Divine King Of All Directions - 150
Divine King Of All Directions - 150
เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถส่งมู่จี่เซียงกระเด็นออกไปนอกสนามได้ซึ่งมันทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมาตามๆกัน
"สุดยอดไปเลย ! "
จี่หยูที่อยู่ห่างออกไปเองก็ได้ชะงักไปเช่นกันเพราะถึงอย่างไรก็ตามหลินเทียนนั้นอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 เท่านั้นซึ่งถือว่าด้อยกว่าทางมู่จี่เซียงอยู่ 1 ขั้นแต่การที่หลินเทียนทำได้ถึงขนาดนี้นั้นมันทำให้ผู้คนต่างตกตะลึง
เหล็งเฟิงที่อยู่ห่างออกไปเองก็ได้มองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไปเพราะว่าเขาได้รู้ถึงผลลัพธ์ของหลินเทียนแล้วดังนั้นถึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก
วิ้สสส !
"น้องชายหลินสุดยอดที่สุด !"
"หล่อจริงๆ ! "
"ทำได้ดีมากๆ ! "
หลายๆคนต่างพากันให้กำลังใจออกมา
คนเหล่านี้ล้วนตกตะลึงไปกับความแข็งแกร่งของหลินเทียนบวกกับรู้สึกสะใจที่ได้เห็นมู่จี่เซียงถูกชก
ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้ดูแลเองก็ได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางประหลาดใจพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"ก่อนหน้านี้มันเป็นทักษะหมัดสังหาร ? นี่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งถึงขั้นฝึกมันได้ ? "
ชายวัยกลางคนนั้นอยู่ที่สำนักนี้มานานแล้วถึงได้รู้จักทักษะภายในสำนักเป็นอย่างดี หมัดสังหารนั้นเป็นทักษะที่น่ากลัวมากๆแต่จำเป็นต้องใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งมากๆดังนั้นถึงไม่มีใครเลือกฝึกฝนทักษะนี้กัน , เขาได้แต่มองไปทางหลินเทียนโดยไม่คิดเลยว่าเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 กลับสามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้
"เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆนั่นแหละ "
ชายวัยกลางคนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มฝืนๆ
ณ ตอนนี้เองที่มีเสียงคำรามอย่างดังถูกส่งออกมา
"ข้าไม่ยอมรับ ! "
มู่จี่เซียงที่กำลังแสดงสีหน้าที่โกรธจัดเองก็ได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียน
ชายวัยกลางคนได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"ไม่ยอมรับอะไร ? "
มู่จี่เซียงได้ตอบกลับไปว่า
"ข้าต่อให้เขาก็จริงแต่เขากลับลอบโจมตีข้า ! ข้าขอให้ประลองกันอีกรอบ ! "
มู่จี่เซียงได้พูดออกมา
คำพูดนี้ทำให้หลายๆคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูถูกโดยทันที
"ยังกล้าพูดอีกเนอะ !"
"หนังหน้าหนาจริงๆ !"
"เห้พวก กลับที่พักไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารอดีกว่ามั้ง "
ฝูงชนต่างพากันหัวเราะออกมา
มู่จี่เซียงที่ถูกโจมตีโดยหมัดสังหารของหลินเทียนนั้นส่งผลให้เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นไม่ต่างกับขอทานเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วมู่จี่เซียงก็ได้มีสีหน้าที่ซีดลงทันที
"ได้โปรดขอประลองอีกรอบ"
หากว่ามู่จี่เซียงแพ้ในครั้งนี้นั้นก็จะถูกลดละดับลงไปเป็นศิษย์ตำหนักนอกซึ่งจะส่งผลต่อทรัพยากรบ่มเพาะที่เขาจะได้รับและความเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำให้เขากระวนกระวาย
ชายวัยกลางคนได้มองไปทางมู่จี่เซียงพร้อมกับพูดว่า
"ผลลัพธ์เองก็ยุทติธรรมแล้วดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องประลองใหม่ "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้พูดต่อว่า
"นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปเจ้าจะถูกลดละดับเป็นศิษย์ตำหนักนอก รีบกลับไปยังที่พักเพื่อเก็บของได้แล้ว "
"ท่านผู้ดูแล ไม่......"
"พอได้แล้ว !"
