Divine King Of All Directions - 096
Divine King Of All Directions - 096
บนถนนเมืองเฟิงเจียนนั้นมีทหารของกองบัญชาการกำลังรายล้อมร่างของหลินเทียนเอาไว้มากมายขณะที่กวัดแกว่งอาวุธเข้าโจมตีเขา
แต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย
"โครม ! "
หลินเทียนได้ยกเท้าขึ้นมาเตะทหารคนหนึ่งจนกระเด็นออกไปไกลและหลังจากที่กระแทกกับพื้นแล้วก็หมดสภาพไปทันที
หลินเทียนได้จับด้ามหอกที่แทงเข้ามาพร้อมกับเหวี่ยงร่างของทหารคนนึงออกไปแล้วแย่งเอาหอกมาทันที
แกร๊ง ! เกิดเสียงปะทะกันขึ้นก่อนที่จะส่งผลให้ทหารอีกคนลอยออกไปไกล
"ระยำ ! "
"รุมมันให้หมด ใช้ค่ายกลซะ ! "
"จัดค่ายกล ! "
ทหารธรรมดาๆที่ยังเหลืออยู่ได้ตะโกนออกมา
ในสนามรบนั้นเหล่าทหารของจักรวรรดิมักจะมีกลยุทธ์ที่ใช้เพิ่มความสามารถในการรบซึ่งมันเป็นสิ่งที่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมถ่ายทอดให้เหมือนๆกับการโจมตีผสานแต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับข่ายอาคมผสานได้อยู่ดี
เหล่าทหารหลายคนได้เข้าประจำตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
"อสรพิษคลั่ง ! "
ผู้นำของทหารได้ตะโกนออกมาอย่างดัง
พริบตานั้นเองที่กลิ่นอายของทหารทั้งหมดได้รวมกันเป็นหนึ่งก่อนที่จะเกิดเป็นภาพของอสรพิษขึ้นจากสายลมอันบ้าคลั่ง
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ข้างๆถนนก็ได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปว่า
"อสรพิษคลั่ง นี่มันเป็นการโจมตีผสานที่แข็งแกร่งและรุนแรง ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นที่นี่ "
หลังจากที่พูดจบแล้วชายคนนั้นก็ได้ทิ้งระยะห่างออกไป
ซูชูวที่กำลังปกป้องหลินซี่อยู่เองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับตะโกนออกมาว่า
"หลินเทียนระวังด้วย มันเป็นการโจมตีผสานทีสามารถรวมการโจมตีของทุกคนเป็นหนึ่งซึ่งพลังทำลายของมันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว"
ซูชูวนั้นเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสมู่ชิงดังนั้นถึงรู้เกี่ยวกับค่ายกลนี้ดี
ณ ตอนนี้ภาพของอสรพิษได้เสร็จสมบูรณ์แล้วขณะที่กลิ่นอายอันรุนแรงของทหารหลายส บคนได้พวยพุ่งออกมาเหมือนเปลวเพลิง
"เฒ่าเฉิน สมแล้วที่คนเหล่านี้ได้เป็นหัวกะทิของเจ้าที่สามารถผสานการโจมตีของสิบกว่าคนเป็นหนึ่งเดียวได้ ! "
เจิ้งโม่ที่อยู่ข้างๆได้พูดออกมา
ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเฉินปิงได้คงที่แล้วดังนั้นถึงได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
"จริงๆแล้วพวกเขาฝึกด้วยกันดังนั้นถึงได้เข้ากันแบบนี้ "
หลังจากที่เงียบไปเขาก็ได้จ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดว่า
"ไอ้ระยำนั่นมันกล้าฆ่านายน้อยโจวแถมยังลอบโจมตีตอนข้าเผลออีกดังนั้นต้องให้มันตายเยี่ยงสุนัข ! "
หลี่หยุนดงได้พูดต่อว่า
"อสรพิษคลั่งนี่น่าจะจัดการมันได้อย่างแน่นอนแต่เจ้าต้องบอกหัวกะทิของเจ้าด้วยว่าถ้าให้ดีก็จับมันไปเป็นๆแล้วให้ท่านผู้บัญชาการเป็นคนสั่งสอนมันด้วยตัวเอง "
"ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนที่มันใกล้จะตายข้าจะสั่งให้พวกเขาหยุดเอง "
เฉินปิงได้พูดออกมา
"ตาย ! "
หนึ่งในหัวหน้ากลุ่มทหารได้ตะโกนออกมา
ชายคนนี้อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในจุดหัวใจหลักของค่ายกลนี้
"ฆ่า !"
