Divine King Of All Directions - 101
Divine King Of All Directions - 101
เมื่อเห็นท่าทางของซูชูวแล้วก็ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ
"เจ้ารีบร้อนอะไรกัน ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
นัยน์ตาของซูชูวได้แต่เบิกกว้างโดยทันทีพร้อมทั้งตอบกลับไปว่า
"ข้ารีบร้อนอะไรงั้นหรอ ? ไหนเจ้าเดามาดูสิ ! "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่อับอายออกมาเพราะว่าท่าทางของหญิงนางนี้มันสุดๆจริงๆ
"เอาล่ะ ๆ เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงได้รีบร้อนแบบนั้น ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
ซูชูวได้ถอนหายใจพร้อมทั้งตอบกลับไปว่า
"จะเรื่องอะไรอีกล่ะ มันเป็นเพราะว่าโจวเฮอกับเจ้าเมืองมาที่นี่เพื่อที่จะจับตัวเจ้า ท่านอาจารย์ได้สั่งให้ข้ามานำตัวเจ้าไป "
หลินเทียนได้ผงะไปก่อนที่จะยิ้มออกมา
"มาจริงๆสินะ "
เขาได้หรี่ตาลงโดยทันที
"ไม่ใช่มั้ง ! ดูซะสิว่าเจ้าก่อเรื่องอะไรไว้ ! "
ซูชูวได้แสดงสีหน้าที่หงุดหงิดออกมาพร้อมกับพูดต่อว่า
"เจ้ารีบๆแอบหนีไปพร้อมๆกับหลินซี่ซะนะ "
"? "
หลินเทียนได้ผงะไป
"อะไรเล่า ! หนีไปไง ! "
ซูชูวได้พูดต่อ
"มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ? "
"ไม่ กินไปหน่อยอะไร ? เจ้ารู้ไหมว่าเรื่องครั้งนี้มันเทียบกับเรื่องก่อนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เจ้าได้ฆ่าเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองบัญชาการไป! ต่อให้เรารู้ดีว่ามันเป็นแผนการแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเราไม่มีหลักฐาน ตราบใดที่โจวเฮอมันยังยืนกรานเรื่องที่เจ้าฆ่าคนของมันแล้วต่อให้เป็นทางสำนักเองก็ไม่สามารถปกป้องเจ้าไว้ได้ !"
ซูชูวได้รีบพูดต่อด้วยท่าทางโกรธว่า
"เจ้าจะตายไปก็ไม่เป็นไรหรอกแต่ข้าไม่อยากเห็นหลินซี่โศกเศร้า ! รีบไปได้แล้ว !"
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
"หากข้าจากไปแบบนี้แล้วเจ้าจะอธิบายกับอาจารย์เจ้าอย่างไร ? "
"ท่านอาจารย์เป็นคนดีดังนั้นต้องไม่มีทางโทษข้าอย่างแน่นอนแถมดูๆแล้วน่าจะชื่นชมข้าซะด้วย ! "
ซูชูวได้ส่งเสียงแสยะออกมา
หลินเทียนได้แต่ยิ้มตอบรับขณะที่มองไปทางนางด้วยจิตใจที่หวั่นไหวเพราะนางดีกับเขาจริงๆ
"ไปกันเถอะ "
หลินเทียนได้พูดออกมาขณะมุ่งหน้าไปทางหน้าประตูทางเข้าสำนัก
"โอ้ ! ข้าให้เจ้านำหลินซี่หนีไปแล้วเจ้าคิดจะไปไหนกัน ! "
ซูชูวได้รั้งเขาเอาไว้
"หากว่าข้าต้องหนีไปแบบนั้นมันก็จะไม่เกิดความเป็นธรรม ? "
หลินเทียนได้ยกมือขึ้นมาดีดหน้าผากของนางต่อก่อนที่จะพูดว่า
"ก่อนหน้านี้ข้าเคยยืมเงินเจ้าไปและเจ้าถามข้าว่าข้าเอาไปทำอะไรซึ่งครั้งนั้นข้าก็ได้ตอบไปว่ามันเป็นความลับและมันทำให้เจ้าไม่พอใจอย่างมาก พอดีวันนี้ข้าคิดว่าจะเปิดเผยความลับที่สุดของข้าให้เจ้าได้รับรู้ "
"? "
ซูชูวได้แต่ผงะไป
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมทั้งจูงมือนางเดินออกไปทางหน้าประตูทางเข้าสำนัก
"โอ้ ! เจ้านี่ ! "
ซูชูวได้แต่พูดออกมาด้วยท่าทางดุ ๆ
.....
