ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 124
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 126

Divine King Of All Directions - 125


Divine King Of All Directions - 125

 

เมื่อมองไปยังร่างของหลินเทียนที่กำลังใกล้เข้ามาแล้วพนักงานชายคนนั้นก็ได้แต่มีสีหน้าซีดเผือดพร้อมทั้งพยักหน้าซ้ำๆพลางพูดว่า

"แน่นอน แน่นอนขอรับ ข้าน้อยจะรีบนำทางไปทันที เชิญขอรับ !! "

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้แสดงสีหน้าที่เคารพอย่างมากออกมา

นี่คือชายที่สามารถถีบนายน้อยเซี่ยหวูจนปลิวดังนั้นเขาที่เป็นเพียงพนักงานในร้านธรรมดาๆไม่สามารถล่วงเกินได้!!

หลินเทียนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับพนักงานคนนี้พร้อมทั้งเดินตามไปยังชั้นที่ 2

ไม่นานพนักงานก็ได้นำเขาเข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งภายในตกแต่งดีใช้ได้แต่ที่สำคัญที่สุดคือมันเงียบสงบมากๆ

"ท่านลูกค้าขอรับ นี่คือห้องที่ว่าท่านพอใจหรือไม่ ? "

พนักงานได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

"อื้ม เจ้าลงไปได้แล้วอย่าลืมเอาอาหารมาส่งล่ะ "

หลินเทียนได้พูดออกมา

"ได้ขอรับ โปรดรอสักครู่เราจะรีบเอามาทันที ! "

หลังจากนั้นพนักงานก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับถาดอาหารและเหล้าชั้นดี

"ขอให้ท่านลูกค้าเพลิดเพลิน"

พนักงานได้โค้งคำนับก่อนที่จะก้าวออกไปและปิดประตูเงียบๆ

หลินเทียนได้ทานอาหารก่อนที่จะพบว่ามันเป็นช่วงค่ำแล้ว

เขาได้นั่งอยู่บนเตียงขณะที่เริ่มบ่มเพาะพลังของตัวเอง

การบ่มเพาะนั้นต้องแข่งกับเวลา จะอยู่เฉยๆไม่ได้เด็ดขาด

"บึ้ส !! "

หลังจากนั้นแสงสีเงินก็ได้ส่องประกายออกมาก่อนที่หลินเทียนจะเปิดการทำงานของข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณ 2 ม้วนเพื่อดึงดูดเอาพลังฉีมากมายเข้ามาและขัดเกลาร่างกายของตัวเอง

ไม่นานเวลากลางคืนก็ได้ผ่านไป

ในเช้าวันรุ่งขึ้นหลินเทียนก็ได้ลืมตาขึ้นก่อนที่จะยืดเส้นยืดสายแล้วลุกออกจากเตียง

แม้ว่าจะมีเวลานอนน้อยแต่เขากลับสดชื่นเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ลงมาด้านล่า แล้วหลินเทียนก็ไปที่ด้านหลังร้านเพื่อพบกับม้านิลมังกรของตัวเอง หลังจากที่มันเห็นเขาแล้วก็ได้ก้มหัวเพื่อทักทายอย่างชาญฉลาด

"อื้ม"

หลินเทียนได้เดินเข้าไปลูบศีรษะของมันเพราะว่ามันเป็นสัตว์อสูรที่ซูชูวมอบให้กับเขาดังนั้นเขาถึงได้ชอบมันเอามากๆ

หลังจากที่ลูบอยู่พักหนึ่งเขาก็ได้เดินไปตามท้องถนน

ยังเหลือเวลาอีก 2 วันกว่าจะถึงวันรายงานตัวดังนั้นเขาถึงได้อยากจะไปพบกับท่านแม่ทัพจี่เสียก่อน หลังจากที่ได้ถามทางจากชาวบ้านโดยรอบแล้วเขาก็ได้เดินต่อไปประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะพบกับคฤหาสน์หรูหราที่ด้านหน้าสลักตัวอักษรใหญ่เอาไว้ว่า คฤหาสน์แม่ทัพ

หลังจากที่กวาดตามองไปแล้วเขาก็ได้เดินเข้าไปทันที

"หยุด ! "

ทหารยามเฝ้าประตูทั้งสองคนได้เดินเข้ามาขวางทางเขาไว้ทันที

หลินเทียนได้หยุดเท้าลงพร้อมกับพูดว่า

"ข้ามาขอพบท่านแม่ทัพ โปรดช่วยแจ้งให้ท่านทราบด้วย "