"ฆ่า !"
"ฆ่า !"
เหล่าทหารทั้งหลายในค่ายกลได้ส่งเสียงออกมาก่อนที่จิตสังหารของพวกเขาจะพวยพุ่งออกมามากกว่าเก่า
แรงกดดันเหล่านี้ทำให้ผู้ชมรอบข้างถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไปพร้อมกับใบหน้าที่ซีดลง
เหล่าทหารทั้งสิบกว่าคนได้เคลื่อนไหวพร้อมกันเหมือนดั่งการโมตีของอสรพิษที่ไร้เทียมทาน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีผสานเหล่านี้แล้วหลินเทียนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย เขาได้ยกมือขวาขึ้นมาพร้อมทั้งเหวี่ยงหอกพุ่งทะลุร่างของอสรพิษไปทันที
"! "
เสียงร้องโหยหวนได้ดังขึ้น
ทันใดนั้นเองที่รู้สึกเหมือนว่าเสาหลักของอสรพิษได้พังทลายลงและทำให้มันทรุดลงทันที
หลี่หยุนดงและพว อีกสองคนได้แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
"เป็นไปไม่ได้ !"
เฉินปิงได้โห่ร้องออกมา
อสรพิษคลั่งถูกทำลายเป็นชิ้นๆ !
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น หลี่หยุนดงหรือแม้กระทั่งเจิ้งโม่เองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปแบบเดียวกัน
"การโจมตีเดียว......นี่มันเป็นไปได้ไงกัน ? "
หลี่หยุนดงถึงกับผงะไป
แต่ผู้คนรอบข้างนั้นได้แต่มีนัยน์ตาที่เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
"นี่.......เขาทำอะไรไป !? "
"อสรพิษคลั่งถูกทำลาย ?!! "
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนถึงกับสติหลุด
การโจมตีผสานของกองกำลังทหารที่ได้รับมาจากปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมกลับถูกทำลายด้วยการโจมตีเดียว
แม้กระทั่งซูชูวเองก็ยังต้องตาถลนด้วยความตกตะลึง ด้วยความที่นางเป็นศิษย์รักของมู่ชิงดังนั้นถึงรู้ว่าค่ายกลอสรพิษคลั่งนี้ไม่ธรรมดา แม้ว่าหลินเทียนจะอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะแต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาจัดการกับค่ายกลนี้แต่สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกโง่งมคือเขาโจมตีแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำลายมันลง
ตรงตำหนักที่สองของตำหนักแลกสมบัตินั้นซินเหยาและพูชิก็กำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้นี้
"ค่ายกลนั่นใช้การโจมตีเดียวก็พอแล้ว "
พูชิได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"กล้าอวดค่ายกลนี่กับปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 3 นี่มันกระจอกจริงๆ "
ซินเหยาได้แสยะออกมา
เมื่อค่ายกลได้พังทลายลงแล้วท่าทางของเหล่าทหารเองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนได้แสดงสีหน้าเหมือนกับแมลงวันไร้หัวไม่มีผิด
นี่เป็นจุดอ่อนของค่ายกลนี้เพราะว่าแม้มันจะสามารถเสริมพลังให้กับกลุ่มของพวกเขาได้แต่หากอยู่ดีๆมันถูกทำลายอย่างฉับพลันก็จะทำให้พวกเขาสับสนกับสถานการณ์ของตัวเองในเวลาสั้นๆแล้วส่งผลให้ศักยภาพในการต่อสู้ของแต่ละคนลดลงอย่างมาก
"ระยำ ! รวมกลุ่มอีกครั้ง ! "
"เร็ว !"
หนึ่งในกลุ่มทหารได้ตะโกนออกมา
หลินเทียนได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อต้องเผชิญกับกองกำลังทหารกว่าสิบคนนั้นท่าทีของเขายังคงไม่แยแสสิ่งใดขณะที่ส่งการโจมตีอย่างไร้ปราณีจนทำให้หลายคนได้โห่ร้องออกมา ท้ายที่สุดเขายังใช้แม้กระทั่งทักษะฝ่ามือเงาเพื่อส่งฝ่ามือทั้ง 18 ออกไปโจมตีพวกเขา
"โครม !"