ด้านนอกสำนักนั้นเต็มไปด้วยทหารนับพันคนซึ่งต๊วนหยานและโจวเฮอยืนเผชิญหน้ากับมู่ชิงและฉีดงที่กำลังแสดงสีหน้าสุขุมออกมา
ทันใดนั้นเองที่บรรยากาศโดยรอบเริ่มตึงเครียดยิ่งกว่าเก่า
ผู้คนรอบข้างต่างสงบนิ่งขณะที่มองไปที่กันและกัน
ณ ตอนนี้ภายในสำนักได้มีชายและหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินออกมาด้วยกัน
"ออกมาแล้ว ! "
พูชิที่อยู่ห่างออกไปได้แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา
ซินเหยาได้มองไปยังภาพที่หลินเทียนกำลังจูงมืออยู่กับซูชูวก่อนที่จะอดพูดออกมาไม่ได้ว่า
"เจ้าคนหน้าม่อ ! "
พูชิที่อยู่ข้างๆเองยังอดรู้สึกอึดอัดแทนหลินเทียนไม่ได้ นี่มันหมายความว่าไง ?
ณ ตอนนี้สายตาของทุกผู้คนได้จับจ้องไปที่หลินเทียน
"เป็นมัน ! "
ทหารสามคนที่โห่ร้องอยู่ด้านหน้าได้ชี้ไปทางหลินเทียนพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดัง
โจวเฮอได้แสดงแววตาที่ดุร้ายออกมาพร้อมกับพูดว่า
"ไอ้โจรชั่ว ! "
ต๊วนหยานได้สำรวจหลินเทียนอย่างตั้งใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลินเทียนได้ปล่อยมือของซูชูวพร้อมกับเดินไปทางมู่ชิงและฉีดงก่อนที่จะโค้งคำนับแล้วพูดต่อว่า
"สวัสดีท่านผู้อาวุโสทั้งสอง "
มู่ชิงได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
"เรื่องรายละเอียดนั้นซูชูวน่าจะบอกเจ้าแล้ว ? "
"ขอรับ "
หลินเทียนได้ตอบกลับ
"งั้นก็ฝากเจ้าด้วยแล้วกัน ไม่ต้องกังวลเพราะว่าทางสำนักยืนอยู่ข้างเจ้าอย่างแน่นอน "
มู่ชิงได้พูดออกมา
ฉีดงที่อยู่ข้างๆเองก็ยิ้มออกมาเช่นกัน
หัวใจของหลินเทียนตอนนี้รู้สึกอบอุ่นอย่างมากก่อนที่จะโค้งคำนับอีกครั้งแล้วพูดต่อว่า
"ขอขอบคุณท่านผู้อาวุโสทั้งสอง "
หลังจากที่กลับมายืนตรงแล้วหลินเทียนก็ได้ก้าวออกไปพลางมองไปทางต๊วนหยานและโจวเฮอพร้อมทั้งพูดว่า
"เพื่อจะจับข้าถึงกับต้องแห่กันมาขนาดนี้เลยหรอ "
แม้ตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับทหารนับพัน เจ้าเมืองและโจวเฮอแต่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถึงแรงกดดันแม้แต่น้อย
เมื่อมองไปยังหลินเทียนแล้วคิ้วของต๊วนหยานได้ขมวดเข้าหากันโดยทันทีเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้มีอายุราวๆ 16 ปีเท่านั้นแต่กลับแสดงสีหน้าไม่แยแสแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารนับพัน นี่มันทำให้เขารู้สึกแปลกๆมากๆ
"เจ้าคือหลินเทียน ? ไหนบอกมาหน่อยสิว่าฆ่าคนของเราทำไม ? รู้ไหมว่ามันเป็นความผิดที่ร้ายแรงขนาดไหน ? "
