Divine King Of All Directions - 090
Divine King Of All Directions - 090
หลังจากที่ต้องอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของหลินเทียนแล้วโจวเฮ่าก็ได้แต่โอดครวญออกมาไม่หยุด ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวขณะที่คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งและเห็นเพียงการสั่นไหวของฝ่ามือเขาก่อนที่จะสำแดงทักษะฝ่ามือลวงตาออกมา
หลินเทียนได้ถอยร่นออกไปก่อนที่จะใช้กระบี่ป้องกันการโจมตีเอาไว้
"สมแล้วที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะ แข็งแกร่งจริงๆ "
เขาได้พึมพำออกมา
อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้เองที่คำพูดนี้ได้ดังก้องอยู่ในหูของโจวเฮ่า
"ข้าจะฆ่าเจ้า ! "
โจวเฮ่าได้คำรามออกมาขณะที่ดวงตาของเขาได้เป็นประกายอันโหดเหี้ยมและพุ่งเข้าไปทางหลินเทียน
เขารีดเอาพลังทั้งหมดออกมาพร้อมทั้งส่งฝ่ามืออันรุนแรงเข้าใส่หลินเทียน
ตอนนี้เขาโกรธจัดเป็นอย่างมากเพราะเขาที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะกลับถูกไล่ต้อนถึงขนาดนี้ภายใต้หลินเทียนที่อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายเท่านั้น
"โครม ! "
เสียงดังสนั่นได้ถูกส่งออกมาพร้อมๆกับฝ่ามืออันรุนแรง
หลินเทียนยังคงสำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์อย่างไม่แยแสพร้อมทั้งกวัดแกว่งกระบี่สายฟ้าในมือออกไปเพื่อทำลายการโจมตีของโจวเฮ่าแล้วใช้มือซ้ายหักแขนขวาของโจวเฮ่าออก
เสียงแตกหักได้ดังขึ้น
"ระยำ ! "
โจวเฮ่าได้ส่งเสียงคำรามออกมาขณะที่เหวี่ยงมือซ้ายเข้าใส่หลินเทียนอย่างจัง
หลินเทียนได้ส่งหมัดเข้าปะทะโดยทันที
ฝ่ามือและกำปั้นได้ปะทะกันก่อนที่จะส่งเสียงดังขึ้นพร้อมทั้งทำให้โจวเฮ่ากระเด็นออกไปหลายก้าว
แกร๊ง !
ณ ตอนนี้เสียงคำรามของกระบี่ได้ดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่คลื่นกระบี่อันรุนแรงจะพุ่งทะลุหัวไหล่ด้านซ้ายของโจวเฮ่า
โจวเฮ่าได้โห่ร้องออกมาอย่างน่าสงสารก่อนที่ร่างของเขาจะกระเด็นออกไปไกล
ระหว่างที่อยู่กลางอากาศนั้นหลินเทียนก็ได้เข้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมทั้งต่อยอัดลงไปกลางหน้าท้องของเขาอย่างสุดแรง
โครม ! ร่างของเขาได้พุ่งลงไปกลางเวทีและกระอักเลือดออกมาคำโตด้วยสภาพที่น่าสังเวช
เมื่อถูกจัดการอีกครั้งในตอนนี้นัยน์ตาของโจวเฮ่านั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำขณะที่พลังภายในร่างปั่นป่วนแต่น่าเสียดายที่แขนทั้งสองข้างของเขาหมดสภาพไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงสองขาที่ต้องใช้ความพยายามในการควบคุม
และตอนนี้เองที่หลินเทียนได้เข้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมทั้งกระทืบร่างเขาอย่างหนักหน่วง
ฝ่าเท้าของหลินเทียนได้กระทืบลงไปกลางหน้าอกของเขาอย่างจังก่อนที่จะส่งเสียงแตกหักออกมา
"อ๊ากกกก ! "
โจวเฮ่าอดที่จะส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้
"หุบปาก ! "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่จะยกเท้าออกแล้วเหวี่ยงหมัดซ้ายออกไปสุดแรง
โครม ! พื้นเวทีได้เป็นหลุมลงไปขณะที่โจวเฮ่ากระอักเลือดออกมาไม่หยุด ในตอนนี้สภาพเวทีนั้นแตกกระจายเหมือนในแมงมุมที่ยืดออกไปในทุกทิศทุกทาง
นัยน์ตาของผู้ชมหลายๆคนถึงกับเบิกกว้าง
"สุดยอด...... นี่มันแข็งแกร่งจริงๆ !"
