Divine King Of All Directions - 088
Divine King Of All Directions - 088
หลินเทียนได้กลับมายืนตรงอีกครั้งก่อนที่จะหมุนวนพลังฉีภายในร่างเพื่อลบความรู้สึกแน่นหน้าอกออกไปทันที
เมื่อมองไปตรงหน้าแล้วเขาก็ต้องยอมรับเลยว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะนี่มันแข็งแกร่งจริงๆ
โจวเฮ่ายังคงจ้องมองมาทางเขาพลางพูดอย่างเย็นชาว่า
"เห็นความต่างชั้นกันหรือยัง เขตแดนหล่อหลอมร่างกายมันไม่สามารถรับมือเขตแดนชีพจรเทวะได้หรอก ! ชะตาของเจ้ามันก็เหมือนกับคนอื่นๆที่ต้องกระเด็นออกไปอยู่นอกเวที "
หลังจากที่เงียบไปเขาก็ได้พูดออกมาว่า
"แต่บอกได้เลยว่าเจ้าจะอนาถกว่านั้นมาก "
"เจ้านี่มั่นใจในตัวเองเสียจริงเลยนะ "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
"มั่นใจ ? เจ้าล้อเล่นหรือไง ? คิดว่าการเอาชนะเจ้าต้องใช้ความมั่นใจด้วย ? ในสายตาของข้าเจ้ามันก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น "
โจวเฮ่าได้พูดออกมา
หลินเทียนได้หรี่ตาลงพร้อมทั้งพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า
"ตั้งแต่ที่เจ้าขึ้นมาบนเวทีนี่ท่าทางของเจ้าก็เปลี่ยนไปทันทีเลยนะ เป็นอะไรไป ? ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพแล้ว ? "
โจวเฮ่าได้แสยะออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"ในเมื่ออยู่ในจุดที่เจ้าต้องตายข้ารอดก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้ากันอีกแล้ว "
"ข้าตายเจ้ารอด ? "
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานหรือไงกัน "
โจวเฮ่าได้แสยะออกมาพร้อมทั้งพุ่งเข้าประชิดหลินเทียนอย่างรวดเร็วพลางกวัดแกว่งคมกระบี่อันเย็นยะเยือกออกไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเร็วของเขาสูงมากๆ
"สะบั้น ! "
เสียงคำรามที่เย็นชาได้ดังขึ้นขณะที่เขาได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหลินเทียนจนทำให้ผู้ชมถึงกับกรีดร้องออกมา
"แกร๊ง ! "
เสียงปะทะกับได้ดังขึ้นขณะที่กระบี่ในมือของหลินเทียนยังคงตั้งรับการโจมตีของโจวเฮ่าเอาไว้ได้
โจวเฮ่าได้ขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมทั้งกระบี่ในมือที่สั่นไหวเล็กน้อยพลางส่งคลื่นกระบี่ออกไป
"เหอะ ! "
เสียงแสยะที่เย็นชาได้ดังขึ้น
กระบี่ในมือของหลินเทียนก็สั่นไหวเช่นกันก่อนที่คลื่นกระบี่ของทั้งสองจะปะทะกันอย่างรุนแรง
ผลลัพธ์คือพวกเขาต่างกระเด็นออกไปทั้งคู่
"นี่.........."
"การโจมตีนี้เทียบเท่ากับของโจวเฮ่างั้นหรอ ? "
"แข็งแกร่งจริงๆ !"
