Divine King Of All Directions - 148
Divine King Of All Directions - 148
หลินเทียนที่กำลังถือกระบี่อยู่เองก็ได้โจมตีออกไปยังสัตว์อสูรมากมายด้วยคลื่นสายฟ้า
"โฮ๊กกกก ! "
สัตว์อสูรระดับ 3 ได้คำรามออกมาพร้อมทั้งกระโจนเข้าใส่เขา
หลินเทียนได้กวาดกระบี่กลับไปพร้อมทั้งตัดศีรษะของมันอย่างรวดเร็ว
"เจ้าสัตว์อสูรพวกนี้มันธรรมดามากๆ ฆ่ามันไปก็ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ "
หลินเทียนได้ส่งเสียงกระซิบออกมา
หลังจากนั้นเขาก็ได้มองไปรอบๆพร้อมทั้งส่งจิตสัมผัสออกไปเพื่อหาสัตว์อสูรระดับ 4
"ตาย ! "
กระบี่ของเขาได้ส่งเสียงคำรามออกมาก่อนที่คลื่นสายฟ้าจะถูกส่งออกไปปะทะกับศีรษะของสัตว์อสูรระดับ 4 ตัวนั้น
ไม่นานก็ผ่านไปกว่า 15 นาที
ด้านหน้าหอคอยได้มีศิษย์หลายคนถูกส่งออกมาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดและไม่นานคนที่เข้าไปพร้อมๆกับหลินเทียนทั้ง 19 คนก็ได้ถูกส่งออกมาหมด
"ไม่รู้ว่าเจ้าหลินเทียนนั่นจะทนได้นานเท่าไหร่กัน "
"ฆ่าเหล็งอี้ทงและเซี่ยหวูได้ต้องแข็งแกร่งมากๆ อย่างน้อยๆก็น่าจะได้ 2 ชั่วโมง "
"ใช่ ผลสรุปก็น่าจะติดอันดับ 1 ใน 100 นั่นแหละ "
หลายๆคนได้ส่งเสียงออกมา
หลินเทียนนั้นเพิ่งเข้าสำนัดแห่งนี้มาได้ไม่นานแต่ก็ลงมือสังหารเหล็งอี้ทงที่ติดอันดับของศิษย์ใหม่และหลังจากนั้นก็ยังสังหารเซี่ยหวูตามไปอีกและมันทำให้มีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักชื่อเสียงของเขา
ในหมู่ผู้คนนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยดีออกมาซึ่งเขาก็ตือตูฮงซิงที่เป็นอันดับที่ 1 ในศิษย์ใหม่และควรจะเป็นจุดสนใจของทุกคนแต่การคงอยู่ของหลินเทียนนั้นทำให้เกียรติยศของเขาถูกชิงไปทั้งหมด ทุกคนเอาแต่จำเรื่องของหลินเทียนและชื่อเสียงของเขาก็ถูกลบเลือนหายไป
"คนที่กิริยามารยาทไม่ดีแต่กลับมีคนสนใจมากมายนี่ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรดี "
มู่จี่เซียงได้แต่ส่ายศีรษะซ้ำๆ
ศิษย์เก่าข้างๆเขาเองก็ได้ปลีกตัวออกห่างไปโดยที่ไม่อยากจะสุงสิงกับเขา
...........
