Divine King Of All Directions - 063
Divine King Of All Directions - 063
(* ในเว็ปมันเปลี่ยนจากซิงเหยาเป็นซินเหยางั้นแอดเปลี่ยนตามเลยแล้วกัน )
ตัวเขาได้กวาดตามองรอบๆเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บเอาบัตรสีทองออกมาจากร่างของจางเฟิงและคนอื่นๆทีละคนรวมถึงอาวุธวิญญาณทั้งหมดด้วย
"หกแสนเหรียญแถมยังมีอาวุธวิญญาณระดับกลางและอาวุธที่เกือบจะเทียบเท่าอาวุธวิญญาณ ดูเหมือนว่าการเก็บเกี่ยวครั้งนี้นะไม่น้อยเลยแหะ "
หลินเทียนได้แสยะออกมา
ณ ตอนนี้เขาได้ยินเสียงหอนของหมาป่าดังมาจากที่ไกลๆก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย
"หมาป่าโลหิต ? "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ
เขาไม่ลังเลเลยที่จะกระโดดถอยกลับไปหลบซ่อนตัว
ไม่นานเขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังอาณาเขตสัตว์ร้ายระดับที่ 2 พร้อมทั้งหาใบกล้วยมาห่ออาวุธวิญญาณที่ได้ไว้แล้วเดินกลับไปทางสำนัก
เมื่อกลับไปถึงที่พักแล้วเขาก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
"หอกวิญญาณและกระบี่วิญญาณนี่ต้องเอาไปขายให้เร็วที่สุด "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้แล้วเขาก็นึกได้เพียงแค่ว่าจะต้องไปที่ตำหนักแลกสมบัติเท่านั้น
ณ ตอนนี้เขาไม่รีรอแม้แต่น้อย รีบสวมเสื้อคลุมสีดำเอาไว้พร้อมทั้งรีบมุ่งหน้าออกจากสำนักไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อไปถึงหน้าตำหนักแลกสมบัติแล้วก็พบว่าที่นี่ยังคงคึกคักอยู่เช่นเคย เขารีบมุ่งตรงไปยังห้องประเมินสมบัติโดยทันที
"ท่าน.....คือปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมคนก่อน ? "
ชายวัยกลางคนที่รับหน้าที่ดูแลที่นี่ได้ถามออกมา
"ข้าเอง "
หลินเทียนได้ตอบกลับพร้อมทั้งเอาอาวุธวิญญาณออกมาวางไว้แล้วพูดต่อว่า
"ช่วยตรวจสอบแล้วเอาไปเข้าประมูลให้ข้าหน่อย "
มันเป็นอาวุธวิญญาณของจางเฟิงและหยูเท่านั้นดังนั้นตราบใดที่เขานำของพวกนี้มาขายให้เร็วก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว
ชายวันกลางคนได้กวาดตามาองก่อนที่จะพูดออกมาด้วยท่าทางที่ตกตะลึงว่า
"อาวุธวิญญาณ ? "
"อื่ม "
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
ชายวัยกลางคนได้มองกลับไปยังหลินเทียนอีกครั้งพร้อมพูดว่า
"ก่อนหน้านี้ท่านพูชิได้สั่งการเอาไว้ว่าหากท่านมาอีกก็ให้ข้าเชิญท่านไปที่ห้องแขกผู้ทรงเกียรติที่อยู่ในอาคารที่สอง โปรดตามข้ามา"
"ได้"
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ
สำหรับเขาแล้วคุ้นเคยกับพูชิดี
พวกเขาได้เดินออกจากห้องนี้ไปยังอาคารที่สองภายใต้การนำของชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว
"ท่านพูชิ น้องชายปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมมาขอรับ "
ชายวัยกลางคนได้พูดออกมาหลังจากที่เคาะประตู
ประตูได้ถูกเปิดออกโดยพูชิอย่างรวดเร็วก่อนที่สายตาของเขาจะตกลงไปที่หลินเทียนพร้อมทั้งพูดว่า
"แขกอันทรงเกียรติ ! น้องชายเข้ามาเร็ว ๆ "
"ขอรบกวนด้วย "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างสุภาพ
หลังจากที่นั่งลงแล้วพูชิก็ได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"น้องชาย วันนี้มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ? "
"อื่ม เอาของสองอย่างมาให้ช่วยลงประมูลน่ะ "
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
ณ ตอนนี้ชายวัยกลางคนก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องของอาวุธวิญญาณทั้งสองชิ้นออกมา
"โอ้ อาวุธวิญญาณระดับกลางงั้นหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า น้องชายเอากำไรมาให้ตำหนักแลกสมบัติของเราอีกแล้ว ! "
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายแล้วพูชิก็ได้แต่หัวเราะออกมาก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วพูดต่อว่า
"พอดีเลย เรากำลังจัดการประมูลขึ้นในช่วงบ่ายงั้นน้องชายรอก่อนแล้วกันข้าจะไปแจ้งซินเหยาก่อน "
"ขอรบกวนด้วยนะ "
หลินเทียนได้พูดออกมา
พิชูได้โบกมือพร้อมกับพูดว่า
"เจ้าทำเงินให้เราอย่างมากจะพูดว่ารบกวนได้ไงล่ะ ? ฮ่า ฮ่า "
ณ ตอนนี้พูชิได้รีบเอาอาวุธวิญญาณทั้งสองออกไปส่งด้วยตัวเองโดยทันที
หลินเทียนยังคงนั่งอยู่ในห้องแห่งนี้และได้ยินเสียงโห่ร้องดังสั่นมาจากทางห้องประมูลได้อย่างชัดเจน หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเขาก็พบว่าเสียงโห่ร้องได้หยุดลงแล้วดังนั้นก็เดาได้ว่าการประมูลน่าจะจบลงแล้ว
ไม่นานก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง
!
ประตูห้องได้พูดเปิดออกพร้อมกับกลิ่นหอมอันคุ้นเคย
"น้องชายในที่สุดก็มา พี่สาวคิดถึงจริงๆ "
เสียงอันยั่วยวนได้ถูกส่งมาทันที
ในตอนนี้ซินเหยาสวมชุดรัดรูปสีดำที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของนางโดดเด่นเป็นอย่างมากก่อนที่นางจะเดินเข้ามาข้างๆหลินเทียนและจดจ่ออยู่ที่เขาด้วยรอยยิ้ม
หลินเทียนได้กระแอมออกมาเล็กน้อยเพราะเขาไม่สามารถอดทนได้เท่าไหร่
มันเป็นเพราะตอนนี้ร่างของนางแทบจะแนบติดกับตัวเขาแล้วแถมยังมีกลิ่นหอมเตะจมูกที่ก่อกวนเขาเป็นอย่างมาก
"อิอิ ดูเหมือนว่าน้องชายจะเขินงั้นหรอ น่ารักเสียจริง "
ซินเหยาได้กุมปากตัวเองพลางหัวเราะคิคิออกมาไม่หยุด
หลินเทียน
"......."
"โอ้น้องชายไม่พูดอะไรเลย ? หรือว่าจะหลงเสน่ห์พี่สาวซะแล้ว ? "
ซินเหยาได้ขยับเข้าใกล้เขามากขึ้น
กลิ่นหอมยั่วยวนฟุ้งไปทั่วอากาศพร้อมทั้งร่างกายอันน่าหลงใหลนี่มันจะไม่ทำให้ชายหวั่นไหวได้อย่างไรกัน
หากว่าไม่ได้เป็นเพราะว่าหลินเทียนมีจิตใจที่เข้มแข็งก็คงจะทนไม่ไหวเหมือนกัน
"แม่นาง ! ........."
พูชิได้ไอแห้งๆออกมาจากข้างหลัง
ซินเหยาได้กรอกตาของนางก่อนที่จะถอยห่างออกมาจากร่างของหลินเทียนพร้อมทั้งพูดว่า
"ไม่มีความรู้สึกเลยจริงๆ "
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ถอยออกมาแล้วนางก็นั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกับหลินเทียนโดยที่ไม่ไปนั่งที่อื่น
หลินเทียน
".........."
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนางพรายแบบนี้แล้วเขาไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี หากว่าเลือกได้เขาขอเลือกเผชิญหน้ากับฉีเหมียงกุ่ยยังดีกว่า
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่พูชิเองก็หมดคำพูดไปเหมือนกัน
พูชิได้เมินการกระทำของซินเหยาก่อนที่จะนั่งลงแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"น้องชาย เราขายอาวุธวิญญาณทั้งสองได้ราคาแสนสี่หมื่นและทางเราเอาไปเพียงแค่ค่าส่วนต่างเท่านั้น นี่เป็นบัตรที่มีมูลค่าแสนหนึ่งหมื่น"
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ยื่นบัตรสีทองให้กับหลินเทียน
"ขอบคุณมาก "
หลินเทียนได้พูดออกมา
"เฮ้ ....... "
ซินเหยาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
"น้องชายทำแบบนี้ไม่ถูกนะ รู้ไหมว่าแม้ว่าของนี่จะเป็นของน้องชายแต่พี่สาวก็ใช้แรงไปเยอะมากๆแถมเรายังเก็บแค่ส่วนต่างแต่น้องไม่ขอบคุณพี่สาวเลย ? "
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่อึดอัดก่อนที่จะรีบพูดออกไปว่า
"ขอขอบคุณพี่สา........ แม่นางซิน"
หน้าเขาแดงก่ำทันทีก่อนที่จะรู้สึกหมดคำพูดไปเพราะก่อนหน้านี้เขาเกือบจะเรียกนางพรายคนนี้ว่าพี่สาวจริงๆแล้ว
"คิก คิก ทำไมไม่เรียกพี่สาว ? มันดูสนิทกันกว่าอีก "
ซินเหยาได้พูดออกมา
หลินเทียนได้มองไปทางนางอีกครั้งก่อนที่จะคิดว่านี่แหละหายนะชัดๆ ทุกๆการกระทำและทุกๆการเคลื่อนไหวของนางมันผสมไปด้วยความยั่วยวนและมนต์เสน่ห์
พูชิได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดออกมาว่า
"น้องชายกำลังจะตัดผ่านไปยังเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 งั้นหรอ ? "
"อื้ม ใช่ "
หลินเทียนไม่ได้ปิดบังอะไร
"ตั้งแต่อดีตมาอายุ 16 ปีแต่กลับสามารถอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 ได้นี่มีอยู่น้อยมากๆแถมยังเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมที่มีระดับ 3 เป็นอย่างน้อยอีกถือว่าพรสวรรค์ของน้องชายนี่ไม่ธรรมดาเลย แม้แต่ในเมืองหลวงก็ยังมีไม่กี่คนที่เทียบเคียงได้ด้วยซ้ำ "
พูชิได้พูดออกมา
"พูก็ชมเกินไป "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างถ่อมตัว
"ที่ไหนกัน เฒ่าคนนี้พูดความจริงทั้งนั้น "
พูชิได้ส่ายศีรษะของตัวเอง
ภายในห้องนี้ , หลินเทียนและพูชิได้สนทนากันอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงซึ่งการที่ต้องเผชิญหน้ากับพูชินั้นหลินเทียนไม่รู้สึกกดดันอะไรเลยแม้แต่น้อยแต่หากเทียบกับซินเหยาแล้วเขารับมือไม่ไหวจริงๆ
"ครั้งนี้รบกวนหน่อยนะ ข้ายังมีเรื่องต้องไปทำต่อดังนั้นขอตัวก่อนล่ะ "
หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วหลินเทียนก็ได้เอ่ยปากบอกลา
"ไปไหน ? น้องชายนี่มีเรื่องให้ทำเยอะจริงๆนะ ? "
ซินเหยาได้ย่อตัวและเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวเนียนพร้อมทั้งถามออกมาด้วยท่าทางสงสัยว่า
"หรือน้องชายกลัวว่าพี่สาวจะหม่ำเจ้า ? "
หลินเทียน
"............"
ให้พูดตรงๆเขาก็กลัวนางจริงๆนั่นแหละ
"คิกคิก ไม่แกล้งแล้วก็ได้....."
เมื่อเห็นท่าทางของหลินเทียนเป็นแบบนั้นแล้วนางก็เลยพูดต่อว่า
"หลังจากนี้จะมีของดีเข้ามาประมูลด้วยอยากจะรู้ไหม ? "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วหลินเทียนก็ได้แต่ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
"อะไรงั้นหรอ ? "
"เดาสิ ? "
ซินเหยาได้กระพริบตาวิ้งค์ๆด้วยท่าทางที่น่าหลงใหล
"ไม่ทราบเหมือนกัน "
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะของเขา
"ไหนเรียกพี่สาวสิแล้วพี่สาวจะบอกเลย "
หลินเทียน
"..........."
พูชิทนฟังไม่ไหวถึงได้กระแอมออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"แม่นาง......"
ซินเหยาได้กรอกตาของนางพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"เมื่อวานทางเราได้รับแหวนมิติมา"
"แหวนมิติ ? "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาว่ามันคืออะไร ?
เมื่อเห็นท่าทางขอหลินเทียนแล้วซินเหยาก็ได้หัวเราะคิกคิกออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"ดูเหมือนว่าน้องชายจะไม่ค่อยรู้เรื่องนี้สินะ "
หลังจากที่พูดจบแล้วนางก็ได้อธิบายต่อว่า
"มันเป็นแหวนลึกลับที่ภายในมีพื้นที่เล็กๆสามารถเก็บสิ่งของได้ พูดง่ายๆคือไม่ต้องแบกไปไหนมาไหน "
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วหลินเทียนก็ได้แต่ผงะไปทันที
"แหวนมิติ ? "
เขาได้พูดออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ
เสี่ยวเหยาได้หัวเราะคิกคิกก่อนที่จะตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
"ใช่แล้วล่ะแต่ภายในมันมีพื้นที่ประมาณสามลูกบาศก์เมตรเท่านั้น "
"สามลูกบาศก์เมตรก็พอแล้ว แค่นั้นก็ถือว่าดีแล้วล่ะ "
หลินเทียนได้พูดออกมา
แหวนมิติวงเล็กๆสามารถมีพื้นที่สามลูกบาศก์เมตรนี่มันเป็นอะไรที่สะดวกอย่างมาก เรียกได้ว่าช่วยแก้ได้หลายๆปัญหาเลย
"เป็นอะไรไป ? น้องชายสนใจ ? "
ซินเหยาได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างไม่ปิดบังว่า
"อื้ม สนใจ "
เมื่อคิดถึงเรื่องที่หากเขามีแหวนมิตินี้ก็จะไม่จำเป็นต้องสะพายกระบี่ไปไหนมาไหนอีกแถมยังสามารถเรียกออกมาตอนไหนก็ได้ ภายในยังมีพื้นที่มากมายเอาไว้เก็บม้วนอาคมเพื่อเพิ่มความได้เปรียบเอาตัวเอง ถ้าจะให้ยกตัวอย่างคือตอนที่เขาสู้กับจางเฟิงเสร็จนั้นเขาสามารถเก็บอาวุธวิญญาณของพวกมันได้เลยโดยที่ไม่ต้องซ่อนไม้ในใบกล้วย
ของสิ่งนี้มีมูลค่ามากๆ
ซินเหยาและพูชิได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะหัวเราะออกมาพลางกดไปที่หัวไหล่ของหลินเทียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบว่า
"น้องชายอยากได้งั้นหรอ ? หากว่าต้องการพี่สาวจะจัดการให้ในราคาถูกๆ "
"จริงหรอ ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางมีความสุข
เขาต้องการแหวนมิตินี่มากๆ
"แน่นอนพี่สาวไม่โกหกหรอก "
"เท่าไหร่ ?"
"เจ็ดแสน"
ซินเหยาได้ตอบกลับ
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมถึงกับผงะไปพร้อมทั้งโห่ร้องออกมาว่า
"ปล้นกันชัดๆ ! "
ซินเหยาและพูชิต่างชะงักไปพร้อมทั้งพากันจ้องมองมาที่เขา
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่อับอายออกมาทันทีก่อนที่จะกระแอมแล้วพูดว่า
"ความหมายของข้าคือเงินเจ็ดแสนมันสูงเกินไปหน่อยน่ะ "
ซินเหยาได้โอดครวญออกมาว่า
"น้องชายสุดที่รักเจ้าคิดว่าพี่สาวขายในราคาสูงงั้นหรอ ? หากว่าเอามันไปลงประมูลก็บอกได้เลยว่ามันจะได้ไม่ต่ำกว่าล้านห้าแสนอย่างแน่นอน หากว่าไม่ใช่เพราะน้องชายแล้วพี่จะขายถูกๆแบบนี้ได้ไง "
"เฮือก......."
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วหลินเทียนถึงกับอับอายไปทันทีก่อนที่จะรีบพูดออกมาด้วยความสงสัยว่า
"ของสิ่งนี้มันสามารถขายให้คนอื่นได้เลยไม่ต้องถามความคิดเห็นของผู้ขาย ?"
"ไม่เพราะว่านั่นมันเป็นของที่ทางเราได้มาและถือว่าเป็นสินค้าจากตำหนักแลกสมบัติของเรา "
เมื่อมองไปทางหลินเทียนแล้วนางก็ได้นาบไปบนร่างของเขาพร้อมทั้งพูดว่า
"ถึงได้ขายในราคาเจ็ดแสนยังไงล่ะ "