Divine King Of All Directions - 073
Divine King Of All Directions - 073
หลินเทียนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมากขณะที่กวาดตามองขึ้นไปยังฟากฟ้า ตัวเขารีบพุ่งเข้าไปในส่วนป่าลึกอย่างรวดเร็ว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทั้งสองคนนี้แล้วเขาไม่มีความมั่นใจอะไรแม้แต่น้อย มีเพียงการหนีหัวซุกหัวซุนเท่านั้น
เสียงแสยะอันเย็นชาได้ถูกส่งออกมาจากฟากฟ้าก่อนที่คลื่นกระบี่มากมายจะพุ่งลงมาดั่งสายฝน
ต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบต่างล้มโค่นและตัวของหลินเทียนเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างกัน
หลังจากที่เข้าไปถึงส่วนลึกของป่าแล้วเขาก็ไดหยุดเท้าลงและมองกลับขึ้นไปบนฟากฟ้า นกยักษ์ยังคงกระพือปีกของมันตามมาอย่างรวดเร็วแม้ว่าทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ของเขาจะมีความว่องไวมากแค่ไหนแต่ความต่างชั้นของทั้งคู่มันต่างกันเกินไป
เมื่อวิ่งไปถึงหินก้อนยักษ์แล้วหลินเทียนก็ได้แต่แหงนมองกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า
"หนีสิ ! ดูหน่อยสิว่าจะหนีได้ถึงไหน ! "
น้ำเสียงอันเย็นชาได้ถูกส่งลงมา
ดวงตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หลินเทียนด้วยประกายตาที่ดุร้าย
หลินเทียนยังคงเงียบอยู่ในตอนนี้แต่หลังจากที่จ้องมองขึ้นไปแล้วเขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรต่อ ต่อให้วิ่งหนีไปแต่ก็ยังถูกนกยักษ์นั่นไล่ล่าอยู่ดีดังนั้นเขาถึงได้คิดว่ายืนอยู่เฉยๆเพื่อออมแรงเอาไว้ยังดีกว่า
ตอนนี้คลื่นกระบี่อันรุนแรงได้ถูกส่งลงมาอีกครั้ง
หลินเทียนได้สำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์เพื่อหลบการโจมตีอย่างรวดเร็ว
"ไอ้เด็กระยำ ! "
ท่าทางของผู้นำตระกูลโม่ดุร้ายเป็นอย่างมาก
โม่ยี่ได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
"ความเร็วของไอ้ระยำนี่สูงมากๆ มันได้แต่ทำให้ป่าไม้โดยรอบได้รับความเสียหายเท่านั้น "
"ข้าจะลงไปฆ่ามันเอง ! "
ผู้นำตระกูลโม่ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
โม่ยี่ได้พยักหน้าตอบพร้อมทั้งพูดว่า
"ไปซะ เจ้าเป็นคนลงมือน่าจะเหมาะที่สุดแล้ว "
ผู้นำตระกูลโม่ได้จ้องมองไปยังร่างของหลินเทียนก่อนที่จะกระโดดลงมาจากความสูงประมาณ 200 เมตร
ท่าทางของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปโดยทันทีเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ สูงขนาดนั้นแต่กลับยังอยู่ดีได้
"ตายซะ ! "
หลังจากที่ลงมาถึงพื้นแล้วผู้นำตระกูลโม่ได้พูดออกมาพร้อมทั้งเหวี่ยงฝ่ามือเข้าใส่หลินเทียนอย่างรวดเร็ว ลูกชายคนเล็กของเขาตายลงด้วยเงื้อมมือของหลินเทียนดังนั้นเขาถึงได้แต่เฝ้าหวังว่าจะสามารถฆ่าหลินเทียนได้ด้วยมือตัวเอง
ฝ่ามือของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 นั้นอาจดูธรรมดาๆแต่กลับแฝงไปด้วยพลังทำลายล้างสูง
หลินเทียนได้สำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ออกมาเพื่อหลบการโจมตีอีกครั้ง
เมื่อมองกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเขาก็พบว่าโม่ยี่ยังคงยืนกอดอกอยู่ที่เดิมพลางจ้องมองลงมาทางเขาอย่างไม่แยแสก็ทำให้ท่าทางของเขาโล่งขึ้นเป็นอย่างมากที่มันไม่ได้ลงมือด้วยแต่ก็ยังสร้างแรงกดดันให้เขาไม่น้อยเพราะว่าในเมื่อมีโม่ยี่คอยจ้องมองเขาอยู่บนฟากฟ้าแล้วก็หมายความว่าเขาไม่สามารถหนีไปไหนพ้น
เขาได้แต่สาปแช่งอยู่ภายในใจและพุ่งหลบไปด้านข้างอีกครั้ง
ใบหน้าของผู้นำตระกูลโม่ได้ดำมืดเพราะว่าการโจมตีหลายครั้งของเขาไม่สามารถสัมผัสร่างกายของหลินเทียนเลยแท้แต่น้อย เขาได้ยกมือขวาขึ้นก่อนที่จะเรียกเอากระบี่ออกมาซึ่งมันทำให้ท่าทางของหลินเทียนต้องเปลี่ยนไปเช่นกันพร้อมทั้งมองไปยังแหวนมิติในมือของชายวัยกลางคน
แหวนมิติ !
