Divine King Of All Directions - 060
Divine King Of All Directions - 060
ในวันนี้หลินเทียนได้ใช้เวลาฝึกอยู่ภายในข่ายอาคมคลื่นยักษ์กว่า 14 ชั่วโมงเต็มซึ่งหลังจากที่เขาออกมาก็เป็นช่วงเย็นแล้วแถมตอนนี้เขายังรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของตัวเองเบาขึ้นมากและมันทำให้เขารู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
"ดีจริงๆ "
หลังจากที่ผ่านการฝึกมา 14 ชั่วโมงแล้วร่างกายของเขาเบาลงแถมทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ก็พัฒนาขึ้นด้วย
หลังจากที่กลับไปถึงที่พักแล้วให้หลินซี่ไปเตรียมอาหารนั้นเขาก็กลับขึ้นไปบนยอดของที่พักก่อนที่จะเริ่มการวาดข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณสองม้วนก่อนที่จะเริ่มฝึก
"บึ้สส ! "
แสงสีเงินได้ห้อมล้อมร่างกายของเขาเอาไว้และทำให้ที่นี่สว่างขึ้นเล็กน้อย
............
เวลาได้ผ่านไปวันต่อวันและทุกวันนี้หลินเทียนก็จะใช้เวลาอยู่กับการเพิ่มความสามารถทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ภายในข่ายอาคมคลื่นยักษ์และเมื่อตกเย็นก็จะอาศัยข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณเพิ่มพลังให้กับตัวเอง
ไม่นานก็ผ่านไปถึงหนึ่งอาทิตย์
ช่วงนี้หลินเทียนที่อยู่ภายในข่ายอาคมนั้นสามารถไต่อากาศได้
ทุกๆครั้งที่เขาได้ไต่อากาศในเขตแรงโน้มถ่วงสองเท่านี้ก็จะก่อให้เกิดสายลมและหลังจากที่เขาลงมาถึงพื้นแล้วก็จะพบว่าตัวเขาห่างออกไปจากจุดกระโดดถึง 20 เมตร
หลังจากที่เห็นเช่นนั้นแล้วดวงตาของเขาก็เป็นประกายโดยทันที
"ในที่สุดก็ถึงระดับที่ 2 "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมา
เขารู้สึกเพลิดเพลินกับการไต่อากาศเป็นอย่างมากก่อนที่จะหยุดอยู่กับที่
หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มฝึกการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เขาเพิ่งจะบรรลุทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ระดับที่ 2 ซึ่งการก้าวเพียงครั้งเดียวสามารถพุ่งไปได้ไกลกว่า 20 เมตรแต่การพุ่งแต่ละครั้งก็ใช้พลังเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ใช้ไปเพียงครั้งเดียวเขาก็รู้สึกได้เลยว่าพลังของเขาหายไปกว่า 1 / 5
"เพิ่งจะบรรลุระดับที่ 2 มานี้แน่ก็ยังไม่ได้เชี่ยวชาญอย่างถ่องแท้ ต้องปรับสภาพเข้ากับมันให้ได้ก่อน "
เขาได้คิดอยู่ภายในใจ
เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้วเขาก็เริ่มการฝึกอีกครั้ง
ไม่นานก็ผ่านไปอีกสองวันซึ่งหลินเทียนก็หยุดการบ่มเพาะด้วยเคล็ดวิชาแต่มุ่งมั่นอยู่กับการหมกตัวอยู่ภายในข่ายอาคมคลื่นยักษ์นี้ เขาเริ่มรู้สึกได้ลางๆว่าหลังจากที่บรรลุผ่านระดับที่ 2 มาได้แล้วเขาก็เริ่มใช้พลังฉีน้อยลงแถมยังเคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่าเดิมถึง 35 เมตร
จนถึงตอนนี้เขาได้เข้าร่วมกับสำนักมาแล้วทั้งหมด 26 วันเต็ม
"ต้องบรรลุผ่านเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 ให้เร็วที่สุด "
เขาได้คิดอยู่ภายในใจ
ในช่วงเช้าตรู่เขาได้ก้าวออกมาจากข่ายอาคมคลื่นยักษ์ก่อนที่จะบิดตัวแล้วเดินกลับไปทางที่พัก
หลังจากที่เดินผ่านหัวมุมได้ไม่นานก็พบกับศิษย์สำนักอยู่ตรงทางข้างหน้า
"น้องชายหลิน ? "
เสียงเรียกได้ถูกส่งออกมา
ชายหนุ่มชุดคลุมสีน้ำเงินที่อยู่ข้างๆก็ได้เดินเข้ามาพูดด้วยรอยยิ้ม
หลินเทียนได้แหงนหน้ามองพร้อมกับถามว่า
"เจ้าคือ ? "
ชายหนุ่มชุดคลุมสีน้ำเงินได้หัวเราะพร้อมกับตอบกลับว่า
"ข้าจางเฟิง อันดับที่ 3 ในการทดสอบศิษย์ภายนอกสำนัก "
"ที่แท้ก็พี่ชายจางนี่เอง ได้ยินเรื่องของเจ้ามาเยอะเหมือนกัน "
หลินเทียนได้ยิ้มจางๆออกมาพร้อมกับพูดว่า
"ไม่ทราบว่าพี่ชายมีเรื่องอะไรงั้นหรอ ? "
จางเฟิงได้มองไปทางหลินเทียนด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดออกมาว่า
"คือว่าเมื่อไม่นานมานี้มันมีภารกิจจากสมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมให้ช่วยสังหารสัตว์อสูรระดับ 3 อย่างเสือดาวหินเพราะพวกเขาต้องการหัวใจของมัน ก่อนหน้านี้ข้าได้ไปลองแล้วและพบว่ามันตึงมือไปหน่อยดังนั้นในเมื่อน้องชายหลินได้อันดับที่ 2 ในการทดสอบศิษย์ภายนอกก็แสดงให้เห็นว่าระดับพลังของน้องชายต้องไม่ธรรมดาๆข้าจึงอยากจะชวนน้องชายให้มาช่วยข้าหน่อยส่วนเรื่องรางวัลนั้นเราก็แบ่งกันอย่างเท่าเทียมเป็นไง ? "
"? "
หัวใจของหลินเทียนได้สั่นไปเล็กน้อย นี่มันใช่คนที่ตระกูลเสี่ยวส่งมาหรือเปล่า ? แม้ว่าในใจจะคิดแบบนั้นแค่เขาก็ยังคงพูดออกมาด้วยท่าทางที่ไม่แสดงอาการอะไรว่า
"แล้วรางวัลของภารกิจนี้เท่าไหร่ ? "
หลังจากที่เห็นว่าหลินเทียนสนใจและถามเกี่ยวกับรางวัลนั้นคนเหล่านี้ก็ได้แสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาพร้อมกับตอบว่า
"รางวัลทั้งหมด 3 พันเหรียญ หากว่าทำสำเร็จก็แบ่งกันไปคนละครึ่งเป็นไง ? "
"คนละพันห้าร้อยเลยงั้นหรอ ? เยอะขนาดนั้นเลย ? "
หลินเทียนได้แกล้งแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
มันเป็นเพราะว่าสำหรับคนธรรมดาๆแล้วเงินพันห้าร้อยเหรียญก็ไม่ถือว่าเป็นจำนวนน้อยเลย
จางเฟิงได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
"แน่นอนเพราะว่าภารกิจนี้มันยากมากๆ เสือดาวหินนั่นเป็นสัตว์อสูรระดับ 3ซึ่งมีระดับพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 จึงไม่ใช่อะไรที่จะรับมือได้ง่ายๆไม่งั้นก็คงไม่ตั้งรางวัลขนดานั้นหรอก อย่างไรก็ตามมันเป็นเพราะว่าเราได้รางวัลเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลางมาจากการทดสอบก่อนหน้านี้ด้วยเพราะงั้นครั้งนี้ก็น่าจะจัดการมันได้สบายๆ "
ทุกคนรู้ดีว่ารางวัลของผู้ที่ได้สิบอันดับแรกในการทดสอบเป็นอะไร หลินเทียนนั้นได้รับอันดับที่สองก็ไม่แปลกที่จางเฟิงจะรู้เรื่องนี้
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่ลังเลอย่างจงใจออกมาก่อนที่จะกัดฟันแล้วพูดว่า
"ได้ ! งั้นไปกับพี่ชายจางแล้วกัน "
"ดี ๆ "
จางเฟิงได้หัวเราะออกมา
"แล้วเราจะไปกันตอนไหน ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า......"
จางเฟิงได้หัวเราะพร้อมกับพูดต่อว่า
"นี่น้องชายหลินหิวเงินพันห้าร้อยเหรียญขนาดนั้นเลยหรอ ? "
"ใช่ ข้าต้องรีบใช้เงิน "
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
จางเฟิงได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับว่า
"งั้นในเมื่อน้องชายร้อนเงินงั้นเราก็ไปกันเลย ข้าได้ข่าวมาว่าเสือดาวหินนั้นอยู่ภายในถ้ำที่อยู่ในสันเขาชิงเฟิง ตอนนี้น่าจะเหมาะที่จะฆ่ามันเลยล่ะ "
"ได้"
หลินเทียนได้ตอบกลับพร้อมทั้งพูดว่า
"งั้นพี่ชายจางรอสักครู่นะข้ากลับไปเตรียมกระบี่ก่อน"
แน่นอนว่าการมาฝึกที่ลานฝึกนี้ทำให้เขาไม่ได้เตรียมกระบี่มา
เมื่อได้ ินคำพูดของหลินเทียนเรื่องกระบี่แล้วประกายตาของจางเฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งตอบว่า
"ได้ รีบไปรีบมานะ ข้ารอนี่แหละ "
"ได้ "
หลินเทียนได้ตอบกลับพร้อมทั้งรีบวิ่งกลับไปทางที่พักทันที
หลังจากที่กลับมาถึงที่พักแล้วเขาก็ได้ปิดประตูก่อนที่จะแสดงสีหน้าแสยะออกมา เขาเป็นคนทีมีพลังวิญญาณกล้าแกร่งมากๆดังนั้นถึงสามารถสัมผัสได้จากบทสนทนาเลยว่าจางเฟิงนั้นเป็นคนที่ตระกูลเสี่ยวจ้างมาจัดการกับเขาหรือแม้จะไม่ใช่แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ดีอย่างแน่นอน
"ข้าก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะมาไม้ไหน ! "
เขาได้เก็บกระบี่ไว้กลางหลังก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเย็นชาแล้วเดินออกนอกที่พักไป
เมื่อกลับไปถึงที่ก่อนหน้านี้แล้วเขาก็ได้พบกับจางเฟิง
"ขออภัยที่ปล่อยให้รอนาน "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"ไม่เป็นไรหรอก "
หลังจากที่มองไปยังกระบี่ที่พาดอยู่กลางหลังของหลินเทียนแล้วจางเฟิงก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"งั้นเราไปกันเถอะ"
"ได้ ไปกันเถอะ "
หลินเทียนได้ตอบกลับ
........
สันเขาชิงเฟิง , ภายใต้การนำของจางเฟิงนั้นพวกเขาก็ผ่านอาณาเขตสัตว์อสูรระดับที่ 1 และ 2 ไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเข้าถึงอาณาเขตสัตว์อสูรระดับที่ 3
"สัตว์อสูรระดับ 3 นั้นมีตัวที่บ้าๆและน่ากลัวอยู่มากมายดังนั้นระวังตัวด้วยล่ะน้องชายหลิน "
จางเฟิงได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"ขอขอบคุณที่เตือน"
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ
หลังจากที่เดินเข้าไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วพวกเขาก็ได้ไปถึงหน้าถ้ำแห่งหนึ่ง
"ถึงแล้ว ! "
จางเฟิงได้พูดออกมา
หลินเทียนได้มองเข้าไปในถ้ำพร้อมกับพูดออกมาว่า
"ที่นี่ ? "
"อื่ม"
จางเฟิงได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
"เราเข้าไปกันเถอะแต่ระวังหน่อยนะเพราะว่าตอนนี้เจ้าเสือดาวหินนั่นอาจจะกำลังงีบอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ เราต้องย่องเข้าไปแบบเงียบๆแล้วฆ่ามันด้วยกัน ! "
"ได้ !"
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ
เขาได้เดินตามจางเฟิงผ่านเข้าไปในถ้ำ
ภายในถ้ำนี้มีพื้นที่กว้างอยู่แถมยังสามารถแหงนขึ้นไปมองท้องฟ้าได้อีกด้วย หลินเทียนที่ได้เดินเข้ามาแล้วก็ได้กวาดตามองไปรอบๆก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"พี่ชายจาง แล้วไหนเสือดาวหินล่ะ ? "
"เสือดาวหิน ? เจ้าตายไปเดี๋ยวก็ได้เจอมันเองแหละ ! "
จางเฟิงได้หัวเราะออกมา
ณ ตอนนี้น้ำเสียงของจางเฟิงได้เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาอย่างมาก
วิ้สส ! จางเฟิงได้ล่าถอยออกจากถ้ำเปิดแห่งนี้ก่อนที่จะกระทำการบางอย่างเพื่อส่งผลให้ปากถ้ำถล่ม
หลินเทียนยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบเช่นเคยก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"ถ้ำนี่สูงกว่าหลายสิบเมตรดังนั้นต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะก็ยังปีนขึ้นไปไม่ได้ในเวลาสั้นๆ "
