ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 085
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 087

Divine King Of All Directions - 086


Divine King Of All Directions - 086

 

ตั้งแต่ที่สำนักนี้ถูกต่อตั้งขึ้นมานั้นหลินเทียนคือผู้มีพรสวรรค์ระดับ 9 ดาราคนแรกของที่นี่แถมไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรสวรรค์ กิริยามารยาท ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นหรืออื่นๆนั้นหาที่เปรียบไม่ได้ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของสำนักที่ได้รับการคาดหวังจากมู่ชิงและฉีดงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามตระกูลโม่มันกล้าที่จะวางแผนสังหารหลินเทียนในยามที่พวกเขาไม่ตระหนักเลย

นี่มันเป็นการท้าทายศักดิ์ศรีของสำนักจิ่วหยาง !

"กล้านักนะ ! "

ฉีดงได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่โกรธจัด

แม้แต่มู่ชิงที่มักจะเป็นคนควบคุมอารมณ์ในตอนนี้ยังแสดงสีหน้าที่หม่นหมองออกมา

เหล่าศิษย์มากมายที่อยู่โดยรอบล้วนแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยกันทั้งหมด

"หน้าไม่อาย ! "

ศิษย์ใหม่หลายคนโกรธจัดอย่างถึงที่สุดเพราะว่าก่อนหน้านี้การประลองเป็นตายของหลินเทียนและโม่เซินนั้นมีศิษย์กว่าร้อยอยู่ในเหตุการณ์ซึ่งจากแผนการของโม่ยี่แล้วทำให้โม่เซินอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือกว่าแต่กลับเป็นฝ่ายถูกสังหารเสียเองดังนั้นก็ไม่น่าจะเอาความอะไรอีกทว่าตระกูลโม่กลับกล้ายกเอาทั้งตระกูลมาไล่สังหารหลินเทียนไม่เว้นแม้แต่ตัวโม่ยี่ที่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักด้วยซ้ำ นี่มันเป็นเรื่องที่ไร้ยางอายอย่างมาก

ตอนนี้ท่าทางของศิษย์เก่าหลายคนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

"เดี๋ยวนะ นี่เจ้านี่ยังรอดออกมาภายใต้สถานการณ์แบบนั้นอีกหรอ ?"

หลายๆคนได้แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมา

ผู้นำตระกูลโม่อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 ส่วนโม่ยี่นั้นอยู่ในระดับ 9นี่ยังมีผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลโม่อีกทว่าหลินเทียนกลับสามารถรอดท่ามกลางสถานการณ์แบบนั้นมาได้ นี่มันไม่ท้าทายสวรรค์เกินไปหน่อย ?

หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วหลายๆคนถึงกับต้องสูดหายใจเข้าลึก

"หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ดี ! ดีมากๆ ! มันเป็นวันที่โม่ยี่หายตัวไปพอดี ! "

ฉีดงได้พูดต่อด้วยท่าทางที่เย็นชาอย่างมากว่า

"ดีมากตระกูลโม่ ! กล้าเล่นลูกไม้กับเรางั้นหรอ ! "

หลังจากที่หยุดไปสักพักเขาก็ได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับถามต่อว่า

"หลินเทียน หลังจากที่โม่ยี่ไล่ตามเจ้าแล้วรู้ไหมว่ามันหายไปไหน ? "

หลินเทียนได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

"ศิษย์ได้รับบาดเจ็บจึงหนีไปแอบในถ้ำอย่างหมดหนทาง หลังจากที่อาการดีขึ้นแล้วก็รีบหนีออกมาจากป่าทมิฬดังนั้นถึงไม่รู้เรื่องหลังจากนั้นเลยขอรับ "

โม่ยี่นั้นตายลงด้วยเงื้อมมือของจี่จิงหลิงแต่เขาไม่สามารถพูดเรื่องแบบนี้ได้แน่นอน

มู่ชิงได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า

"เรื่องเมื่อเดือนก่อนมันเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย ? "

มู่ชิงเชื่อว่าหลินเทียนคงไม่พูดเรื่องที่ผ่านมาแล้วอย่างไร้เหตุผลอย่างแน่นอน

"สายตาของท่านผู้อาวุโสมองทะลุปรุโปร่งจริงๆ "

หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับพูดต่อว่า

"เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหลังจากที่ตระกูลโม่ไม่สามารถลอบสังหารข้าได้ดังนั้นหลังจากที่รู้ว่าข้ากลับมาที่สำนักแล้วและจะเข้าร่วมการทดสอบนี้ถึงได้ลงมือว่าจ้างศิษย์ทุกคนที่อยู่ในรอบสุดท้ายเพื่อให้กำราบข้าแล้วจะได้ลอบสังหารโดยใช้อุบัติเหตุด้วยข้ออ้างที่ว่าหากสามารถสังหารข้าด้วยอุบัติเหตุได้แล้วอย่างมากทางสำนักก็คงจะไล่โม่คงออกเท่านั้น "

หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่กลับทำให้ท่าทางของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก

"นี่....."