"นี่..."
"นี่เขาอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายจริงๆงั้นหรอ ? ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ? "
จิตใจของผู้ชมหลายๆคนสั่นสะท้านไปตามๆกัน
ศิษย์ภายในที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเองก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
ในขณะนี้หลายๆคนก็ตระหนักถึงความจริงอีกเรื่อง
"โจวเฮ่า....พ่ายแพ้แล้ว "
หลายคนได้พึมพำออกมา
แม้ว่าเสียงกระซิบจะเบามากๆแต่ก็ทำให้ผู้คนรอบข้างถึงกับผงะไป
โจวเฮ่าผู้ซึ่งอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะที่เป็นลำดับที่ 1 ในศิษย์ภายนอกกลับพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ใหม่ที่อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกาย !
หลายๆคนถึงกับแสดงสีหน้าที่โง่งมออกมา
หลินเทียนที่อยู่บนเวทีเองก็ได้ยกเท้าขวากระทืบซ้ำลงไปก่อนที่จะหันปลายกระบี่เข้าหาลำคอของโจวเฮ่าด้วยท่าทางข่มขู่
ท่าทางของโจวเฮ่าได้เปลี่ยนไปพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมาพลางพูดว่า
"เจ้าคิดจะทำอะไร ? "
"ทำอะไร ? "
หลินเทียนได้พูดติดตลกออกมาว่า
"นี่มันเป็นการประลองเป็นตาย หากว่าเจ้าชนะข้าแล้วเจ้าคิดจะทำอะไรล่ะ ? "
หลังจากที่พูดจบแล้วกระบี่ของเขาก็เคลื่อนเข้าประชิดลำคอของโจวเฮ่ามากกว่าซึ่งส่งผลให้ปลายกระบี่กรีดเข้าไปในเนื้อของเขาจนเลือดไหลซิบออกมา
พริบตานี้เองที่โจวเฮ่ารู้สึกเย็นไปทั้งตัว
"หลินเทียน เจ้ากล้าดียังไง ! "
หลูเชิงได้ส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมทั้งวิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า
"พี่ชายโจวเฮ่านั้นเป็นถึงลูกชายของผู้บัญชาการกองทัพของเมืองนี้ ยังไม่รีบเก็บกระบี่อีกเรอะ ! "
หลินเทียนได้หันหน้ากลับไปมองด้วยสายตาที่เย็นชา
หลูเชิงถึงกับรู้สึกกลัวขึ้นมาแต่ก็ยังรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า
"หากว่าเจ้ากล้าลงมือสังหารพี่ชายโจวล่ะก็..........."
"ไสหัวไปให้พ้น ! "
หลินเทียนได้หันร่างกลับมาพร้อมทั้งฟาดฟันเข้าใส่เขาโดยทันที
คลื่นกระบี่อันรุนแรงและน่ากลัวได้ส่งร่างของหลูเชิงกระเด็นออกไปไกล
หลูเชิงที่ตกลงมากระแทกกับพื้นได้กระอักเลือดออกมาพร้อมทั้งจ้องมองไปทางเขาด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนที่อยู่บนเวทีได้พูดออกมาอย่างไร้ความปราณีว่า
"เรื่องที่เจ้าเอาที่อยู่ของข้าในป่าทมิฬไปแจ้งให้ตระกูลโม่ยังไม่คิดบัญชีเลยนะแต่ตอนนี้ยังกล้ากระโดดออกมากัดข้าอีก ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์จริงๆเลยนะ ! "
"เจ้า .....! "
หลูเชิงที่ปากกลบเลือดได้แต่พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
ผู้ชมโดยรอบได้แต่มีท่าทางเปลี่ยนไปทันที
"คนไร้ยางอายที่หลินเทียนพูดถึงก่อนหน้านี้คือเขางั้นหรอ ? "
"มันเป็นคนที่เอาเรื่องที่หลินเทียนอยู่ในป่าทมิฬไปแจ้งตระกูลโม่งั้นหรอ ? "
"หน้าไม่อาย !"
