Divine King Of All Directions - 087
Divine King Of All Directions - 087
หลินเทียนเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9
โจวเฮ่าเขตแดนชีพจรเทวะ
ทั้งสองนั้นไม่มีความเท่าเทียมในด้านระดับพลังแต่ถึงเป็นเช่นนั้นหลินเทียนก็ยังเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนแล้วตะโกนชื่อโจวเฮ่าออกมาซะงั้น นี่มันทำให้ผู้คนทั่วทั้งสนามถึงกับมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
"นี่......จะประลองชิงอันดับ 1 กัน ? "
หลายคนได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
ท่าทางของโจวเฮ่าได้หม่นหมองลงพร้อมกับความสุขที่ได้จางหายไป ตอนนี้หลินเทียนได้ตะโกนชื่อเขาออกมาพร้อมทั้งหันกระบี่มาทางเขาซึ่งมันทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
"น้องชายหลินแน่ใจแล้วหรอว่าจะสู้กับข้า ? "
โจวเฮ่าได้ถามออกมา
"อะไรกัน เมื่อสามเดือนก่อนเราได้ทำสัญญาเป็นตายกันแล้วทำไมถึงได้มาถามล่ะ "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างสบายใจ
เมื่อพูดแล้วหลินเทียนก็ได้หยิบเอาใบสัญญาที่วันนั้นพวกเขาได้ทำร่วมกันออกมา
"สัญญาเป็นตาย ? !"
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ? "
"เมื่อสามเดือนก่อนมันเป็นตอนที่หลินเทียนเพิ่งเข้าร่วมสำนักเองนะ "
หลายๆคนได้แต่ผงะไป
มู่ชิงและฉีดงถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
ซูชูวได้สะกิดมู่ชิงพร้อมทั้งเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป
"ไร้สาระ !"
มู่ชิงได้สบถออกมาด้วยความโกรธ
หลินเทียนยังคงจ้องมองไปทางโจวเฮ่าตั้งแต่ต้นซึ่งมู่ชิงได้มองไปยังพวกเขาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบแล้วพูดว่า
"เรื่องของพวกเจ้าจบลงตรงนี้แหละ "
หลินเทียนนั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับ 9 ดาราซึ่งมันเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในรอบหลายร้อยปีของสำนักแห่งนี้แต่โจวเฮ่าเองก็ไม่ธรรมดา สามารถตัดผ่านไปยังเขตแดนชีพจรเทวะได้ในขณะที่ยังเป็นเพียงศิษย์ภายนอกซึ่งหากว่าปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไปก็จะถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของทางสำนักไม่ว่าจะเสียใครไปก็ตามแถมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือมู่ชิงนั้นรู้ดีว่าหากพวกเขาสู้กันจริงๆโอกาสที่หลินเทียนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็เกือบถึง100%
เขตแดนหล่อหลอมร่างกายจะไปสู้เขตแดนชีพจรเทวะได้ยังไงกัน ?
หลังจากที่ต้องเผชิญกับสายตาของมู่ชิงแล้วหลินเทียนก็ได้เงียบไปพักหนึ่งพร้อมทั้งส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
"ต้องขออภัยท่านผู้อาวุโสด้วยแต่ข้าทำไม่ได้ "
หลินเทียนยังคงพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบว่า
"ในวันเดียวกันนั้นท่านผู้อาวุโสฉีจำได้ไหมว่าท่านได้ถามข้าว่าทำไมทั้งๆที่รู้ว่าโม่เซินได้เปรียบและจะต้องฆ่าข้าแน่ๆแต่ทำไมถึงยังสู้ ข้าจะตอบกลับไปด้วยคำเดิมว่า...........ลูกผู้ชายถ้ายังหายใจก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงในสิ่งที่จะทำเป็นต้องทำได้ ! "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วฉีดงและมู่ชิงต่างขมวดคิ้วเข้าหากัน
นี่หลินเทียนและโจวเฮ่ามีความแค้นกันด้วย ?
