Divine King Of All Directions - 124
Divine King Of All Directions - 124
ก่อนหน้านี้หลินเทียนได้ทนหลี่ฮ้วนมาครั้งนึงแล้วแต่ครั้งนี้มันได้คืบจะเอาศอกแล้วจะให้เขาทนได้อีก ?
เขาได้มองไปยังพนักงานชายพร้อมกับพูดต่อว่า
"นำทาง "
ใบหน้าของพนักงานคนนั้นได้เปลี่ยนเป็นซีดเผือดเพราะว่าเบื้องหลังของสองคนนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนซึ่งเครื่องแต่งกายของพวกเขาดูหรูหรากว่าหลินเทียนอีกแต่การกระทำแบบนั้นมันรนหาเรื่องชัดๆ !
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ณ ตอนนี้เสียงแสยะได้ดังขึ้น
ชายหนุ่มชุดม่วงได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่หม่นหมองว่า
"ไม่เคยได้ยินประโยคที่ว่า หากจะตีหมาก็ให้ดูเจ้าของก่อนรึไง ! ข้าเซี่ยหวูยืนอยู่แท้ๆแต่ยังกล้าลงมืออีกงั้นรึ ? "
ลูกค้ามากมายในร้านหลายคนตระหนักถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและหลังจากวินาทีที่ได้ยินคำว่าเซี่ยหวูนั้นหลายๆคนก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปทันที
"เซี่ยหวู ? คนของตระกูลเซี่ยจากเมืองหลินชวน ? "
หลายๆคนได้แข็งค้างไปทันที
เมืองหลินชวนนั้นเป็นเมืองใหญ่รองลงมาเป็นอันดับที่ 2 ของจักรวรรดินี้ซึ่งภายในเมืองนั้นก็มีตระกูลผู้บ่มเพาะอยู่ซึ่งเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่ชื่อว่าตระกูลเซี่ยที่ใครหลายคนในเมืองหลวงยังต้องรู้จัก
"เหมือนได้ยินมาว่าตระกูลนี้มีนายน้อยผู้มีพรสวรรค์แถมมีพรสวรรค์ระดับ 7 ดาราเลยด้วย ได้ข่าวว่าเขามีชื่อว่าเซี่ยหวู "
"งั้น.......นี่ก็คือคนๆนั้น ? "
"เป็นเซี่ยหวูจริงๆด้วย ได้ยินมาว่าอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 3 แล้วด้วย ! "
เมื่อมองไปยังชายหนุ่มชุดม่วงแล้วใครหลายคนก็ได้แต่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
หลังจากที่ได้ฟังบทสนทนาเหล่านั้นแล้วท่าทางของพนักงานเองก็เปลี่ยนไปอย่างมากเพราะรู้เลยว่าชายหนุ่มชุดม่วงตรงหน้านี้ต้องเป็นเซี่ยหวูไม่มีผิด เมื่อคิดถึงตรงนั้นแล้วเขาก็อยากจะร้องไห้ออกมาทันที
พนักงานชายคนนั้นได้ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินไปหาชายหนุ่มชุดม่วงแล้วพูดว่า
"นายน้อยโปรดใจเย็นๆก่อน ข้าน้อยจะไปปรึกษากับคุณลูกค้าให้ทันทีแล้วรับลองเลยว่าจะได้คำตอบที่น่าพึงพอใจแน่นอน "
หลังจากนั้นพนักงานชายก็ได้เดินไปหาหลินเทียนแล้วส่งเงิน 300 เหรียญคืนให้เขาพลางพูดต่อว่า
"ท่านลูกค้านี่เป็นเงินค่าที่พักของท่านและในเมื่อท่านได้ทำร้ายร่างกายคนของนายน้อยเซี่ยก็ควรจะขอโทษเขาดีไหม ? "
ท่าทางของหลินเทียนได้หม่นหมองลงพร้อมกับพูดว่า
"คืนเงิน ? ขอโทษ ? "
เขาได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ดีแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ไม่ว่ามันจะเป็นคนตระกูลเซี่ยหรือไม่แต่เขาได้จ่ายค่าที่พักไปก่อนแล้วดังนั้นมันต้องเป็นของเขา อีกอย่างการที่จะให้เขาขอโทษนี่มันเป็นการดูถูกเขาชัดๆ !
"เขาเป็นนายน้อยตระกูลเซี่ยนะขอรับ ! "
พนักงานชายได้พูดออกมาทันที
"แล้วมันยังไงล่ะ ? "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างเย็นชา
"ท่าน............"
พนักงานชายได้แต่คิดว่าหลินเทียนนี่มันไม่รู้จักว่าอะไรดีอะไรร้ายเลยจริงๆ กล้าที่จะล่วงเกินตระกูลเซี่ยก็อย่าหวังว่าจะรอดเลย
คนอื่นๆภายในร้านอาหารก็ได้แต่ส่ายศีรษะไปตามๆกัน
"เจ้าหนุ่มนี่ยังอายุน้อยแท้ๆ "
"บางทีคนเราก็ควรรู้ว่าอะไรควรจะถอย"
"กล้าล่วนเกินตระกูลเซี่ยมันเป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเองชัดๆ "
"ดูเหมือนว่าน่าจะมาจากเมืองเล็กๆสินะถึงได้ไม่เคยสัมผัสโลกอันกว้างใหญ่ "
"นี่ก็มีความเป็นไปได้นะ ดูจากเสื้อผ้าของเขาก็รู้แล้ว "
หลายๆคนได้พูดออกมา
พนักงานชายได้มองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางอยากจะพูดอะไรต่อแต่ตอนนี้เองที่กลิ่นอายเย็นยะเยือกได้แผดออกมาจนทำให้เขาต้องหวาดผวาไป
เซี่ยหวูได้พูดออกมาอย่างไม่แยแสว่า
"ก่อนที่จะออกเดินทางท่านพ่อข้าได้พูด ว้ว่า หลังจากที่ถึงเมืองหลวงแล้วต้องรู้จักควบคุมอารมณ์แต่เจ้ามันอวดดีเกินไปดังนั้นวันนี้หากว่าข้าไม่ได้สั่งสอนเจ้าแล้วตระกูลข้าคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนพอดี !"
เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วริมฝีปากของหลินเทียนก็ยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยทันที
"อดทน ? ควบคุมอารมณ์ ? ข้าได้จ่ายค่าห้องไปก่อนแล้วแต่เจ้าอยากจะแย่งโดยใช้กำลัง นี่คือที่พ่อเจ้าบอกมา ? "
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"หากว่านี่คือการอดทนแล้วข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่อดทนนี่ก็คงจะเดินไปแย่งภรรยาคนอื่นหน้าด้านๆหรือฆ่าคนกลางถนนเลยหรือเปล่า ? "
ผู้คนทั้งหลายภายในร้านอาหารต่างสูดหายใจเข้าลึกไปตามๆกัน
"เจ้าหนุ่มนี่มัน......"
"ไม่รู้แล้วยังกล้ารนหาที่ตายอีก "
พวกเขาได้แต่ส่ายศีรษะไปตามๆกัน
มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าตระกูลเซี่ยเป็นอย่างไร ?กล้าที่จะก่นด่านายน้อยตระกูลนี้มันรนหาที่ตายชัดๆ
เซี่ยหวูเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมทั้งจ้องมองไปทางหลินเทียนพลางพูดออกมาว่า
"ดี ! ดีมากๆ ! เจ้าเป็นคนแรกเลยนะที่กล้าพูดกับข้าแบบนี้ !"
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็จู่โจมโดยเหวี่ยงฝ่ามือเข้าใส่หลินเทียนโดยทันที
ฝ่ามือนี้มันเป็นการเล็งไปที่ใบหน้าของหลินเทียนเพื่อที่จะสร้างความอับอายให้เขา
หลินเทียนได้แต่แสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งยกมือซ้ายขึ้นมาจับข้อมือของเซี่ยหวูเอาไว้
"กล้าที่จะขัดขืนงั้นรึ !"