ศิษย์สำนักหลายๆคนได้แต่จ้องมองไปทางหลูเชิงด้วยสีหน้าที่ดูถูกและเหยียดหยาม
"เจ้าโกหกใส่ความข้า ! ไร้สาระ !"
หลูเชิงได้ตะโกนออกมา
เมื่อมองไปยังสีหน้าที่ซีดเผือดและร่างกายที่สั่นสะท้านของเขาแล้วใครหลายคนก็ได้แต่เชื่อว่านี่เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว
"ไร้ยางอาย ! "
ซูชูวได้สบถออกมา
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ดูถูกหลูเชิงนั้นหลายๆคนก็ตระหนักได้ถึงใจความของคำพูดก่อนหน้านี้
"ที่หลูเชิงพูดก็ถูกนะเพราะว่าโจวเฮ่านั้นมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาเลย ฆ่าไม่ได้จริงๆนั่นแหละ "
"ลูกชายของผู้บัญชาการกองทัพเมืองนี้มันมีตำแหน่งรองลงมาจากเจ้าเมืองเลยนะ ถือว่าน่ากลัวเลยล่ะ "
"โอ้ "
หลายๆคนได้แต่ถอนหายใจออกมา
ผู้บัญชาการกองทัพเมืองนี้มีชื่อว่าโจวเฮอซึ่งมีรายงานมาว่าเขาอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4ตอนปลายแถมด้วยความที่เขาเป็นถึงผู้บัญชากรเมืองนี้ก็ทำให้กุมอำนาจของจักรวรรดิเอาไว้ด้วย หากว่าพูดเรื่องอำนาจในมือแล้วเป็นสิ่งที่ตระกูลโม่ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลย
"เจ้านี่ๆชอบล่วงเกินแต่พวกผู้มีอำนาจจริงๆ "
ซูชูวได้ส่งเสียงกระซิบออกมา
มู่ชิงและฉีดงที่อยู่ข้างๆเองก็ได้มองไปทางหลินเทียนเพราะอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด นี่คือการประลองเป็นตายดังนั้นพวกเขาจะมีสิทธิไปออกความเห็นอะไรได้ ?