ชายวัยกลางคนได้คำรามออกมา
มู่จี่เซียงเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ซีดเผือดออกมา แม้ว่าจะเป็นตำหนักในแต่เขาก็อยู่หัวแถวตลอดทว่าตอนนี้กลับต้องถูกไล่ออกเป็นศิษย์ตำหนักนอกแทนนี่มันทำให้เขาหวาดผวาไปทันที
"อ่อใช่ อย่าลืมเรื่องการพนันของเขาด้วยล่ะว่าในอีก 2 ปีนี้เจ้าจะไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบได้อีก "
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมา
มู่จี่เซียงได้แต่สั่นสะท้านไปด้วยสีหน้าที่ซีดลงกว่าเดิม , ไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบในระยะเวลา 2 ปี ! ในอีก 2 ปีเขาต้องออกจากสำนักแล้วด้วยดังนั้นก็ถือว่าตอนนี้เขาไม่มีหนทางให้ไปไหนได้อีกแล้ว
"เห้เพื่อน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตำหนักศิษย์นอกนะ ! "
"ไม่ต้องกระวนกระวายไปหรอกเพราะว่าใน 2 ปีนี้เราจะดูแลเจ้าอย่างดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
"มาๆ มาสอนเราที่ตำหนักนอกสิ "
เหล่าผู้คนต่างพากันส่งเสียงฮือฮาออกมา
เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้แล้วมู่จี่เซียงเองก็ได้แต่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาด้วยความอับอายแล้วรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
"สะใจจริงๆ ! "
"เจ้านี่มันคงไม่คิดหรอกนะว่าตัวเองจะมีวันนี้ สะใจโว้ย !"
"ดูสิว่าหลังจากนี้ยังจะกล้าติเตียนคนอื่นอย่างไร ตอนนี้ถูกเตะออกมาจากตำหนักในแล้วสงสัยคงอับอายไปหมดแล้ว "
ผู้คนต่างพากันส่งเสียงหัวเราะ
หลายๆคนได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมกับส่งเสียงเชียร์ออกมา
ชายวัยกลางคนเองก็ได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"หลินเทียน ตอนนี้เจ้าได้เป็นศิษย์ตำหนักในแล้วและหลังจากนี้ข้าจะไปแจ้งทางผู้อาวุโสให้เอง หลังจากนี้ก็ให้ไปที่ตำหนักศิษย์แล้วเอาตราประจำตัวไปให้เขาเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้และหลังจากนั้นก็ค่อยย้ายไปอยู่ภายในตำหนักในซึ่งทรัพยากรทุกอย่างจะเปิดกว้างให้กับเจ้า "
เหล่าผู้คนที่ได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่อิจฉาออกมา
"ยินดีด้วยน้อง ายหลิน ! "
"หลังจากนี้อีกไม่นานน้องชายต้องได้เลื่อนไปเป็นศิษย์ตำหนักราชาอย่างแน่นอน ! เราคอยให้กำลังใจเจ้านะ ! "
"ใช่แล้ว !"
หลายๆคนได้อวยพรออกมา
หลินเทียนได้พยักหน้าให้กับพวกเขาและไม่คิดเลยว่าชื่อเสียงของตัวเองจะโด่งดังแบบนี้
เมื่อมองไปยังชายวัยกลางคนแล้วเขาก็ได้พูดออกมาว่า
"ท่านผู้อาวุโส ข้าไม่ย้ายที่พักได้รึไหม ? "
ชายวัยกลางคนเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับพูดว่า
"แน่นอนว่าได้เพราะถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นศิษย์ตำหนักในแล้วดังนั้นทางเราจะไม่บังคับอะไรเจ้าอีกแต่ว่าสภาพความเป็นอยู่ของที่พักตำหนักในมันต่างกันมากนะ เจ้าไม่อยากจะย้ายไปจริงๆรึ ? "
"ข้าเคยชินกับที่พักข้าไปแล้วและไม่อยากจะย้ายให้มันลำบากน่ะ "