เซี่ยหวูได้คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
"สมองมีปัญหาหรือเปล่า ? คิดว่าทุกคนในโลกต้องทำตามคำสั่งเจ้า ? คิดว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิหรือไง ? "
เขาได้พูดออกมาด้วยความดูถูกพร้อมทั้งเหวี่ยงฝ่ามือเข้าใส่แก้มของเซี่ยหวูโดยทันที
ความเร็วของฝ่ามือนี้สูงมากๆดังนั้นถึงได้ปะทะเข้ากับแก้มของเซี่ยหวูอย่างจัง
ได้ยินเพียงเสียง เพรี้ย ก่อนที่หลินเทียนจะปล่อยข้อมือของเซี่ยหวูขณะที่ร่างของเซี่ยหวูได้ปลิวไปกระแทกกับเสาจนต้องส่งเสียงโอดครวญออกมา
"นี่........."
"นายน้อยตระกูลเซี่ยกลับ......."
"พระเจ้า "
เมื่อจ้องมองไปยังภาพเหล่านี้แล้วท่าทางของพนักงานยิ่งซีดเผือดไปกว่าเดิม เขาได้แต่มองทางหลินเทียนพลางคิดว่าชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งเหลือเกิน !
เซี่ยหวูได้ยืนขึ้นด้วยท่าทางที่น่าเกลียดพร้อมทั้งพูดว่า
"กล้าทุบตีข้างั้นรึ !! "
หลังจากที่พูดจบแล้วกลิ่นอายอันรุนแรงก็ได้พวยพุ่งออกมาจนทำให้ผู้คนรอบข้างถึงกับตกตะลึง
หลายๆคนได้พูดออกมาพลางกลืนน้ำลายว่า
"เขตแดนชีพจรเทวะระดับ 3 จริงๆด้วย ! "
จากกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าเซี่ยหวูโกรธถึงขีดสุด
มันเป็นกลิ่นอายที่น่ากลัวถึงขึ้นทำให้ลูกค้าหลายคนต้องถอยห่างออกไป
พนักงานชายเองก็ล่าถอยกลับไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งร้องไห้ออกมา หากว่าทั้งสองคนนี้ตีกันจริงๆมีหวังกิจการคงล่มและพรุ่งนี้เช้าเจ้าของร้านต้องไล่เขาออกอย่างแน่นอน
"วันนี้แขนขวาของเจ้าต้องเป็นของข้า ! "
เมื่อจ้องมองไปทางหลินเทียนแล้วเซี่ยหวูได้พูดออกมาอย่างเย็นชา
"เกรงว่าจะเป็นแขนของเจ้า "
หลินเทียนได้ตอบกลับไปด้วยท่าทางดุร้าย
เขาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์แล้วเข้าประชิดร่างของเซี่ยหวูในทันที แกร๊ง ! กระบี่คืนสู่หยวนได้ปรากฏขึ้นพร้อมทั้งฟาดฟันไปที่ลำคอของเซี่ยหวูอย่างไม่ปราณี
"เจ้า......"
ท่าทางของเซี่ยหวูเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงพร้อมทั้งรีบทิ้งระยำออกไปทันที
ขณะนี้เองที่ผู้คนภายในร้านต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป
"นี่........."
"เร็วมาก ! แถมกระบี่นั่นออกมาจากไหนกัน ? "
"ดูเหมือนว่าเจ้าหนุ่มนี่มันแกล้งเป็นหมูเพื่อจะกินเสือสินะ ! "
หลายๆคนได้แต่แข็งค้างไป
ก่อนหน้านี้ใครหลายคนที่คิดว่าหลินเทียนเป็นพวกโง่เง่าถึงกับแสดงสีหน้าที่อึดอัดออกมาทันที
หลี่ฮ้วนที่ถูกถีบกระเด็นออกไปนอกร้านก็ได้ยืนขึ้นพร้อมทั้งเดินกลับเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าที่ดุร้าย เขาคิดว่านายน้อยของเขาจะต้องจัดการหลินเทียนไปแล้วแน่ๆแต่หลังจากที่กลับเข้าไปท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
"นายน้อย.........ท่าน......."