"กล้าขนาดนั้นเลย ?"

"กล้าหาญเกินไปไหม ? "

หลายคนถึงกับตกตะลึงไปทันที

ที่นี่คือสำนักจิ่วหยางซึ่งแม้ว่าตระกูลโม่นั้นจะเป็นตระกูลผู้บ่มเพาะเดียวในเมืองนี้แต่ก็เป็นเพียงแค่มดหากเทียบกับสำนักแห่งนี้ ในวันคัดเลือกที่สำคัญขนาดนี้กลับกล้าที่จะทำเรื่องแบบนี้ ? ว่าจ้างศิษย์สำนักให้ลอบสังหารดาวรุ่งที่สุดด้วยอุบัติเหตุนี่มันกล้าจริงๆ

"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ? ระยำเอ้ย !"

ซูชูวได้สบถออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด

มู่ชิง ฉีดงและอาจารย์คนอื่นๆของสำนักถึงกับมีท่าทีที่หม่นหมองลงอย่างมาก

เมื่อมองไปยังผู้อาวุโสมู่ชิง ฉีดงและคนอื่นๆแล้วท่าทางของโม่คงก็เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงก่อนที่จะรีบตะโกนออกมาว่า

"ท่านผู้อาวุโสทั้งสองท่านอย่าไปฟังเจ้านั่น ! เขามีความแค้นกับตระกูลโม่ของข้าถึงได้สร้างเรื่องขึ้นมา ! เขาตั้งใจจะโยนความผิดให้ข้า !"

"ถุ้ย ! คิดว่าคนอื่นจะหน้าไม่อายเหมือนตระกูลโม่ของเจ้าหรือไง ! "

ซูชูวได้คำรามออกมาด้วยท่าทางโกรธจัด

มู่ชิงได้ส่งสัญญาณให้ฉีดงไม่ต้องทำอะไรก่อนที่จะเดินลงไปถึงด้านใต้ของเวทีด้วยตัวเองแล้วพูดกับหยงฉางและคนอื่นๆว่า

"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นสินะ ! "

หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับสายตาของมู่ชิงแล้วท่าทางของหยงฉางและคนอื่นๆได้เปลี่ยนเป็นซีดเผือดโดยทันที

"ไม่....ไม่นะท่านผู้อาวุโส ไม่มีเรื่องแบบนั้น !"

หยงฉางได้รีบพูดออกมา

"ใช่แล้ว"

หลงซิ่วได้พูดต่อว่า

"เขา...เขาเกลียดพวกเราถึงได้ตั้งใจพูดแบบนั้น !"

"ใช่ เราจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ไงกัน ! "

เซ่าหลินได้พูดต่อ

ในเวลาเดียวกันนี้คนอื่นๆล้วนพูดออกมาในทางเดียวกัน

"พอได้แล้ว ! "

มู่ชิงได้คำรามออกมาอย่างดัง

หลังจากที่กวาดตามองไปยังศิษย์ทั้ง 23 คนที่อยู่นอกเวทีโดยการกระทำของหลินเทียนแล้วท่าทางของมู่ชิงก็น่าเกลียดเป็นอย่างมาก ด้วยระดับพลังเขตแดนชีพจรเทวะตอนปลายของเขาแถมยังเป็นผู้อาวุโสของสำนักที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากถึงได้รู้ดีว่าสิ่งที่หลินเทียนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ศิษย์ที่โดดเด่นทั้ง 23 คนกลับกล้าทำเรื่องแบบนี้ !

"ดีมาก ! พวกเจ้าทำได้ดีมาก ! หน้าหนากันนักใช่ไหม ! "

มู่ชิงได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับท่าทางแบบนั้นของมู่ชิงแล้วถึงกับทำให้สีหน้าของหยงฉางและคนอื่นๆเปลี่ยนไปเพราะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถปิดบังเรื่องนี้ได้แล้ว

"ทะ....ท่านผู้อาวุโสโปรดอภัย ! ระ.........เราหน้ามืดตามัวไปกับเงินตราและรู้ดีว่ามันเป็นความผิดที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่านั้นเราไม่รู้ว่าโม่คงมีความคิดที่จะลอบสังหาร หากว่าเรารู้มาก่อนแม้เขาจะให้เงินเรามากมายกว่านี้เราก็จะไม่มีทางยอมรับข้อตกลงนี้อย่างแน่นอน !"

"ได้โปรดอภัยให้เราด้วย !"

"อภัยให้เราด้วย !"

ทั้ง 23 คนได้พูดออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือด

"อภัย ? อยากจะให้จบตรงนี้ ? ในโลกนี้มันไม่มีเรื่องง่ายๆแบบนั้นหรอก ! "

เมื่อจ้องมองไปยังศิษย์ทั้ง 23 คนแล้วมู่ชิงก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

"นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าจะถูกตัดทรัพยากรบ่มเพาะทั้งหมดเป็นเวลาครึ่งปี ! อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีกตำหนักสรรพยุทธ์อีกแม้แต่ก้าวเดียว !"

สีหน้าของทั้ง 23 คนเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงโดยทันที ตัดทรัพยากรบ่มเพาะครึ่งปีแถมยังไม่สามารถเข้าไปที่ตำหนักสรรพยุทธ์ได้นี่มันเป็นการสูญเสียอย่างมหาศาลโดยเฉพาะหยงฉางและหลงซิ่ว ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถเข้าร่วมเป็นศิษย์ภายในได้อย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ไม่เพียงเสียสิทธิ์การเลื่อนระดับแต่ยังถูกตัดทรัพยากรบ่มเพาะกว่าครึ่งปีและถูกจำกัดอิสรภาพอีก !

ณ ตอนนี้เหลืออยู่เพียงความโศกเศร้าเท่านั้น

มู่ชิงไม่ได้สนใจพวกเขาต่อก่อนที่จะมองไปยังโม่คงพร้อมทั้งพูดต่อว่า

"ส่วนเจ้า ! มีความกล้าไม่น้อยหนิที่กล้าที่จะมีความคิดลอบสังหารผู้มีพรสวรรค์ในรอบหลายร้อยปีของสำนักเราในการทดสอบวันสำคัญแบบนี้ ตอนไหนกันที่ตระกูลโม่ของเจ้าคิดว่าสามารถกดขี่สำนักของเราได้ ! "

มู่ชิงนั้นเป็นคนควบคุมอารมณ์อย่างมากแต่ในยามที่โกรธจัดกลับน่ากลัวเป็นอย่างมาก

เมื่อฟังคำพูดของมู่ชิงแล้วโม่คงก็ได้แต่สั่นสะท้านไปทั้งตัว

"ท่านผู้อาวุโสโปรดอภัย ! โปรดอภัย ! "

โม่คงได้รีบร้องขอชีวิตออกมาทันที

ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีกแล้วเพราะมันไม่มีประโยชน์แล้ว

"อภัย ? "

ฉีดงได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า

"พวกเขาทั้ง 23 คนเพียงแค่มัวเมาโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้ามีจุดประสงค์ที่แท้จริงอะไรดังนั้นถึงได้รับโทษเป็นการตัดทรัพยากรบ่มเพาะครึ่งปีเป็นบทลงโทษแต่เจ้าเป็นคนที่จ้างผู้มีพรสวรรค์ทั้งหลายของเราเพื่อสังหารศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่สุดในสำนักนี่เจ้ารู้ไหมว่าบทลงโทษคืออะไร ? "

ฉีดงและมู่ชิงนั้นคาดหวังในตัวหลินเทียนเป็นอย่างมากดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะโกรธจัด

"จากความผิดที่เจ้าก่อนั้นได้รับโทษเดียวกับการสังหารศิษย์ร่วมสำนักแถมอาจจะร้ายแรงกว่านั้นด้วยซ้ำ ! "

มู่ชิงได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมทั้งปลดปล่อยกลิ่นอายของเขตแดนชีพจรเทวะอันน่าสยดสยองแล้วพูดต่อว่า

"ส่วนเรื่องของตระกูลโม่ของเจ้าที่กล้ายกทั้งตระกูลมาไล่ล่าศิษย์ของสำนักเราแถมยังกล้าลงมือวางแผนสกปรกในงานนี้ต้องให้คำอธิบายกับเรา ! "

"ท่าน....ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดอภัย ! "

โม่คงได้รีบตะโกนออกมา

นอกจากการทำสัญญาเป็นตายนั้นสำนักนี้ห้ามสังหารศิษย์ร่วมสำนักเด็ดขาด ! มันเป็นความผิดที่ร้ายแรงอย่างมาก !