หลินเทียนได้พูดอออกมาด้วยรอยยิ้ม
ชายวัยกลางคนเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับตอบว่า
"อื้ม นี่เป็นคนที่เรียบง่ายจริงๆ "
หลินเทียนได้แต่แสดงสีหน้าที่อับอายออกมา เรียบง่าย ? จริงๆแล้วเขาก็แค่ขี้เกียจจะย้ายของเฉยๆ
า"น้องชายหลินนี่คนดีจริงๆ ! "
ศิษย์ตำหนักนอกหลายคนได้พูดออกมา
ผู้คนรอบๆข้างเองก็ได้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
หากว่าเป็นคนอื่นที่ได้เลื่อนเป็นศิษย์ตำหนักในก็คงจะต้องรีบย้ายที่พักไปอย่างแน่นอนแต่หลินเทียนกลับไม่ยอมย้ายไปและมันทำให้ศิษย์ตำหนักนอกหลายคนเริ่มโปรดปรานในตัวของหลินเทียน
หลินเทียนได้มองไปทางชายวัยกลางคนพร้อมกับพูดว่า
"งั้นหลินเทียนต้องขอตัวก่อนนะขอรับ "
"อื้ม ไปเถอะ "
ชายวัยกลางคนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
ด้วยระดับความแข็งแกร่งของหลินเทียนแล้วแต่กลับไม่มีความยโสโอหังนี่มันทำให้เขาโปรดปรานอย่างมาก
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับกระโดดลงมาแล้วเดินออกไปทันที
"งดงามมากๆ "
ซินเชิงหยุนได้รีบวิ่งเข้ามาหาเขา
"อื้ม "
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เขาคุ้นเคยกับนิสัยของซินเชิงหยุนแล้วดังนั้นถึงไม่ได้ระมัดระวังอะไร
หลังจากนั้นเขาก็ได้มองไปทางจี่หยูที่นั่งอยู่ไกลออกไปพลางยิ้มไปทางนาง า
"ท่านพี่เขยดูสิ ! นางกำลังมองมาทางข้า ! "
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น
หลินเทียน
"..........."
เขาไม่อยากจะตอบสนองอีกฝ่ายแล้วดังนั้นถึงได้เดินเข้าไปทางจี่หยูโดยทันที
"โอ้ นี่พี่เขยจะทำอะไร ? "
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยท่าทางสงสัย
ระยะห่างระหว่างเวทีและที่นั่งของจี่หยูนั้นก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆและหลังจากที่ผ่านไปได้ไม่กี่สิบลมหายใจแล้วหลินเทียนก็เดินมาถึง
"นี่เจ้ามาดูการประลองของข้า ? "
เขาได้เอ่ยปากออกมา
"เจ้าคิดว่าไงล่ะ ? "
จี่หยูได้กระพริบตาวิ้งๆ
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมาทันทีก่อนที่จะเกาหัวแล้วพูดว่า
"ข้าเดาว่าน่าจะใช่มั้ง "
"ซื่อบื้อ ! "
จี่หยูได้พูดออกมาด้วยใบหน้าค้อน
หลายๆคนเองก็กำลังจับจ้องไปทางจี่หยูและหลังจากที่เห็นหลินเทียนเดินเข้าไปหานางแล้วพวกเขาอยากจะฉีกหน้าอกของตัวเองเป็นอย่างมาก , นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ได้เห็นรอยยิ้มของนางที่ทำให้พวกเขาได้แต่แสดงสีหน้าที่โง่งมออกมา
"นี่............นี่........"
"ทำไมเขาถึงได้ไปอยู่กับหลานสาวของท่านแม่ทัพ......"
"รู้จักกัน ? "
"ก่อนหน้านี้ข้าก็ว่ามันแปลกๆที่ทำไมหญิงงามอันดับ 1 ผู้มีพรสวรรค์ถึงได้มาที่นี่กัน ดูเหมือนว่า...........นางจะมาเพื่อเจ้าหลินเทียน ? "
"น่าจะเป็นแบบนั้น ! "
"อ่อใช่ ตอนการทดสอบศิษย์ใหม่นางก็มาเช่นกันและตอนนั้นดูเหมือนว่าจะรอนายน้อยตระกูลเหล็งแต่จริงๆแล้วดูเหมือนมันไม่ใช่แบบนั้น มันน่าจะเป็นเพราะนางมาเพื่อหลินเทียน !"