เมื่อมองไปไปยังภาพตรงหน้าแล้วเขาได้แต่เห็นว่านายน้อยของตัวเองกำลังถูกคมกระบี่จ่อลำคอเอาไว้ถึงได้แต่แข็งค้างไปทันที , หลังจากที่ได้สติกลับมาแล้วเขาก็รีบคำรามออกมาอย่างดังว่า
"หยาบคาย !!! รู้ไหมว่านายน้อยของข้าเป็นถึงลูกชายภรรยาคนแรกของผู้นำตระกูลเซี่ย กล้าที่จะเอาคมมีดจ่อคอท่านงั้นรึ ! รนหาที่ตายชัดๆ ! ยังไม่คิดจะวางกระบี่อีกงั้นรึ ! "
หลินเทียนได้หันหน้ากลับไปมองพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดุร้ายว่า
"ไสหัวไปไกลๆ "
เขาได้เหวี่ยงมือซ้ายออกไปพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่ปะทะเข้าใส่ร่างของหลี่ฮ้วนอย่างจัง
"อั๊ก!!"
หลี่ฮ้วนได้ส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะกระเด็นออกไปนอกร้านอีกครั้ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภาพเหตุการณ์แบบนี้แล้วลูกค้าคนอื่นๆเองก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลายเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้มันแข็งแกร่งจริงๆ !
หลินเทียนได้มองกลับไปที่ร่างของเซี่ยหวูพร้อมทั้งพูดว่า
"จะออกไปหรือว่าจะตาย ? "
ท่าทางของเซี่ยหวูในตอนนี้ซีดเผือดขณะที่จ้องมองไปที่ใบหน้าของหลินเทียนไม่หยุด
"เจ้าไวก็จริงแต่หากสู้ซึ่งๆหน้าเจ้าไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก ! "
เซี่ยหวูได้กัดฟันพูดออกมา
"หากว่าเจ้าไม่ได้มีตระกูลใหญ่อยู่เบื้องหลังเจ้าก็ตายไปไม่รู้กี่รอบแล้วล่ะ "
หลินเทียนได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า
"ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องคิดหรอกนะว่าเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 3 มันยิ่งใหญ่นักเพราะว่าระดับ 4 ข้าก็ฆ่ามาตั้งไม่รู้กี่คนแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ? "
ท่าทางขอ เซี่ยหวูได้เปลี่ยนเป็นโกรธจัดโดยทันที
"ข้าจะถามเจ้าอีกรอบว่าจะไสหัวไปหรือว่าจะตายอยู่ตรงนี้ ? "
หลินเทียนได้พูดออกมา
เซี่ยหวูได้แต่กัดฟันพร้อมกับตอบว่า ข้าจะไป , แม้ว่าตัวเขาจะอวดดีแต่ก็ยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ซึ่งการที่ล่าถอยไปก่อนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
"นั่นแหละ "
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับจับแขนขวาของเซี่ยหวูเอาไว้พร้อมทั้งบิดมันอย่างรุนแรง
ได้ยินเพียงแค่เสียงกระดูกแตกหักอย่างดัง
เซี่ยหวูในตอนนี้ได้รับความเจ็บปวดถึงขั้นที่ทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยว
"นี่เป็นเพราะว่าเจ้าบอกว่าจะตัดแขนของข้าดังนั้นก็ไสไปได้แล้ว "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบก่อนที่จะยกขาถีบไปที่หน้าท้องของเซี่ยหวู
โครม !!! เซี่ยหวูได้กระเด็นออกไปนอกร้านโดยทันที
ผู้คนทั้งหลายได้แต่สูดหายใจเข้าลึก
นี่มันเป็นนายน้อยตระกูลเซี่ยเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 3 แต่กลับถูกเตะออกไปนอกร้านนี่มันบ้าชัดๆ !
"เจ้าหนุ่มนี่มีตระกูลยิ่งใหญ่หนุนหลังอยู่งั้นรึ ? "
"นี่......"
"ก็เป็นไปได้ไม่งั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้และกล้าที่จะเตะนายน้อยตระกูลเซี่ยได้อย่างไร "
เมื่อจ้องมองไปทางหลินเทียนแล้วหลายๆคนก็ได้แต่หัวหดไปตามๆกัน
หลินเทียนยังคงไม่สนใจการสนทนาของคนอื่นๆก่อนที่จะเก็บกระบี่กลับเข้าไปในแหวนมิติแล้วเดินไปหาพนักงานชายพลางพูดว่า
"ทีนี้จะนำทางไปได้หรือยัง ? "