หลินเทียนที่อยู่บนเวทีได้มองไปยังโจวเฮ่าพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"มันเหมือนกับโม่เซินที่เขาเป็นคนยื่นเรื่องสัญญาเป็นตายกับข้าหลังจากนั้นเมื่อข้ากลับมาจากสันเขาชิงเฟิงก็มีศิษย์คนหนึ่งโผล่ออกมาและบอกว่าจะมาสั่งสอนข้าแทนโจวเฮ่าโดยการตัดแขนข้า "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วท่าทางของผู้ชมต่างเปลี่ยนไปตามๆกัน
หลายๆคนได้มองไปทางโจวเฮ่าด้วยท่าทางแปลกๆ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้นแล้วโจวเฮ่าก็รีบส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
"ข้าไม่รู้เรื่อง "
"งั้นหรอ ? แน่นอนว่าด้วยสถานะศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ของเจ้าคงไม่มีทางทำเรื่องต่ำช้าไร้ยางอายแบบนี้กับศิษย์ใหม่ ดูเหมือนว่าคงมีคนอยากจะสละตัวทำเรื่องพวกนี้แทนเจ้าสินะ "
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดต่อว่า
"หลังจากนั้นเมื่อถึงช่วงที่มีการทดสอบศิษย์ภายนอกนั้นเจ้ายังจำตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 4 ตะขาบผีได้ไหม ? ท้ายที่สุดแล้วจริงๆข้าสามารถหลบระยะโจมตีของมันได้แต่ต้องขอบคุณเจ้าที่ทำให้ข้าหมดทางหนีแล้วโดยมันลากไปแต่โชคยังดีที่ข้าไม่ตาย "
"อะไรนะ ? "
ท่าทางของซูชูวได้เปลี่ยนไปทันทีเพราะนางยังจำเรื่องในวันนั้นได้ไม่มีวันลืม เมื่อหลินเทียนขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งก็ทำให้นางตระหนักได้ว่ามันมีความจริงถูกซ่อนเอาไว้ ?
โจวเฮ่าได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขว่า
"น้องชายหลินพูดงี้หมายความว่าไง ? แม้ว่าเราจะทำสัญญาเป็นตายกันแล้วแต่ข้าเป็นคนตรงๆและไม่มีทางทำเรื่องชั้นต่ำแบบนั้นได้แน่นอน ! ที่ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้มันกลายเป็นความผิดของข้า ? "
"ไอ้สุนัขจิ้งจอกไร้ยางอาย !"
หลูเชิงได้ตะโกนออกมา
"หุบปากซะไอ้ขยะ ! "
หลินเทียนได้กวาดตามองหลูเชิงด้วยแววตาที่เย็นยะเยือกจนทำให้ร่างกายเขาถึงกับสั่นสะท้าน
เขาได้แสยะออกมาพร้อมกับหันหน้าไปหาโจวเฮ่าอีกครั้งแล้วพูดว่า
"จริงๆแล้วเจ้าบอกว่าช่วยข้าแต่คลื่นกระบี่ของเจ้ามันปิดทางหนีของข้าทั้งหมดแม้คนอื่นจะดูไม่ออกแต่คิดว่าข้าจะสัมผัสไม่ได้ ? นี่คือวิธีช่วยของเจ้า ? คลื่นกระบี่นั่นหากไม่โจมตีเข้าใส่ข้าก็จะส่งข้าเข้าไปหาตะขาบผี ท้ายที่สุดข้าก็ถูกมันลากไป "
"ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง ! "
ซูชูวได้ตะโกนออกมาขณะมองไปทางโจวเฮ่าด้วยความโกรธพร้อมพูดต่อว่า
"ข้าก็ว่าทำไมเจ้าถึงได้เสนอตัวช่วยหลินเทียนด้วยตัวเอง ที่แม้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง ! "
ซูชูวรู้ดีว่าหลินเทียนนั้นเป็นคนอย่างไรดังนั้นถึงไม่สงสัยในคำพูดของเขาแม้แต่น้อย
"ชูวเอ๋อ ไหนเจ้าเล่าเรื่องในวันนั้นมาสิ"
มู่ชิงได้พูดออกมา
ซูชูวเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไรพร้อมทั้งเล่าออกไปทั้งหมด
ตอนนี้เองที่ท่าทางของมู่ชิงและฉีดงได้ตกต่ำลงอย่างมาก
"ไอ้ระยำ ! "
ฉีดงได้คำรามออกมาอย่างดังเหมือนกับซูชูวไม่มีผิด พวกเขาเชื่อในตัวของหลินเทียนมากๆดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเชื่อในทุกๆคำพูดของเขา พริบตานี้พวกเขาได้จ้องมองไปทางโจวเฮ่าด้วยสีหน้าที่โกรธจัดอย่างถึงที่สุด
"ท่านผู้อาวุโสทั้งสอง ข้าขอสาบานเลยว่าข้าไม่ได้ทำเรื่องเช่นนั้นจริงๆ วันนั้นข้าตั้งใจจะช่วยน้องชายหลินจริงๆและหากว่ามีคำไหนที่ข้าโกหกข้าก็ขอให้ตกตายโดยการโดนฟ้าผ่า "
โจวเฮ่าได้พูดออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"บางทีอาจจะเป็นเพราะระดับพลังของหลินเทียนยังไม่สูงถึงได้เข้าใจเจตจำนงแห่งกระบี่ของข้าผิดไป "
มู่ชิงและฉีดงที่กำลังจดจ่อไปทางโจวเฮ่าล้วนขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะว่าจากการตอบสนองของโจวเฮ่าแล้วทำให้พวกเขาหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย หรือว่าหลินเทียนเข้าใจผิดไปจริงๆ ? จากคำพูดของโจวเฮ่านั้นมันเป็นไปได้มากที่หลินเทียนจะเข้าใจผิดไป
ณ ตอนนี้เสียงคำรามของกระบี่ได้ดังขึ้น
"พอได้แล้วโจวเฮ่า เก็บคำพูดจอมปลอมของเจ้าไปซะเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับข้า "
หลินเทียนได้มองไปทางเขาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะมองอย่างไรแต่เพียงแค่ข้ารู้สึกคนเดียวก็พอแล้ว ไสหัวขึ้นมา ! วันนี้ไม่ข้าตายเจ้ารอดก็เจ้ารอดข้าตาย ! "
ผู้ชมทั้งหลายถึงกับมีท่าทางเปลี่ยนไปด้วยคำพูดที่ทรงพลังนี้
"บ้าไปแล้ว ! "
ผู้ชมหลายๆคนถึงกับผงะไป
เขตแดนหล่อหลอมร่างกายปะทะเขตแดนชีพจรเทวะนี่มันบ้าชัดๆ !
ตอนนี้ท่าทางของโจวเฮ่าดูไม่ดีเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองจะกระโดดออกไปตอนที่หลินเทียนฉายแสงที่สุดแล้วเอาชนะเพื่อทำให้รู้สึกเสียใจแต่ตอนนี้กลับเป็นหลินเทียนที่ท้าเขาสู้ด้วยตัวเอง นี่มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างมาก
"งั้นก็มา ! "
เขาได้พูดออกมาพร้อมทั้งกระโดดขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทางโกรธจัด
ทันใดนั้นเองที่สายตาทุกคนได้จดจ่อไปบนเวที
"เอาล่ะพวกเจ้าพอเถอะ !"
มู่ชิงได้พูดออกมาพร้อมพูดต่อว่า
"พวกเจ้าทั้งคู่เป็นผู้มีพรสวรรค์ของเราและถือเป็นความหวังของเราดังนั้นทำไมถึงต้องทำสัญญาเป็นตาย ? ถอยออกมาคนละก้าวสิ "
"ท่านผู้อาวุโสก็เห็นว่าข้าไม่ใช่คนสร้างปัญหาแต่มันเป็นการบังคับของน้องชายหลินซึ่งแม้ว่าข้าจะไม่มีพรสวรรค์แต่ข้าก็ยังมีเกียรติ ในเมื่อเขาอยากจะสู้ข้าก็จะจัดให้ตามที่เขาหวัง "
โจวเฮ่าได้พูดออกมา
โจวเฮ่าได้หยิบเอาสัญญาเป็นตายออกมาพร้อมกับชูขึ้นทันที
มู่ชิงได้ขมวดคิ้วพร้อมทั้งมองไปทางหลินเทียนแล้วพูดว่า
"หลินเทียน เจ้าถอยกลับมาเรายังจบเรื่องนี้ทันนะ "
ตอนนี้มู่ชิงกำลังเตือนสติเขาอยู่เพราะว่าการที่เขตแดนหล่อหลอมร่างกายไปสู้กับเขตแดนชีพจรเทวะนั้นมันรนหาที่ตายชัดๆ
มู่ชิงไม่อยากจะเห็นหลินเทียนต้องตาย
หลินเทียนก็เข้าใจถึงเจตนาของเขาดีแต่ก็ยังคงส่ายศีรษะอยู่ดี
"การประลองนี้สนุกแน่ ! "
โจวเฮ่าได้มองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางที่มั่นคงและเคร่งขรึม
มู่ชิงและฉีดงได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะส่ายศีรษะ หากว่าศิษย์สำนักขัดแย้งและทำสัญญาเป็นตายกันมันส่งผลให้ทางสำนักไม่มีสิทธิก้าวก่ายอะไรเหมือนตอนหลินเทียนและโม่เซินซึ่งในเมื่อตอนนี้หลินเทียนยืนยันที่จะสู้แล้วแม้พวกเขาจะเป็นผู้อาวุโสแต่ก็ไม่สามารถขัดขืนได้
"เจ้านี่ ! "
ซูชูวได้พูดออกมา
แม้นางจะรู้อยู่เต็มอกว่าหลินเทียนไม่มีทางยกเลิกการประลองนี้แต่ตอนนี้นางก็ยังโกรธเป็นอย่างมากเพราะว่านี่คือการสู้เป็นตาย ! หลังจากนี้พวกเขาจะสู้กันโดยที่มู่ชิงและฉีดงไม่สามารถห้ามปรามได้ซึ่งหลินเทียนในตอนนี้อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายแล้วจะไปสู้โจวเฮ่าได้อย่างไรกัน !
"หลินเทียนคนนี้มันบ้าจริงๆ "
"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายกับเขตแดนชีพจรเทวะนี่มันต้องแพ้อยู่แล้ว"
ศิษย์ภายในหลายๆคนได้แต่ส่ายศีรษะไปตามๆกัน
ร่างสองร่างบนเวที , โจวเฮ่าได้จ้องมองไปท งหลินเทียนด้วยประกายตาเย็นชา
"น้องชายหลินแน่ใจแล้วนะ ? "
โจวเฮ่าได้ถามออกมา
"เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว "
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยท่าทางสบายอารมณ์
ท่าทางของโจวเฮ่าได้หม่นหมองลงทันที
หลินเทียนได้เตะกระบี่ที่พื้นของศิษย์คนหนึ่งไปให้โจวเฮ่าพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"เข้ามา "
เขาได้ชี้กระบี่ไปทางโจวเฮ่าด้วยแรงกดดันมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมา
ท่าทางของเขาทำให้ผู้คนถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไป
"เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะแต่กลับยังคงสงบแบบนั้นนี่มัน......"
"ต้องบอกว่าเขามันบ้าไปแล้ว ! แข็งแกร่งจริงๆ ! "
"ไม่ว่าจะเป็นใครแต่เราก็เทียบกับพวกเขาไม่ได้"
ศิษย์หลายๆคนต่างพากันพูดออกมา
โจวเฮ่าที่ถือกระบี่อยู่มือเดียวก็ได้แต่ส่ายศีรษะของเขา
"น้องชายหลิน เจ้าแข็งแกร่งก็จริงแต่เจ้ามันบ้าเกินไปและยิ่งกว่านั้นคือเอาความบ้าไปใช้ผิดที่ด้วย "
โจวเฮ่าได้แสยะออกมาพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่หลินเทียนอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าพลางฟาดฟันออกไปแล้วพูดว่า
"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายและชีพจรเทวะนั้นมันเทียบกันไม่ได้ "
"เร็วมาก !"
"นี่คือความเร็วของเขตแดนชีพจรเทวะงั้นหรอ ? "
"นี่...."
นัยน์ตาของผู้คมถึงกับหดเล็กลงอย่างมาก
กระบี่สีเงินในมือของโจวเฮ่าได้ตัดผ่านอากาศพร้อมทั้งเข้าใกล้หน้าท้องของหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนยังคงยื่นกระบี่ออกไปรับอย่างไม่แยแส
"แกร๊ง ! "
เสียงปะทะกันได้ดังขึ้นก่อนที่จะเห็นว่าหลินเทียนสามารถป้องกันการโจมตีของเขาเอาไว้ได้
"หือ ? "
นัยน์ตาของโจวเฮ่าได้หดเล็กลงเพราะว่าเจ้านี่มันตามความเร็วของเขาทัน ?
เขาได้แสยะออกมาพร้อมทั้งปลดปล่อยคลื่นกระบี่โดยทันที
"โครม ! "
เหมือนดังเปลวเพลิงแห่งทวยเทพได้จุดขึ้น แรงกดดันมหาศาลนี้ก่อเกิดเสียงดังกังวานออกมา
หลินเทียนในตอนนี้รู้สึกเพียงแค่ว่าแขนขวาของเขากำลังชาขณะที่คลื่นกระบี่มากมายได้พุ่งเข้าใส่เขาจนทำให้ต้องกระเด็นออกไป
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วสีหน้าของผู้ชมก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดโดยทันที
"จริงด้วย ! เขตแดนหล่อหลอมร่างกายมันไม่สามารถรับมือกับเขตแดนชีพจรเทวะแม้จะเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดก็ตาม "
หลายๆคนได้ถอนหายใจออกมา