"พระเจ้า !........ บ้าไปแล้ว "
หลายๆคนที่เป็นทั้งศิษย์ใหม่และเก่าเองก็ต่างพากันจ้องมองออกไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างซึ่งชายวัยกลางคนที่มีหน้าที่ดูแลเองก็ไม่ต่างกัน
จี่หยูมีสถานะอย่างไรกัน ? นางเป็นหลานสาวของท่านแม่ทัพและหญิงงามผู้มากความสามารถอันดับ 1 ของเมืองหลวงซึ่งอยู่ในลำดับที่ 6 ของตารางสายลมและหมู่เมฆที่ผู้อาวุโสหลายๆคนมักจะไปเยี่ยมเพื่อเชิญนางมาเข้าร่วมกับสำนัก สำหรับใครหลายๆคนแล้วนางเป็นเหมือนดั่งดาวที่อยู่บนฟากฟ้าแต่ตอนนี้หลินเทียนกลับสามารถเข้าใกล้ดาวดวงนั้นได้ ! นี่มันทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงยิ่งกว่าเรื่องที่หลินเทียนต่อยมู่จี่เซียงปลิวไปภายในหมัดเดียวด้วยซ้ำ !
หลุยชิงที่อยู่ในฝูงชนเองก็อยากจะเดินเข้าไปหาหลินเทียนเพื่อขอบคุณที่ไม่เลือกท้าประลองกับนางแต่ ณ ตอนนี้หลังจากที่พบว่าหลินเทียนได้เดินเข้าไปหาจี่หยูแล้วนางก็ได้หยุดเท้าลงทันที แม้ว่าตัวนางเองจะงดงามแต่ก็ไม่สามารถเทียบกับจี่หยูได้แม้แต่น้อยดังนั้นถึงไม่มีความกล้าจะเดินออกไปหาเขา
ซินเชิงหยุนเองก็ได้แต่ชะงักไปพร้อมกับรีบวิ่งเข้ามาหาหลินเทียน
"นี่พี่เขย ท่านรู้จักกัน ? "
ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง
หลินเทียนที่เดินเข้าไปหานางด้วยท่าทางแบบนั้นๆต่อให้เป็นคนโง่ก็ดูออกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน
หลินเทียนได้ตอบกลับไปพลางพยักหน้าว่า
"อื้ม "
จี่หยูเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปทันทีขณะที่มองไปยังซินเชิงหยุนแล้วหันกลับมาถามหลินเทียนว่า
"นะ........นี่เขาเรียกเจ้าว่าพี่เขยนี่คืออะไร ? "
"เขาแค่เรียกไปแบบนั้นแหละ มันเป็นเพราะว่าข้ากับพี่สาวของเขาสนิทกันเท่านั้น "
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
เขาไม่รู้เลยว่าทำไมถึงได้รู้สึกว่าจี่หยูได้มีท่าทางเปลี่ยนไป
"แน่ใจนะ ? "
จี่หยูได้กระพริบตาวิ้งๆด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก
"อื้ม เป็นแบบนั้นจริงๆ "
หลินเทียนได้พูดออกมา
ซินเชิงหยุนได้แต่พูดออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดว่า
"พี่เขย ! อย่าได้ปฏิเสธความสัมพันธ์แบบนั้นสิ ข้าจะเศร้าใจเอานะ !"
หลินเทียนได้แต่ย่นหน้าผากพร้อมทั้งพูดว่า
"รอก่อนเถอะนะ "
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วจี่หยูก็ได้แต่หัวเราะคิกๆออกมา
หลังจากนั้นนางได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับถามออกมาว่า
"อื้ม ไปเดินเล่นกันหน่อยไหม ? "
ซินเชิงหยุนได้ผงะไป , นี่จี่หยูคนนั้นชวนชายหนุ่มไปเดินเล่นด้วยตัวเอง ?
หลินเทียนได้ชะงักไปเช่นกันก่อนที่จะตอบกลับไปว่า
"อื้ม "
จี่หยูเชิญด้วยตัวเองแบบนี้แล้วจะให้เขาปฏิเสธได้อย่างไรกัน
"งั้นก็ไปกัน "
จี่หยูได้พูดออกมา
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบก่อนที่จะเดินออกไปทางด้านนอกสำนักกับนางโดยทิ้งซินเชิงหยุนเอาไว้ด้วยสีหน้าที่โง่งม
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ศิษย์ทั้งหลายเองก็ต่างต้องมองไปยังร่างของพวกเขา
"นี่ข้า.............."
"นี่เจ้านั่นเดินคู่ไปกับนางด้วยกัน ? "
"นี่มันอะไรกัน ? ข้าเริ่มอยากจะชกเขาแล้วด้วยสิ !"
"แปลกๆแหะ ข้าก็รู้สึกแบบเดียวกัน "
"ข้าก็ด้วย "
หลายๆคนได้พูดออกมา