"ฉลาดหนิ ! "
ณ ตอนนี้เสียงของจางเฟิงก็ได้ถูกส่งมาอีกครั้งแต่มันถูกส่งมาจากด้านบน
ตอนนี้หลินเทียนเห็นเพียงแต่ร่างของจางเฟิงที่กำลังยืนอยู่บนยอดของถ้ำเปิดด้วยสีหน้าที่ดูถูก
"พี่ชายจาง นี่หมายความว่าไง ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
"หมายความว่าไง ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าจะให้เจ้าพบกับใครบางคนแล้วเดี๋ยวเจ้าจะรู้เอง "
จางเฟิงได้หัวเราะออกมาไม่หยุด
หลังจากที่เสียงของจางเฟิงได้จบลงแล้วเขาก็เห็นร่างของหญิงสาวที่น่าหลงใหลอย่างเสี่ยวหยุนอยู่ที่ยอดถ้ำ
"หลินเทียน เจ้าคงไม่คิดว่าจะได้พบกับเรื่องแบบนี้สินะ ! "
เสี่ยวหยุนได้แสดงสีหน้าที่พึงพอใจออกมาขณะที่จ้องมองไปยังหลินเทียนเพราะนางได้ใช้เวลาไปกว่า 9 วัน เพื่อซื้อตัวศิษย์ภายในสำนักแล้ววางกับดักนี้ หลังจากที่นางได้ยืนอยู่และจ้องมองลงไปยังหลินเทียนที่อยู่เบื้องล่างแล้วก็ทำให้นางรู้สึกประสบความสำเร็จอย่างมาก
หลินเทียนได้มองไปทางนางด้วยสีหน้าที่ยั่วยุพร้อมทั้งพูดว่า
"ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนางโสเภณีนี่เอง โม่เซินเพิ่งตายได้สองเดือนนี่เจ้าได้ชายใหม่แล้วงั้นหรอ ? มีชีวิตที่ดีจริงๆนะ "
"เจ้าว่าอะไรนะ ! "
เสี่ยวหยุนได้คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงแหลม
"หูหนวก ? "
หลินเทียนได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า
"ข้าบอกว่าเจ้ามันเป็นโสเภณีไง "
"เจ้า ! .......... เจ้ากล้าหยามข้า ! "
เสี่ยวหยุนได้ได้พูดต่อด้วยสีหน้าที่ดุร้ายว่า
"ออกมา ! ออกมาให้หมด ออกมาฆ่ามันซะ ฆ่ามัน ! "
หลังจากที่คำพูดของนางจบลงแล้วที่ยอดถ้ำก็เต็มไปด้วยชายหนุ่มถึงสี่คนซึ่งจากกลิ่นอายของพวกเขาล้วนไม่มีใครต่ำกว่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7 แถมในมือของแต่ละคนก็กำลังถือธนูเอาไว้ด้วย
เมื่อมองไปที่คนเหล่านี้แล้วท่าทางของหลินเทียนก็ยังคงราบเรียบเช่นเคย
"นางเสี่ยว ดูเหมือนว่าความใคร่ของเจ้าจะไม่น้อยเลยนะ "
เขาได้พูดออกมา
"!!!"
เสี่ยวหยุนได้กรี้ดออกมาอย่างดังว่า
"ฆ่ามัน ฆ่ามัน เร็ว ๆ !"
หลินเทียนได้กวาดสายตาไปทางนางอย่างดูถูกก่อนที่จะมองไปยังกลุ่มของจางเฟิงทั้งห้าคนว่า
"ล่อข้ามานี่เพื่ออยากจะฆ่าข้า ? ดูเหมือนว่าความกล้าจะไม่น้อยเลยนะเป็นศิษย์สำนักแท้ๆแต่กล้าที่จะทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าผู้อาวุโสจะรู้เรื่องนี้แล้วฆ่าเจ้า ? "
จางเฟิงได้หยิบเอาบัตรสีทองออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"เงินแค่พันห้าร้อยเหรียญก็ล่อเจ้ามาที่นี่ได้แล้วแต่เห็นบัตรนี่ไหม ภายในมันมีเงินอยู่กว่าสองแสนเหรียญซึ่งมันพอที่จะให้ข้าเสี่ยงฆ่าเจ้าไงล่ะ "
หลังจากที่หยุดไปสักพักเขาก็ได้พูดต่อว่า
"อีกอย่างทางสำนักจะไม่รู้เรื่องนี้หรอก "
"เจ้าจะบอกว่าหากข้าตายแล้วทางสำนักก็คงคิดว่าเป็นฝีมือของสัตว์อสูร ? "
หลินเทียนได้พูดออกมา
จางเฟิงได้ชะงักไปพร้อมกับหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า
"ฉลาดมากๆ ! "
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบพร้อมทั้งมองไปยังชายหนุ่มที่เหลืออีกสี่คนพลางพูดว่า
"พวกเจ้า ? แล้วตระกูลเสี่ยวให้พวกเจ้าไปคนละสองแสนด้วยงั้นหรอ ? หรือว่าแสนเดียว ? "
"พวกเขาได้กันไปคนละแสน "
จางเฟิงได้พูดออกมา
ชายหนุ่มทั้งหลายได้แต่มองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสเหมือนว่าตอนนี้เขาไม่ได้ต่างอะไรไปจากศพแม้แต่น้อย
"สองแสนหนึ่งคนอีกแสนสี่คนทั้งหมดก็หกแสน"
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
"ขอบคุณที่เอาเงินมาส่งข้ามากมายขนาดนี้นะ "