ณ ตอนนี้ท่าทางของโม่คงหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด

หลินเทียนได้พูดขึ้นว่า

"ท่านผู้อาวุโสมู่และผู้อาวุโสฉีข้าขอบขอบคุณ แม้ว่าหลายๆคนจะมุ่งเป้ามาที่ข้าแต่ตอนนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก "

เขาได้พูดต่อด้วยท่าทางที่จริงจังว่า

"ดังนั้นความแค้นระหว่างข้าและตระกูลโม่นั้นข้าไม่อยากให้ทางสำนักมาข้องเกี่ยว ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง !"

หลังจากที่พูดจบแล้วกระบี่ในมือของเขาก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมา

"พุฟฟฟฟ ! "

เลือดสาดกระจายไปทั่วขณะที่ศีรษะของโม่คงได้กระเด็นออกไปไกล

หลังจากที่ศีรษะของโม่คงได้ตกลงมานอกเวทีนั้นผู้คนล้วนแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน

"นี่......"

"ฆ่าทิ้งเลย ? ! "

"เฮือก ! "

เหล่าศิษย์ทั้งหลายสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที

"เจ้านี่ฆ่าแบบไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ ! "

ซูชูวได้ส่งเสียงกระซิบออกมา

มู่ชิงและฉีดงเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปก่อนที่ทั้งคู่จะส่ายศีรษะไปตามๆกัน

"ช่างเถอะ กรรมตามสนองแล้ว "

มู่ชิงได้ถอนหายใจออกมา

ฉีดงได้มองไปทางเวทีพร้อมกับพูดต่อว่า

"แล้วเสร็จหรือยังเจ้าหนู ? มีอะไรจะต่อไหม ? "

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วศิษย์หลายๆคนต่างรู้สึกอับอายแทนเป็นอย่างมากเพราะว่าศิษย์เก่ากว่า 24 คนที่เป็นหัวกระทินั้นต่างได้รับโทษแถมหนึ่งในนั้นยังต้องเสียชีวิต นี่ยังไม่เสร็จอีก ? ยังมีเรื่องอะไรจะต่อได้อีก ?

แต่ตอนนี้หลินเทียนกลับทำเรื่องที่เหนือการคาดหมายด้วยการพยักหน้าซะงั้น

"มีขอรับ "

น้ำเสียงของเขาราบเรียบแต่กลับทำให้ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไป

"นี่....ยังมีต่องั้นหรอ ? "

หลายๆคนถึงกับค้างไปตามๆกัน

นี่ไม่เว้นแม้แต่ฉีดงหรือมู่ชิงด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ?

"มีอะไร ? "

มู่ชิงได้ถามออกมาด้วยท่าทางที่สงสัย

ณ ตอนนี้ทุกคนต่างจดจ้องไปทางหลินเทียนเป็นสายตาเดียวกัน

เห็นเพียงแค่ว่าเขาได้หันหลังกลับพร้อมทั้งชี้ออกไปแล้วตะโกนออกมาว่า

"โจวเฮ่า ขึ้นมานี่ ! "

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วผู้คนถึงกับแข็งค้างไปทันที

โจวเฮ่า ! ศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ซึ่งตัดผ่านเป็นเขตแดนชีพจรเทวะและได้รับสิทธิ์เข้าร่วมเป็นศิษย์ภายในด้วยสถานะอันดับที่ 1 แต่ตอนนี้หลินเทียนกลับชี้ไปทางโจวเฮ่าด้วยท่าทางที่ต้องการจ สู้

"เขา.... เขาอยากจะท้าประลองกับศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ? "

"นี่.......ไม่..."

"แค่สามารถชนะคนทั้ง 24 คนได้เลยจะท้าประลองกับโจวเฮ่างั้นหรอ ? ! "

"บ้าไปแล้ว ! "

หลายๆคงถึงกับตกตะลึง

ท่าทางของศิษย์ภายในที่อยู่ห่างออกไปเองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

"ท้าประลองผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะ ? "

หลายๆคนถึงกับขมวดคิ้วอย่างหนัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด