Divine King Of All Directions - 054
Divine King Of All Directions - 054
เสียงร้องที่น่าสังเวชดังกึกก้องไปทั่วพื้นที่แถบนี้ก่อนที่จะเงียบลงอย่างรวดเร็ว ชายวับกลางคนทั้งสามที่เหลืออยู่ได้แค่แสดงสีหน้าที่หวาดผวาออกมาขณะที่มองไปยังร่างของชายชราที่ถูกวานรนรกฉีกออกเป็นชิ้นๆจนเศษเนื้อและอวัยวะต่างๆกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่
"ดูเหมือนว่าโชคของเจ้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะเพราะมันไม่ใช่แค่กัดเจ้าไม่กี่ที "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
เขาได้หันหน้ากลับมาด้วยสายตาที่เย็นชาขณะที่มองไปยังชายวัยกลางคนทั้งสามที่เหลือรอด
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาเช่นนี้แล้วถึงกับทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านไป
"ท่าน....ได้โปรดยกโทษให้เราด้วยนะท่าน ! "
พวกเขาทั้งสามคนได้คุกเข่าลงด้วยร่างกายที่สั่นเทาไม่หยุด
ณ ตอนนี้ท่าทางของพวกเขากำลังหวาดผวาและเสียใจเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มอายุ 16 กับเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7แถมยังเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 2 , นี่มันพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดขนาดไหน ? แล้วทำไมพวกเขาถึงได้ไปล่วงเกินคนแบบนี้ !
"ยืนขึ้น "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ
กระบี่คืนสู่หยวนของเขาได้สั่นเล็กน้อยก่อนที่จะส่งเสียงคำรามออกมาแล้วชี้ไปทางร่างของทั้งสามคน
"ได้โปรดยกโทษให้เราด้วยเถอะท่าน ข้าและคนอื่นๆมันหูหนวกตาบอดเองที่ล่วงเกินท่าน ! ได้โปรดคิดเสียว่าพวกเราเป็นเพียงแค่ลมตดแล้วปล่อยพวกเราไปเถอะ ! "
"เรายังไม่อยากตาย ! "
พวกเขาทั้งสามคนได้โห่ร้องออกมาด้วยความโกรธ
หลินเทียนได้เดินเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"ไม่มีใครอยากตายหรอกแต่พวกเจ้าต้องตาย "
พวกเขาทั้งสามคนได้แต่ผงะไปก่อนที่จะแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา
"ท่า..... จะฆ่าเราจริงๆ ? ไม่เมตตาเราเลย ? "
ชายวัยกลางคนในชุดสีเหลืองได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"เมตตา ? "
หลินเทียนได้พูดต่อว่า
"มันคืออะไรหรอ ? "
ก่อนหน้านี้เอาแต่พูดว่าจะแลกชีวิตของเ ็กสาวตัวน้อยกับพวกเขาแต่ตอนนี้จะให้เขามีความเมตตานี่มันเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมาเลยก็ได้
"ท่าน......... "
ท่าทางของคนเหล่านี้เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดพร้อมทั้งใบหน้าที่ซีดลงโดยทันที
"หากจะฆ่าพวกเราทั้งหมดเจ้าก็ต้องได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกันนั่นแหละ ! "
หนึ่งในนั้นได้คำรามออกมา
วิ้ส หลังจากที่ชายคนหนึ่งได้กระโดดถอยกลับไปแล้วก็พุ่งไปทางเด็กสาวตัวน้อยที่หลบอยู่หลังหินโดยทันที
ท่าทางของหลินเทียนนั้นเย็นชาเป็นอย่างมากก่อนที่จะสำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ออกมาพร้อมทั้งพุ่งไปปรากฏตัวตรงหน้าของเด็กสาวพลางวาดกระบี่คืนสู่หยวนออกไปตรงหน้าโดยทันที
"พุฟฟฟ ! "
เลือดได้สาดกระจายไปทั่วก่อนที่ศีรษะของชายวัยกลางคนๆนี้จะปลิวออกไปไกล
หลังจากที่ฆ่าชายคนนี้แล้วหลินเทียนก็ได้หันหน้ากลับมาหาเด็กสาวและเห็นเพียงแค่ว่านางกำลังย่อตัวลงด้วยร่างกายที่สั่นเครือด้วยความกลัวเต็มใบหน้า
