Divine King Of All Directions - 086
Divine King Of All Directions - 086
ตั้งแต่ที่สำนักนี้ถูกต่อตั้งขึ้นมานั้นหลินเทียนคือผู้มีพรสวรรค์ระดับ 9 ดาราคนแรกของที่นี่แถมไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรสวรรค์ กิริยามารยาท ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นหรืออื่นๆนั้นหาที่เปรียบไม่ได้ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของสำนักที่ได้รับการคาดหวังจากมู่ชิงและฉีดงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามตระกูลโม่มันกล้าที่จะวางแผนสังหารหลินเทียนในยามที่พวกเขาไม่ตระหนักเลย
นี่มันเป็นการท้าทายศักดิ์ศรีของสำนักจิ่วหยาง !
"กล้านักนะ ! "
ฉีดงได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่โกรธจัด
แม้แต่มู่ชิงที่มักจะเป็นคนควบคุมอารมณ์ในตอนนี้ยังแสดงสีหน้าที่หม่นหมองออกมา
เหล่าศิษย์มากมายที่อยู่โดยรอบล้วนแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยกันทั้งหมด
"หน้าไม่อาย ! "
ศิษย์ใหม่หลายคนโกรธจัดอย่างถึงที่สุดเพราะว่าก่อนหน้านี้การประลองเป็นตายของหลินเทียนและโม่เซินนั้นมีศิษย์กว่าร้อยอยู่ในเหตุการณ์ซึ่งจากแผนการของโม่ยี่แล้วทำให้โม่เซินอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือกว่าแต่กลับเป็นฝ่ายถูกสังหารเสียเองดังนั้นก็ไม่น่าจะเอาความอะไรอีกทว่าตระกูลโม่กลับกล้ายกเอาทั้งตระกูลมาไล่สังหารหลินเทียนไม่เว้นแม้แต่ตัวโม่ยี่ที่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักด้วยซ้ำ นี่มันเป็นเรื่องที่ไร้ยางอายอย่างมาก
ตอนนี้ท่าทางของศิษย์เก่าหลายคนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
"เดี๋ยวนะ นี่เจ้านี่ยังรอดออกมาภายใต้สถานการณ์แบบนั้นอีกหรอ ?"
หลายๆคนได้แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมา
ผู้นำตระกูลโม่อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 ส่วนโม่ยี่นั้นอยู่ในระดับ 9นี่ยังมีผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลโม่อีกทว่าหลินเทียนกลับสามารถรอดท่ามกลางสถานการณ์แบบนั้นมาได้ นี่มันไม่ท้าทายสวรรค์เกินไปหน่อย ?
หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วหลายๆคนถึงกับต้องสูดหายใจเข้าลึก
"หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ดี ! ดีมากๆ ! มันเป็นวันที่โม่ยี่หายตัวไปพอดี ! "
ฉีดงได้พูดต่อด้วยท่าทางที่เย็นชาอย่างมากว่า
"ดีมากตระกูลโม่ ! กล้าเล่นลูกไม้กับเรางั้นหรอ ! "
หลังจากที่หยุดไปสักพักเขาก็ได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับถามต่อว่า
"หลินเทียน หลังจากที่โม่ยี่ไล่ตามเจ้าแล้วรู้ไหมว่ามันหายไปไหน ? "
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า
"ศิษย์ได้รับบาดเจ็บจึงหนีไปแอบในถ้ำอย่างหมดหนทาง หลังจากที่อาการดีขึ้นแล้วก็รีบหนีออกมาจากป่าทมิฬดังนั้นถึงไม่รู้เรื่องหลังจากนั้นเลยขอรับ "
โม่ยี่นั้นตายลงด้วยเงื้อมมือของจี่จิงหลิงแต่เขาไม่สามารถพูดเรื่องแบบนี้ได้แน่นอน
มู่ชิงได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า
"เรื่องเมื่อเดือนก่อนมันเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย ? "
มู่ชิงเชื่อว่าหลินเทียนคงไม่พูดเรื่องที่ผ่านมาแล้วอย่างไร้เหตุผลอย่างแน่นอน
"สายตาของท่านผู้อาวุโสมองทะลุปรุโปร่งจริงๆ "
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับพูดต่อว่า
"เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหลังจากที่ตระกูลโม่ไม่สามารถลอบสังหารข้าได้ดังนั้นหลังจากที่รู้ว่าข้ากลับมาที่สำนักแล้วและจะเข้าร่วมการทดสอบนี้ถึงได้ลงมือว่าจ้างศิษย์ทุกคนที่อยู่ในรอบสุดท้ายเพื่อให้กำราบข้าแล้วจะได้ลอบสังหารโดยใช้อุบัติเหตุด้วยข้ออ้างที่ว่าหากสามารถสังหารข้าด้วยอุบัติเหตุได้แล้วอย่างมากทางสำนักก็คงจะไล่โม่คงออกเท่านั้น "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่กลับทำให้ท่าทางของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก
"นี่....."
