Divine King Of All Directions - 045
Divine King Of All Directions - 045
หลินเทียนได้จ้องมองไปยังฉีเหมียงกุ่ยก่อนที่จะกำกระบี่ในมือเอาไว้แน่น
"ซูชูว ถอยกลับไปหน่อย "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ
ซูชูวได้ชะงักไปก่อนที่จะเดินถอยกลับไป
"คิ ! "
ฉีเหมียงกุ่ยได้คำรามออกมาก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่ด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
"เฮอ ! "
หลินเทียนกำลังจดจ่ออยู่กับภาพตรงหน้าก่อนที่กระบี่ในมือจะโคจรไปมาพร้อมทั้งสำแดงทักษะกระบี่วายุสะท้านออกมาถึงขีดสุด, คลื่นกระบี่มากมายได้สร้างแรงกดกันให้กับฉีเหมียงกุยจากทุกทิศทาง
ฉีเหมียงกุ่ยได้คำรามออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงกรงเล็บอันแหลมคมออกไปอย่างรวดเร็ว
"! "
"! "
"! "
ได้ยินเพียงแต่เสียงปะทะเท่านั้นก่อนที่คลื่นกระบี่ทั้งหมดที่หลินเทียนส่งออกมาจะถูกทำลาย
ท่าทางของหลินเทียนในตอนนี้นั้นยังคงราบเรียบก่อนที่จะยกมือขวาขึ้นแล้วส่งกระบี่เป็นเส้นแสงออกไปยังฉีเหมี่ยงกุ่ยพร้อมทั้งย่อตัวลงแล้วพุ่งออกไปประชิดมันมือเปล่า
"หลินเทียน นั่นเจ้าจะทำอะไรน่ะ ? กลับมานี่ ! "
ท่าทางของซูชูวได้เปลี่ยนไปโดยทันที
พุ่งเข้าประชิดฉีเหมียงกุ่ยโดยไม่มีอาวุธ นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ !
ท่าทางของหลินเที นยังคงราบเรียบเช่นเคย เหมือนดั่งว่าภายในดวงตาของเขามีสายฟ้าควบแน่นอยู่ ทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ได้ถูกสำแดงจนถึงขีดสุด
"แกร๊งง !"
เสียงปะทะได้ถูกส่งออกมาก่อนที่กระบี่ที่ส่งไปก่อนหน้านี้จะถูกฉีเหมียงกุ่ยปัดออกไปไกล
อย่างไรก็ตามตอนนี้เองที่หลินเทียนได้เข้าประชิดถึงร่างของมัน
ณ ตอนนี้เขาได้วาดฝ่ามือออกไปโดยที่ไม่มีกระบี่อยู่ภายในมือ
"กระบี่วายุสะท้าน ! "
คำพูดนี้ได้ถูกเปล่งออกมาอย่างดัง
แม้ว่าในมือจะไม่มีอาวุธแต่กลับเหมือนว่าในมือของเขากำลังกำกระบี่สายฟ้าเอาไว้ พลังที่รุนแรงถึงขีดสุดได้ส่งผลให้มิติถึงกับสั่นสะเทือน
"วุ้สส ! "
เส้นแสงได้วาบผ่านระหว่างหลินเทียนและร่างของฉีเหมียงกุ่ย
ทุกอย่างในตอนนี้ได้ตกอยู่ในความเงียบสงบ
ฉีเหมี่ยงกุ่ยได้สั่นสะท้านขณะอ้าปากกว้าง ซูชูวที่อยู่ข้างๆได้แต่ตกตะลึงก่อนที่จะพบว่าฉีเหมียงกุ่ยได้ล้มลงพร้อมทั้งมีเลือดทะลักออกมาจากลำคอของมันมากมาย
"ตายแล้ว ? "
ซูชูวได้แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาขณะที่ดวงตาอันงดงามของนางแสดงให้เห็นถึงความไม่อยากจะเชื่อ
นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ในมือของหลินเทียนไม่ได้ถือกระบี่เอาไว้แต่กลับสามารถสำแดงทักษะกระบี่วายุสะท้านได้ !
ยิ่งไปกว่านั้นคือกระบี่นี่สามารถสังหารฉีเหมียงกุ่ยได้ !