"จี่เอ๋อไม่ต้องกลัวนะ พวกมันเป็นคนไม่ดีดังนั้นต้องถูกลงโทษ "
หลินเทียนได้พูดปลอบประโลมออมกา
น่าเสียดายที่นางยังคงแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาเช่นเคยแถมไม่ได้มีสภาพดีกว่าเดิมด้วย
หลินเทียนได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะเขาเองก็รู้ดีว่าสำหรับเด็กอายุ 11 ปีแล้วภาพเหล่านี้มันโหดร้ายเกินไปหน่อย
เขาได้หันหน้ากลับไปด้วยท่าทางที่เย็นชายิ่งกว่าเก่า
"ทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษ "
เขาได้พูดออกมา
ตัวเขาได้ก้าวออกไปทีละก้าวขณะที่กระบี่ยังคงปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่ากลัวออกมา
ชายวัยกลางคนชุดสีเหลืองได้แต่ก้าวถอยกลับไปอย่างยากลำบาก ความน่าเกรงขามที่หลินเทียนปลดปล่อยออกมาตอนนี้นั้นทำให้เขาถึงกับสั่นสะท้านด้วยความกลัวมากกว่าตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับมังกรเพลิงสองหัวก่อนหน้านี้เสียอีก
"อย่าเข้ามานะ ! "
ชายอีกคนได้ตะโกนออกมาพร้อมทั้งชี้ไม้ไปทางหลินเทียนด้วยมือที่สั่นระริก
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกออกมาก่อนที่จะก้าวเดินต่อไป
"ในเมื่อเจ้าไม่ขยับงั้นข้าจะเข้าไปเอง "
เขาได้พูดออกมา
หลังจากนั้นกระบี่ในมือของเขาก็ได้กวัดแกว่งไปตรงหน้า
"!!! "
ท่อนไม้ในมือของชายคนนั้นได้ขาดออกเป็นสองท่อนก่อนที่จะหลุดลอยไปไกล
ท่าทางของหลินเทียนในตอนนี้ยังคงราบเรียบขณะที่เหวี่ยงขาเตะไปยังหน้าอกของชายคนนี้และทำให้เขากระอักเลือดออกมากลางอากาศก่อนที่จะลอยออกไปตกนอกเขตของผงไล่สัตว์ร้าย
วานรนรกนับสิบตัวได้ส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ชายคนนั้นด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
"อ๊ากกก ! "
เสียงร้องโหยหวนได้ถูกส่งออกมาก่อนที่จะกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้ายไปเหมือนชายชราคนก่อนหน้านี้
สายตาของหลินเทียนยังคงสงบก่อนที่จะหันมองไปยังชายวัยกลางคนชุดสีเหลือง
ชายคนนั้นได้แต่ก้าวถอยไปด้วยท่าทางที่ซีดเป็นกระดาษพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"ปีศาจ เจ้ามันปีศาจ ! "
"อื้ม ใช่ ข้าเป็นปีศาจที่จะมากวาดล้างพวกระยำ !"
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
กระบี่ในมือของเขาได้สั่นสะท้านก่อนที่จะสำแดงทักษะกระบี่แห่งการทำลายล้างออกไปจากทุกทิศทาง, พุฟ ! พุฟ ! พุฟ ! , คลื่นกระบี่มากมายได้ทะลุผ่านร่างของชายวัยกลางคนโดยทันที
หลังจากที่มองไปยังร่างไร้วิญญาณที่กองอยู่ที่พื้นแล้วเขาก็ได้หันหน้ากลับไปมองที่ผงไล่สัตว์ร้าย
"เหลือแค่พวกมันแล้ว "
เขาได้พูดกับตัวเอง
ตอนนี้ระดับพลังของเขาอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7 ซึ่งแม้ว่าวานรนรกจะน่าแข็งแกร่งแต่เขาก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยเพียงรู้สึกกดดันแค่นั้น ที่นี่มีวานรนรกอยู่กว่าสิบตัวดังนั้นมันเป็นอะไรที่ยากมากๆ
เขาได้ก้าวเท้าเดินออกไปก่อนที่จะออกไปนอกเขตผงไล่สัตว์ร้ายนี้
กว่าฤทธิ์ของผงนี้จะหมดก็เหลือเวลาอีกแค่ไม่นานดังนั้นภายในสามสิบนาทีนี้เขาจะต้องเก็บกวาดพวกมันให้หมดไม่งั้นก็จะเป็นปัญหาอย่างมาก
การก้าวเดินของเขาราบเรียบขณะที่กระบี่ในมือได้สั่นไหวพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่อันรุนแรงออกไปโดยรอบ
"กึก !"
ณ ตอนนี้มีเสียงแปลกประหลาดถูกส่งออกมา
หลินเทียนได้หยุดการก้าวเดินลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมองตามแหล่งเสียงไปแล้วพบว่าหน้าผาตรงหน้านั้นมีดอกไม้ต้นหนึ่งกำลังผุดขึ้นมาเหนือกองกระดูกซึ่งขนาดของมันประมาณ 5 ซ.ม.แถมยังปกคลุมไปด้วยสีดำเหมือนน้ำหมึกแต่ทีกลีบดอกกลับเป็นสีแดงฉานเหมือนเลือดของสัตว์ร้าย
"ดอกไม้ผี ? "
หลินเทียนได้ชะงักไป
เขาได้ก้าวเท้าออกไปก่อนที่จะเดินกลับไปยังกำแพงหิน
"จี่เอ๋อ มานี่ "
เขาได้พูดออกมา
ดอกไม้ผีนั้นมีความเป็นพิษที่รุนแรงถึงตายแถมตอนนี้เด็กสาวคนนี้ก็อยู่ใกล้มากๆด้วยดังนั้นเขาถึงได้กังวลว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับนาง
เด็กสาวคนนี้ยังคงหวาดกลัวอยู่กับภาพก่อนหน้านี้แต่หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลินเทียนแล้วนางก็ก้าวเดินออกไปหาเขาอย่างช้าๆก่อนที่จะจับชายเสื้อของเขา
"อย่างงั้นแหละ "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เขาได้หยิบเอาถุงย่ามออกมาก่อนที่จะขุดเอาดอกไม้ผีขึ้นมาพร้อมทั้งใส่ลงไปในถุงแล้วปิดปากถุง
หลังจากที่ได้ปาดเหงื่อออกแล้วเขาก็เก็บถุงกลับไปอย่างระมัดระวัง
ดอกไม้ผีนี้มีพิษรุนแรงถึงขั้นที่สามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 ตายไม่เหลือซากดังนั้นแม้ว่าการเก็บเกี่ยวมันจะใช้เวลาไม่กี่ลมหัวใจแต่มันก็ได้ทำให้หลินเทียนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
เขาได้ปัดฝุ่นก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินไปจูงมือของเด็กสาวตัวน้อย
"เอาล่ะ จี่เอ๋ออยู่นี่ก่อนนะ พี่ชายจะไปจัดการอะไรบางอย่างก่อนแล้วเราจะไปจากที่นี่ด้วยกัน "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ
เด็กสาวได้พยักหน้าตอบด้วยท่าทางกลัวว่า
"อะ.....อื้ม...."
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาเบาๆก่อนที่จะเดินเข้าไปหาฝูงวานรนรก
"ตุ๊บ ! "
ตอนนี้เองที่หุบเขาทั้งลูกถึงกับสั่นสะท้านไม่หยุด
พริบตานี้เองที่วานรนรกได้ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาก่อนที่จะระเบิดออกกลายเป็นเพียงกองเลือด
หลินเทียนได้มองไปตรงหน้าด้วยนัยน์ตาที่หดเล็กลงอย่างมาก
ห่างออกไปนั้นมีสัตว์ร้ายร่างยักษ์ร่างกายสีดำทมิฬสี่ขาพร้อมกับหางที่แหลมคม
"สัตว์ร้ายระดับ 4 แมงป่องสันเขา !"
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปออกมา
มันเป็นสัตว์ร้ายระดับ 4 ที่มีระดับพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะ !
"มาเพราะการดึงดูดของดอกไม้ผี ? "
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่โกรธจัดออกมาพร้อมกับพูดว่า
"รู้อยู่แล้วล่ะว่านี่ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ! "
"โฮ๊ก !"
วานรนรกได้คำรามออกมาขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับแมงป่องสันเขานี้พวกมันดูอ่อนแอเป็นอย่างมากทว่าก็ไม่ได้หันหลังหนีไปไหนแต่กลับพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของแมงป่องสันเขาเหมือนว่าต้องการล้างแค้นให้กับเพื่อนของมัน
หลินเทียนได้ก้าวถอยไปก่อนที่จะหยุดอยู่ข้างๆเด็กสาวตัวน้อยพลางคิดอย่างรวดเร็ว ผงไล่สัตว์ร้ายมีผลเฉพาะสัตว์ระดับสี่แต่แมงป่องสันเขาตัวนี้เป็นข้อยกเว้น เมื่อวานรนรกได้ตายไปหมดแล้วและเมื่อถึงตอนนั้นเขาก็คงไม่ใช่คู่มือของมัน
"บุกเข้าไปปะทะซึ่งๆหน้า ? "
หลินเทียนได้จ้องมองไปข้างหน้าก่อนที่จะรีบส่ายศีรษะของตัวเอง หากว่ามีแค่เขาคนเดียวก็คงสามารถสำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์แล้วหนีรอดไปได้แต่การที่อุ้มเด็กสาวไปด้วยจะทำให้ความเร็วของเขาลดลงอย่างมากและคงไม่สามารถหนีพ้นอย่างแน่นอน
เขาได้หันกลับไปมองหน้าผาด้านหลัง
กำแพงหินตรงหน้าเองก็มีความสูงหลายฟุตดังนั้นมันถึงได้ขวางทางของเขาเอาไว้ทั้งหมดแถมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหน้าผานี้ดูสูงชันดังนั้นคงจะปีนกลับมาได้อย่างยากลำบาก
"งั้นต้องพนันกันหน่อยแล้ว ! "
เขาได้กระซิบออกมา
เขาได้ฉีกแขนเสื้อตัวเองออกมาพร้อมทั้งกวักมือให้กับเด็กสาวพลางพูดว่า
"จี่เอ๋อ ขี่หลังพี่ชายเร็ว "
"."
เด็กสาวได้นาบร่างไปกับแผ่นหลังของหลินเทียนก่อนที่จะโอบคอของเขาเอาไว้
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับผูกร่างของนางเอาไว้กับตัวเขาอย่างแน่นหนา
"ได้แล้ว"
หลังจากที่เขาทิ้งระยะออกมา 25 เมตรแล้วเขาก็ได้หยุดเท้าลงพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
"จี่เอ๋อ หลับตาซะ หากว่าพี่ชายไม่บอกก็ห้ามลืมตาเด็ดขาด "
เด็กสาวได้แต่สั่นสะท้านไปก่อนที่จะรีบหลับตาอย่างเชื่อฟังพร้อมทั้งกอดคอเขาเอาไว้แน่นกว่าเก่า
"เฮือก ! "
เมื่อมองไปยังหน้าผาตรงหน้าแล้วหลินเทียนก็ได้แต่สูดหายใจเข้าลึก
ชั่ววินาทีต่อมานี้เองที่แววตาของเขาได้มีประกายสีเงินวาบผ่านก่อนที่จะพุ่งออกไปเหมือนดั่งลูกศรและไปถึงหน้ากำแพงสูงในพริบตาก่อนที่จะก้าวเหยียบกำแพงแล้ววิ่งไต่ขึ้นไป
"บึ้สส ! "
ร่างของเขาได้ฉายแสงสีเงินขณะที่พลังภายในทะลักออกมาไม่หยุด , ตอนนี้เขาสำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์จนถึงขีดสุด
"! "
"!"
"! "
เศษฝุ่นและเศษหินได้หล่นลงมามากมายทุกๆครั้งที่เขาวิ่งไต่ขึ้นไปและหลังจากที่เขาวิ่งขึ้นไปได้ 35 เมตรนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถก้าวต่อไปได้อีกแล้ว
"กระบี่วายุสะท้าน ! "
เขาตั้งท่าก่อนที่จะส่งทักษะออกไปด้วยมือขวาของเขา
ตูม ! คลื่นกระบี่ได้ใช้แรงส่งนี้ทำให้ตัวของเขาและเด็กสาวขึ้นไปถึงยอดกำแพงได้
เมื่อมองลงไปยังหน้าผาข้างล่างแล้วเขาก็อดที่จะแสดงสีหน้าที่โล่งใจออกมาไม่ได้
เมื่อแหงนหน้ามองไปอีกทางก็จะพบกับผืนป่าอันกว้างใหญ่
"ไปกันเถอะ ! "
การไต่หน้าผานั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆแต่อีกฝั่งนึกมันแตกต่างกันมากเพราะมันมีต้นไม้ใหญ่มากมายสามารถให้เขาปีนป่ายลงไปได้
เขาไม่ลังเลเลยที่จะกระโดดลงไปทันที
หลังจากที่ผ่านไปสิบลมหายใจแล้วเขาก็ตกลงไปอีกฝั่งของกำแพงหิน
"ตุ๊บ ! "
ณ ตอนนี้เสียงดังกึกก้องที่ทำให้มิติถึงกับสั่นไหวได้ดังขึ้น
ท่าทางของหลินเทียนในตอนนี้เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างมากเพราะว่าแมงป่องสันเขาตัวนั้นก็ไต่ข้ามกำแพงสูงมาเช่นกันแถมตอนนี้ดวงตาสีแดงก่ำของมันกำลังจับจ้องมาที่ร่างของเขา