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้หยิบเอาตราแม่ทัพออกมา

ท่าทางของทหารยามเองก็เปลี่ยนไปเป็นเคารพอย่างมากพร้อมกับตอบว่า

"โปรดรอสักครู่ "

หนึ่งในพวกเขาได้วิ่งเข้าไปในคฤหาสน์โดยทันที

หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากภายในก่อนที่ชายชราที่ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจะเดินออกมา

ท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ จี่หยวนฉาน

หลังจากที่ได้พบกับเขาแล้วหลินเทียนก็เดินเข้าไปทักทายโดยทันที

"สบายดีไหมขอรับท่านแม่ทัพ"

หลินเทียนได้ทำความเคารพออกมา

จี่หยวนฉานได้สำรวจหลินเทียนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่พึงพอใจอย่างมากว่า

"อื่มดี หน้าตาดีไม่ธรรมดา ดี! ดีมากๆ ! มาเร็วๆ ! เชิญ ๆ "

หลินเทียนในวันนี้ไม่ได้สวมชุดคลุมมาแต่เขามาพร้อมกับตราแม่ทัพดังนั้นจี่หยวนฉานถึงได้รู้ดีว่าเขาเป็นใคร

"รบกวนท่านด้วย "

หลินเทียนได้พูดออกมา

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้เดินตามจี่หยวนฉานเข้าไปด้านใน

ทหารยามทั้งหลายที่อยู่ด้านนอกต่างแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาตามๆกัน

"พระเจ้า หนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน ? ทำไมถึงได้ทำให้ท่านแม่ทัพออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง ? "

"นี่........"

"หรือว่าเป็นตระกูลขุนนาง ? แต่ก็ไม่น่าจะได้รับเกียรติขนาดนี้ ? "

หลายๆคนได้แต่แสดงสีหน้าที่งุงงงออกมา

............

หลินเทียนได้เดินเข้าไปถึงห้องโถงภายในตัวคฤหาสน์

สถานที่แห่งนี้กว้างมากๆแต่ไม่ได้ใช้พื้นที่อย่างสิ้นเปลืองแม้แต่น้อย ภายในนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายธรรมดาๆทำให้หลินเทียนรู้สึกดีมากๆ

"น้องชายเลือกนั่งได้ตามสบายเลย "

จี่หยวนฉานได้พูดออกมา

สาวรับใช้ก็ได้นำอาหารว่างมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลับออกไป

หลินเทียนได้พยักหน้าให้พร้อมกับหยิบเอาตราแม่ทัพออกมาแล้วพูดว่า

"ข้าเอาสิ่งนี้มาคืน "

เหตุผลที่เขามาที่นี่หลักๆแล้วก็เพื่อที่จะเอาของสิ่งนี้มาคืนเท่านั้น

จี่หยวนฉานเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรพร้อมกับรับมันมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"จริงๆแล้วเฒ่าคนนี้ได้ขอปลดประจำการตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะดังนั้นอีกไม่นานของสิ่งนี้ก็จะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว "

"ปลดประจำการ ? ทำไมกัน ? "

หลินเทียนได้มีท่าทางเปลี่ยนไปทันที

จี่หยวนฉานได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

"เฒ่าคนนี้อายุเยอะแล้วดังนั้นก็อยากจะเอาเวลาไปอยู่กับหยูเอ๋อบ้าง หลังจากนั้นไม่นานนางก็จะได้แต่งงานและบางทีช่วงบั้นปลายชีวิตอาจจะได้อุ้มหลาน "

"ผู้อาวุโสเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ร่างกายแข็งแรงอยู่แล้วดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องอุ้มหลานเลย มันไม่จำเป็นจะต้องลาอออกด้วยซ้ำเพราะว่ามันเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของจักรวรรดิเลยก็ว่าได้ "

หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดต่อว่า

"แต่ถ้าให้พูดอีกทางถ้าเป็นข้าก็จะเลือกแบบเดียวกันเพราะว่าสำหรับข้าแล้วครอบครัวสำคัญกว่าทุกสิ่ง "

จี่หยวนฉานได้หัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า

"น้องชายนี่น่าสนใจจริงๆเลยนะ อ่อใช่ แล้วเจ้ามีชื่อจริงๆว่าอะไรงั้นรึ ? พอจะบอกข้าหน่อยได้หรือไม่ ? "

"หลินเทียน"

หลินเทียนได้ตอบกลับไปตรงๆ

"หลินเทียน ดี ! ีๆ ! "