หลินเทียนได้กวาดตามองต๊วนหยานแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรทว่ากลับมองไปทางโจวเฮอแล้วพูดต่อว่า
"โจวเฮอ ข้าสังหารลูกเจ้าในการประลองเป็นตายที่ยุติธรรมแต่เจ้าดูเกลียดข้ามากเลยนะทว่าข้าคิดว่าการเอาชีวิตลูกน้องตัวเองมาแลกเพื่อที่จะให้เจ้าได้ล้างแค้นนี่มันเกินไปหน่อยนะ "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส
คำพูดนี้ทำให้ท่าทางของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปทันที
"อะไร ? "
หลายๆคนได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนและโจวเฮอพร้อมทั้งกลับมาจดจ่อที่หลินเทียนอีกครั้ง
โจวเฮอได้นำกองกำลังทหารนับพันบุกมาที่นี่เพื่อชิงตัวหลินเทียนแต่ตอนนี้หลินเทียนกลับเปลี่ยนสถานการณ์กลายเป็นคนที่ตั้งคำถามกับโจวเฮอซะงั้น นี่มันทำให้ผู้คนถึงกับงงงวยไปทันที อีกด้านนึงเจ้าเมืองเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับการที่หลินเทียนไม่แยแสเขาแม้แต่น้อยแต่เมื่อฟังจากคำพูดของหลินเทียนแล้วก็ทำให้เขาถึงกับตกตะลึงไปทันที นี่มันอะไรกัน ?
"เจ้านี่ ! "
ซูชูวที่อยู่ด้านหลังได้แต่มีนัยน์ตาเบิกกว้างเพราะนี่หลินเทียนกำลังสอบสวนโจวเฮอ ?
ท่าทางของโจวเฮอได้หม่นหมองลงพร้อมกับประกายตาที่เย็นยะเยือกยิ่งกว่าเก่า
"หลินเทียน! ไอ้คนเหี้ยมขี้อิจฉา ! เจ้าฆ่าคนของข้าดังนั้นมันเป็นความผิดไม่สามารถละเว้นได้ เจ้าต้องถูกประหารโดยการแยกชิ้นส่วนทันที ! "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วผู้คนทั้งหลายถึงกับต้องสูดหายใจเข้าสึกไปตามๆกัน
ประหารโดยการแยกชิ้นส่วนนี่มันเป็นอะไรที่โหดร้ายมากๆ
หลินเทียนได้มองไปทางโจวเฮอพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโจวเฮ่าถึงได้มีนิสัยแบบนั้น พอได้เห็นเจ้าแล้วข้าเข้าใจได้เลยว่าลูกไม้มันหล่นไม่ไกลต้นจริงๆ "
"เจ้า...."
น้ำเสียงของโจวเฮอได้เปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่งกว่าเก่า
แม้ว่าคำพูดของหลินเทียนจะสั้นๆแต่ใจความมันรุนแรงมากๆ ทุกๆคนที่ได้ยินสามารถเข้าใจถึงความหมายได้อย่างชัดเจน
"ฆาตกร ! "
ณ ตอนนี้ทหารทั้งสามคนได้ตะโกนออกมาพร้อมกับหนึ่งในนั้นที่ได้พูดออกมาด้วยสีหน้าเกลียดชังว่า
"มันเป็นเจ้าที่ทำลายจดหมายรายงานสงครามของเราที่ได้รับมาจากกองบัญชาการนอกเมืองแถมยังฆ่าท่านเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้งสามคนอีกด้วย ! เจ้าจะต้องตายเยี่ยงสุนัข ! "
"ตายเยี่ยงสุนัข !"
ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆเขาก็ได้ตะโกนออกมาด้วยสีหน้าที่โกรธจัดเช่นกัน
และในเวลาเดียวกันนี้เองที่ในเหล่าทหารนับพันได้มีหลายสิบคนเดินออกมาชี้ไปยังบาดแผลที่หลินเทียนสร้างเอาไว้ให้พวกเขา
"แผลพวกนี้ได้รับมาจากเจ้านั่นทั้งหมด ! "
หนึ่งในพวกเขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกลียดชัง
ที่ด้านหน้านั้นมีทหารหลายคนฟกช้ำไปทั้งตัว บางคนมีแผลที่หน้าอก หลัง ขา ท้องซึ่งหนักหน่อยก็มีคนที่แขนหัก ไหล่หักกำลังแสดงสีหน้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมออกมา
เมื่อมองไปยังสภาพของคนเหล่านี้แล้วท่าทางของผู้ชมทั้งหลายก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
"โหดเหี้ยมจริงๆ ! "
หลายๆคนได้ส่งเสียงออกมา
แม้กระทั่งมู่ชิงและฉีดงเองก็ยังต้องขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปทางหลินเทียน
เจ้าเมืองได้แสดงท่าทางที่หม่นหมองออกมาพร้อมกับถามว่า
"หลินเทียน เจ้าเป็นคนทำร้ายพวกเขา ? "
"อื้ม ข้าเอง "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างไม่แยแส
เมื่อฟังจากคำพูดของหลินเทียนแล้วผู้ชมทั้งหลายต่างผงะไปเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าหลินเทียนจะบ่ายเบี่ยงแต่กลับยอมรับด้วยสีหน้ามีความสุขซะงั้น
เจ้าเมืองได้ถามต่อว่า
"เจ้าเป็นคนลงมือสังหารเฉินปิงและคนอื่นๆใช่ไหม ? "
"อื้ม "
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเก่า
ผู้ชมถึงกับแข็งค้างไปตามๆกัน นี่มันตอบตรงเกินไปไหม ?
ฉีดงและมู่ชิงเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วขณะที่ซูชูวที่อยู่ด้านหลังโกรธจัดจนเกือบจะกระโดดไปกัดเขาแล้ว
"เจ้านี่ไม่คิดจะโต้แย้งอะไรเลย ? "
ซินเหยาที่อยู่ออกไปได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่สงสัย
มีเพียงพูชิที่ยังแสดงท่าทางสุขุมขณะที่พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"แม่นางรอดูไปก่อนสิ "
ซินเหยาได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมาแต่ก็ยังคงจ้องมองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้า
ต๊วนหยานที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าสำนักได้แสดงสีหน้าที่เย็นชากว่าเก่าพร้อมทั้งพูดว่า
"ก็ดี เจ้ากล้ายอมรับการกระทำดังนั้นคิดจะยอมรับความผิดไหม ? "
"ยอมรับความผิด ? ข้าไม่คิดว่าข้าเป็นฝ่ายผิดนะ "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
"เจ้า ! "
ท่าทางของเจ้าเมืองในตอนนี้ดุร้ายอย่างมากเพราะว่ามารยาทของหลินเทียนนี่มันเกินจะรับไหวจริงๆ
"ต๊วนหยาน เจ้าอย่าได้แผดกลิ่นอายออกมาตามอำเภอใจ ! "
หลินเทียนได้พูดต่อด้วยท่าทางราบเรียบว่า
"เป็นถึงเจ้าเมืองดังนั้นในเมื่อยังไม่ได้บทสรุปข้าคิดว่าเจ้าควรจะสืบสวนเสียก่อนนะ "
"สืบสวน ? มีอะไรให้สืบสวนอีก ? เราสืบสวนทั้งหมดแล้ว ! "
เจ้าเมืองได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
"งั้นหรอ ? ไม่มั้ง "
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมกับมองไปยังกองทหารธรรมดาตรงหน้าทั้ง 3 คนแล้วพูดต่อว่า
"พวกมันบอกว่าจดหมายรายงานสงครามจากกองบัญชาการนอกเมืองได้ถูกทำลายในมือข้าไม่ทราบว่าเจ้าส่งคนออกไปถามท่านผู้บัญชาการหลัวเยวี่ยเฉิงแล้วหรือยังว่ามันมีเรื่องแบบนี้หรือเปล่า ? "
"นี่...."