"โครม !"
"โครม !"
เมื่อฝ่ามือได้เข้าปะทะกับเป้าหมายนั้นมันได้ส่งเสียงดังออกมาขณะที่กองกำลังทหารเองก็ได้แต่ส่งเสียงโอดครวญอีกครั้ง
พริบตาเดียวเหล่ากองกำลังนับสิบได้ถูกจัดการจนกองกับพื้นทั้งหมด
ผู้ชมที่อยู่ข้างทางทั้งหมดล้วนแต่สุดหายใจเข้าลึกไปตามๆกัน
ชายคนเดียวสามารถจัดการกองกำลังนับสิบนี่มันเป็นยอดคนแล้ว !
"กล้านักนะ ! "
เสียงคำรามได้ดังขึ้น
หลายๆคนได้ชะงักไปก่อนที่จะเห็นเฉินปิงที่มีสีหน้าหมองหม่นส่วนหลี่หยุนดงและเจิ้งโม่ที่อยู่ข้างเอาก็มีสีหน้าเย็นชาไม่ต่างกัน
"นี่......"
"เจ้าหน้าที่อาวุโสกองบัญชาการทั้งสาม พวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะเลยนะ ! "
"เจ้าหนูนั่นจบแล้วล่ะ ไม่รู้จักอดทนเสียเลย "
หลายๆคนได้แต่กลืนน้ำลายตัวเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อหันหน้ากลับไปมองทางหลินเทียนแล้วพวกเขาก็ได้แต่แข็งค้างไป
เห็นเพียงแค่ว่าหลินเทียนที่กวาดล้างกองกำลังนับสิบกำลังก้าวเท้ามุ่งหน้าเข้าไปหาเฉินปิงและคนอื่นๆซะงั้น
"นี่....เขา........คิดจะทำอะไรกัน ? "
หลายๆคนอดไม่ได้ที่จะมีนัยน์ตาที่หดเล็กลง
ซินเหยาและพูชิที่สังเกตการณ์อยู่เองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มออกมา
"ดูเหมือนว่ามีเรื่องสนุกให้ดูแล้วสิ "
ซินเหยาได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
บนถนน , หลินเทียนยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า
"เจ้าขยะทั้งสามอย่างเจ้ากล้าดีนะที่ล่วงเกินข้า ! "
แต่ละคนก็มีสิ่งที่ไม่สามารถทนได้เหมือนดั่งการกระตุกหนวดเสือซึ่งสำหรับหลินเทียนแล้วมันคือหลินซี่ที่เปรียบเสมือนสิ่งที่กระตุ้นความโกรธของเขา เด็กหญิงตัวน้อยที่ฉลาดและมีไหวพริบนี้เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของเขา
สามเดือนมาแล้วที่เขาไม่ได้ทำหน้าที่ของพี่ชายที่ดีแม้ว่านางจะเตรียมอาหารให้กับเขาทุกวันเหมือนกับตอนที่เขาเพิ่งมายังโลกใบนี้ ตอนนี้เมื่อเขาตัดผ่านไปยังเขตแดนชีพจรเทวะได้แล้วถึงได้นำนางออกมาเที่ยวเล่นและกลับทำให้นางหวาดกลัวเพราะการกระทำของคนเหล่านี้นี่มันทำให้ความโกรธได้ปะทุออกมาจากหัวใจของเขา
พริบตาเดียวที่หลินเทียนได้พุ่งเข้าประชิดร่างของทั้งสามคน
ความเร็วระดับนี้ทำให้พวกเขาผงะไปทันที
เฉินปิงได้เอื้อมมือออกไปคว้ากระบี่ที่เอวแต่อย่างไรก็ตามในวินาทีนี้เองที่ลูกเตะของหลินเทียนได้ปะทะเข้ากับทรวงอกของเขาอย่างจังจนส่งผลให้ร่างของเขาพุ่งออกไปเหมือนดั่งอุกกาบาตและอดไม่ได้ที่จะโอดครวญออกมา
"เจ้า.."
