Divine King Of All Directions - 121
Divine King Of All Directions - 121
คลื่นกระบี่สีเงินมากมายได้ปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้าส่งผลให้เหล่าคนตระกูลโม่ต่างแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมา
"พระเจ้า ! นี่มันอะไรกัน ? "
หลายๆคนได้พูดออกมาด้วยท่าทางตกตะลึง
ณ ตอนนี้ท้องฟ้าเหนือบ้านหลักตระกูลโม่นั้นมืดมนขณะที่คลื่นสายฟ้ามากมายส่งเสียงออกมาทำให้ภาพเหล่านี้ดูน่ากลัวเข้าไปอีก
เลือดได้สาดกระจายไปทั่วขณะที่รุ่นเยาว์ตระกูลโม่ต่างพากันแสดงสีหน้าที่ขวัญผวาออกมา
"ระยำ ! นี่มันอะไรกัน ? "
โร๊วว !!!!
"ของขวัญเล็กๆน้อยๆยังไงล่ะ "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบ
หลังจากที่พูดจบแล้วคลื่นกระบี่สายฟ้ามากมายที่ปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้าก็กระหน่ำลงมาเบื้องล่างเป็นห่าฝน
"พุฟฟฟ !"
"พุฟฟ ! "
"พุฟฟฟ ! "
กองเลือดได้กระจายไปทั่วและในพริบตาเดียวเหล่ารุ่นเยาว์หลายสิบคนก็ตกตายลงนอนจมกองเลือดของตัวเอง
ก่อนหน้านี้สิบกว่าวันก่อนเขาได้แอบลอบเข้ามาโดยอาศัยประโยชน์จากข่ายอาคมลมกระโชกเพื่อวางข่ายอาคมผสานทักษะกระบี่สายฟ้ามรกตนับร้อยม้วนในแต่ละมุมของบ้านหลักแห่งนี้แถมมันยังถูกผสานการทำงายเข้ากับข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยวอีกด้วย
"!"
"ไม่ ! "
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นไม่หยุดขณะที่เขาเริ่มฆ่ารุ่นเยาว์ตระกูลโม่ไปเรื่อยๆ คนเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญธรรมดาๆเท่านั้นแล้วจะไปป้องกันการโจมตีได้อย่างไรกัน
พริบตาเดียวลานแห่งนี้ก็ถูกย้อมไปด้วยเลือด
มีบางคนที่พยายามจะหนีแต่น่าเสียดายที่ต้องเผชิญเข้ากับม่านพลังที่มองไม่เห็น
"ช่วยด้วยท่านผู้นำตระกูล"
บางคนได้โห่ร้องออกมาแต่ไม่นานเสียงก็ซาลงอย่างรวดเร็วแล้วกลายเป็นกองเลือดไปช้าๆ
ไม่นานบ้านหลักแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นนรกบนดินดีๆนี่เอง
ชาวบ้านที่อยู่ด้านนอกต่างมีใบหน้าซีดเผือดและอดสั่นไปไม่ได้
"นี่มันเป็นความสามารถที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะทำได้ ? "
"เป็นไปได้ไงกัน ? ! "
"ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคม ! มันต้องเป็นความสามารถของข่ายอาคมอย่างแน่นอน ! เขาคือปรมาจารย์ด้านข่ายอาคม ! "
หลายๆคนได้พูดออกมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น
ดวงตาของซูชูวได้แต่เบิกกว้างขณะที่มองไปยังภาพเหตุการณ์รุ่นเยาว์ทั้งหลายตกตายลงและยังมีภาพที่ตำหนักต่างๆพังทลายลงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคลื่นกระบี่ที่รุนแรงขนาดนั้น
ซินเหยาเองก็ได้แต่แข็งค้างไปพร้อมกับพูดว่า
"พู นี่มัน.........ใช่ความสามารถของข่ายอาคม ? "
"ยืนยันได้อย่างเดียวว่านี่มันไม่ใช่ทักษะอย่างแน่นอนเพราะว่าด้วยระดับพลังของเขาแล้วไม่สามารถมีพลังพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ มีเพียงแค่ข่ายอาคมเท่านั้นที่พอเป็นไปได้ "
พูชิได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 3 สามารถต่อกรกับทั้งตระกูลได้ด้วยตัวคนเดียวเลยงั้นหรอ น่ากลัวจริงๆ "
ซินเหยาได้แต่พูดกับตัวเอง
พูชิได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดออกมาอย่างจริงจังว่า
"ไม่ใช่หรอก ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 3 ธรรมดาๆทำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน ไม่ได้แม้แต่ครึ่งด้วยซ้ำแต่ว่าน้องชายคนนี่น่าจะมีข่ายอาคมในตำนานอยู่ในครอบครองไม่งั้นก็ไม่สามารถสร้างเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแบบนี้ได้หรอก "
"ใครเป็นอาจารย์ของเจ้านี่กันนะ "
ซินเหยาได้แต่ฝืนยิ้มออกมา
เสียงคลื่นกระบี่คำรามยังคงดังขึ้นเรื่อยๆขณะที่คลื่นสายฟ้ายังคงตกลงมาดั่งสายฝนจนทำให้ตำหนักมากมายพังทลายลงมา ตอนนี้ทั้งตระกูลโม่ได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา
"!! "
เสียงโอดครวญได้ถูกส่งออกมาอย่างน่าสังเวช
เมื่อมองไปยังภาพเหตุการณ์เหล่านี้แล้วผู้นำตระกูลโม่ได้แต่โกรธจัดจนนัยน์ตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำพร้อมทั้งกระโจนออกไปทันที
"ตาย !! "
ผู้เชี่ยวชาญได้ฟาดฟันกระบี่ออกไปด้วยมือซ้าย
หลินเทียนได้หันกลับมามองด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนที่จะส่งคลื่นกระบี่สายฟ้ามากมายเข้าปะทะจนลอยออกไปไกล
โม่อันเองก็ลงมือเช่นกันแต่น่าเสียดายที่มันจะไปสามารถป้องกันการโจมตีที่น่ากลัวของคลื่นกระบี่สายฟ้าได้อย่างไรกัน ?
"พุฟฟฟ !"
"พุฟฟ !"
พวกเขาได้แต่กระอักเลือดออกมาพร้อมกับลอยออกไปไกล
ทันใดนั้นเองที่ผู้คนร่วม 100 ในตระกูลโม่ต่างพากันขวัญหายและวิ่งหนีกันอย่างอลหม่านแต่น่าเสียดายที่ทุกทิศทางถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยม่านพลังถึงไม่สามารถหนีไปไหนได้และได้แต่ยืนรอรับการโจมตีจากคลื่นกระบี่สายฟ้ามากมาย
"ไม่!"
เสียงร้องโหยหวนได้ดังขึ้นซึ่งทำให้เหล่าผู้ฟังถึงกับขนหัวลุก
ณ ตอนนี้เสียงฝีเท้ามากมายกำลังเข้ามาใกล้สถานที่แห่งนี้ซึ่งนั่นก็คือเจ้าเมืองและกองกำลังทหารกว่า 100 คน , ต๊วนหยานนั้นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลินเทียนมากๆแต่หลังจากที่เห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วเขาก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา
ทหารธรรมดาได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดผวาออกมา
ผู้คนตระกูลโม่ทั้งหลายที่เห็นการมาถึงของเจ้าเองเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา
"ท่านเจ้าเมือง ได้โปรดช่วยหยุดเขาด้วย ! "
เสียงของผู้นำตระกูลโม่ได้ดังขึ้น
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่รุ่นเยาว์ทั้งหลายเองก็พยายามจะคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้พร้อมกับช่วยกันตะโกนออกมาว่า
"ท่านเจ้าเมืองช่วยเราด้วย ! "
ต๊วนหยานที่อยู่ด้านหน้าและมองเข้าไปเห็นภาพลานที่ชโลมไปด้วยเลือดพร้อมกับศพนับร้อยถึงกับสูดหายใจเข้าลึกแม้จะเป็นคนที่เคยผ่านสมรภูมิรบมามากมายอย่างขา
เมื่อมองไปยังหลินเทียนที่อยู่ภายในแล้วเขาก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นว่า
"ท่าน ข้าคิดว่า..........."
ตระกูลโม่นั้นเป็นตระกูลผู้บ่มเพาะเดียวในเมืองนี้และหลังจากที่ต้องเห็นภาพคนตระกูลโม่ตกตายลงมากมายแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
หลินเทียนได้หันหน้ากลับไปพร้อมกับพูดออกมาอย่างราบเรียบว่า
"เจ้าคิดจะขวางทางข้า ? "
สีหน้าของต๊วนหยานได้เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับพูดว่า
"นี่...........ข้าน้อยมิกล้าขอรับ ! "
"งั้นก็รออยู่ตรงนั้นนั่นแหละ "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลังจากนั้นคลื่นกระบี่มากมายก็ได้ตกลงมาจากฟากฟ้าอีกครั้ง
"พุฟฟฟ !"
"พุฟฟ !"
"พุฟฟฟ ! "
เลือดมากมายได้เลอะไปทั่วพื้นที่ขณะที่เสียงร้องเริ่มจะซาลงหลังจากที่รุ่นเยาว์ของตระกูลโม่มากมายได้ตายอย่างอนาถ
ตอนนี้ดวงตาของผู้นำตระกูลและทั้งสองคนที่เหลือได้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเหมือนจะระเบิดออกมา
รุ่นเยาว์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นศิษย์สายตรงของทางตระกูลซึ่งมันถือได้ว่าเป็นเหมือนดั่งความหวังของตระกูล
"ระยำ ! หยุด !! เจ้ามันไม่มีความเป็นมนุษย์ !! "
ผู้นำตระกูลโม่ได้พูดออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด
"ไม่มีความเป็นมนุษย์ ? "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างเย็นชาเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในโลกกลับไปว่า
"อยากจะมาพูดเรื่องความเป็นมนุษย์กันใช่ไหม มา ก็ดี ข้าจะบอกให้ว่าความเป็นมนุษย์มันคืออะไร มันคือโม่เซินและไอ้โสเภณีเสี่ยวหยุนมันเตะข้าลงจากหน้าผาด้วยกัน ความเป็นมนุษย์คือการที่พวกสุนัขรับใช้ตระกูลโม่ได้เผาบ้านหลักตระกูลข้าลง ความเป็นมนุษย์คือการที่โม่เซินและโม่ยี่มันกล้าทำคิดจะเอาชีวิตข้าในการทดสอบเข้าเป็นศิษย์สำนัก ความเป็นมนุษย์คือการที่พวกเจ้าส่งคนไปลอบสังหารข้าในการทดสอบศิษย์ภายใน ความเป็นมนุษย์คือการที่ใช้กองกำลังทั้งตระกูลมาไล่ฆ่าข้า ความเป็นมนุษย์คือการที่พวกเจ้าคิดจะลอบสังหารข้าในการประลองทดสอบเข้าเป็นศิษย์ภายใน ความเป็นมนุษย์คือการที่พวกเจ้ารู้ทั้งรู้ว่าข้าถือครองตราแม่ทัพแต่ก็ยังกล้าส่งคนมาลอบสังหารข้า !"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุร้ายซึ่งทุกๆคำพูดนั้นเหมือนดั่งใบมีดที่ทิ่มแทงหน้าอกของผู้นำตระกูลโม่จนทำให้ใบหน้าของเขาซีดลง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เหล่าชาวบ้านรอบนอกต่างพากันตกตะลึงเพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าหลินเทียนและตระกูลโม่นั้นมีความแค้นกันแต่ก็มีอยู่น้อยคนที่รู้ว่าเกิดจากอะไร จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ได้เข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
"นี่มันเกินไปแล้ว ! "
หลายๆคนได้พูดออกมาในแนวทางเดียวกัน
ต๊วนหยานเองก็อยากจะขอให้หลินเทียนหยุดมือแต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินเทียนแล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
"กล้านักนะ ! ไม่คิดเลยนะว่ากล้าแม้กระทั่งลอบสังหารท่านแม่ทัพ !! "
ต๊วนหยานได้คำรามออกมาด้วยความโกรธถึงขีดสุด
เขาไม่สนใจเรื่องความแค้นก่อนหน้านี้ของหลินเทียนและตระกูลโม่แต่สิ่งที่เขาสนใจคือประโยคสุดท้ายที่ว่าตระกูลโม่รู้ทั้งรู้ว่าหลินเทียนถือครองตราแม่ทัพแต่ก็ยังส่งคนมาลอบสังหารนี่มันเป็นการขัดอำนาจแม่ทัพและจักรวรรดิ
มันมีโทษประหาร 9 ชั่วโครต !
เหล่าทหารที่อยู่เบื้องหลังต๊วนหยานเองก็สั่นไปทั้งตัวด้วยโทสะ
ตอนนี้ใบหน้าของผู้นำตระกูลโม่นั้นเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
หลังจากที่นิ่งไปแล้วเขาก็ได้มองไปยังหลินเทียนพร้อมกับคำรามออกมาด้วยท่าทางดุร้ายว่า
"ถึงอย่างไรก็ต้องฆ่าเจ้าให้ได้ ! "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็พุ่งออกไปทางหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
"ตาย !!"
โม่อันได้คำรามออกมา
ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าตระกูลของตนไม่มีทางรอดแล้ว อย่าว่าแต่หลินเทียนเลยเพราะว่าเจ้าเมืองก็คงไม่ปล่อยพวกเขาไป โทษของการลอบสังหารผู้ถือตราแม่ทัพนั้นเพียงพอจะกวาดล้างตระกูลของเขาด้วยซ้ำดังนั้นความคิดเดียวในสมองของพวกเขาคือฆ่าหลินเทียนให้ได้
"ทั้งหมดมันเพราะเจ้าเพียงคนเดียว !!! "
ผู้นำตระกูลโม่ไม่คิดเลยว่าตระกูลของเขาจะถูกต้อนถึงขั้นนี้
เมื่อมองออกไปยังคนเหล่านั้นแล้วหลินเทียนได้แต่แสยะออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"พยายามเฮือกสุดท้ายงั้นหรอ ? น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย โม่จี่ข้ายังฆ่ามาแล้ว เจ้าคิดว่ามีใครแข็งแกร่งกว่ามันไหมล่ะ ? "
หลังจากที่พูดจบแล้วหลินเทียนก็ได้ยกมือขวาขึ้นพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่มากมายเข้าใส่พวกเขาทั้งสามคนที่เหลือ
พริบตาเดียวผู้เชี่ยวชาญแขนด้วนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนที่จะตกตายลงทันที โม่อันนั้นพยายามจะหลบการโจมตีจากคลื่นกระบี่สายฟ้า 2 เล่มแต่น่าเสียดายที่หลบไม่พ้นและถูกทะลวงผ่านลำคอไปจนต้องนอนจมกองเลือด
"โครม ! "
คมกระบี่ของผู้นำตระกูลโม่ได้ใกล้เข้ามาแต่น่าเสียดายที่หลินเทียนสามารถหลบได้ก่อนที่จะเตะอัดเขาจนลอยเคว้งออกไปไกล
ริมฝีปากของผู้นำตระกูลโม่ได้มีเลือดซิบออกมาพร้อมกับคำรามว่า
"ไอ้ระยำ !!! "
หลินเทียนได้แสยะกลับไปอย่างเย็นขาก่อนที่คลื่นกระบี่สายฟ้า 4 เล่มจะพุ่งทะลุผ่านแขมและขาของเขาเพื่อยึดไว้กับพื้น
ผู้นำตระกูลโม่ได้ส่งเสียงโอดครวญออกมาก่อนที่ความเจ็บปวดจะแผดไ ทั่วร่างของเขาจนทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวไปทันที
"ดูให้ดีว่านี่แหละคือจุดจบของตระกูลโม่ มันเป็นผลที่ตามมาจากการกระทำของพวกเจ้าเองทั้งนั้น "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างดุร้าย
หลังจากที่พูดจบแล้วคลื่นกระบี่มากมายก็ได้ตกลงมา
"ไม่ !!! อย่า !! หยุดนะ ! "
ผู้นำตระกูลโม่ได้แต่เป็นบ้าไป
"คงจะเป็นไปได้อยู่แหละ "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างเย็นชา
คลื่นกระบี่ได้พุ่งลงมาด้วยความเร็วมากกว่าเก่าก่อนที่จะปกคลุมเหนือศีรษะของเหล่ารุ่นเยาว์ตระกูลโม่ที่เหลืออยู่
"พุฟฟฟฟ !"
"พุฟ !"
"พุฟฟฟฟ ! "
เลือดสาดกระจายไปทั่วขณะที่ส่งเสียงร้องระงมไม่หยุดหย่อน
ขั้นตอนนี้คงสภาพอยู่ไม่นานก่อนที่บรรยากาศโดยรอบจะเงียบสงบพร้อมๆกับร่างไร้วิญญาณที่ย้อมไปด้วยเลือด
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าราบเรียบอยู่เช่นเคยพร้อมกับเดินเข้าไปหาผู้นำตระกูลโม่ทีละก้าว
"ระยำ !! ไอ้ชั่ว !! ข้าขอสาปแช่งเจ้าให้ตายเยี่ยงสุนัข !!! "
ผู้นำตระกูลโม่ได้คำรามออกมาอีกครั้ง
ตระกูลโม่ของเขาถูกทำลายจนสิ้นและเขาทำได้เพียงจ้องมองไปยังร่างของหลินเทียนด้วยความเกลียดชัง
หลินเทียนได้ยกกระบี่ขึ้นมาด้วยความรู้สึกดูถูกพร้อมกับเหวี่ยงออกไปอย่างไร้หัวใจ
"หากว่าคำสาปมันมีประโยชน์ป่านี้ก็คงไม่มีสงครามแล้วล่ะ "
พุฟฟฟฟ ศีรษะของผู้นำตระกูลโม่ได้ถูกกุดโดยทันที