ต๊วนหยารได้ขมวดคิ้วไปโดยทันที
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
"ดูเหมือนว่าจะยังสินะ "
ท่าทางของเจ้าเมืองในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างมากเพราะเขาคิดว่ารอยยิ้มของหลินเทียนมันทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากๆ
ณ ตอนนี้เองที่โจวเฮอได้พูดออกมาว่า
"ท่านเจ้าเมือง !! ในเมื่อไอ้โจรนี่มันอยากจะคว้าฝางเส้นสุดท้ายงั้นก็ดี ! ข้าจะส่งคนไปยืนยันเรื่องนี้กับผู้บัญชาการหลัวเยวี่ยเฉิงเอง "
โจวเฮอได้แสยะออกมาเพราะว่าหลัวเยวี่ยเฉิงนั้นเป็นเพื่อนของเขามาหลายปีดังนั้นจะไม่ช่วยเขาได้ยังไงกัน
คิ้วของเจ้าเมืองได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"อื้ม แบบนั้นก็ดี "
แม้ว่าเขาจะคิดว่ามันดูเป็นปัญหาไปหน่อยแต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทางสำนักจิ่วหยางดังนั้นเขาคิดว่าต้องทำให้ทุกอย่างตรงไปตรงมาและหลินเทียนจะได้ยอมรับบทลงโทษจากหลักฐาน
โจวเฮอได้พยักหน้าพร้อมกับมองไปทางหลินเทียนแล้วพูดกับทหารทั้งสามคนว่า
"เจ้าคุ้นเคยกับเส้นทางไปไกลเป็นอย่างดีดังนั้นรีบไปรีบกลับแล้วกัน !"
"ได้ขอรับ ! "
ทั้งสามคนได้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พูดจบแล้วพวกเขาก็รีบวิ่งไปทันที
"หยุดก่อน "
ณ ตอนนี้หลินเทียนได้พูดออกมา
โจวเฮอได้แสยะออกมาพร้อมกับพูดว่า
"เป็นอะไรไป ? กลัว ? "
หลินเทียนไม่ได้มองไปทางโจวเฮอแม้แต่น้อยทว่ากลับมองไปยังเจ้าเมืองอย่างไม่แยแสแล้วพูดออกมาว่า
"ต๊วนหยาน ข้าถามอะไรอย่างสิ หากว่าทหารธรรมดาๆกล้าโกหกและขัดคำสั่งของท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่จะได้รับโทษอย่างไร ? "
คิ้วของต๊วนหยวนได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะป้องมือแล้วพูดด้วยท่าทางที่เคารพว่า
"ท่านแม่ทัพนั้นผ่านสมรภูมิรบมาหลายสิบปีซึ่งเป็นผู้ที่หยุดยั้งการรุกรานของศัตรูและทำให้จักรวรรดิอยู่ในความสงบสุขดังนั้นท่านจักรพรรดิเคยพูดเอาไว้ว่า หากว่าหลังจากนี้ใครกล้าที่จะโกหกหรือขัดคำสั่งท่านแม่ทัพแล้วก็มีความผิดเช่นเดียวกับการขัดขืนอำนาจของจักรวรรดิดังนั้นจะต้องถูกประหารเก้าชั่วโครต ! "
ท่าทางของทุกคนต่างเปลี่ยนเป็นเคารพเพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่มีความสำคัญมากๆ
"แล้วมีอะไรอีกไหม !"
เจ้าเมืองได้จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่เย็นชา
"ไม่ล่ะ "
หลินเทียนได้ยิ้มแห้งๆออกมาพร้อมกับขยับมือขวาเล็กน้อยก่อนที่ตราสัญลักษณ์สีทองจะปรากฏออกมาแล้วมองไปยังทหารทั้งสามคนที่กำลังจะไปยืนยันเรื่องจดหมายแล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า
"เอาสิ่งนี้ไประหว่างถามหลัวเยวี่ยเฉิงด้วย "