หลี่หยุนดงและเจิ้งโม่เองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปพร้อมทั้งคว้าไปยังร่างของหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของพวกเขาไม่สามารถเทียบชั้นกับหลินเทียนได้เลย
หลินเทียนได้ยกมือซ้ายขึ้นมาจับข้อมือของหลี่หยุนดงเอาไว้แล้วบิดมันหลังจากนั้นก็ทุ่มร่างของเขาลงกับพื้น ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เขาได้ยกมือขวาขึ้นพร้อมทั้งฟาดเข้าไปที่แก้มของเจิ้งโม่เต็มแรง
ร่างของเจิ้งโม่ได้ลอยละลิ่วไปไกลขณะที่บ้วนเลือดที่ปะปนไปด้วยเศษฟันออกมา
"ระยำ ! เจ้ากล้าลงมือกับพวกเรางั้นหรอ ! "
หลี่หยุนดงได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ
หลินเทียนได้ก้มหน้าลงมามองหลี่หยุนดงพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
"พ่อคนนี้กล้าแม้แต่จะฆ่าพวกเจ้าด้วยซ้ำ !"
เขาได้ยกเท้าขวาขึ้นพร้อมทั้งเหวี่ยงเตะอัดไปยังหน้าท้องของหลี่หยุนดงอย่างสุดแรง
โครม !ร่างของหลี่หยุนดงได้กระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพงที่อยู่ไม่ไกลก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา
"พระเจ้าช่วย...."
"นี่ นี่ นี่ เทพองค์นี้จุติลงมา ากไหนกัน ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ? "
"เจ้าหน้าที่อาวุโสกองบัญชาการทั้ง 3 คนนั้นเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะเลยนะ ! "
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนได้แต่พึมพำออกมา
ขนาดมีผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะอยู่ด้วยกันตั้งสามคนแต่กลับถูกเตะจนปลิวไปตามๆกัน
"ท่านเจ้าหน้าที่อาวุโส ! "
ทหารหลายคนได้โห่ร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อมองไปยังหลินเทียนอีกครั้งแล้วพวกเขาก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมา คนๆนี้มันสัตว์ประหลาดชัดๆ หน้าตาดูเด็กๆแต่กลับแข็งแกร่งเกินมนุษย์ถึงขั้นสามารถถีบส่งหัวหน้าของพวกเขาทั้งสามคนได้สบายๆ !
เฉินปิงและคนอื่นๆได้คลานกลับขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
"ระยำ !"
เฉินปิงได้แสดงแววตาที่เย็นชาออกมาพร้อมกับสบถด้วยความโกรธ
หลี่หยุนดงและเจิ้งโม่ที่อยู่อีกฝั่งเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่อับอายออกมาเพราะพวกเขาเป็นถึงเจ้าหน้าที่อาวุโสกองบัญชาการเมืองนี้ที่มีชื่อเสียงและเกียรติยศมากมายแต่ตอนนี้กลับถูกเด็กหนุ่มเตะกลิ้งไปมานี่มันเสียหน้าชัดๆ !
"หากว่าไม่ข้าเจ้าข้าไม่ขอเป็นคนอีกแล้ว !"
เฉินปิงได้คำรามออกมา
"งั้นหรอ ! "
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"ไม่รู้จักคุณธรรมของผู้บ่มเพาะดังนั้นเกิดมาชาติหน้าก็เป็นขยะแล้วกัน "
เขาได้ใช้เท้าขวาเขี่ยหอกขึ้นมาจับเอาไว้ในมือก่อนที่จะถ่ายเทแก่นทักษะของกระบี่สายฟ้าลงไปแล้วซัดไปสุดแรง
หอกนั้นได้ตัดผ่านอากาศเหมือนดั่งคลื่นสายฟ้า
"พุฟฟฟฟฟ ! "
พริบตานี้เองที่เลือดได้ฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ขณะที่หอกพุ่งทะลุหน้าอกของเฉินปิงและลากร่างไร้วิญญาณของเขาพุ่งไปปักอยู่กับกำแพงหินที่สูงกว่า 130 ฟุตโดยที่กำแพงด้านหลังนั้นถูกชโลมไปด้วยเลือด
เมื่อมองออกไปแล้วผู้คนทั้งหลายได้แต่กรีดร้องออกมาทันที
"ฆ่า........ฆ่าคน ฆาตกร ! "
หลายคนได้แต่ตกตะลึงจนสั่นไปทั้งตัว
ผู้คนที่อยู่รอบข้างส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวเช่นนี้แล้วจะไม่ตื่นกลัวได้อย่างไร