"กล้าขนาดนั้นเลย ?"
"กล้าหาญเกินไปไหม ? "
หลายคนถึงกับตกตะลึงไปทันที
ที่นี่คือสำนักจิ่วหยางซึ่งแม้ว่าตระกูลโม่นั้นจะเป็นตระกูลผู้บ่มเพาะเดียวในเมืองนี้แต่ก็เป็นเพียงแค่มดหากเทียบกับสำนักแห่งนี้ ในวันคัดเลือกที่สำคัญขนาดนี้กลับกล้าที่จะทำเรื่องแบบนี้ ? ว่าจ้างศิษย์สำนักให้ลอบสังหารดาวรุ่งที่สุดด้วยอุบัติเหตุนี่มันกล้าจริงๆ
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ? ระยำเอ้ย !"
ซูชูวได้สบถออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด
มู่ชิง ฉีดงและอาจารย์คนอื่นๆของสำนักถึงกับมีท่าทีที่หม่นหมองลงอย่างมาก
เมื่อมองไปยังผู้อาวุโสมู่ชิง ฉีดงและคนอื่นๆแล้วท่าทางของโม่คงก็เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงก่อนที่จะรีบตะโกนออกมาว่า
"ท่านผู้อาวุโสทั้งสองท่านอย่าไปฟังเจ้านั่น ! เขามีความแค้นกับตระกูลโม่ของข้าถึงได้สร้างเรื่องขึ้นมา ! เขาตั้งใจจะโยนความผิดให้ข้า !"
"ถุ้ย ! คิดว่าคนอื่นจะหน้าไม่อายเหมือนตระกูลโม่ของเจ้าหรือไง ! "
ซูชูวได้คำรามออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด
มู่ชิงได้ส่งสัญญาณให้ฉีดงไม่ต้องทำอะไรก่อนที่จะเดินลงไปถึงด้านใต้ของเวทีด้วยตัวเองแล้วพูดกับหยงฉางและคนอื่นๆว่า
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นสินะ ! "
หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับสายตาของมู่ชิงแล้วท่าทางของหยงฉางและคนอื่นๆได้เปลี่ยนเป็นซีดเผือดโดยทันที
"ไม่....ไม่นะท่านผู้อาวุโส ไม่มีเรื่องแบบนั้น !"
หยงฉางได้รีบพูดออกมา
"ใช่แล้ว"
หลงซิ่วได้พูดต่อว่า
"เขา...เขาเกลียดพวกเราถึงได้ตั้งใจพูดแบบนั้น !"
"ใช่ เราจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ไงกัน ! "
เซ่าหลินได้พูดต่อ
ในเวลาเดียวกันนี้คนอื่นๆล้วนพูดออกมาในทางเดียวกัน
"พอได้แล้ว ! "
มู่ชิงได้คำรามออกมาอย่างดัง
หลังจากที่กวาดตามองไปยังศิษย์ทั้ง 23 คนที่อยู่นอกเวทีโดยการกระทำของหลินเทียนแล้วท่าทางของมู่ชิงก็น่าเกลียดเป็นอย่างมาก ด้วยระดับพลังเขตแดนชีพจรเทวะตอนปลายของเขาแถมยังเป็นผู้อาวุโสของสำนักที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากถึงได้รู้ดีว่าสิ่งที่หลินเทียนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ศิษย์ที่โดดเด่นทั้ง 23 คนกลับกล้าทำเรื่องแบบนี้ !
"ดีมาก ! พวกเจ้าทำได้ดีมาก ! หน้าหนากันนักใช่ไหม ! "
มู่ชิงได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับท่าทางแบบนั้นของมู่ชิงแล้วถึงกับทำให้สีหน้าของหยงฉางและคนอื่นๆเปลี่ยนไปเพราะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถปิดบังเรื่องนี้ได้แล้ว
"ทะ....ท่านผู้อาวุโสโปรดอภัย ! ระ.........เราหน้ามืดตามัวไปกับเงินตราและรู้ดีว่ามันเป็นความผิดที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่านั้นเราไม่รู้ว่าโม่คงมีความคิดที่จะลอบสังหาร หากว่าเรารู้มาก่อนแม้เขาจะให้เงินเรามากมายกว่านี้เราก็จะไม่มีทางยอมรับข้อตกลงนี้อย่างแน่นอน !"
"ได้โปรดอภัยให้เราด้วย !"
"อภัยให้เราด้วย !"
ทั้ง 23 คนได้พูดออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือด
"อภัย ? อยากจะให้จบตรงนี้ ? ในโลกนี้มันไม่มีเรื่องง่ายๆแบบนั้นหรอก ! "
เมื่อจ้องมองไปยังศิษย์ทั้ง 23 คนแล้วมู่ชิงก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
"นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าจะถูกตัดทรัพยากรบ่มเพาะทั้งหมดเป็นเวลาครึ่งปี ! อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีกตำหนักสรรพยุทธ์อีกแม้แต่ก้าวเดียว !"
สีหน้าของทั้ง 23 คนเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงโดยทันที ตัดทรัพยากรบ่มเพาะครึ่งปีแถมยังไม่สามารถเข้าไปที่ตำหนักสรรพยุทธ์ได้นี่มันเป็นการสูญเสียอย่างมหาศาลโดยเฉพาะหยงฉางและหลงซิ่ว ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถเข้าร่วมเป็นศิษย์ภายในได้อย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ไม่เพียงเสียสิทธิ์การเลื่อนระดับแต่ยังถูกตัดทรัพยากรบ่มเพาะกว่าครึ่งปีและถูกจำกัดอิสรภาพอีก !
ณ ตอนนี้เหลืออยู่เพียงความโศกเศร้าเท่านั้น
มู่ชิงไม่ได้สนใจพวกเขาต่อก่อนที่จะมองไปยังโม่คงพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"ส่วนเจ้า ! มีความกล้าไม่น้อยหนิที่กล้าที่จะมีความคิดลอบสังหารผู้มีพรสวรรค์ในรอบหลายร้อยปีของสำนักเราในการทดสอบวันสำคัญแบบนี้ ตอนไหนกันที่ตระกูลโม่ของเจ้าคิดว่าสามารถกดขี่สำนักของเราได้ ! "
มู่ชิงนั้นเป็นคนควบคุมอารมณ์อย่างมากแต่ในยามที่โกรธจัดกลับน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อฟังคำพูดของมู่ชิงแล้วโม่คงก็ได้แต่สั่นสะท้านไปทั้งตัว
"ท่านผู้อาวุโสโปรดอภัย ! โปรดอภัย ! "
โม่คงได้รีบร้องขอชีวิตออกมาทันที
ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีกแล้วเพราะมันไม่มีประโยชน์แล้ว
"อภัย ? "
ฉีดงได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า
"พวกเขาทั้ง 23 คนเพียงแค่มัวเมาโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้ามีจุดประสงค์ที่แท้จริงอะไรดังนั้นถึงได้รับโทษเป็นการตัดทรัพยากรบ่มเพาะครึ่งปีเป็นบทลงโทษแต่เจ้าเป็นคนที่จ้างผู้มีพรสวรรค์ทั้งหลายของเราเพื่อสังหารศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่สุดในสำนักนี่เจ้ารู้ไหมว่าบทลงโทษคืออะไร ? "
ฉีดงและมู่ชิงนั้นคาดหวังในตัวหลินเทียนเป็นอย่างมากดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะโกรธจัด
"จากความผิดที่เจ้าก่อนั้นได้รับโทษเดียวกับการสังหารศิษย์ร่วมสำนักแถมอาจจะร้ายแรงกว่านั้นด้วยซ้ำ ! "
มู่ชิงได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมทั้งปลดปล่อยกลิ่นอายของเขตแดนชีพจรเทวะอันน่าสยดสยองแล้วพูดต่อว่า
"ส่วนเรื่องของตระกูลโม่ของเจ้าที่กล้ายกทั้งตระกูลมาไล่ล่าศิษย์ของสำนักเราแถมยังกล้าลงมือวางแผนสกปรกในงานนี้ต้องให้คำอธิบายกับเรา ! "
"ท่าน....ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดอภัย ! "
โม่คงได้รีบตะโกนออกมา
นอกจากการทำสัญญาเป็นตายนั้นสำนักนี้ห้ามสังหารศิษย์ร่วมสำนักเด็ดขาด ! มันเป็นความผิดที่ร้ายแรงอย่างมาก !
ณ ตอนนี้ท่าทางของโม่คงหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด
หลินเทียนได้พูดขึ้นว่า
"ท่านผู้อาวุโสมู่และผู้อาวุโสฉีข้าขอบขอบคุณ แม้ว่าหลายๆคนจะมุ่งเป้ามาที่ข้าแต่ตอนนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก "
เขาได้พูดต่อด้วยท่าทางที่จริงจังว่า
"ดังนั้นความแค้นระหว่างข้าและตระกูลโม่นั้นข้าไม่อยากให้ทางสำนักมาข้องเกี่ยว ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง !"
หลังจากที่พูดจบแล้วกระบี่ในมือของเขาก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมา
"พุฟฟฟฟ ! "
เลือดสาดกระจายไปทั่วขณะที่ศีรษะของโม่คงได้กระเด็นออกไปไกล
หลังจากที่ศีรษะของโม่คงได้ตกลงมานอกเวทีนั้นผู้คนล้วนแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน
"นี่......"
"ฆ่าทิ้งเลย ? ! "
"เฮือก ! "
เหล่าศิษย์ทั้งหลายสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
"เจ้านี่ฆ่าแบบไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ ! "
ซูชูวได้ส่งเสียงกระซิบออกมา
มู่ชิงและฉีดงเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปก่อนที่ทั้งคู่จะส่ายศีรษะไปตามๆกัน
"ช่างเถอะ กรรมตามสนองแล้ว "
มู่ชิงได้ถอนหายใจออกมา
ฉีดงได้มองไปทางเวทีพร้อมกับพูดต่อว่า
"แล้วเสร็จหรือยังเจ้าหนู ? มีอะไรจะต่อไหม ? "
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วศิษย์หลายๆคนต่างรู้สึกอับอายแทนเป็นอย่างมากเพราะว่าศิษย์เก่ากว่า 24 คนที่เป็นหัวกระทินั้นต่างได้รับโทษแถมหนึ่งในนั้นยังต้องเสียชีวิต นี่ยังไม่เสร็จอีก ? ยังมีเรื่องอะไรจะต่อได้อีก ?
แต่ตอนนี้หลินเทียนกลับทำเรื่องที่เหนือการคาดหมายด้วยการพยักหน้าซะงั้น
"มีขอรับ "
น้ำเสียงของเขาราบเรียบแต่กลับทำให้ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไป
"นี่....ยังมีต่องั้นหรอ ? "
หลายๆคนถึงกับค้างไปตามๆกัน
นี่ไม่เว้นแม้แต่ฉีดงหรือมู่ชิงด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ?
"มีอะไร ? "
มู่ชิงได้ถามออกมาด้วยท่าทางที่สงสัย
ณ ตอนนี้ทุกคนต่างจดจ้องไปทางหลินเทียนเป็นสายตาเดียวกัน
เห็นเพียงแค่ว่าเขาได้หันหลังกลับพร้อมทั้งชี้ออกไปแล้วตะโกนออกมาว่า
"โจวเฮ่า ขึ้นมานี่ ! "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วผู้คนถึงกับแข็งค้างไปทันที
โจวเฮ่า ! ศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ซึ่งตัดผ่านเป็นเขตแดนชีพจรเทวะและได้รับสิทธิ์เข้าร่วมเป็นศิษย์ภายในด้วยสถานะอันดับที่ 1 แต่ตอนนี้หลินเทียนกลับชี้ไปทางโจวเฮ่าด้วยท่าทางที่ต้องการจ สู้
"เขา.... เขาอยากจะท้าประลองกับศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ? "
"นี่.......ไม่..."
"แค่สามารถชนะคนทั้ง 24 คนได้เลยจะท้าประลองกับโจวเฮ่างั้นหรอ ? ! "
"บ้าไปแล้ว ! "
หลายๆคงถึงกับตกตะลึง
ท่าทางของศิษย์ภายในที่อยู่ห่างออกไปเองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
"ท้าประลองผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะ ? "
หลายๆคนถึงกับขมวดคิ้วอย่างหนัก