"หลินเทียน เจ้าเป็นไงบ้าง ? "
หลังจากที่หันหน้าไปมองทางหลินเทียนแล้วนางก็อดที่จะตะโกนออกมาไม่ได้
หลินเทียนได้หันหน้ากลับมาก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มออกมาพลางพูดว่า
"ข้าไม่เป็นอะไร ยังอยู่ดี "
"นี่เจ้าสามารถสำแดงทักษะกระบี่วายุสะท้านมือเปล่าได้งั้นหรอ ? แถมยังดูรุนแรงกว่าใช้กระบี่อีก เจ้าทำได้ไง ? นี่มันพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดเกินไปแล้ว !"
ซูชูวได้จ้องมองด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้าง
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
"นี่มันเป็นความลับน่ะ "
ก่อนหน้านี้เมื่อครึ่งเดือนก่อนนั้นระหว่างที่เขาฝึกเกี่ยวกับข่ายอาคมก็พบกับความลับนี้ว่าหากในมือขวาไม่ได้กำลังถืออาวุธนั้นคลื่นกระบี่ที่ถูกส่งออกมาจะรุนแรงกว่าเก่ามากดังนั้นเขาถึงได้โยนกระบี่ทิ้งไปทางฉีเหมียงกุ่ยและโจมตีมันด้วยคลื่นกระบี่โดยใช้มือเปล่า
ผลลัพธ์ของมันก็ไม่ต่างไปจากที่เขาได้ทดสอบ
หากว่าในมือไม่ได้ถือกระบี่เอาไว้แล้วพลังทำลายของมันรุนแรงกว่าเดิมจริงๆ
รวดเร็วขึ้น !
แม่นยำขึ้น !
แข็งแกร่งขึ้น !
"การโจมตีนี้รุนแรงดีจริงๆ "
เขาได้กำหมัดขวาเอาไว้เบาๆเพราะการทดสอบการโจมตีเมื่อครู่นั้นทำให้เขาโล่งใจเป็นอย่างมาก
ซูชูวได้แต่ชะงักไปก่อนที่จะพูดออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า
"เป็นความลับ ? "
"แค่ก ๆ! "
หลินเทียนได้กระแอมออกมาก่อนที่จะหันหน้าหนี
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาพบกับแสงสีขาวที่อยู่ตรงเถาวัลย์ที่อยู่ข้างๆ
"นั่นมันอะไรน่ะ ? "
เขาได้พูดขึ้นด้วยความสงสัย
หลังจากที่เข้าใกล้อย่างช้าๆแล้วเขาก็ค่อยๆแหวกเถาวัลย์ออกอย่างช้าๆก่อนที่จะชะงักไป
"เป็นไง ? "
ซูชูวได้เดินเข้ามาด้วยความสงสัยก่อนที่จะก้าวถอยกลับไปด้วยท่าทางหวาดกลัว
นางเห็นเพียงแค่ว่าสิ่งที่อยู่ด้านใต้เถาวัลย์นั้นถือกองกระดูกมากมายไม่รู้ว่าถูกหมกไว้นานแค่ไหนแล้ว
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา ที่นี่มีโครงกระดูกอยู่มากมายขนาดนี้เลย ? แถมดูเหมือนว่ามันเป็นของมนุษย์เสียด้วย เขาได้ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะสรุปออกมาว่า
"มันน่าจะเป็นของศิษย์สำนักที่ถูกมันจับมา"
ซูชูวได้พยักหน้าพร้อมกับตอบว่า
"อื้ม น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ "
ภายใต้เถาวัลย์นี้มีกองกระดูกมากมายถึงขึ้นทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องสั่นสะท้านไปแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เองที่สายตาของหลินเทียนได้เปล่งประกาย
เขาได้แหวกกองกระดูกออกก่อนี่จะพบกับสิ่งของดำๆที่มีขนาดพอๆกับกำปั้นเด็ก
"นั่นมัน ? ! "
ซูชูวได้ชะงักไป
หลินเทียนได้หยิบมันขึ้นมาก่อนที่ทำความสะอาดมันก่อนที่จะพบว่าภายในมีพลังฉีหมุนเวียนอยู่
"แก่นสัตว์ร้าย ! "
หลินเทียนได้พูดออกมา
ขณะที่จ้องมองไปที่พื้นนั้นหลินเทียนก็ได้แหวกมือไปมาพร้อมทั้งพบว่ามันมีก้อนดำๆพวกนี้อยู่กว่า 500 ก้อน !
ของพวกนี้คือแก่นสัตว์ร้าย !
