Divine King Of All Directions - 069
Divine King Of All Directions - 069
ห่างออกไปไม่ไกลนั้นหลินเทียนก็ได้เดินเข้าไปยังพุ่มไม้ครั้งก่อนและได้พบกับร่องรอยของอสูรสายฟ้าในที่สุด
"ออกไปล่าเหยื่อ ? "
หลินเทียนได้รู้สึกสงสัย
เคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์ได้หมุนวนก่อนที่จะส่งผลให้ความสามารถในการรับรู้ของเขาเพิ่มขึ้นและจับกลิ่นอายอสูรในอากาศ
อสูรสายฟ้าตัวนี้สามารถพ่นไฟและปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นอายของมันพิเศษอย่างอื่น อีกอย่างมันยังเป็นถึงสัตว์อสูรระดับ 4 ดังนั้นกลิ่นอายของมันถึงได้รุนแรงและทิ้งร่องรอยเอาไว้มากกว่าจึงทำให้หลินเทียนสามารถสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว
"ไปทางตะวันออกเฉียงใต้"
เมื่อสัมผัสได้แล้วหลินเทียนก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ครั้งก่อนตอนที่เขารับภารกิจเข้ามาเก็บเกี่ยวดอกไม้ผีไปก็ทำให้เขาได้รับข้อมูลสภาพพื้นที่ภายในป่าทมิฬและพบว่าเส้นทางที่สัตว์อสูรสายฟ้ามุ่งหน้าไปคืออาณาเขตของสัตว์อสูรระดับ 2ซึ่งไม่เป็นอันตรายอะไรนัก
เขาไม่ลังเลเลยที่จะมุ่งหน้าไปทางนั้นทันที
ความเร็วของเขาคงที่ไม่เร็วและไม่ช้า ไม่นานห่างออกไปจากจุดที่เขาอยู่ไม่ถึงสามกิโลเมตรก็มีกลิ่นอายอันรุนแรงถูกส่งออกมา
มันเป็นเพราะว่าอยู่ในเส้นทางเดิมดังนั้นเขาถึงไม่หลบและมุ่งหน้าไปทางนั้นทันที
และหลังจากที่ผ่านไปได้ไม่กี่ลมหายใจนั้นหลินเทียนก็ได้หยุดลงพร้อมพบว่าด้านหน้ามีชายหนุ่มหลายคนกำลังสู้กับสัตว์อสูรระดับ 3 ซึ่งหนึ่งในนั้นเขาเคยพบเจอแล้ว มันเป็นคนของโจวเฮ่าที่ชื่อว่าหลูเชิง
"โฮ๊กก ! "
สัตว์อสูรได้โห่ร้องออกมาอย่างน่าสงสารก่อนที่จะนอนจมกองเลือดไป
ณ ตอนนี้หลูเชิงเองก็ได้ค้นพบหลินเทียนเช่นกันก่อนที่จะแสดงสีหน้าที่ผงะออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"เป็นเจ้า ! เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ ! "
ก่อนหน้านี้เขาเห็นกับตาตัวเองเลยว่าหลินเทียนถูกสัตว์อสูรตะขาบผีลากไปและคิดว่าหลินเทียนน่าจะตายไปแล้วแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ข่าวเรื่องที่หลินเทียนสามารถอดทนอยู่ภายในข่ายอาคมคลื่นยักษ์ของสำนักได้กว่า12ชั่วโมงดังนั้นถึงเข้าใจทันทีว่าหลินเทียนยังมีชีวิตอยู่
หลินเทียนได้หรี่ตาลงพร้อมกับกวาดตามองไปทางหลูเชิง
หลูเชิงได้ผงะไปก่อนที่จะนึกสภาพอันน่าสังเวชของชูวฮูวครั้งก่อนถึงได้แสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นแล้วพูดว่า
"เจ้าจะทำอะไร ? "
"กลัวอะไร ? ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างสังเวช
หลังจากที่กวาดตามองหลูเชิงแล้วเขาก็ได้จากไป สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรที่จะได้พบกับหลูเชิงที่นี่เพราะว่าเขาเป็นเพียงศิษย์สำนักธรรมดาๆและน่าจะไปรับภารกิจจากสมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมหรือไม่ก็ตำหนักแลกสมบัติเพื่อที่จะหาเงิน