จี่หยวนฉานได้แต่พยักหน้าซ้ำๆ

เมื่อมองยังหลินเทียนแล้วเขารู้สึกพึมพอใจอย่างมากเพราะต้องรู้ก่อนนะว่าแม้แต่ผู้สืบทอดของตระกูลขุนนางใหญ่ๆภายในเมืองหลวงยังต้องแสดงท่าทางเคารพต่อหน้าของเขาแต่หลินเทียนนั้นกลับเป็นคนสบายๆที่การกระทำของเขาไม่ได้ถือว่าไม่ให้ความเคารพซึ่งการที่สามารถมีจิตใจระดับนี้ได้นั้นมันหาได้ยากมากๆ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่เร่าร้อนแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าที่อึดอัดออกมา

ณ ตอนนี้มีหญิงสาวได้เดินเข้ามาภายในห้องโถง

"ท่านปู่ มีขุนนางมาพบ "

เสียงของนางนุ่มนวลเป็นอย่างมาก

หลินเทียนได้มองตามกลับไปพร้อมพบกับหญิงสาวในชุดสีขาวร่างกายผอมบางหน้าตางดงามหาที่เปรียบไม่ได้

หญิงสาวคนนี้มีนามว่า จี่หยู !

จี่หยูที่ได้สบสายตากับหลินเทียนเองก็ได้แต่ผงะไปพร้อมกับพูดว่า

"เจ้า ! "

หลินเทียนเองก็ได้ชะงักไปทันที นี่นางรู้จักเขาด้วย ? หากว่าพูดตามความจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตนางเอาไว้แต่ก็ไม่เคยเห็นกันมาก่อน ครั้งนี้เขาเพิ่งจะเปิดเผยตัวจริงกลับจี่หยวนฉานดังนั้นต่อให้แม่ทัพอยากจะบอกนางก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดีแต่จากท่าทางที่นางแสดงออกมาแล้วมันเหมือนกับว่านางรู้จักเขาชัดๆ !

ทันใดนั้นเองท่าทางของเขาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจไปทันที

จี่หยวนฉานเองก็ได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมาเหมือนกันพร้อมกับถามว่า

"หยูเอ๋อ เจ้ารู้จักเขาด้วย ? "

"ไม่......... ข้าไม่รู้จัก "

จี่หยูได้มีสีหน้าแดงก่ำโดยทันที

จะให้พูดก็พูดคือนางได้แอบมองเขาในวันที่หลินเทียนรักษานางแล้วแต่แม้มันจะเป็นชั่วพริบตาแต่นางก็จดจำรูปลักษณ์ของเขาได้ดี แน่นอนว่ามีเพียงนางที่รู้เรื่องนี้เพราะว่าตอนนั้นหลินเทียนได้หลับตาเอาไว้ถึงไม่เห็นว่านางได้ลืมตาขึ้นมาตอนที่กำลังรักษา

หลังจากที่คิดถึงเรื่องในวันนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่หัวใจของนางจะเต้นถี่รัว

จี่หยวนฉานได้มองไปที่นางด้วยสีหน้าที่สงสัยพร้อมกับพูดว่า

"งั้น ? ทำไมข้าถึงคิดว่าเจ้าดูเหมือนจะรู้จักกับเขากันนะ ? "

"ไม่ ท่านปู่คิดไปเอง "

จี่หยูได้ตอบกลับไป

จี่หยวนฉานได้พยักหน้าพร้อมกับชี้ไปทางหลินเทียนแล้วพูดว่า

"น้องชายคนนี้เป็นคนที่ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ซึ่งเขามีชื่อว่าหลินเทียน "

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้พูดเชิงขอโทษออกมาว่า

"ต้องขออภัยด้วยนะน้องชายเพราะว่าข้าต้องไปจัดการเรื่องขุนนางก่อนถึงไม่สามารถอยู่คุยด้วยได้ในตอนนี้ "

ณ ตอนนี้เองที่จี่หยูได้ก้าวออกมาพร้อมกับพูดว่า

"ท่านปู่ ไม่เป็นไรหรอกเพราะเดี๋ยวข้าจะดูแลเขาให้เอง "

"อื้ม ? "

จี่หยวนฉานได้มองไปที่นางด้วยสีหน้าแปลกๆพร้อมกับพูดว่า

"หยูเอ๋อ เจ้าดูแปลกๆไปนะวันนี้น่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เอ๋ยปากขอดูแลแขกเลยหรือเปล่า ? "

ใบหน้าของนางได้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำพร้อมกับพูดว่า

"ในเมื่อผู้มีพระคุณมาพบแล้วจะหยาบคายได้อย่างไรล่ะคะ"

"ใช่ๆ เฒ่าคนนี้เลอะเลือนเองแหละ ! "

จี่หยวนฉานได้ตบหน้าผากตัวเองพร้อมกับพูดกับหลินเทียนด้วยรอยยิ้มว่า

"น้องชาย นี่หลานสาวของข้าจี่หยูซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้พบกันดังนั้นในเมื่อข้าต้องไปจัดการเรื่องขุนนางก็ให้หยูเอ๋ออยู่เล่นเป็นเพื่อนก่อนแล้วกัน เจ้ามีความคิดเห็นอะไรหรือไม่ ? "

หลินเทียนเองก็อยากจะขอตัวลาแต่ในเมื่อจี่หยูได้เอ๋ยปากด้วยตัวเองแบบนี้แล้วหากว่าเขาปฏิเสธก็จะดูน่าเกลียดมากๆดังนั้นถึงได้แต่พนักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

"ได้ "

เขาได้ตอบกลับไป

เมื่อเห็นว่าหลินเทียนตอบตกลงนั้นจี่หยวนฉานก็ได้หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขพลางพูดต่อว่า

"อื่ม ดีจริงๆ ! งั้นรอเฒ่าคนนี้กลับมาก่อนแล้วกันจะได้มาดื่มด้วยกัน "

หลังจากที่พูดจบแล้วจี่หยวนฉานก็ได้พูดบางอย่างกับจี่หยูก่อนที่จะเดินออกไปขณะที่ยังหัวเราะ

พริบตาเดียวในห้องนี้ก็เหลือเพียงหลินเทียนและจี่หยูเท่านั้น

เมื่อต้องอยู่กับนางสองต่อสองแล้วหลินเทียนนั้นรู้สึกอึดอัดอย่างมากเพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่เคยเห็นร่างกายของนางหมดแล้ว จี่หยูในตอนนี้ก็ได้แต่มองมาทางเขาด้วยใบหน้าสีแดงก่ำแบบไม่เป็นธรรมชาติเพราะว่าชายคนนี้คือคนที่เห็นเรือนร่างของนางทั้งหมดแถมยังสัมผัสด้วยมืออีก !!

นี่ทำให้บรรยากาศโดยรอบแปลกไปทันที

หลังจากนั้นไม่นานนางก็ได้พูดออกมาด้วยตัวเองว่า

"งั้นหลินเทียน ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่นเป็นไง ? "

หลินเทียนก็ไม่รู้ว่าจะหาเรื่องอะไรพูดดีดังนั้นหลังจากที่ได้ยินนางพูดแล้วถึงได้พยักหน้าซ้ำๆแล้วพูดว่า

"ดี ดี ไม่มีปัญหา "

เมื่อเห็นการตอบสนองของหลินเทียนแล้วนางก็ได้แต่หัวเราะคิกคิกออกมา

"อะไรงั้นรึ ? "

"เปล่า "

จี่หยูได้ยิ้มแก้มปริออกมาพร้อมกับคิดว่าผู้ชายคนนี้ดูบื้อๆดีจริงๆแต่มันก็น่ารักมากๆ

"งั้นเราออกไปกันเลย "

จี่หยูได้พูดออกมา

"ได้"

หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ

เมื่อเดินออกไปด้วยกันสองคนแล้วพวกเขาก็ออกไปถึงถนนด้านนอกคฤหาสน์เคียงคู่กัน

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเทียนได้มาเมืองหลวงดังนั้นถึงไม่รู้จักอะไรมากมายนักถึงได้ให้นางแนะนำให้

ในระหว่างขั้นตอนเหล่านี้นั้นพวกเขาได้เดินเคียงคู่กันไปทำให้หลายๆคนได้แต่แสดงสีหน้าที่โง่งมออกมา

"หลานสาวของท่านแม่ทัพจี่กับผู้ชาย........."

"เจ้าหนุ่มนั่นเป็นใครกัน ? ทำไมถึงได้สามารถเดินเคียงข้างกับสาวงามผู้มีพรสวรรค์ได้ ต่อให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลขุนนางก็ยากที่จะได้รับการปฏิบัติแบบนี้ นี่มัน........"

"พระเจ้า !"

"หรือว่าเป็นเจ้าชายองค์ไหน ? "

"ไร้สาระ มีข่าวลืออยู่ว่าเจ้าชายยังถูกปฏิเสธมาแล้วด้วยซ้ำ ! "

หลายๆคนได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด