Divine King Of All Directions - 115
Divine King Of All Directions - 115
ท่าทางของโม่จี่ในตอนนี้น่าเกลียดเป็นอย่างมาก เขาได้คำรามออกมาพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่หลินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
"โครม ! "
หอกของเขาได้ส่งแรงกดดันและจิตสังหารออกมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนดั่งมังกรที่กำลังคำรามออกมาด้วยโทสะ
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมกับแหงนหน้ากลับไปมองแล้วยกมือขึ้นมาตบไปที่ใบหน้าของโม่จี่อย่างจัง
โม่จี่ได้กระเด็นออกไปไกลก่อนที่จะตกลงมากระแทกกับพื้นที่อยู่ห่างออกไป
"สภาพอย่างเจ้าในตอนนี้ยังกล้าที่จะพุ่งเข้ามาอีกนะ ไปอยู่นิ่งๆตรงนั้นนั่นแหละ ! "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างเย็นชา
ตอนนี้ปากของโม่จี่กลบไปด้วยเลือดมากมายขณะที่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยประกายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
สำหรับหลินเทียนแล้วเขาไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อยก่อนที่จะหยิบเอาอาวุธวิญญาณระดับสูงของซูมู่หยางขึ้นมาแล้วเก็บกลับไปในแหวนมิติของเขา
อย่างน้อยๆมันก็ขายได้เป็นแสนๆ
หลังจากนั้นเขาได้หันหน้ากลับไปมองที่กองกำลังผู้ซึ่งเหลือรอด 3 คนสุดท้าย
"ถึงเวลาของพวกเจ้าแล้ว"
เขาได้เดินเข้าไปทางพวกเขาทั้งสามคนอย่างช้าๆ
ตอนนี้เหลือเพียงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 2 เพียง 3 คนเท่านั้น แน่นอนว่าระดับพลังของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาแต่หลังจากที่เห็นว่าหลินเทียนกำลังเดินใกล้เข้ามานั้นพวกเขาได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดกลัวไปตามๆกัน
"ไม่...... เมตตาพวกเราด้วย ! "
หนึ่งในพวกเขาได้ขอร้องออกมา
ขนาดซูมู่หยางยังตายเลย ! ตอนนี้ดวงตาของพวกเขาถูกเติมเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"เมตตา ? ล้อข้าเล่น ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
เขาได้พุ่งออกไปประชิดชายคนหนึ่งพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดซ้ายเข้าปะทะ โครม ! ชายหนุ่มคนนั้นได้กระเด็นออกไปไกลซึ่งแม้ว่าตามร่างกายจะไม่มีบาดแผลแต่กลับกระอักเลือดที่ปนเศษอวัยวะออกมา
ทักษะหมัดทลายฟ้า โจมตีเพื่อสังหาร !
ความรู้สึกกลัวบนใบหน้าของสองคนที่เหลือได้เพิ่งขึ้นก่อนที่จะถอยหลังกลับไป
"เดินผิดทางแล้ว "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
คลื่นกระบี่มากมายได้พุ่งทะลุร่างของชายหนุ่มคนนั้นและส่งผลให้เขานอนกองลงกับพื้นโดยทันที
พริบตาเดียวก็เหลือผู้รอดชีวิตอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
"ปีศาจ !! เจ้า........เจ้ามันเป็นปีศาจ ! พระเจ้าต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ !! "
ชายคนนี้ได้โห่ร้องออกมา
ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะนับ 20 คนกลับถูกฆ่าไป 18 คนแล้ว !
หลินเทียนอดแสยะยิ้มออกมาไม่ได้พร้อมกับพูดว่า
"นี่สมองมีปัญหาหรือเปล่า ? ทำไมตอนแห่กันมารุมฆ่าข้าไม่คิดถึงเรื่องพระเจ้าบ้าง ? "
เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วชายหนุ่มคนนั้นได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดผวาและโกรธจัดออกมา
"ฉ่า !!! "
ณ ตอนนี้เสียงม่านพลังแตกสลายได้ดังขึ้น
ชายหนุ่มคนนั้นได้ชะงักไปพร้อมกับแสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมาแล้วพุ่งออกไปทันที
หลินเทียนได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมทั้งเตะหอกแหลมที่อยู่ที่พื้นออกไปอย่างรวดเร็ว
หอกแหลมได้พุ่งทะลุผ่านอากาศก่อนที่จะเทียบเข้ากลางหน้าอกของชายหนุ่มคนนั้นจนทำให้ร่างของเขาปักอยู่กับต้นไม้และตายลงทันที
หลังจากที่ลงมือสังหารชายคนนั้นแล้วเขาก็ได้หันหน้ากลับไปมองที่โม่จี่อีกครั้ง
"เหลือเจ้าคนเดียวแล้วนะ"
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมทั้งเดินเข้าไปหาโม่จี่อย่างช้าๆ
ร่างของโม่จี่ในตอนนี้ชโลมไปด้วยเลือด ตามตัวของเขาเต็มไปด้วยรูมากมายที่เกิดจากคลื่นกระบี่สายฟ้ามรกตแถมยังถูกหลินเทียนเตะจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักแต่ตอนนี้เขาก็ยังคงจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ดุร้ายเช่นเดิม
"สายตาเจ้าทำให้ข้ารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ "
หลินเทียนได้พูดออกมา
ขณะที่พูดจบแล้วเขาก็ได้พุ่งเข้าไปประชิดร่างของโม่จี่พร้อมทั้งเตะไปกลางหน้าอกอย่างรวดเร็ว
โครม! ร่างของโม่จี่ได้ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศก่อนที่จะกระแทกกับพื้นที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร
"อั๊กกก ! "
โม่จี่ได้พยายามลุกขึ้นมาพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่หลินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมกับจับหอกของโม่จี่เอาไว้แล้วแย่งมาจากมือของมันทันที
โม่จี่ได้คำรามออกมาเพราะแม้ว่าจะถูกแย่งหอกไปแต่เขาก็ยังคงเหวี่ยงหมัดขวาออกไป
หลินเทียนได้หรี่ตาลงเพราะเขาต้องยอมรับเลยว่าโม่จี่นี่มันแข็งแกร่งจริงๆ แต่ความรู้สึกนี้มันทำให้เขาอึดอัดอย่างมาก
ประกายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างดุร้ายพลางหักมือขวาของโม่จี่โดยท นที
"กร๊อบ ! "
กระดูกมือขวาของโม่จี่ได้ถูกบดและส่งผลให้เขาได้แต่โห่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งเตะไปที่หัวเข่าซ้ายของโม่จี่จนส่งเสียงแตกหักออกมาอีกครั้ง
โครม ! โม่จี่ได้คุกเข่าลงกับพื้นขณะที่ใบหน้าของเขากลายเป็นบิดเบี้ยวอย่างมาก
"ยังทนได้อีกงั้นหรอ ? ดี งั้นเรามาต่อกันเลย "
หลินเทียนได้แสยะออกมา
เขาได้ยกมือขวาขึ้นพร้อมทั้งใช้กระบี่แทงไปที่มือซ้ายของโม่จี่อย่างจัง
"ผู้มีพรสวรรค์ที่สุดของสำนักจิ่วหยาง ศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ศิษย์ภายในลำดับที่ 1 ผู้ที่เปลี่ยนแปลงสถิติของการทดสอบจิตใจ ผู้ที่เข้าร่วมกับกองกำลังบุกเบิก เมื่อไม่กี่ปีก่อน......."
หลินเทียนได้แสยะออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"เจ้าคงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากสินะ ? รู้ทั้งรู้ว่าข้าเป็นผู้ถือครองตราแม่ทัพและเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมแต่ยังกล้าเอาคนมารุมฆ่าข้าเนี่ย ! "
หลังจากที่พูดจบแล้วหลินเทียนก็ได้ยกเท้าเตะอัดไปที่เข่าซ้ายของโม่จี่อีกครั้ง
เสียงกระดูกแตกหักได้ดังขึ้นก่อนที่โม่จี่จะคุกเข่าลง
"ระยำ ! "
โม่จี่ได้คำรามออกมาอย่างดัง ตอนนี้สภาพของเขาได้แต่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหลินเทียน
"ปากหมานักนะ ! "
หลินเทียนได้แสยะออกมา
เขาได้ยกมือซ้ายขึ้นมาชกอัดไปที่ปากของโม่จี่อย่างจัง
โครม ! โม่จี่ได้กระอักเลือดปนเศษฟันออกมา
"มาต่อกันเลย "
หลินเทียนได้ยกเท้าขึ้นพร้อมทั้งเตะออกไป
โม่จี่ได้แต่ตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่ตอนนี้ทั้งมือและเท้าของเขาใช้การไม่ได้แล้ว
"เจ้า.....ไอ้ .........ระยำ ! "
ฟันของเขาร่วงหมดปากดังนั้นคำพูดของเขาถึงได้ฟังดูไม่ชัดเท่าไหร่นักและได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ดุร้าย
หลินเทียนได้หรี่ตาลงพร้อมกับพูดว่า
"ดีมาก ถือว่ามีจิตใจที่เข้มแข็งมากๆ "
หลังจากที่พูดจบแล้วหลินเทียนก็ได้ยกขาขวาขึ้นและเตะอัดหน้าอกโม่จี่ไปพลางพูดต่อว่า
"น่าเสียดายที่คนจำพวกนี้ข้าเกลียดที่สุดคือคนชั่วที่มันมีจิตใจแข็งแกร่งเหมือนเจ้า ข้าว่าถ้าเจ้าร้องขอความเมตตามันก็จะดูน่ารักมากๆเลยนะ "
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้กระทืบซ้ำลงไป
"อั๊ก! "
โม่จี่ได้แต่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสังเวช
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"นั่นแหละ ดูสิว่าจะยังทนได้อยู่ไหม "
โม่จี่ได้คำรามออกมาด้วยความโกรธว่า
"เจ้า.."
โครม !
หลินเทียนได้ต่อยอัดซ้ำลงไป
ด้วยแรงชกของเขานั้นทำให้โม่จี่ได้แต่กระอักเลือดออกมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
"ตอนนี้เจ้าอยู่ในฐานะตัวประกันดังนั้นก็ควรจะแสดงให้เหมือนตัวประกันหน่อยสิ "
หลินเทียนได้มองไปทางเขาพร้อมกับพูดต่อว่า
"กลัวสิ ! ร้องขอชีวิตซะสิ นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรจะทำ "
หลัวจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ยกกระบี่ขึ้นมาพร้อมทั้งแทงไปที่แขนอีกข้างของโม่จี่
โม่จี่ได้แต่โอดครวญออกมาขณะที่สำลักเลือดไม่หยุด
"งั้นมาต่อกัน "
หลินเทียนได้พูดต่ออีกครั้ง
กระทืบ แทง ต่อย ! เขาได้ใช้ทุกวิถีทางในการทรมานโม่จี่และหลังจากที่ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจนั้นใบหน้าของโม่จี่ก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวในที่สุด
"ฆ่า.........ฆ่าข้าซะ ! "
โม่จี่ได้พูดออกมาอย่างอิดโรย
หลินเทียนได้แต่แสยะออกมาพร้อมกับแสดงสีหน้าที่พึงพอใจ
จัดการกับคน ถ้าเหี้ยมได้ก็ต้องเหี้ยม!
เขาได้ยกกระบี่ขึ้นมาเหนือศีรษะ
"ถึงเวลาตายของเจ้าแล้วแต่ไม่ต้องกลัวว่าจะลงนรกไปอย่างโดดเดี่ยวนะ "
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"เพราะว่าอีกไม่นานตระกูลโม่ของเจ้าจะตามไปหมดทั้งตระกูล "
โม่จี่ได้แต่มีนัยน์ตาที่เบิกกว้างพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยร่างกายที่สั่นระริกว่า
"จะ.......เจ้า...."
"ลาขาด "
พุฟฟฟฟ กระบี่ของเขาได้กวาดออกไปก่อนที่ศีรษะของโม่จี่ตะกลิ้งลงมาด้วยสภาพดวงตาที่ยังเบิกกว้าง
หลินเทียนได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งพลิกฝ่ามือเพื่อเก็บกระบี่กลับไปแล้วกวาดตามองรอบๆเพื่อเก็บสมบัติทั้งหมดแล้วเดินจากไป
..............
ช่วงบ่ายวันนั้นหลินเทียนได้กลับเข้าเมืองไปอีกครั้งพร้อมทั้งตรงไปที่สมาคมโดยทันที
"ท่านกลับมาแล้ว "
พนักงานต้อนรับได้เดินมาทักทายเขาอย่างรวดเร็ว
แม้เพิ่งผ่านความเป็นความตายมาแต่เขากลับแสดงท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยที่เปลี่ยนชุดใหม่มาก่อนแล้วเพราะว่าชุดก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยคราบเลือดมากมาย
หลังจากที่ส่งภารกิจแล้วพนักงานสาวก็ได้ยิ้มออกมาอย่างน่ารักพร้อมทั้งลงบันทึกอย่างรวดเร็ว
เมื่อผ่านไปไม่นานนางก็ได้พูดขึ้นว่า
"หากว่านับรวมแต้มทั้งหมดแล้วตอนนี้มี 1356แต้มจะเก็บไว้หรือว่าเอาไปแลกวัตถุดิบเลย ? "
"อื้ม เอาไปแลกหยาดจันทราให้หมดเลย "
"หยาดจันทรา ? "
พนักงานได้ถามออกมาด้วยใบหน้าที่สงสัย
หลินเทียนได้ตอบกลับไปว่า
"อื้ม "
"ได้ งั้นท่านรอสักครู่ค่ะ "
นางได้พูดออกมาก่อนที่จะหายเข้าไปหลังสมาคมแล้วไม่นานก็กลับออกมาพร้อมๆกับขวดหยกพลางพูดว่า
"เอานี่ มีทั้งหมด 13 หยด "
หลินเทียนได้รับไว้แล้วเก็บกลับเข้าไปในแหวนมิติโดยทันที
"ท่านต้องการอะไรอีกไหมคะ ? "
พนักงานสาวได้ถามต่อ
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับหยิบเอารายการวัตถุดิบที่ใช้สำหรับสร้างข่ายอาคมลมกระโชกส่งให้นางแล้วพูดว่า
"ช่วยเตรียมของพวกนี้ให้หน่อย "
"ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ "
นางได้ตอบกลับไป
หลังจากนั้นไม่นานนางก็กลับมาอีกครั้งพร้อมๆกับวัตถุดิบทั้งหมดในถุงย่าม
"ขอบคุณมากๆ "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
พนักงานสาวก็ได้ตอบกลับไปว่า
"ท่านก็สุภาพไป ถือว่าเป็นเกียรติของข้าที่ได้บริการท่าน "
ช่วงนี้หลินเทียนก็หาเวลาไปพบกับเก้อเจิ้งบ้างและหลังจากที่สนทนากันสักพักผู้คนรอบข้างก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่เกรงกลัวออกมา
ไม่นานเขาก็ได้กลับไปยังที่พักในสำนักของเขาเพื่ออาบน้ำแล้วเข้านอน
จนถึงช่วงเที่ยงคืนที่เขาได้ตื่นขึ้นก่อนที่จะทานอาหารของหลินซี่แล้วกลับขึ้นไปด้านบน
ขณะที่ดูดซับแสงจากหมู่ดาวนั้นเขาก็เริ่มการหมุนวนเคล็ดวิชาซือจี่เพื่อฟื้นฟูพลังให้กลับมาอยู่ในจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว
"เห้อออ ! "
เขาได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะหยิบเอาวัตถุดิบสร้างข่ายอาคมลงกระโชกออกมา
ข่ายอาคมลมกระโชกนั้นอยู่ในระดับ 3 ซึ่งมีความยากนิดหน่อยแต่หลินเทียนในตอนนี้เชี่ยวชาญแล้วดังนั้นถึงไม่ได้รู้สึกว่ามันยากอะไรนัก
แสงหมู่ดาวยังคงตกกระทบจากฟากฟ้าซึ่งให้บรรยากาศที่น่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก
หลินเทียนที่นั่งอยู่บนยอดเองก็ยังคงตั้งใจวาดข่ายอาคมอยู่ก่อนที่เวลาจะผ่านไปถึงช่วยเช้าในพริบตา คืนนั้นเขาก็ได้ใช้หยาดจันทราไปทั้งหมด 13 หยดและสร้างข่ายอาคมลมกระโชกขึ้นมา 13 ม้วน
"เอาล่ะ พรุ่งนี้ค่อยสร้างข่ายอาคมคุกโดดเดี่ยวต่อแล้วกัน"
เขาได้คิดอยู่ภายในใจ
เมื่อยืนขึ้นแล้วเขาก็ได้ยืดร่างกายก่อนที่จะกลับลงมาด้านล่าง
เขาได้อาบแสงแดดยามเจ้าก่อนที่จะเดินไปทางตำหนักผู้อาวุโสอย่างรวดเร็ว ซูมู่หยางนั้นเป็นศิษย์ภายในลำดับที่ 1 และเรียกได้ว่าเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักซึ่งการที่คนๆนี้หายตัวไปมันต่างจากการหายตัวไปของศิษย์ภายนอกอย่างมาก เขาคิดว่าตัวเองควรจะไปรายงานเรื่องนี้กับมู่ชิงและฉีดงให้ชัดเจน