แม้ว่าสันเขาชิงเฟิงจะเป็นสวรรค์ของเหล่าสัตว์อสูรแต่ก็ยังเทียบกับที่นี่ไม่ได้เพราะถึงอย่างไรก็ตามที่สันเขานั้นเต็มไปด้วยศิษย์สำนักที่เข้าไปขัดเกลาตัวเองซึ่งสัตว์ร้ายที่อยู่ในสันเขามันคนละระดับกับที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นที่สันเขาก็ไม่ได้มีสมุนไพรหรือของล้ำค่าอะไรมากเท่าป่าทมิฬแห่งนี้
พริบตาเดียวเท่านั้นก่อนที่หลินเทียนจะหายไปจากวิสัยทัศน์ของหลูเชิง
"พี่ชายหลู นั่นมันใครกัน ? "
ชายหนุ่มข้างๆเขาได้ถามออกมา
"หลินเทียน ! "
หลูเชิงได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่สงบ
ชายหนุ่มคนนั้นได้พูดต่อด้วยท่าทางที่ประหลาดใจว่า
"เจ้าหน้าใหม่ที่ได้ที่หนึ่งแล้วได้ที่สองในการจัดอันดับศิษย์ภายนอก ? "
"ใช่ ! "
"นี่.........ได้ยินว่าเจ้าหนูนั่นฆ่าโม่เซินของตระกูลโม่ไปดังนั้นถึงได้มีคนตระกูลโม่ดักรอเก็บมันอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าสำนักแต่กลับกล้าที่จะออกมาจากสำนักซะงั้น ดูเหมือนว่าความกล้าของมันจะไม่น้อยเลยนะ "
หนึ่งในนั้นได้พูดออกมา
แน่นอนว่าสำนักจิ่วหยางนั้นเป็นสถานที่ๆแม้แต่ตระกูลโม่หรือตระกูลผู้บ่มเพาะก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปทำอะไรหลินเทียน
หลูเชิงนั้นเงียบไปก่อนที่จะมองไปยังเส้นทางที่หลินเทียนจากไปด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
"ไป กลับกัน ! "
หลูเชิงได้พูดออกมาอย่างเย็นชา
"กลับ ? "
หลายคนได้แสดงสีหน้าที่สงสัยพร้อมทั้งถามออกมาว่า
"แต่ว่าภารกิจของ รายังไม่เสร็จเลยนะ "
"ภารกิจนี่มันอะไรกัน อย่างมากก็ทำเงินได้แค่ไม่กี่เหรียญเท่านั้นแหละ "
หลูเชิงได้แสยะออกมา
.....
หลังจากที่แยกออกมาจากหลูเชิงแล้วความเร็วของหลินเทียนก็ยังคงที่เช่นเคยก่อนที่จะหมุนวนเคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์เร็วขึ้นกว่าเก่าพลางส่งจิตสัมผัสออกไปรอบๆเพื่อจับกลิ่นอายอสูรสายฟ้า
"ตูมม ! "
นกยักษ์ได้พุ่งลงมาจากท้องฟ้าพร้อมทั้งง้างกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่ร่างของหลินเทียน
มันเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ที่มีพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8
หลินเทียนได้หันหน้ากลับไปก่อนที่จะจับกรงเล็บของมันเอาแล้วแล้วหักออกทันที
"โครมม ! "
นกยักษ์น้ำหนักนับหลายร้อยกิโลกรัมได้กระแทกกับพื้นไปโดยไม่รู้ว่ามันโค่นต้นไม้ไปมากมายเพียงใด
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับชีวิตของมันนักก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไป
หลังจากนั้นเมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเขาก็สัมผัสได้ถึงไอความร้อนข้างหน้าพร้อมกับเสียงโอดครวญอย่างน่าสงสาร
เมื่อมองออกไปแล้วเขาพบกับสัตว์อสูรตัวใหญ่กำลังถูกลายล้อมไปด้วยผู้คนซึ่งทั้งตัวของมันปกคลุมไปด้วยขนสีแดงและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือร่างกายของมันได้มีเปลวเพลิงและสายฟ้าห้อมล้อมเอาไว้ให้ความรู้สึกชั่วร้ายเป็นอย่างมาก
"!"