"แกร๊ง !"
เสียงกระบี่คำรามได้ถูกส่งออกมาก่อนที่จะฟาดฟันไปทางหลินเทียน
หลินเทียนในตอนนี้ถึงกับตกตะลึงเพราะว่าการฟาดฟันนี้สามารถเทียบเท่ากับทักษะกระบี่วายุสะท้านของเขา ! เขารีบเรียกเอากระบี่คืนสู่หยวนออกมาแล้วสำแดงทักษะกระบี่วายุสะท้านเพื่อตอบโต้การโจมตีอย่างรวดเร็ว
"ตูม ! "
กระโจมตีของทั้งสองได้ปะทะกันก่อนที่หลินเทียนจะกระเด็นออกไปไกลพร้อมทั้งกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
การโจมตีของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะนั้นไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้
เขาไม่ลังเลเลยที่จะวิ่งหนีออกไปทางข้างๆ ก่อนหน้านี้เพียงแค่สัมผัสกับคลื่นกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามก็ทำให้เขาได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกเพียงแค่อวัยวะภายในได้เคลื่อนไปหมดแล้ว
"ไอ้เด็กระยำ ! อย่าได้คิดจะหนีเพราะวันนี้ข้าจะเอาศีรษะของเจ้ากลับไปวางหน้าหลุมศพลูกข้า ! "
น้ำเสียงอันเย็นชาของผู้นำตระกูลโม่ได้ถูกส่งออกมา
หลินเทียนยังคงเงียบอยู่และพยายามหนีต่อไปอย่างรวดเร็ว ทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ได้ถูกสำแดงออกมาจนถึงขีดสุดถึงได้พอรักษาระยะห่างเอาไว้ได้บ้างแต่เรื่องความแข็งแกร่งนั้นเขาไม่สามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะได้เลยแม้แต่น้อยส่วนเรื่องความเร็วก็พอจะถูไถไปได้บ้าง
ณ ตอนนี้คลื่นกระบี่ได้ถูกส่งลงมาจากฟากฟ้าอีกครั้ง
โม่ยี่ที่กำลังมองลงมาได้ลงมือเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
โม่ยี่นั้นแข็งแกร่งกว่าผู้นำตระกูลโม่เพราะอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 ดังนั้นแม้ว่าในมือของมันจะไม่มีกระบี่แต่พลังทำลายที่ส่งออกมาก็น่ากลัวไร้ที่ติ
หลินเทียนได้หลบออกไปอีกทางอย่างรวดเร็ว
"แกร๊ง ! "
พริบตานี้เองที่กระบี่ได้ฟาดฟันมาทางหน้าอกของเขา
หลินเทียนถึงกับตกตะลึงก่อนที่จะรีบยกกระบี่คืนสู่หยวนขึ้นมาป้องกันไว้และทำให้เขากระเด็นออกไปไกล
แกร๊ง ! เมื่อกระบี่ของผู้นำตระกูลโม่ได้ฟาดฟันลงไปยังกระบี่คืนสู่หยวนแล้วก็ได้แตกสลายลงทันทีแต่ถึงอย่างนั้นก็ส่งผลให้ร่างของหลินเทียนกระเด็นออกไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่และกระอักเลือดคำโตออกมาทันที
"อาวุธวิญญาณ "
ผู้นำตระกูลโม่ได้ทิ้งกระบี่ในมือตัวเองก่อนที่จะเรียกเอากระบี่อันใหม่ออกมาซึ่งหากดูแล้วมันดูงดงามกว่ากระบี่คืนสู่หยวนในมือของหลินเทียนอย่างมาก นี่แสดงให้เห็นว่านั่นเป็นอาวุธวิญญาณระดับสูง !
หลินเทียนได้แต่รู้สึกหนักอึ้งอยู่ภายในอก
เขาพยายามตะเกียกตะกายยืนขึ้นพร้อมทั้งอดทนกับความเจ็บปวดแล้ววิ่งหนีเข้าไปในป่าลึกอีกครั้ง
หากว่าสู้กับซึ่งๆหน้าเขาไม่ใช่คู่มือของผู้นำตระกูลโม่อย่างแน่นอน มีเพียงความเร็วเท่านั้นที่พอจะเทียบได้ หากว่าเขาสามารถชักนำสัตว์อสูรออกมาได้ก็อาจจะมีโอกาสรอดชีวิตจากที่นี่
"ยังคิดจะหนีอีกงั้นหรอ ! วันนี้เจ้าถูกกำหนดให้ตาย ! "
ผู้นำตระกูลโม่ได้พูดออกมา
ระหว่างที่กำลังหนีเขาก็เริ่มหมุนวนเคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์พร้อมทั้งสัมผัสถึงกลิ่นอายอสูรของสัตว์อสูรระดับ 4 ในไม่ช้า
นี่คือวานรพฤกษาซึ่งเป็นสัตว์อสูรระดับ 4 ช่วงปลายที่มีพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 3 !
เขาได้แต่กัดฟันก่อนที่จะฟาดวันออกไปทางมัน
วานรพฤกษาได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังจนเป็นเหตุให้พื้นดินยังต้องสั่นไหว
หลินเทียนได้หันหน้าไปอีกทางก่อนที่จะพุ่งเข้าหาวานรตัวนั้น
"แกร๊ง ! "
ตอนนี้เองที่คลื่นกระบี่อันเย็นยะเยือกได้พุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
พุฟฟฟ ! มันได้ทะลุผ่านร่างกายของวานรพฤกษาไปหลังจากนั้นมันก็ได้ส่งเสียงร้องออกมาจนสุดท้ายก็นอนจมกองเลือด
โม่ยี่ที่อยู่บนหลังของนกยักษ์ได้แสดงสีหน้าที่ไม่แยแสออกมา
หลินเทียนที่เห็นเช่นนั้นถึงกับผวาไปเพราะว่าโม่ยี่นี่มันแข็งแกร่งจริงๆ ขนาดสัตว์อสูรระดับ 4 ช่วงปลายยังไม่สามารถรับการโจมตีได้
"ตายไปซะ !"
ผู้นำตระกูลโม่ที่พุ่งตามหลังมาได้ฟาดฟันออกไป
หลินเทียนได้ป้องกันการโจมตีด้วยกระบี่คืนสู่หยวนในมือซึ่งส่งผลให้ร่างของเขาปลิวออกไปไกลอีกครั้ง
หลังจากที่ได้รับการโจมตีไปหลายครั้งก็ส่งผลให้เลือดที่กระอักออกมาย้อมเสื้อของจนเป็นสีแดงฉ่ำ
อาวุธวิญญาณระดับสูงมันยากจะป้องกันจริงๆ
"วิ่งต่อไปสิ ! ิ่งหนีต่อไป ! "
น้ำเสียงอันเย็นชาได้ถูกส่งตามหลังของเขา
หลินเทียนได้กำกระบี่ไว้ด้วยมือซ้ายของเขาและหลังจากที่เขากระโดดออกไปแล้วก็ได้สำแดงทักษะเพลงกระบี่สายฟ้ามรกตออกมาส่งผลให้เกิดเสียงกระแสไฟฟ้าจากทุกทิศทาง
"ทักษะเพลงกระบี่สายฟ้ามรกต ! "
โม่ยี่ที่อยู่บนหลังของนกยักษ์ได้แต่มีท่าทางเปลี่ยนไปเพราะด้วยความที่เขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักดังนั้นถึงได้รู้จักทักษะนี้เป็นธรรมดา
"ไม่คิดเลยนะว่าไอ้เด็กระยำนี่มันจะเลือกฝึกฝนทักษะนี้แถมยังสำเร็จขั้นต้นแล้วด้วย ไม่แปลกใจจริงๆที่ผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกันถูกจัดการอย่างง่ายดาย"
ทักษะนี้เป็นทักษะที่ยากที่สุดในสำนักซึ่งแม้ว่าเงื่อนไขขึ้นต้นจะอันตรายแถมยังไม่สมบูรณ์แต่ก็ยังแข็งแกร่ง หลินเทียนที่เลือกทักษะนี้มาฝึกฝนนั้นทำให้โม่ยี่สัมผัสได้ถึงภัยอันตรายโดยทันที
"ยังไงก็ต้องรีบกำจัดไอ้ระยำนี่ ! "
"โครม ! "
คลื่นกระบี่ได้ส่งเสียงคำรามออกมาในมือซ้ายของเขาก่อนที่จะห่อหุ้มไปด้วยสายฟ้ามากมาย
โม่ยี่ยังคงยืนกอดอกเช่นเคยพร้อมทั้งพูดกับตัวเองว่า
"ระดับพลังมันยังไม่พอดังนั้นสุดท้ายแล้วก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี "
ตอนนี้ระดับพลังของผู้นำตระกูลโม่นั้นอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 ส่วนหลินเทียนนั้นอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8ดังนั้นมันไม่สามารถเทียบกันได้
"เหอะ ! "
ผู้นำตระกูลโม่ได้ส่งเสียงแสยะอันเย็นชาออกมาพร้อมทั้งปัดป้องการโจมตีของหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
แกร๊ง ! เมื่อกระบี่ทั้งสองได้ปะทะกันแล้วก็ได้ก่อเกิดเสียงดังขึ้นทันที
กระแสไฟฟ้ามากมายส่งเสียงร้องออกมาขณะที่โลดแล่นไปทั่ว
ณ ตอนนี้เองที่หลินเทียนได้แสดงรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
เขาได้ยกมือขวาขึ้นขณะที่เจตจำนงแห่งกระบี่อันรุนแรงจะก่อตัวขั้นและสำแดงทักษะกระบี่สายฟ้าออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อหมายปองตำแหน่งลำคอของผู้นำตระกูลโม่
ในมือไม่มีกระบี่ กระบี่ลวงตา !
"ระวัง ! "
ท่าทางของโม่ยี่ที่อยู่บนท้องฟ้าได้เปลี่ยนไปทันที
ในเวลาเดียวกันนี้ผู้นำตระกูลโม่ก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวก่อนที่จะรีบร่นถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
"พุฟฟฟ ! "
เลือดได้สาดกระจายไปทั่วตามมาด้วยเลือดที่ไหลรินออกมาจากบาดแผลทิ่มแทงที่หน้ อกของผู้นำตระกูลโม่
หลินเทียนได้ถูกแรงปะทะของกระบี่ดีดคนกระเด็นกลับไปพลางกระอักเลือดอีกครั้ง
หลินเทียนที่ยืนขึ้นอย่างยากลำบากเองก็ได้แต่สาปแช่งอยู่ภายในใจเพราะผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 4 มันแข็งแกร่งจริงๆที่สามารถหลบการโจมตีถึงชีวิตในระยะประชิดได้ขนาดนี้ หลังจากที่ชะงักไปครู่หนึ่งเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะพุ่งหนีไปทันที ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ไม่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้แน่นอนแถมยังมีโม่ยี่บนอากาศอีก เขาไม่มีหวังที่จะฆ่าภายใต้สายตาของโม่ยี่ด้วยซ้ำ
โม่ยี่ได้กระโดดลงมาอยู่ข้างๆกับผู้นำตระกูลโม่พร้อมกับถามว่า
"น้องสองเป็นอย่างไรบ้าง ? "
โม่ยี่ได้ถามออกมา
"ไม่เป็นอะไรมาก "
ผู้นำตระกูลสามารถหลบเลี่ยงจุดตายออกมาได้แต่ก็ยังได้รับความเสียหายหนักอยู่ดี
เมื่อมองไปยังหลินเทียนที่กำลังวิ่งหนีไปแล้วท่าทางของเขาก็ยิ่งดุร้ายขึ้น
โม่ยี่ได้หยิบเอายาส่งให้กับเขาพร้อมกับพูดต่อว่า
"เจ้าฟื้นฟูร่างกายตัวเองไปก่อน ยกมันให้ข้าจัดการเอง"
"ฝากพี่ใหญ่จัดการด้วย "
ผู้นำตระกูลโม่ โม่ไฮ่เต๋าได้พูดออกมา
โม่ยี่ได้พยักหน้าตอบพร้อมกับยืนขึ้นแล้วไล่ตามไป
.........
หลินเทียนพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ณ ตอนนี้ปากของเขากลบไปด้วยเลือดมากมายแต่ความเร็วก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"แกร๊ง ! "
คลื่นกระบี่ได้พุ่งผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ตูมมม ! คลื่นกระบี่ได้ตกลงข้างๆเขาก่อนที่ทุกอย่างจะระเบิดออกแม้จะเป็นหินน้อยใหญ่และทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปและกระอักเลือดออกมากลางอากาศ
หลังจากนั้นเขาก็ได้กวาดตามองกลับไปและหัวใจถึงกับตกลงไปที่ตาตุ่มเพราะว่าโม่ยี่กำลังไล่ตามเขามา
"ระยำ ! "
เขาได้แต่กัดฝันแน่นขณะที่อดทนกับความเจ็บปวดแล้วพุ่งเข้าไปยังป่าลึก
โม่ยี่ยังคงไล่ตามหลังเขาไม่หยุดก่อนที่จะส่งคลื่นกระบี่ออกมาอีกครั้งและส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่มากมายหักโค่นลง ในเวลาเดียวกันนี้เองเสื้อผ้าของหลินเทียนก็ขาดรุ่งริ่งไม่มีชิ้นดีพร้อมกับร่างกายที่โชกไปด้วยเลือดซึ่งดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
ความเร็วของโม่ยี่นั้นสูงกว่าหลินเทียนมากก่อนที่จะเข้าประชิดร่างของเขาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเตะเข้าที่กลางหน้าอกอย่างจัง
โครม ! หลินเทียนได้ตีลังกาอยู่กลางอากาศก่อนที่จะกระแทกเข้ากับพุ่มไม้
"หนีอีกสิ "
โม่ยี่ได้พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม
เขาได้แต่กอดอกเอาไว้เพราะกับหลินเทียนที่มีระดับพลังเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 นั้นถือเป็นของเล่นสำหรับเขา
หลินเทียนได้พยายามพยุงตัวเองขึ้นพร้อมทั้งกำกระบี่เอาไว้ในมือ
วิ้ส ! โม่ยี่ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขาอีกครั้งก่อนที่จะกวาดลูกเตะเข้าใส่เขา
"!"
หลินเทียนได้ลอยขึ้นฟ้าพลางกระอักเลือดออกมาแล้วตกลงมากระแทกกับพื้นซึ่งมีเสียงกระดูกแตกหักดังออกมาอย่างชัดเจน
เขาได้พยายามตะเกียกตะกายยืนขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะรับลูกเตะที่สามของโม่ยี่
"โครม ! "
เขาได้กระเด็นออกไปอีกครั้งก่อนที่กระบี่ในมือจะหลุดออกไป ตอนนี้เขาไม่มีแรงพอจะขยับด้วยซ้ำ
โม่ยี่ยังคงกอดอกเอาไว้พร้อมทั้งเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
เมื่อมองไปยังโม่ยี่ที่กำลังใกล้เข้ามาแล้วเขาได้พยายามใช้พลังทั้งหมดเพื่อพยุงตัวเองขึ้นแต่น่าเสียดายที่มันเป็นได้เพียงความพยายาม ณ ตอนนี้ร่างกายของเขาชโลมไปด้วยเลือดขณะที่วิสัยทัศน์ค่อยๆหมองลงเรื่อยๆพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่รุนแรงกว่าการหล่อหลอมร่างกายกำลังแล่นไปทั่ว
โม่ยี่ได้เดินเข้ามาใกล้เขาพร้อมทั้งง้างฝ่ามือไปทางหลินเทียนพลางพูดว่า
"ข้าจะทำลายรากฐานการบ่มเพาะแล้วตัดศีรษะเจ้าไปเส้นไหว้หลุมศพ "
โม่ยี่ได้พูดออกมา
เมื่อมองไปยังมือขวาของโม่ยี่ที่กำลังขยับเข้ามาแล้วหลินเทียนก็รู้สึกเพียงแค่ว่าการตะเกียกตะกายของเขาไม่มีผลอะไรเลย
มือขวาของโม่ยี่ได้กดลง
"บึ้สสสส ! "
ตอนนี้เองที่ร่างของเขาได้เปล่งแสงอันอบอุ่นออกมาก่อนที่จะ "ตูมมมม !" ร่างของโม่ยี่ได้ถูกดีดกระเด็นออกไปไกล