หลายๆคนถึงกับผงะไป
หลินเทียนนั้นอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายส่วนโจวเฮ่าอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะซึ่งหลังจากที่ปะทะกันจนถึงจอนนี้แล้วแม้หลินเทียนจะกระเด็นออกไปแต่โจวเฮ่าก็ไม่ต่างกัน
"เจ้านี่ ! "
ดวงตาของซูชูวได้เปล่งประกายออกมาอย่างน่าหลงใหล
ท่าทางของโจวเฮ่าได้หม่นหมองลงเพราะหลังจากที่ถูกผลักออกมาโดยเขตแดนหล่อหลอมร่างกายแล้วมันทำให้เขารู้สึกเสียหน้ามากๆ
"ดีมาก ! "
โจวเฮ่าได้พูดออกมา
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"ไม่ต้องพูดหรอกเพราะข้ารู้ว่าตัวเองดีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว "
แม้ต้องเผชิญหน้ากับเขตแดนชีพจรเทวะแต่เขาก็ยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบและสุขุมเป็นอย่างมาก
โจวเฮ่าได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากว่าเดิมว่า
"เขาวัดกันที่การกระทำไม่ใช่คำพูด "
กระบี่ในมือของโจวเฮ่าได้สั่นไหวก่อนที่จะส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังจนทำให้ผู้ชมหลายคนถึงกับต้องอุดหู
"นี่มัน.......สะบั้นทั้ง 13 ? "
"ใช่ นี่มันทักษะสะบั้นทั้ง 13 ! "
หลายๆคนได้โห่ร้องออกมาอย่างดัง
ทักษะสะบั้นทั้ง 13 นั้นเป็นทักษะระดับสูงเขตแดนหล่อหลอมร่างกายซึ่งเรียกได้ว่าติดอันดับ 1-3ของทักษะทั้งหมด
มันเป็นทักษะการฟาดฟันความเร็วสูงที่แฝงไปด้วยพลังทำลายอันมหาศาลและทุกๆครั้งที่ฟาดฟันออกไปนั้นก็จะส่งเสียงดังออกมาทำให้ประสาทการรับรู้ของศัตรูผิดเพี้ยนไป ทักษะนี้มันสำเร็จยากมากๆดังนั้นศิษย์ธรรมดาๆหลายคนถึงไม่สามารถฝึกฝนได้ถึงระดับแรกด้วยซ้ำ
"จากการตั้งท่าของโจวเฮ่านั้นเหมือนว่าเขาบรรลุทักษะนี้แล้วนะ "
หลายๆคนได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ
เห็นเพียงแค่ว่าความเร็วของโจวเฮ่านั้นสูงขึ้นกว่าเดิมมากขณะที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหลินเทียนอย่างฉับพลัน
เสียงคำรามของกระบี่ได้ดังขึ้นขณะที่คมกระบี่อันเย็นยะเยือกจะฟาดฟันออกไปอย่างไร้ความปราณี
หลินเทียนสัมผัสได้ถึงอันตรายโดยทันทีก่อนที่จะไม่ลังเลเลยที่จะพุ่งทิ้งระยะออกไปด้านหลังเพื่อหลบการโจมตีนี้
"อื้ม ? "
โจวเฮ่าได้ส่งเสียงประหลาดใจออกมาเพราะว่าหลินเทียนกลับสามารถหลบการโจมตีนี้ได้ซะงั้น
ท่าทางของเขาหม่นหมองลงขณะที่กระบี่ในมือได้สั่นไหวอีกครั้งพร้อมทั้งฟาดฟันออกไปทันที
แต่อย่างไรก็ตามคมกระบี่ของเขาก็สัมผัสได้เพียงอากาศอันว่างเปล่าเท่านั้น
"สะบั้นที่ 3 ! "
โจวเฮ่าได้ตะโกนออกมาอย่างดังขณะที่ไล่ล่าหลินเทียนต่อไป
อย่างไรก็ตามหลินเทียนมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมดังนั้นถึงสามารถหลบการโจมตีได้ทุกครั้ง
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมถึงกับแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
หลินเทียนที่อยู่บนเวทีเองก็ยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาขณะที่พุ่งหนีไปเรื่อยๆ เขาสำเร็จเคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์แล้วแถมยังเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 3 เป็นอย่างน้อยอีกดังนั้นจิตสัมผัสของเขาแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะธรรมดาๆไม่รู้ตั้งกี่เท่าตัว เขาอาศัยการปล่อยพลังวิญญาณออกไปก็สามารถสัมผัสได้ถึงเส้นทางของคลื่นกระบี่ทั้งหมดที่โจวเฮ่าปลดปล่อยออกมาหมดแล้วหลังจากนั้นก็หลบมันด้วยความเร็วที่สูงกว่า
"น่าขำนัก ! เจ้ามันก็เอาแต่หนี ! "
โจวเฮ่ายังคงฟาดฟันออกไปหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถสัมผัสผิวของหลินเทียนได้แม้แต่น้อยและนี่มันทำให้ท่าทางของเขาดุร้ายกว่าเดิมมาก
"หนี ? "
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
วิ้ส ! ในระหว่างที่ทุกคนไม่ทันสังเกตนั้นความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าโจวเฮ่าแล้วฟาดฟันออกไปในพริบตา
โจวเฮ่าถึงกับแข็งค้างไปก่อนที่จะรีบยกกระบี่ขึ้นมาป้องกันอย่างไว
ณ ตอนนี้หลินเทียนได้ยกเท้าขึ้นมาเตะอัดออกไป
ท่าทางของโจวเฮ่าได้เปลี่ยนไปอีกครั้งก่อนที่จะกระโดดถอยหลังออกไป
"เผชิญหน้ากับเขตแดนหล่อหลอมร่างกายอ่อนๆแบบข้าแล้วเจ้าจะถอยหนีทำไม ? เจ้าเป็นถึงเขตแดนชีพจรเทวะนะ "
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมา
เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมขณะที่ท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"ไวกว่าครึ่งก้าวมันน่าภูมิใจอะไรนักหนา ! "
โจวเฮ่าได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูถูก
"แค่ครึ่งก้าว ? เจ้ายังคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานอยู่งั้นหรอ "
หลินเทียนได้ตอบกลับไปพร้อมทั้งพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วปานสายฟ้าก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของโจวเฮ่าแล้วฟาดฟันออกไปในพริบตา
ความเร็วระดับนี้ทำให้หลายๆคนถึงกับผงะไป
"แกร๊ง ! "
โจวเฮ่าได้ยกกระบี่ขึ้นมาป้องกันเอาไว้
"กันได้งั้นหรอ ? ก็ดี ! งั้นมาต่อกันเลย "
หลินเทียนได้แสยะออกมาก่อนที่จะเห็นว่าร่างของเขาได้อันตรธานหายไปในพริบตาหลังจากนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของโจวเฮ่าแล้วฟาดฟันออกไปอีกครั้ง
ท่าทางของโจวเฮ่าได้เปลี่ยนไปพร้อมทั้งรีบย่อตัวลงเพื่อหลบการโจมตีนี้
"ดี งั้นมาต่อกัน ! "
หลินเทียนได้ส่งเสียงอีกครั้ง
คำพูดเหล่านี้ได้ดังกึกก้องอยู่ในสมองของโจวเฮ่า
ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถสนใจอะไรได้มากนักเพราะตอนนี้ความเร็วของหลินเทียนอยู่ในระดับที่สูงมากๆเหมือนเป็นการ ้าวข้ามมิติเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ฟาดฟันกระบี่แรกแล้วกระบี่ที่สองก็จะตามมาในอีกทิศทางซึ่งมันส่งผลให้เขารู้สึกรับมือยากมากๆ
"เร็ว! เร็วมาก ! "
"นี่มัน........ "
"หลินเทียน ? ความเร็วของเขาสูงขนาดนั้นได้ไงกัน ! "
ผู้ชมหลายคนถึงกับสั่นระริก
ณ ตอนนี้ความเร็วของหลินเทียนสูงมากๆ สูงจนไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ด้วยซ้ำ
ห่างออกไปนั้นมู่ชิงและฉีดงเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปเช่นกัน
"การเคลื่อนไหวของเขาเป็นแบบเดียวกันกับครั้งก่อนในการประลองกับโม่เซินเลยแต่ว่ามันเร็วกว่าเดิมมาก "
ฉีดงได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
"ก่อนหน้านี้ก็คิดว่ามันแปลกๆ นี่มันเป็นทักษะเคลื่อนไหวอะไรกัน ? "
"จากการเคลื่อนไหวของเขาแล้วมันแข็งแกร่งกว่าทักษะที่ข้าสำเร็จด้วยซ้ำแล้วเจ้าหนูนี่มันไปเรียนมาจากที่ใดกัน !"
มู่ชิงได้ขมวดคิ้วของเขาทันที
พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะตอนปลายซึ่งแน่นอนว่าสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของหลินเทียนได้อย่างชัดเจนดังนั้นถึงได้แต่ผงะไป
ฉีดงได้เงียบไปพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"หลินเทียน นายน้อยตระกูลหลินของเมืองนี้ซึ่งเป็นเด็กอ่อนแอที่ถูกรังแกมาก่อนแต่ก่อนจะถึงวันคัดเลือกศิษย์เข้าสำนักนั้นบ้านหลักตระกูลหลินได้ถูกเผาจนวอดแถมเขาก็ได้หายตัวไปและหลังจากที่กลับมาก็เหมือนว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนแถมยังอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 3 แล้วด้วย ในตอนนั้นเขาก็มีทักษะการเคลื่อนไหวนี้ติดตัวมาแล้ว "
แน่นอนว่าทางสำนักได้ทำการสืบเรื่องของศิษย์ทุกคนที่เข้าสำนักมาหมดแล้วโดยเฉพาะหลินเทียนที่เป็นถึงผู้มีพรสวรรค์ระดับ 9 ดาราจึงเป็นที่สนใจเป็นพิเศษดังนั้นเรื่องราวของเขาทั้งหมดถึงได้ถึงสืบสวนมาหมดแล้ว
มู่ชิงได้มีประกายตาที่เปลี่ยนไปพร้อมกับพูดออกมาว่า
"เจ้าหมายความว่า ?"
"เขาต้องมีผู้แข็งแกร่งคอยหนุนหลังอยู่แน่นอน"
ฉีดงได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ
มู่ชิงได้เงียบไปพร้อมกับพยักหน้าแล้วพูดว่า
"มีความเป็นไปได้สูงมาก ! หลินเทียนเป็นถึงผู้มีพรสวรรค์ระดับ 9 ดาราดังนั้นเหล่าผู้เชี่ยวชาญจะต้องไม่ปล่อยไว้แน่นอน เขาต้องรับเป็นศิษย์และนี่ก็อธิบายได้เลยว่าทำไมหลังจากที่หายตัวไปไม่กี่วันเขาก็ตัดผ่านไปถึ เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 3 จากคนธรรมดาแถมยังมีทักษะเคลื่อนไหวติดตัวที่แข็งแกร่งแบบนี้ "
พวกเขาได้มองออกไปด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
"ความเป็นไปได้นี้สูงมากๆ แสดงว่าท่านผู้นั้นต้องถ่ายทอดทักษะและเคล็ดวิชาบ่มเพาะให้กับเขาแล้วออกเดินทางต่อไป คนประเภทนี้มักเป็นพวกที่น่ากลัวอย่างมาก "
มู่ชิงได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับพูดต่อว่า
"แน่นอนว่าแม้แต่ทางอาณาจักรก็ยังไม่กล้าล่วงเกินคนประเภทนั้นด้วยซ้ำ "
แม้ว่าอำนาจของทางจักรวรรดิจะน่ากลัวมากๆแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งแล้วมันก็เป็นเพียงเรื่องน่าขันเท่านั้น
"เจ้าหนูนี่ ......."
ฉีดงได้ฝืนยิ้มออกมา
หลินเทียนนั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ไร้ที่เปรียบดังนั้นพวกเขาถึงได้คิดได้ว่านี่มันเป็นเรื่องทีจัดการยากมากๆ
"พวกท่านกระซิบอะไรกันน่ะ ?"
ซูชูวได้พูดออกมาด้วยท่าทางสงสัย
มู่ชิงได้กระแอมออกมาพลางส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
"เปล่าๆ "
ซูชูวได้ชะงักไปก่อนที่เสียงการปะทะกันของกระบี่จะดังขึ้น
หลินเทียนที่อยู่กวางเวทียังคงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้จึงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับโจวเฮ่าที่ถูกบังคับให้ตั้งรับการโจมตีเท่านั้น
"พุฟฟฟฟ ! "
เลือดได้สาดกระจายออกมาจากหน้าอกของโจวเฮ่า
"ศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 เจ้าได้รับบาดเจ็บแล้วนะ "
เสียงของหลินเทียนได้ดังขึ้น
ณ ตอนนี้ตรงหน้าอกของโจวเฮ่านั้นมีรอยฟันยาวซึ่งเลือดยังคงทะลักออกมาไม่หยุด
"นี่..สามารถสร้างบาดแผลให้โจวเฮ่าได้งั้นหรอ ? "
ผู้ชมทั้งหลายถึงกับผงะไป
ศิษย์หลายๆคนอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึก หลินเทียนที่อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายกลับสามารถทิ้งบาดแผลเอาไว้ให้โจวเฮ่าได้นี่มันน่ากลัวมากๆ
หลูเชิงที อยู่ห่างออกไปเองก็มีท่าทางน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด โจวเฮ่าที่อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะกลับได้รับบาดเจ็บซะงั้น
"ไอ้ระยำนี่มันแข็งแกร่งมาก ! "
หลูเชิงได้ที่ขบฟันตัวเองอย่างหนัก
โจวเฮ่าที่อยู่บนเวทีในตอนนี้มีท่าทางที่หม่นหมองลง
"ดีมาก ! ตั้งแต่เกิดมาเจ้าเป็นคนแรกที่สร้างบาดแผลให้ข้า !"
ประกายตาของเขาได้เปลี่ยนเป็นดุร้ายพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงกว่าเดิมออกมาพลางคำรามอย่างดังว่า
"ข้าจะให้เจ้าชดใช้อย่างสาสม ! "