หลังจากที่เสียงโอดครวญได้ถูกส่งออกมาในพริบตานั้นก็มีคนกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรไปแล้ว
หลินเทียนได้กระโดดขึ้นไปยังกิ่งไม้ก่อนที่จะแสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา
"ในที่สุดก็พบสักที ! "
หลินเทียนได้พูดกับตัวเอง
ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ได้อ่อนแอเลยแต่ยังห่างชั้นกับสัตว์อสูรสายฟ้าอยู่มาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหลินเทียนไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาได้กระโดดลงไปก่อนที่จะเข้าสู่สนามรบโดยทันที
"แกร๊ง ! "
กระบี่ยาวได้ปรากฏขึ้นในมือของเขาก่อนที่จะส่งคลื่นกระบี่อันรุนแรงออกไป
อสูรสายฟ้าได้ส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะหันดวงตาคู่สีแดงก่ำไปจ้องมองที่หลินเทียนอย่างไม่หยุดหย่อน
"เจ้าหมู่โง่ มากัดข้าสิมา "
หลินเทียนได้ตะโกนออกไป
สำหรับการยั่วยุนี้แล้วอสูรสายฟ้าที่มีพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะจะทนได้อย่างไร มันได้คำรามออกมาอย่างดังก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่หลินเทียนโดยไม่สนใจคนอื่นๆแม้แต่น้อย
หลินเทียนถึงกับผวาไปเพราะว่าสัตว์อสูรตัวนี้มันน่ากลัวจริงๆนั่นแหละ
เขาได้เคลื่อนไหวและหลบการโจมตีของมันอย่างรวดเร็ว
"ไอ้หมูโง่ เข้ามาสิ ! "
เขาได้ตะโกนซ้ำอีกครั้ง
แน่นอนว่าสัตว์ร้ายระดับ 4 นั้นเปิดภูมิปัญญาแล้วดังนั้นถึงได้คำรามออกมาทันทีก่อนที่จะอ้าปากแล้วพ่นไฟออกมา
หลินเทียนได้สำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ออกมาพร้อมทั้งพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ที่นี่มีคนอยู่มากเกินไปดังนั้นเขาต้องหลบออกไปก่อนเพื่อที่จะได้รับการโจมตีของอสูรสายฟ้าได้
"วิ้ส ! "
"วิ้ส !"
"วิ้ส !"
เขายังคงอาศัยทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์เพื่อพุ่งออกไปไกลกว่าครึ่งกิโลเมตรในชั่วพริบตา
อสูรสายฟ้านั้นเป็นอสูรระดับ 4 ดังนั้นแน่นอนว่าความเร็วของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินเทียนเลยแม้แต่น้อย
ภายในสนามรบก่อนหน้านี้กลุ่มชายมากมายที่เห็นว่าอสูรสายฟ้าได้จากไปแล้วก็ได้แสดงสีหน้าที่โล่งใจออกมา
"นายน้อย ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ ? "
คนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มในชุดจีนอายุราว 17 ปีได้ถามออกมาอย่างระมัดระวัง
"ไม่เป็นอะไร"
ชายหนุ่มในชุดจีนได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งมองไปยังเส้นทางของหลินเทียนก่อนที่จะวิ่งออกไปพลางตะโกนว่า
"เฮ้ เพื่อน เจ้านี่มันสุดยอดไปเลย ขอบคุณมากๆ ! "
เสียงของชายหนุ่มคนนี้ดังมากๆและแน่นอนว่าหลินเทียนได้ยินเป็นธรรมดา เขาได้หันหน้ากลับไปมองทางชายหนุ่มคนนั้นและพุ่งออกไปเร็วกว่าเดิมโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
"โครม ! "
อสูรสายฟ้ายังคงวิ่งไล่เขาอย่างรวดเร็วจนทำให้ฝุ่นรอบข้างถึงกับตลบ
"อสูรระดับ 4 นี่มันน่ากลัวจริงๆ "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจเพราะหากว่าไม่มีทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ถึงระดับ 2 เขาก็คงไม่กล้ายั่วยุตัวตนแบบนี้
