลินเทียน
"........."
.......
ณ ตอนนี้ที่ตำหนักราชา
ร่างสองร่างกำลังประลองกันอยู่ใจกลางสนามด้วยความเร็วที่สูงมากๆซึ่งพวกเขาต่างอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลายทำให้เกิดเสียงดังทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกัน
และตอนนี้เองที่การประลองได้จบลง
"แข็งแกร่งจริงๆเลยนะเจียง อายุ 18 ปีแต่กลับมาได้ถึงขนาดนี้นี่ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเข้าร่วมกับนิกายได้ "
หนึ่งในพวกเขาได้พูดออกมา
ชายคนนี้มีชื่อว่าต๊วนเหวินโปที่ปีนี้มีอายุ 20 ปีและเป็นผู้สืบทอดของ 1 ใน 3 ตระกูลผู้บ่มเพาะของเมืองนี้
เจียงเหลินเหวินที่อยู่ในชุดสีม่วงนั้นมีหน้าตาที่หล่อเหลามากๆแต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องคำชมของต๊วนเหวินโปนัก
"นายน้อยเจียง ! "
ณ ตอนนี้เองที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ด้านล่างของสนามประลองนั้นเหลียงชิงได้รีบวิ่งเข้ามาก่อนแล้วแต่หลังจากที่เห็นว่าพวกเขายังประลองกันอยู่เลยไม่กล้าขัดจังหวะซึ่งเมื่อเห็นว่าพวกเขาประลองกันจบแล้วถึงได้เอ่ยปากออกมา
เจียงเหลินเหวินได้มองไปทางเขาด้วยสีหน้าที่ไม่สนใจพร้อมทั้งพูดว่า
"ว่ามา "
เหลียงชิงได้ก้มหัวพร้อมทั้งพูดว่า
"เราไม่สามารถเอาตัวเจ้าหลินเทียนนั่นมาได้ เขา......... เขาบอกว่า....."
"บอกว่าอะไร "
เจียงเหลินเหวินได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่ราบเรียบ
"เขาบอกว่าหากต้องการหญ้าวิญญาณสีฟ้าก็ให้ไปหาเขาเอง "
เหลียงชิงได้พูดออกมาในขณะที่ยังคงก้มหน้า
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็อดสั่นไปไม่ได้
ตอนนี้เองที่บรรยากาศโดยรอบได้เงียบสงบไปทันที
เหลียงชิงได้แต่เงยหน้ามองไปยังรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่มุมปากของเจียงเหลินเหวิน
เมื่อมองไปยังภาพเหล่านั้นแล้วเขาอดรู้สึกสยดสยองไม่ได้เลยเพราะตัวเขายังจำเรื่องที่มีศิษย์ตำหนักราชามาล่วงเกินเจียงเหลินเหวินเมื่อ 1 ปีก่อนได้ หลังจากนั้นศิษย์คนนั้นได้ถูกตัดแขนตัดขาและกลายเป็นคนพิการไปในที่สุด
"เหลียงชิง เจ้ากับคนกว่า 20คนไม่สามารถเอาตัวเขามาได้ ? "
ต๊วนเหวินโปได้ถามออกมา
เหลียงชิงได้แต่ก้มหัวลงพร้อมทั้งพูดว่า
"นายน้อยต๊วน เจ้านั่นมันแข็งแกร่งมากๆและเราเองก็ไม่ใช่คู่มือของมันเลย "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้แสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมา มันไม่ใช่เพราะเขากลัวหลินเทียนแต่เป็นเพราะเขากลัวเจียงเหลินเหวินจะลงโทษเขา
"แข็งแกร่งถึงขั้นที่เจ้าไม่ใช่คู่มือ ? "
ต๊วนเหวินโปไ ้พูดออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ
"ใช่ ใช่ "
เหลียงชิงได้พูดออกมา
ตั๊วนเหวินโปได้ลูบคางของตัวเองก่อนที่จะยิ้มออกมาแล้วพูดต่อว่า
"ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กใหม่นี่มันจะมีพรสวรรค์จริงๆเลยนะ เพิ่งเข้ามาใหม่แท้ๆแต่กลับแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่กล้าลงมือสังหารน้องชายของเหล็งเฟิงไปต่อหน้าผู้คน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะประเมินตัวเองสูงไปหน่อยที่กล้าขัดคำสั่งของเจ้า "
ต๊วนเหวินโปนั้นเป็นลำดับที่ 2 ในตำหนักราชาแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของเจียงเหลินเหวินนั้นก็ยังระมัดระวังอย่างมาก
สำหรับเจียงเหลินเหวินแล้วไม่ได้ใส่ใจการประจบของอีกฝ่ายแม้แต่น้อยและได้แต่แสดงสีหน้าที่เย็นชาออกมา
"ทำลายผู้มีพรสวรรค์ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจเหมือนกัน "
เจียงเหลินเหวินได้พูดออกมาด้วยท่าทางไม่แยแส
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ก้าวลงมาจากสนามประลองก่อนที่จะเดินออกไปด้านนอกตำหนักอย่างรวดเร็ว
"มีเรื่องสนุกให้ดูแล้วสิ "
ต๊วนเหวินโปได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะรีบตามไป
เหลียงชิงเองก็ได้แสดงสีหน้าที่โล่งใจออกมาพร้อมทั้งเดิมตามหลังพวกเขาอย่างระมัดระวัง
.........
หลินเทียนยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในที่พักของตัวเองด้วยสีหน้าที่สงบ
"นี่พี่เขย ท่านพูดจริงหรือว่าเจียงเหลินเหวินจะมาที่นี่ ? "
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"มาแน่ "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างไม่แยแส
เขาคนเดียวจัดการกับศิษย์ตำหนักราชาไปทั้งหมด 27 คนแล้วซึ่งมันเป็นการกระทำที่หยามศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายและตัวเขามั่นใจว่ามันต้องมาที่นี่เพื่อฆ่าเขาอย่างแน่นอน
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวายว่า
"แล้วทำไมพี่ถึงได้ดูสงบแบบนี้ล่ะ ?! "
"ทำไมจะไม่ได้ ? "
หลินเทียนได้ถามกลับไป
"นั่นน่ะเจียงเหลินเหวินเลยนะ ! เขาอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลาย ! มันสัตว์ประหลาดที่ได้เข้าร่วมกับนิกายเลยนะ ! "
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น
"แล้วไง ? "
"ก็......."
ซินเชิงหยุนเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดีเพราะดูเหมือนว่าต่อให้พูดอะไรไปแต่หลินเทียนก็คงไม่สนใจอยู่ดี ต่อให้ท้องฟ้าถล่มลงมาก็เชื่อว่าหลินเทียนยังคงนิ่งอยู่ได้เหมือนเดิม
ซินเชิงหยุนได้แค่คิดจนจะบ้าก่อนที่จะดึงผมของตัวเอง
"ไม่ต้องกังวลไปหรอก เจียงเหลินเหวินมันทำอะไรไม่ได้หรอก "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส
"เจียงเหลินเหวิน ? "
ซินเชิงหยุนได้จ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดว่า
"ขอโทษนะ พี่เขย เจ้านั่นน่ะขนาดทางราชวงยังกลัวเลยนะ ! แต่พี่กลับพูดแบบนั้นได้ไง ? "
"แล้วไง ? นอกจากที่มันเข้าร่วมกับนิกายแล้วมีอะไรที่มันมีอีก ? "
"พรสวรรค์ระดับ 9 ดารา !"
"ข้าก็มีเหมือนกัน "
"เขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ตอนปลาย ! "
"แค่นั้นยังไม่พอจะสังหารข้า "
ซินเชิงหยุน
"................."
เมื่อฟังจากคำพูดของหลินเทียนแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี
"แกร๊ง ! "
ตอนนี้เองที่เสียงคำรามของกระบี่ได้ดังขึ้นก่อนที่ประตูหน้าที่พักของหลินเทียนจะถูกทำลายลง
คลื่นลมอันรุนแรงได้ส่งผลให้ซินเชิงหยุนได้แต่ถอยร่นออกไป
"นี่ นี่มัน....."
ใบหน้าของซินเชิงหยุนได้เปลี่ยนเป็นซีดเผือดไปทันที
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินออกมาจากห้อง
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบกับชายหนุ่ม 3 คนซึ่งตรงกลางของพวกเขาเป็นชายหนุ่มชุดสีม่วงที่หน้าตาหล่อเหลาแถมกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาก็ไม่ธรรมดา , เห็นเช่นนี้แล้วเขาไม่ต้องเดาเลยก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือเจียงเหลินเหวินอย่างแน่นอน
เมื่อมองไปยังเจียงเหลินเหวินแล้วหลินเทียนก็ยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนงแห่งกระบี่ที่ยังคลุ้งอยู่ในอากาศ
แน่นอนว่าการโจมตีเมื่อครู่เป็นของมันอย่างแน่นอน
"พ่อแม่ไม่สั่งสอนให้เคาะประตูหรือไง ? หรือว่าไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนกัน ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส
ผู้คนรอบข้างต่างสูดหายใจเข้าลึกไปตามๆกัน
"เขา....กล้าที่จะดูถูกเจียงเหลินเหวิน !"
"บ้าไปแล้ว ! นี่มันบ้าชัดๆ ! "
"แม่เจ้า ! เพิ่งเคยเห็นคนบ้าขนาดนี้เป็นครั้งแรก ! นี่มัน......ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอะไรแล้ว "
หลายๆคนได้แต่ขนหัวลุก
เจียงเหลินเหวินได้มองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่หรี่ลงเหมือนดั่งสัตว์ร้ายที่แฝงไปด้วยความดุร้าย
ต๊วนเหวินโปที่อยู่ข้างๆเองก็ได้จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางที่สนใจอย่างมาก
"หยาบคาย !"
เหลียงชิงที่อยู่ข้างๆอดที่จะคำรามออกมาไม่ได้
หลินเทียนได้กวาดตามองเขาพร้อมทั้งพูดว่า
"ในเมื่อเจ้านายยังไม่ได้พูด สุนัขอย่างเจ้าควรจะหุบปากไว้"
"เจ้า....."
เหลียงชิงได้จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่โกรธจัดก่อนที่จะกำหมัดแน่น
ณ ตอนนี้เจียงเหลินเหวินเองก็ได้พูดออกมาว่า
"เขาพูดถูกแล้ว ไสหัวไปไกลๆ "
หลังจากนั้นเขาได้โบกมือก่อนที่คลื่นกระบี่จะกระแทกกับร่างของเหลียงชิงและส่งเขาลอยออกไปไกล
โครม ! เหลียงชิงได้ลอยไปกระแทกกับที่พักหนึ่งก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาพลางพยุงตัวเองขึ้นแล้วพูดว่า
"ต้องขออภัยนายน้อยเจียงด้วย "
หลินเทียนได้กวาดตามองไปพร้อมกับพูดว่า
"เป็นไงล่ะ น่าสนใจไหม ? "
เหลียงชิงได้แต่มองกลับไปทางหลิยเทียนด้วยสีหน้าที่โกรธจัด
หลินเทียนหันสายตากลับมาจดจ่ออยู่ที่เจียงเหลินเหวินก่อนที่จะตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายเองก็แข็งแกร่งอย่างแท้จริง !
เจียงเหลินเหวินได้มองไปทางหลินเทียนพลางพูดอย่างไม่แยแสว่า
"เอาหญ้าวิญญาณสีฟ้าของข้ามา "
"มันเป็นของที่ข้าค้นพบในป่า เจ้าพูดว่าของเจ้างั้นรึ ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เจียงเหลินเหวินได้ยักไหล่ของเขาพร้อมกับพูดว่า
"ข้าพูดไปแล้ว งั้น.."
"งั้น ? "
หลินเทียนได้ถามกลับไป
เจียงเหลินเหวินได้พูดต่อด้วยท่าทางที่ราบเรียบว่า
"จะเลือกฆ่าตัวตายหรือว่าตายด้วยเงื้อมมือของข้า "
หลินเทียนได้ยิ้มตอบไปด้วยสีหน้าที่ดูถูกอย่างมาก
เขาได้ยกกระบี่ขึ้นมาชี้ไปทางเจียงเหลินเหวินพร้อมทั้งพูดว่า
"ลองดูสิว่าจะมีความสามารถพอสังหารข้าหรือไม่ "