ณต ตอนนี้ทุกคนล้วนจับจ้องไปยังเวทีด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ
หลินเทียนได้มองไปยังโจวเฮ่าพร้อมกับอดพูดออกมาด้วยรอยยิ้มไม่ได้ว่า
"มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังนี่มันก็ดีจริงๆแหละ "
แม้ว่าเขาจะยังยิ้มอยู่แต่ตอนนี้เขารู้สึกสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก
เมื่อฟังคำพูดของหลินเทียนแล้วท่าทางของโจวเฮ่าในตอนนี้ไม่น่าดูชมเลยจริงๆ
เขาได้มองไปยังหลินเทียนพร้อมทั้งปรับสภาพอารมณ์แล้วพูดออกมาว่า
"น้องชายหลิน ครั้งนี้ถือว่าข้าแพ้แล้วกันและก่อนหน้านี้ข้าเป็นฝ่ายผิดเองแต่จะฆ่าข้าจริงๆ ? ตราบใดที่เจ้าลามือข้าจะไปคุยกับท่านพ่อให้ช่วยเจ้ากำราบตระกูลโม่ให้สิ้นซาก แม้ว่าตระกูลโม่จะมีอำนาจในเมืองนี้แต่ก็เทียบกับพ่อข้าไม่ได้ "
หลินเทียนได้หรี่ตาลงพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"คิดจะเตือนข้าหรือว่าหากข้าฆ่าเจ้าแล้วจะสร้างเรื่องใหญ่โตยิ่งกว่าตระกูลโม่ ? "
"เปล่า ! น้องชายหลินคิดดูดีๆสิ ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น "
โจวเฮ่าได้รีบส่ายศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว
ตัวเขาเป็นคนฉลาดดังนั้นถึงรู้ดีว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหนดังนั้นถึงต้องฉวยผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
เมื่อจ้องมองไปยังโจวเฮ่าแล้วหลินเทียนก็ได้ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
"หากว่าเราเปลี่ยนกันและเป็นเจ้าที่อยู่ในตำแหน่งของข้าเจ้าจะปล่อยข้าไปไหม ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
ประกายตาของโจวเฮ่าได้สีแสงของความเย็นยะเยือกวาบผ่านพร้อมทั้งรีบส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
"น้องชายพูดแบบนั้นได้ไงกัน เราเป็นสหายร่วมสำนักแม้ว่าข้าจะขัดแย้งกับเจ้าก็จริงแต่หากเมื่อถึงเวลาแล้วข้าก็ไม่มีทางฆ่าเจ้าได้ลงคอหรอก "
เขาได้มองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่จริงใจ
"พอได้แล้วโจวเฮ่า เลิกเสแสร้งได้แล้ว"
หลินเทียนได้พูดดูถูกต่อว่า
"ก่อนหน้านี้ยังคิดจะฆ่าข้าในสันเขาชิงเฟิงแต่ตอนนี้กลับบอกว่าไม่มีทางทำเจ้าว่ามันน่าทุเรศ ? ข้าบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเก็บความอวดดีของเจ้าแต่ยังกล้าพล่ามเรื่องสถานะของพ่อเจ้าอีกนี่มันทำให้ข้ารู้สึกขยะแขยงจริงๆ "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วสีหน้าของโจวเฮ่าก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดไปทันที
"น้องชายหลินพอเถอะ ข้าไม่ได้ข่มขู่เจ้าแต่หากเจ้าฆ่าข้าจริงๆก็จะเกิดปัญหามากมายตามมา หากว่าเจ้าปล่อยข้าไปข้าสาบานเลยว่าจะลืมอดีตแล้วเราจะได้เป็นเพื่อนกันแถมข้ายังสามารถขอให้ท่านพ่อช่วยเจ้าต่อกรกับตระกูลโม่หรือแม้กระทั้งทำลายล้างเลยก็ยังได้"
โจวเฮ่าได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ลืมอดีต ? คนที่ควรพูดประโยคนี้ควรจะเป็นข้านะ "
หลินเทีย ได้พูดต่อว่า
"ส่วนเรื่องช่วยข้าต่อกรอะไรนั่นก็ไม่จำเป็นหรอกแถมสำหรับข้าแล้วพ่อเจ้าก็ไม่ได้เป็นภัยอะไรต่อข้าเลยแม้แต่น้อย "
โจวเฮ่าได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"น้องชายหลิน แน่นอนว่ามีจิตใจที่กล้าแกร่งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญแต่หากว่าเราได้ประโยชน์ทั้งคู่มันไม่ดีกว่า ? ข้าพูดได้เลยว่าหากเจ้าลงมือสังหารข้าแล้วพ่อข้าต้องไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่และด้วยอำนาจของเขาแล้วจัดการตระกูลโม่ยังเป็นเรื่องสบายๆดังนั้นการจัดการเจ้าก็เป็นเรื่องง่ายๆด้วยซ้ำ "
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมกับเพิ่มแรงกดที่เท้าขวาลงไปที่หน้าอกของโจวเฮ่า
ตอนนี้โจวเฮ่าได้กระอักเลือดออกมามากกว่าเก่า
"แค่ผู้บัญชาการกองทัพเมืองนี้เจ้าคิดว่าทุกคนจะต้องกลัว ?"