หลินเทียนที่อยู่ในข่ายอาคมเองก็ยังคงใช้กระบี่ในมือฟาดฟันไปยังฝูงสัตว์อสูรระดับ 4 เกือบทั้งหมด
เขาได้สำแดงพลังของทักษะกระบี่สายฟ้ามรกตออกมาถึงขีดสุดพร้อมทั้งอาศัยจิตสัมผัสไล่ล่าหาแต่สัตว์อสูรระดับ 4 เป็นเหยื่อเท่านั้น
"พุฟฟฟฟ ! "
สัตว์อสูรระดับ 4 อีกตัวได้ตกตายลงด้วยเงื้อมมือของเขา
ไม่นานก็ผ่านไปถึง 30 นาทีและหลินเทียนเองก็ได้ลงมือสังหารสัตว์อสูรไปร่วม 100 ตัวซึ่ง 90% ในหมู่พวกนั้นล้วนเป็นสัตว์อสูรระดับ 4
เวลาได้ผ่านไปเรื่อยจนเขารู้สึกว่ามันเริ่มเป็นเรื่องยากที่จะทนอยู่ต่อ
"อย่างมากคงทนได้อีกสักพัก "
เขาได้พูดกับตัวเอง
เมื่อตั้งสติได้แล้วดวงตาก็เปล่งประกายพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ออกไปตรงหน้า
แกร๊ง ! คลื่นกระบี่สายฟ้ามรกตได้ถูกส่งออกไปสังหารสัตว์อสูรระดับ 4 อีกตัว
ตอนนี้ใบหน้าของเขาชโลมไปด้วยหยาดเหงื่อขณะที่เขาได้ยกมือขึ้นมาปาดนั้นก็ได้กวาดตามองออกไปรอบพื้นที่พร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ในมือออกไปอีกครั้ง , ระหว่างที่กำลังฆ่าสัตว์อสูรระดับ 4 อยู่นั้นสัตว์อสูรระดับ 2 ที่อยู่ใกล้ๆก็ถูกสังหารไปด้วยกัน
ไม่นานก็ได้ผ่านไปอีกว่า 15 นาที
ณ ตอนนี้เสียงคำรามดังได้ถูกส่งออกมาขณะที่มีอสูรร่างยักษ์ปรากฏขึ้น ดวงตาสีแดงอมเขียวของมันได้จับจ้องมาทางเขาด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก
"สัตว์อสูรระดับ 5 ตอนกลาง หมาป่า 9 เกล็ด"
หลินเทียนได้หรี่ตาลง
เขาได้ตรวจสอบพลังฉีของตัวเองและตั้งสติอีกครั้งก่อนที่จะฟาดฟันกระบี่ในมือออกไปตรงหน้าโดยใช้ทักษะกระบี่สายฟ้า
"พุฟฟฟ ! "
เลือดสาดกระจายออกมาทั่วก่อนที่กระบี่ในมือของเขาจะแทงทะลุลำคอของศัตรู
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่กรงเล็บของหมาป่า 9 เกล็ดก็ได้ตกลงสู่ร่างกายของเขาซึ่งตอนนี้พลังฉีของเขาก็ได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้วดังนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มจางลงก่อนที่มีพลังงานแปลกๆปรากฏขึ้นข้างๆเขา
"หยุด "
หลินเทียนได้ส่งเสียงกระซิบออกมา
หลังจากนั้นร่างของเขาก็ได้หายออกไปจากข่ายอาคมพร้อมทั้งถูกส่งออกไปด้านนอกโดยทันที
เมื่อมองไปยังหลินเทียนที่กลับออกมาแล้วผู้คนรอบข้างต่างมองไปทางเขา
"ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถือว่าดี อย่างน้อยๆก็น่าจะติดอันดับ 1 ใน 100 อย่างแน่นอน "
"ผลลัพธ์แบบนี้มันท้าทายสวรรค์จริงๆ ! "
"ใช่ สำหรับศิษย์ใหม่ก็ถือว่าสุดยอดมากๆ "
ฝูงชนต่างพากันพูดออกมา
มู่จี่เซียงได้ส่ายศีรษะของเขาพร้อมกับพูดว่า
"ทนอยู่ได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงมันสุดยอดนัก ? ไม่รู้เลยนะว่า...."
ก่อนหน้านี้เขาอยู่ด้านในได้นานกว่าหลินเทียนประมาณ 3 เท่าตัวด้วยซ้ำ
"ดูสิ ลำดับบนศิลาได้เปลี่ยนไปแล้ว ลำดับของหลินเทียนกำลังจะออกมาแล้ว "
"อื้ม 59 ก็เกือบจะเท่าเราแล้ว...........อื้ม ? 59 !!! ? "
เมื่อจ้องมองไปยังศิลาหินแล้วพวกเขาต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน
"เป็นไปได้อย่างไรกัน ? "
"อยู่ได้เพียง 1 ชั่วโมงแล้วทำไมถึงได้ลำดับที่ 59 ? "
"เพิ่งเข้ามาเป็นศิษย์ใหม่แต่กลับ.........ล้ำหน้าศิษย์ตำหนักในไปกว่าครึ่งตำหนัก ! "
ทุกคนต่างผงะไป
ซินเชิงหยุนเองก็ได้จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่สรรเสริญพลางพูดว่า
"สมแล้วที่เป็นท่านพี่เขย ! สุดยอดไปเลย ! "
"แข็งแกร่งมากๆ "
จี่หยูที่นั่งอยู่ห่างออกไปไกลเองก็ได้พูดออกมาพลางกระพริบตาที่น่าหลงใหล
จี่หยูนั้นไม่ได้เป็นศิษย์ของสำนักนี้แต่ก็เข้าใจในหลายๆเรื่องเป็นอย่างดี จากความรู้ของนางนั้นคนที่เพิ่งเข้ามาเป็นศิษย์แต่กลับทำอันดับที่ 59 ได้นี่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ของสำนัก
เหล็งเฟิงที่อยู่อีกด้านนึงเองก็ได้แสดงสีหน้าที่ดูไม่ดีออกมา
"ผู้ดูแลขอรับ "
มู่จี่เซียงได้ยืนขึ้นพร้อมกับมองไปทางหลินเทียนแล้วหันไปทางผู้ดูแลพลางพูดว่า
"ข้าคิดว่ามันต้องเกิดข้อผิดพลาดกับศิลาอย่างแน่นอน เขาทนอยู่ได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถอยู่ในลำดับที่ 59 ดังนั้นเพื่อความยุติธรรมโปรดให้เขาลองอีกครั้ง "
คำพูดเหล่านี้ทำให้ผู้คนทั้งหลายได้แต่มีท่าทางเปลี่ยนไป
"ไอ้เวรนี่อีกแล้ว "
"แต่มันก็จริงนะเพราะว่าถึงอย่างไรก็ตามหลินเทียนทนอยู่ได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น "
"ก็ใช่แหละ รอดูก่อนว่าทางผู้ดูแลจะจัดการอย่างไร "
หลายๆคนได้แต่มองไปตรงหน้า
เมื่อมู่จี่เซียงมองไปยังหลินเทียนแล้วเขาก็ได้หันหน้ากลับไปมองที่ผู้ดูแลอีกครั้งแล้วพูดต่อว่า
"ท่านผู้ดูแลโปรดให้เขาทดสอบใหม่อีกครั้ง "
ซินเชิงหยุนที่อยู่ห่างออกไปเองก็ได้แต่โกรธจัดพร้อมทั้งพูดว่า
"ไอ้ระยำ ! "
หลินเทียนนั้นได้ผลลัพธ์ที่เกินคาดแบบนี้แต่ไอ้ระยำนั่นกลับกระโดดออกมาแล้วบอกว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับศิลานี่มันทำให้เขาโกรธมากๆ
ผู้ดูแลที่อยู่ด้านหน้าเองก็ได้มองไปทางมู่จี่เซียงพร้อมทั้งพูดออมาว่า
"ไม่ต้องเป็นห่วงไปเพราะว่าศิลายังปกติดี "
มู่จี่เซียงได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมทั้งพูดว่า
"มันเป็นไปไม่ได้ ! หากว่าตามปกติแล้วอย่างมากๆถ้าทนได้ 1 ชั่วโมงก็ต้องอยู่ 1 ใน 100 และไม่มีความหวังจะติดเข้าไปใน 80 ด้วยซ้ำ "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เคารพว่า
"ท่านผู้ดูแลโปรดให้ความยุติธรรมอย่าได้ให้เกิดข้อกังขาขึ้นด้วยขอรับ "
"หุบปากไปซะ ! "
ชายวัยกลางคนๆนั้นได้กวาดตามองไปทางมู่จี่เซียงพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"แม้ว่าเขาจะสามารถทนอยู่ได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงแต่ในช่วงระยะเวลานั้นเขาเลือกที่จะสังหารสัตว์อสูรระดับ 4 แทบทั้งหมดดังนั้นถึงได้ทำให้ผลลัพธ์ของเขาออกมาอยู่ในลำดับที่ 59 ก็ไม่แปลกอะไร ! "
ข่ายอาคมของสำนักเป่ยหยานนั้นไม่ธรรมดาเพราะว่าผู้ดูแลอย่างเขาสามารถใช้เทคนิคพิเศษเพื่อสังเกตการณ์ผู้ทดสอบภายในได้และแม้ว่าหลินเทียนจะเพิ่งเข้าสำนักมาแต่ชื่อเสียงของเขาโด่งดังเป็นอย่างมากดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ดูแลจะสนใจเขาเป็นพิเศษ
"อะไรนะ ? สัตว์อสูรระดับ 4 ? "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วท่าทางของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
"นี่........."
หลายๆคนได้แต่มองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ภายในข่ายอาคมนั้นมันสามารถเลือกล่าสัตว์อสูรระดับใดก็ได้แต่ว่าสัตว์อสูรระดับ 4 นั้นมีจำนวนอยู่ไม่มากและส่วนใหญ่จะเป็นระดับ 2 – 3 เท่านั้นและสถานการณ์แบบนี้ถึงได้ทำให้คนอื่นๆเลือกที่จะวัดความสามารถจากระยะเวลาที่ทนอยู่ภายในได้เท่านั้นแต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะเลือกล่าเฉพาะสัตว์อสูรระดับ 4 อย่างเดียวเท่านั้น!
ต้องรู้ก่อนนะว่าคนปกติแล้วจะไม่เลือกสู้กับอะไรที่ตัวเองไม่ได้อยู่เหนือกว่า ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือสัตว์อสูรระดับ 4 เองก็แข็งแกร่งมากๆดังนั้นการที่หลินเทียนทำแบบนี้มันเกือบจะส่งผลให้ใครหลายคนต้องอ้าปากกว้างออกมา
"พวกผิดมนุษย์ ! "
หนึ่งในผู้คนได้ส่งเสียงออกมา
"เพิ่งเข้ามาแท้ๆแต่กลับมีผลลัพธ์ได้ขนาดนี้ นี่ถ้าให้เวลาเขาอีกสัก 1 ปีนี่มีหวังได้เลื่อนไปเป็นศิษย์ตำหนักราชาอย่างแน่นอน "
"สัตว์ประหลาดชัดๆ ! "
"หากเป็นไปแบบนี้ , อีก 1 ปีถัดไปก็น่าจะสามารถเข้าไปอยู่ในตารางสายลมและหมู่เมฆได้แน่ๆ "
หลายๆคนได้แต่แข็งค้างไปด้วยความตกตะลึง
ชายวัยกลางคนเองก็ได้มองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางที่โปรดปรานพร้อมทั้งพูดว่า
"หลินเทียน ครั้งนี้ลำดับของเจ้าอยู่ในกลุ่ม 80คนแรกดังนั้นเจ้าสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมเป็นศิษย์ตำหนักในได้โดยการท้าประลองกับหนึ่งในพวกเขา หากว่าเจ้าชนะก็จะได้ที่ของคู่ต่อสู้ของเจ้าและแน่นอนว่าหากว่าเจ้าพ่ายแพ้ก็จะไม่เสียอะไร "
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับมองไปทางลำดับบนศิลาหิน
"เจ้ามีเวลาเลือก 2 ชั่วโมง "
ชายวัยกลางคนได้พูดออกมา
หลังจากที่เขาพูดจบแล้วหลินเทียนก็ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า
"ข้าได้เลือกไว้แล้ว "
"เร็วขนาดนั้นเลย ? "
ชายวัยกลางคนเองก็ได้แต่ผงะไปก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
"ตะลึงไปกับผลทดสอบเจ้ามากและลืมเรื่องนี้ไปเลย แน่นอนว่าเจ้าลองคิดดูอีกทีได้นะ "
หากว่าจะต้องท้าประลองกับศิษย์ตำหนักในก็ควรจะเลือกลำดับที่อยู่ท้ายสุดของตารางดังนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องคิดเลยด้วยซ้ำ
ศิษย์หลายๆคนก็ได้แต่มองไปยังชื่อลำดับที่ 80 พร้อมกับพูดว่า
"หลุยชิงนี่นางก็บ่มเพาะอย่างขยันมากๆ 6 เดือนก่อนได้เลื่อนลำดับมาเป็นศิษย์ตำหนักในแต่ตอนนี้สงสัยว่าจะอยู่ต่อยากแล้วสิ "
"ในสำนักนี้ผู้แข็งแกร่งคือพระราชาดังนั้นเรื่องแบบนี้มันช่วยอะไรไม่ได้หรอก "
หลายๆคนได้แต่ส่ายศีรษะ
หลุยชิงเองก็อยู่ในหมู่ฝูงชนด้วยเช่นกันและนางเองก็เป็นศิษย์ที่อยู่ในลำดับสุดท้ายของศิษย์ตำหนักในซึ่งทุกๆครั้งที่นางมาดูการทดสอบเองก็มักจะภาวนาว่าจะไม่มีใครที่ได้เกินลำดับของนางแต่ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะมีคนที่ได้เกินลำดับ 80 ไป , ตอนนี้หลังจากที่จ้องมองไปทางหลินเทียนแล้วสีหน้าของนางก็ซีดเผือดลงอย่างมากเพราะนางรู้ดีว่าตัวเองต้องถูกส่งกลับไปเป็นศิษย์ตำหนักนอกอย่างแน่นอนเพราะถึงอย่างไรก็ตามชื่อเสียงของหลินเทียนนั้นโด่งดังไปทั่วสำนักและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือลำดับของหลินเทียนคือ 59 ซึ่งแข็งแกร่งกว่านางมาก
"จบแล้วสิ "
นางได้แต่พึมพำออกมาพร้อมกับแสดงสีหน้าที่เศร้าๆ
ณ ตอนนี้หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมาว่า
"ข้าขอเลือกมู่จี่เซียง ! "