"พระเจ้า ! "
ซูชูวอดไม่ได้ที่จะโห่ร้องออกมา
หลินเทียนได้พูดออกมาว่า
"เจ้าของกระดูกพวกนี้จะต้องเป็นศิษย์ที่ออกมาขัดเกลาตนเองอย่างแน่นอน ระหว่างที่ขัดเกลาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องฆ่าสัตว์ร้ายดังนั้นถึงได้เก็บแก่นพวกมันเอาไว้มากมาย หลังจากนั้นก็ถูกฉีเหมียงกุ่ยจับมาฆ่าแต่แก่นพวกนี้ก็ยังอยู่ดี "
ซูชูวได้พยักหน้าตามเพราะการสรุปนี้มันดูมีเหตุผลมากๆ
พวกเขาได้แต่มองไปที่มันโดยที่อดแสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมาไม่ได้
แก่นสัตว์ร้ายกว่า 500ก้อนนี่มันเยอะมากๆแถมในหมู่พวกมันยังมีแม้กระทั่งแก่นสัตว์ร้ายระดับ 2 มากมายรวมถึงระดับ 3 ก็มีด้วย, การทดสอบเจ็ดวันนี้จำเป็นต้องมีเวลาพักด้วยดังนั้นถึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าสัตว์ร้ายเพื่อแย่งชิงแก่นมากว่า 500 ก้อน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ .......
"นี่มันเปลี่ยนความโชคร้ายเป็นความโชคดีชัดๆ "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
ดวงตาที่งดงามของซูชูวได้เปล่งประกายก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"รับทรัพย์ก้อนโตเลยนะเนี่ย "
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
"โชคดีจริงๆที่มีเหยื่อล่ออย่างเจ้า "
"เจ้าว่าอะไรนะ ! "
ซูชูวได้จ้องเขม็งไปที่เขาโดยทันที
หลินเทียนได้หัวเราะออกมาก่อนที่จะไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเริ่มที่จะเก็บเกี่ยวแก่นแท้จากกองกระดูกพวกนี้ซึ่งซูชูวเองก็ไม่ได้ยืนเฉย นางได้ช่วยเขาทำความสะอาดแก่นพวกนี้จนหมดเกลี้ยงภายในระยะเวลา 6 ชั่วโมง
"มีทั้งหมด 589 ก้อน ,ระดับหนึ่ง 63 ก้อน ,ระดับสอง 341 ก้อน , ระดับสาม 185 ก้อน "
หลินเทียนได้พูดออกมา
เขาได้เตรียมถุงย่ามมาห้าใบ ตอนนี้ทั้งสามใบได้ถูกอัดแน่นไปด้วยแก่นแท้หมดแล้ว
"กำไรจริงๆ ! "
ซูชูวได้แสดงสีหน้าหิวเงินออกมาก่อนที่จะหรี่ตาลงแล้วพูดด้วยท่าทางมีความสุขว่า
"ยังเหลือเวลาอีกหกวันแต่เราไปหาที่นอนเล่นก็ยังไม่มีปัญหาเลยมั้ง "
"เรา ? นอนกัน ? ซูชูวอย่ายั่วข้าสิ "
หลินเทียนได้กระแอมออกมา
ซูชูวได้ชะงักไปก่อนที่จะรีบกระทืบเท้าหลินเทียนพร้อมทั้งวิ่งหนีไปด้วยใบหน้าแดงก่ำพลางพูดว่า
"ไอ้คนหน้าไม่อาย ! ไอ้หื่นกาม ! ลามก ! "
หลินเทียนได้หัวเราะออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบกระบี่ที่เสียบอยู่ที่พื้นกลับขึ้นมาและพบว่าตัวกระบี่มีรอยบิ่นอยู่บ้างและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา กรงเล็บของฉีเหมียงกุ่ยนี่มันร้ายกาจจริงๆ ! หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินเข้าไปยังศพของมันก่อนที่จะแหวกกะโหลกเพื่อควักเอาแก่นสัตว์ร้ายขนาดเท่ากำปั้นออกมา แก่นของมันแข็งแรงเหมือนดั่งมุกในตำนานพร้อมทั้งเป็นประกายระยิบระยับ
"สมแล้วที่เป็นแก่นแท้ของสัตว์ร้ายระดับ 3 ที่มีพลังเทียบเท่าผู้เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ
ซูชูวเองก็ไม่ต่างกันก่อนที่จะกระพริบตาของนาง
"นี่เจ้าน่ะเป็นอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 6 เท่านั้นแต่สามารถฆ่าสัตว์ร้ายพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 ได้นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ ! "
ซูชูวได้ชะงักไปขณะที่พูดออกมา
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาเพราะเขาแค่ฉวยโอกาสเท่านั้นแหละ แม้ว่าฉีเหมียงกุ่ยจะมีระดับพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9 ก็จริงแต่ก็ยังไม่เท่าเพราะว่ามันไม่เข้าใจถึงเรื่องไหวพริบในการรับมือกับทักษะของผู้เชี่ยวชาญ
"งั้นเราออกไปกันเลยไหม ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
ซูชูวได้พยักหน้าซ้ำๆก่อนที่จะตอบกลับว่า
"แน่นอนว่าออกไปกันเลย พี่สาวไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว "
รังของฉีเหมียงกุ่ยนั้นค่อนข้างมืดแถมยังมีโครงกระดูกมากมายทำให้ผู้คนที่อยู่รู้สึกถึงบรรยายที่อึดอัด
ซูชูวได้ยืนขึ้นพร้อมทั้งเดินออกไปข้างนอกโดยทันที
หลินเทียนได้เดินตามหลังนางไปก่อนที่จะออกไปนอกถ้ำ
ณ ตอนนี้อากาศด้านนอกค่อนข้างอึมครึมขณะที่ความมืดได้เข้าปกคลุมท้องฟ้าพร้อมกับแสงอันเบาบางที่ส่งลงมาจากหมู่ดาว
"จะทำอะไรต่อ ? จะกลับไปที่สำนักเลย ? "
ซูชูวได้พูดออกมา
แม้ว่าการทดสอบของสำนักจะจัดขึ้น 7 วันแต่ก็สามารถกลับไปยังสำนักได้ตลอดเวลา แน่นอนว่าหลังจากที่กลับไปแล้วก็จะเป็นการจบการจัดอันดับของคนๆนั้นและนับจำนวนของแก่นแท้ที่ได้มา
ตอนนี้จากแก่นแท้ที่ได้มาก่อนหน้านี้กับที่พบในรังรวมกันมากกว่า 600 ก้อนแล้ว ด้วยจำนวนขนาดนี้แล้วต้องทำให้ติดอันดับหนึ่งในสิบอย่างแน่นอน
"พี่สาวไม่ได้มีความมุ่งมั่นอะไรนัก เอาแค่ให้ตาเฒ่ามู่พอใจก็พอแล้ว กลับบ้านกันเถอะ "
ซูชูวได้พูดออกมาอย่างร่าเริง
หลินเทียนได้แต่หมดคำพูดพร้อมทั้งจับมือนางแล้วพูดต่อว่า
"วันเดียวได้แก่นแท้มา 600 ก้อน ? คิดว่าผู้อาวุโสสำนักเป็นคนโง่หรือไง ? กลับไปตอนนี้แล้วเราจะอธิบายยังไง ? "
ซูชูวได้ชะงักไปก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"ใช่แล้ว ! ลืมคิดถึงจุดนี้ได้ไง ! "
หลังจากที่ชะงักไปนางก็พูดต่อว่า
"งั้นเราไปทำอะไรกันดี ? "
หลินเทียนได้คิดอยู่ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"อย่างแรกก็ไปหาที่พักกันก่อนแล้วกัน หลังจากนี้ก็ไปไล่ล่าหาแก่นแท้ต่อ ในเมื่อมาแล้วก็ต้องตั้งใจยิ่งแล้วใหญ่คือการหาแก่นแท้เพิ่มก็ไม่ได้เสียหายอะไรหนิ "
เช้าวันถัดไปนั้นคลื่นกระบี่อันรุนแรงได้โลดแล่นอยู่ภายในสันเขาชิงเฟิงนี้ สัตว์ร้ายรูปลักษณ์เหมือนแรดได้ถูกคลื่นกระบี่นี้ตัดผ่านลำคอก่อนที่จะนอนตายจมกองเลือดในทันที
"สัตว์ร้ายระดับ 3 แรดหางเหล็กมีระดับพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7 กลับถูกฆ่าตายโดยคลื่นกระบี่ ............ เจ้าพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด ! "
ห่างออกไปไม่ไกลจากจุดนั้นซูชูวที่กำลังจ้องมองด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้างได้โห่ร้องออกมา