หลินเทียนได้พูดดูถูกออกมาว่า
"ก่อนที่เจ้าจะตายข้าจะให้เจ้าดูอะไรที่มันน่าสนใจหน่อยแล้วกัน "
เขาได้สลับกระบี่มาที่มือซ้ายพร้อมทั้งขยับมือขวาเล็กน้อยเพื่อเรียกเอาตราสัญลักษณ์สีทองออกมาจากแหวนมิติ
"ในฐานะที่เป็นลูกของผู้บัญชาการก็น่าจะรู้จักสิ่งนี้ดี ? "
หลินเทียนได้แสยะออกมา
สายตาของโจวเฮ่าได้จดจ่อไปที่ตรานั้นพร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
"นี่มัน ! ?"
โจวเฮ่ารู้ดีว่ามันคืออะไรและมันตัวแทนของอะไร พริบตานี้เองที่โจวเฮ่าได้ตระหนักถึงตำนานก่อนหน้านี้ที่มีปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมอายุ 16 ปีได้กำเนิดขึ้นในเมืองนี้แถมยังช่วยชีวิตลูกสาวของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่เอาไว้ พริบตานี้ร่างของเขาอดสั่นไม่ได้พร้อมกับแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวพลางพูดว่า
"เจ้าคือ.........."
"พุฟฟฟฟ ! "
หลินเทียนได้ยกกระบี่ขึ้นมาปาดคอของโจวเฮ่าพร้อมทั้งหยุดคำพูดของเขาโดยทันที
"พูดมากจริงๆ "
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมทั้งเก็บตรากลับไป
ดวงตาของโจวเฮ่ายังคงเบิกกว้างขณะที่เลือดทะลักออกมาทางปากและลำคอด้วยความรู้สึกเสียใจ กลัว และเสียดาย ไม่นานดวงตาของเขาก็หมองลงก่อนที่จะนิ่งไป
เสียงแสยะได้ดังขึ้นก่อนที่หลินเทียนจะยกเท้าออกจากร่างของเขาแล้วเดินออกไป
เมื่อมองไปยังร่างของโจวเฮ่าแล้วท่าทางของผู้คนทั้งหมดก็เปลี่ยนไ อย่างใหญ่หลวง
"ตะ.........ตาย ?! "
"นี่มันบ้าชัดๆ นี่.......กล้าสังหารโจวเฮ่าจริงๆงั้นหรอ ? "
"นี่เขาไม่กลัวอำนาจของผู้บัญชาการเลย ? "
หลายๆคนถึงกับโง่งมไปตามๆกัน
ลูกชายคนเดียวของผู้บัญชาการนั้นมีสถานะยิ่งใหญ่กว่าโม่เซินมาก
"เจ้านี่ ! "
ซูชูวได้แต่ชะงักไปเพราะนางก็รู้ดีว่าหลินเทียนนั้นไม่กลัวอะไรแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ดี
มู่ชิงและฉีดงได้แต่มองไปที่กันและกันโดยที่อดยิ้มออกมาอย่างขมขื่นไม่ได้
"นิสัยของเจ้าหนูนี่มันไม่เกรงกลัวอะไรเลยจริงๆ ไม่รู้ว่านี่มันเป็นเรื่องดีหรือเรื่องแย่กันแน่"
มู่ชิงและฉีดงได้แต่มองไปรอบๆอย่างหมดหนทาง
เมื่อมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่กลางเวทีคนเดียวแล้วผู้ชมทั้งหลายก็ตระหนักถึงอีกเรื่องหนึ่ง
"การทดสอบเข้าเป็นศิษย์ภายในมีผู้ชนะเพียงคนเดียว "
หลายๆคนได้พึมพำออกมา