ระหว่างที่กำลังวิ่งหนีนั้นหลินเทียนก็ได้กวาดตามองรอบๆอย่างระมัดระวังซึ่งหลังจากที่ผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงเขาก็พบกับทุ่งหญ้ากว้างที่ไม่มีอสูรอยู่รอบๆถึงได้มุ่งหน้าเข้าไปทันที
วิ้สสสส ! เขาได้หยุดเท้าลง
เมื่อหันกลับไปแล้วเขาก็พบว่าอสูรสายฟ้ากำลังพุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆถึงได้จ้องมองที่มันอย่างจริงจัง
นี่มันคืออสูรระดับ 4นะ หากว่ารับมือไม่ดีก็อาจจะตายได้
มันได้คำรามออกมาอย่างดังก่อนที่จะจ้องมองไปยังร่างของหลินเทียนด้วยท่าทางที่ดุร้าย
"ไอ้หมูเน่า ไอ้สายฟ้าไร้น้ำยา ! "
หลินเทียนได้ตะโกนออกไป
อสูรสายฟ้าได้คำรามออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่หลินเทียนอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนถึงกับหมดคำพูดก่อนที่จะเคลื่อนที่หลบไปข้างๆ
"โครม ! "
เปลวเพลิงได้พุ่งออกมาก่อนที่หลินเทียนจะรีบหลบออกไป อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงรู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนังเหมือนว่าร่างกายของเขากำลังละลาย
"น่ากลัวเกินไปแล้ว "
เขาได้คิดอยู่ภายในใจ
หากว่าก่อนหน้านี้โดนเปลวเพลิงเข้าจังๆมีหวังเขาคงจะหมดท่าในทันที
"สรุปแล้วเราน่าจะรับมือมันได้เพียงแค่การโจมตีเดียวเท่านั้น "
เขาได้พูดกับตัวเอง
หลังจากที่สำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ออกไปแล้วหลินเทียนก็ได้กล้าทำอย่างอื่นนอกจากหลบเลี่ยงเปลวเพลิงของอสูรสายฟ้าตัวนี้
"ไอ้หมูโง่ สายฟ้าไร้น้ำยา !"
"สายฟ้าไร้น้ำยา ! ไอ้หมูโง่ !"
"ตายซะหมูโง่ ไอ้หมู ๆ !"
หลินเทียนได้ตะโกนออกมาไม่หยุด
ณ ตอนนี้หากว่ามีใครมาเห็นฉากนี้ก็คงตกตะลึงจนตาค้างเพราะว่าอาศัยระดับพลังเขตแดนหล่อหลอมร่างกายแต่กลับกล้าที่จะยั่วยุอสูรระดับ 4
"ไอ้หมูโง่ สายฟ้าไร้น้ำยา ขาไม่เล่นกับเจ้าแล้ว ! "
หลินเทียนได้ตะโกนออกไป
เขาได้สำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์อีกครั้งซึ่งมันเผาผลาญพลังงานของเขาอย่างมาก ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้เขาจะเสียเปรียบมากๆ
เขายังคงหลบเลี่ยงการโจมตีไปด่าไปเรื่อยๆ
หลังจากที่ผ่านไปสิบห้านาทีแล้วอสูรสายฟ้าก็โกรธถึงขีดสุด
มันได้คำรามออกมาก่อนที่เปลวเพลิงรอบตัวมันจะแผ่วลงหลังจากนั้นพลังงานสายฟ้ามากมายก็ได้ส่งเสียงออกมา
"มาแล้ว ! "
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วหลินเทียนก็แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมาทันที
"โฮ๊ก ! "
หลังจากที่จบเสียงคำรามแล้วกระแสไฟฟ้ารัศมีกว่าสามเมตรก็ได้ก่อตัวขึ้นภายในช่องปากของมันก่อนที่จะยิงออกไปทางหลินเทียน ระหว่างที่มันถูกยิงออกไปลูกบอลไฟฟ้านี้ส่งผลให้อากาศโดยรอบถึงขั้นบิดตัว
หลินเทียนได้แต่ตกตะลึงเพราะพลังสายฟ้านี้มันน่ากลัวจริงๆ ! หากเทียบกับเปลวเพลิงที่มันพ่นมาก่อนหน้านี้แล้วมันรุนแรงกว่าหลายเท่าตัว ! เมื่อมองไปยังบอลสายฟ้านี้แล้วเขาก็ได้แต่กระซิบกับตัวเองว่า ร่างกายของเขาจะทนรับมันไหว ?
"มาถึงขั้นนี้แล้ว เอาว่ะ ! "
เขาได้แต่กัดฟัน
ดวงตาของเขาเป็นประกายสีเงินก่อนที่จะตั้งท่านรับบอลสายฟ้าโดยที่ไม่ขยับไปไหน